Kliniq หุ้นกลุ่มความงาม เทรนของวัยรุ่น GEN Zมุมมองส่วนตัวกับหุ้น Kliniq
พาร์ท Fundamental
จริงๆ เป็นตัว correlation กับ Master (สามารถไปดูการวิเคราะห์ได้จากโพส ก่อนหน้า) - อุตสาหกรรมนี้ ส่วนตัวก็ยังมองน่าสนใจ และ แข็งกว่าตลาดเช่นเดียวกับ Master ถ้าดูจากกราฟ แต่ต่างกันตรงที่ ธุรกิจ Master จะ Niche มากกว่า Kliniq ทำคลินิกความงาม สปา เล็บ ดูแลผิวซึ่ง Barrier Entry ต่ำ ใครๆก็สามารถทำได้ = ขึ้นอยู่กับ ปริมาณ และราคา
Kliniq เกิน 90% มาจากการทำ สปา คลินิกเสริมสวยทำเล็บ --> ที่สามารถทำได้ทุกอาทิตย์ ทุกวัน เป็น Daily Usage = อัตรากำไร ก็จะน้อยเพราะ แข่งขันกันที่ปริมาณ และ ราคา
- อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้ เป็นอุตสาหกรรมที่กำไรขั้นต้นเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบ Master จะทำกำไรขั้นต้นได้ดีที่สุในกลุ่ม
พาร์ท Money Game
จริงๆ ถ้าดูผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ เซียนฮง - ถ้าเราไปแกะตัวที่เค้า เข้าไปถือล่าสุด มีหลายตัว แต่ อยากให้ดู DITTO กับ TEAMG ก่อนจะขึ้นรอบใหญ่ = ราคาตัวนั้นจะ Sideway ในกรอบกว้างๆ ก่อนจะขึ้นรอบใหญ่ หลังจาก IPO มาแล้ว --> ซึ่ง Kliniq ก็มีโอกาสซ้ำรอยเดิมได้ (ไม่ได้บอกว่าเซียงฮงทำราคา แค่จะบอกพฤติกรรมหุ้นที่เค้าถือ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง) *** (ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น) --> ซึ่ง Timing ก็น่าจะไปพร้อมๆกับ Master ซึ่งอาจจะเป็น กลาง - ปลายปีหน้า
พาร์ท Technical
ส่วนตัวผมมองว่า อาจจะมีลงมาเคลียร์ กรอบล่างอีกรอบ อาจจะหลุด Low แล้ว ดึง กลับ คล้ายๆ Ditto ช่างหลังจาก IPO ก่อนจะทำราคาขึ้นไปแบบ ไม่มีรายย่อย ไปด้วย เพราะ เคลียร์หลุด Low หมดแล้ว (ถ้าตลาดไม่ดี ก็อาจจะยังไม่ไปไหน) แต่เชื่อว่า ยิ่งตลาดไม่ดีแค่ไหน หุ้นตัวนี้จะเล่นอยู่ในกรอบ Trading range ตรงนี้ --> ก่อนเค้าจะไป เค้าจะเคลียแรงๆ ก่อน 1 รอบ ก่อนจะเป็นรอบใหญ่
เป้า แรก (ถ้าขึ้นไป) 68 - 70 บาท
Entry Zone : ต่ำ 35 บาท ซื้อได้
th.tradingview.com
ประกอบด้วย IO สคริปต์
XO หุ้นส่งออกซอส ของไทย ไปตลาดโลก XO กราฟกลับมาน่าสนใจสำหรับการ Swing Trade ซื้อย่อในหุ้นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายทางราคา ประมาณ 40-35 ผมประเมินจาก ความถูกแพง ให้ PE 20-25 และ คาดการกำไรปีนี้ 1000 ล้าน โดยการเข้าซื่้อ เราทยอยสะสมแนว VA 30-27 บาท
โครงสร้างรายได้ของ XO
1. รายได้จากการขายสินค้า : คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80-90% ของรายได้รวม
สินค้าหลักๆ คือ:
ซอสปรุงรส: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50-60% ของรายได้จากการขายสินค้า
ซอสพริก: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-30% ของรายได้จากการขายสินค้า
ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10-20% ของรายได้จากการขายสินค้า
2. รายได้จากการลงทุน: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของรายได้รวม
บริษัทมีรายได้จากเงินลงทุนในบริษัทอื่นๆ เช่น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด ดิสทริบิวชั่น จำกัด
3. รายได้อื่นๆ: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของรายได้รวม
บริษัทมีรายได้อื่นๆ เช่น รายได้จากค่าเช่า รายได้จากการขายสินค้าคงคลังเหลือใช้ และรายได้จากดอกเบี้ย
แนวโน้มอุตสาหกรรม และรายได้ในอนาคต
ปัจจุบันตลาดซอสพริกและซอสปรุงรสในประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 47,977 ล้านบาท โดยคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 3-5% (1,140-2,400 ล้านบาท ) ในช่วงปี 2565 – 2568
ปี 2567:
รายได้รวม: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 2,600-2,690 ล้านบาท
กำไรสุทธิ: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 814-829 ล้านบาท
ปี 2568:
รายได้รวม: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2-4% จากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 2,670-2,800 ล้านบาท
กำไรสุทธิ: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2-4% จากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 835-860 ล้านบาท
Master กับเทรนความงามและ การทำศัลยกรรม เฉพาะทาง มุมมองส่วนตัวกับหุ้น
พาร์ท Fundamental
จริงๆ ส่วนตัวมองว่า อุตสาหกรรมนี้น่าสนใจ และ แข็งกว่าตลาดอย่างเห็นได้ชัด เพราะ ผมมองว่า เป็นหุ้น Growth เพราะ ตลาดที่เค้าทำธุรกิจ Niche มาก แล้ว Master คือตัวที่ผมมองว่าพื้นฐานโอเคสุด ในกลุ่มหุ้น เสริมความงาม
หลักๆ มี Master Kliniq Princ TRP ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้
มาดูแต่ละตัว Princ หุ้นปั่น ตัดทิ้ง เล่นเมื่อ Flow เข้า
TRP หุ้นขาลงตัดทิ้ง
ก็จะเหลือ Kliniq และ Master
Kliniq - 90% รายได้มาจาก สปาหน้า คลินิกเสริมสวย ทำเล็บ เป็นแนว Daily usage --> อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูงมาก เพราะคู่แข่งเยอะ ยังไม่นับ ร้านเล็กๆ น้อยๆ ข้างนอก = มองว่าไม่น่าสนใจ แต่อาจจะขึ้นพร้อมๆกับ Master เพราะคือกลุ่มเดียวกัน ราคาชอบไปพร้อมๆกัน
Master - 90% รายได้มาจาก การทำศัลยกรรม เฉพาะทาง ที่น้อยรายสามารถทำได้
ความน่าสนใจของธุรกิจ ศัลยกรรม คือ ทำแพง เพราะ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง เพราะฉะนั้น ต้นทุนทางบุคลากรสูงตามมา
- ส่วนตัวพี่สาวผม เคยไปทำศัลยกรรมที่ หนึ่ง (ไม่ใช่ในเครือของ Master) --> ค่าทำจมูก 25,000 โอเคไม่แพงมาก แต่ ถ้าอยากแก้ทรง ราคาเริ่มต้น 250,000 ขึ้นอยู่กับความดังของหมออีก ยิ่งดังยิ่งแพง อาจจะไปจบที่ 500,000 บาท
- บางคนไม่ได้แก้แค่ 1 รอบ แต่แก้ 3-5 รอบก็มี และจะเจาะจงหมอคนเดิมซ้ำๆ
- เป็นธุรกิจที่แทบจะไม่มีคู่แข่งๆ = การตั้งราคาคือ แล้วแต่ฉัน 100% เพราะ คนธรรมดาไม่สามารทำได้ ต้องมีบุคลลากร มีใบอนุญาติเยอะมาก พูดง่ายๆ คือ Barrier Entry สูงมาก
- สรุป คือ ธุรกิจศัลยกรรม กำไรขั้นต้นสูงมาก + แพงค่าต้นทุนคน(หมอ) +เป็นธุรกิจที่คู่แข่งน้อย ตั้งราคาได้แพง
+ ข้อสังเกตุอีกเรื่อง ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ หมอพงศักดิ์ = หมอเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามมาก่อน จะเข้าตลาดหุ้น แปลว่า การที่เค้าเลือกจะลงทุน Master = เค้าอาจจะมองเห็นอะไร ในอุตสาหกรรมนี้ที่ Master มีแต่ตัวอื่นไม่มีมากกว่าเรา เพราะ หมอพงศักดิ์อยู่ในวงการนี้มานาน
พาร์ท Money Game
Master - Free Float 32%
Klinkiq - Free Float 35%
ชัดๆ คือ ถ้าจะ เล่น Master ง่ายกว่า เบากว่า
ถ้าดูจาก Bid - offer คนเอาหุ้นออกมาวาง
Master หลัก หมื่น หนักๆ แสนต้นๆ = หุ้นน่าจะอยู่ในมือรายใหญ่มากแล้ว จนไม่มีออกมาขายในตลาด
แต่ Kliniq เริ่มต้น แสนต้นๆ ไปถึง 3 แสนต้นๆ = หุ้นมีให้ซื้อเยอะกว่า
"ของดี มักมีไม่ค่อยเยอะเสมอ"
- มุมมอง : ช่วงนี้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว อาจจะรอเล่นหลังจาก digital wallet อาจจะทำราคา All time high -
พาร์ท Techincal
ตอนนี้ Set ลงมาจาก 1800 ลงมาเหลือ 1300 แต่ Master แข็งมาก แทบไม่ลงตาม SET เลย ตลาดจะหลุด Low - Master ยก Low ไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวมองว่า จะ Side way โซนราคาใกล้ 65 บาทไปอีกพัก ทำกรอบ Trading Range เพื่อเก็บ Va ให้สูงกว่าก่อน โซนบน + กับตลาดอาจจะหลุด อาจจะมีแรงขายเยอะ
TP สำหรับคนที่ถือยาว ระดับ 2-3 ปี
เป้าแรก 97-100 บาท
เป้าถัดไป 120 บาท
ถ้าหลุด 56.5 SL
สรุป Master จะเป็นหุ้น Growth ของตลาดไทยในอนาคต ที่ช่วงนี้เริ่มจะมีให้เห็นน้อยลง แค่ช่วงเวลานี้ ยังไม่เหมาะในการเอาหุ้นขึ้น เพียงแค่ตั้งรับหุ้นไว้ รอตลาดดี เอาขึ้นไป แบบ ไม่มีใครขายใส่เขาเลยก็ได้
XAUUSD 14/06/24มุมมองทองคำ ยังคงเป็นโครงสร้างขาลงอยู่อย่างต่อเนื่อง
ถ้ายังมีการทำนิวโลก็ยังคงมองการลงต่อ
เมื่อไหร่ที่ยกโล และ ยกไฮได้จะถือว่าการกลับตัวได้เริ่มขึ้นแล้ว
วันนี้ช่วงข่าวสนับสนุนให้ทองปรับตัวลดลง
แผนช่วงเช้า ตอนนี้มียกโลแล้ว รอการยกไฮ
ก็หาจังหวะเข้าได้บายครับ และปิดช่วง 12.00-13.00
ไปก่อน แล้วหาจังหวะเข้าใหม่ ในช่วง 16.00 ตลาดลอนดอน
เตรียมฐานดีดเสร็จ ก็ตามน้ำ พอ 1ทุ่ม ค่อยดูว่าไหน้าไหนได้เปรียบ
ก็เล่นหน้านั้นครับ
ศุกร์หรรษา วิ่งสนุกแน่นอนครับ ไม่แนะนำถือข้ามสัปดาห์นะครับ
TD13 นับแบบ Classic Count ในภาวะ sideway ส่งผลอย่างไรต่อ S50M24TD13 นับแบบ Classic Count ในภาวะ sideway ส่งผลอย่างไรต่อ S50M24
เราจะปรับรูปแบบการนับ TD SEQUENTIAL ให้เข้ากับสภาพตลาดด้วย Classic Count
จากชาร์ทแสดงผล TD13 จากช่วงบ่ายของวันที่ 11 มิ.ย.2567 อ่านได้ดังนี้
Main Support 803.60-805.30 เป็นแนวรับสำคัญ
สัญญาณ TD13 ให้แนวโน้มทางลงพักตัวชั่วขณะ สิ่งที่จะตามมาคือการ รีบาวด์ หรือ รีเวอร์ซอล
หาก "การดีดตัวเกิดขึ้นจริง" จะมีกรอบเป้าหมายดังนี้ 810-812-814
ทางขึ้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้นได้ในกรอบเป้าหมาย
ทางลงให้รอการดีดตัวทดสอบกรอบเป้าหมายแล้ว "ขึ้นหมดแรง" จึงเข้าทำ
สัญญาณ TD13 ส่งผลอย่างไรกับ S50M24 ในเช้าวันที่ 11 มิถุนายน 256711 มิถุนายน 2567 #S50M24
S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min จากบ่ายวันที่ 10/06/67 จะส่งผลอย่างไรในเช้า วันที่ 11/06/67
เมื่อใช้การนับแบบ Aggressive Count จะได้ชุด TD#13 ใน S50M24 120min
กรอบล่างคือ 803.60 จาก S4@YEAR ของสมการ Camarilla (Y/Q/M) "Bridge Zone"
อาจใช้การดีดตัวจาก TD#13 ทำกำไรสั้นๆ จบในวันได้ ในกรอบ 811-814*
โดยมีจุดยอมแพ้ที่การปิดสิ้นวันต่ำกว่า 803.60
S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min มีผลอย่างไรในบ่ายวันที่ 10/06/67S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min มีผลอย่างไรในบ่ายวันที่ 10/06/67
เมื่อใช้การนับแบบ Aggressive Count จะได้ชุด TD#13 ใน S50M24 120min
กรอบล่างคือ 803.60 จาก S4@YEAR ของสมการ Camarilla
อาจใช้การดีดตัวจาก TD#13 ทำกำไรสั้นๆ จบในวันได้
โดยมีจุดยอมแพ้ที่การปิดสิ้นวันต่ำกว่า 803.60
ไอเดียเทรดทอง XAUUSD บนตลาด CFDs ไอเดียเทรดทอง XAUUSD บนตลาด CFDs
วันที่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2567
⛓ Sniper trade 🥷🥷🥷🥷🥷
📈 OANDA:XAUUSD 📣
✅ BUY // XAUUSD @2295-2293
⏩ TP1 | => 2300
⏩ TP2 | => 2315
🔺 SL | => 2286
===========================
🚧 คำเตือน 🚧
⚠️การเทรด มีความเสี่ยงสูง
⚠️เป็นเพียงการเเชร์มุมมองความรู้*ส่วนตัว*ในการเทรดบนตลาด CFDs
⚠️โปรดใช้วิจารณญาณ
- ทีมงานไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนหรือการันตีนผลกำไรใดๆทั้งสิ้น
- ไม่มีการระดมทุน /ไม่มีการรับฝากเทรด / ไม่มี COPY TRADE
=========================
JTS กับธีม Crypto จากมุมมองส่วนตัวผม
Jts จะกลายเป็นบริษัท Cash cow แล น่าจะกำลังเอาตัวเองให้เข้า Set50/100 เพื่อกระจายของให้ กองทุน เพราะรายได้ปัจจุบัน 84% จะถูกแบ่งไป Jastel
- JTS จะคล้ายๆ Intuch Tiph Byd ที่กลายเป็น Holding Company สุดท้ายถ้าธุรกิจไปได้ดี ราคาจะวิ่งในกรอบแคบๆ แต่ราคาลูกจะขึ้นแรง
ในขณะที่ Jastel ที่กำลังจะเข้าใหม่จะกลายเป็น หุ้นตัวที่เค้าอาจจะเอามาเล่น มี 2 กรณี
1. -> กรณีแรก Core Business Model ถ้ามา way แปลกๆ เช่น ทำ Ai could computer ราคาหุ้นมีโอาสไปได้ไกล
-> เพราะ บ้านเราไม่เคยมี Business Model แบบนี้ คนจะกำหนด Valuationไม่ถูก ราคาจะขึ้นแบบเป็นบ้าเป็นหลังแน่นอน
2.ทำวางระบบเหมือนเดิม Core business ยังเหมือนเดิม -> สิ่งที่เกิดขึ้น คือ จะคล้ายStgt หาสตอรี่มาเล่น เข้า Ipo มาราคาเปิดโดดไกลๆ Valutation ระดับ 7-80,000 ล้าน แล้วก็โรยจน เหลือต่ำวก่า 10,000 ล้าน float หมดเค้าอาจจะเล่น
th.tradingview.com
S50M24 กับ TD COMBOIndicator ส่วนใหญ่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่จะจะเกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างช่วง Trend และ Sideway ทำให้การใช้งานไม่มีประสิทธิภาพ
.
แต่ TD Sequential แก้ปัญหาในจุดนี้เพราะมีส่วนประกอบ 2 ส่วนคือ 1. TD Setup ที่ใช้วัด Momentum 2. TD Countdown ที่ใช้วัด Trend โดย TD Sequential นี้วัดมีการพิจารณาจากรูปแบบ Price Action ด้วยการพิจารณาจำนวนแท่งที่ตรงตามเงื่อนไขอย่างมีตรรกะชัดเจน ทำให้สามารถทดสอบได้กับทุกสินค้าและทุก timeframe โดยไม่ได้คำนึงถึง volatility แต่อย่างใด
.
Tom Demark คิดค้น Indicator ตัวนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 1970 โดยใช้การ trial and error ด้วยมือ ซึ่งเค้าได้ทดสอบกับสินค้าหลากหลายชนิด และประสบความสำเร็จมาเกินกว่า 30 ปี เป้าหมายของ TD Sequential นี้ค่อนข้างจะแตกต่างกับหลักการใช้งานของนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เป็น Trend follower เพราะ TD Sequential นั้นพยายามที่จะหาจุด Top และ Bottom ของราคาในช่วงนั้น
.
สำหรับ TD Combo นั้นเปรียบเสมือนเป็น TD Sequential ในเวอร์ชั่นที่มีผ่อนปรนกฎการนับขึ้นอีกระดับ โดยมีความแม่นยำในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของราคาที่มีการเหวี่ยงที่รุนแรง โดยมีจำนวนแท่งในการพิจารณาน้อยกว่า TD Sequential ( TD Sequential ใช้อย่างน้อย 22 แท่ง ส่วน TD Combo ใช้อย่างน้อย 13 แท่ง ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ )
SCGP | ถอดรหัสคลื่นปรับฐานเข้าใกล้เป้าหมายคลื่น 5X แบบขยายอับเดทกราฟรายสัปดาห์รูปแบบการปรับฐานแบบ 5 คลื่น ประเมินสถานะที่คลื่น 5 แบบ ขยาย คลื่นย่อยสถานะคลื่น 3 ของ 5 ราคากำลังย่อมาทดสอบแนวรับเป้าหมายฟิโบนันชี 161.8% ของ คลื่น 1+3 โซน 25 บาท
รูปแบบมีโอกาสรีบาวน์ไปทำคลื่น 5.4 ย่อย เก็งกำไรระยะสั้น
เป้าหมายที่โซนคลื่น 5.1 รีเทรส 38.2%-50% ราคา 33 - 35 บ + 15% ขึ้นไปทดสอบเส้น 200 วันอีกครั้ง
RRR: 2:1
RSI สัปดาห์มีสัญญาณสนับสนุน bullish divergence ต่อเนื่องยกตัวออกจากโซน oversold
สัญญาณกลับตัวจะต้องรอการยืนยันการเบรคเอ้าท์เส้น ดาวน์เทรนไลน์คลื่น 5.2 - 5.4 ที่กำลังจะเกิดขึ้นหากเป็นไปตามคาดการณ์
TRUE ขึ้นมาแบบแปลกๆ มันยังไงไปดูมุมมองส่วนตัวกับหุ้น True
สาเหตุ ทำไม หุ้น True ถึงเล่น เพราะ สตอรี่การควบรวมบริษัท
เคสการควบรวมบริษัทที่เคยเจอ
Cp ควบรวม Lotus
Gulf ควบรวม Thcom
BCP ควบรวม Esso
Ais ควบรวม 3bb
ถ้าดูจากวันที่ประกาศข่าวว่าจะควบรวม --> ทุกตัวจะกดราคาลงมาเยอะ --> หลังจากนั้น เอาราคาหุ้นขึ้นมาปากหลุม แค่นั้นจบ
"กดลง เด้งปากหลุม" คือ ท่าเทรด ของหุ้นที่ควบรวมบริษัทช่วงที่ผ่านมาและมักจะเป็นแบบนี้เสมอๆ
และท้ายที่สุด ก็จะกลับไป ก้นหลุมใหม่ อีกรอบ
มุมมองกราฟ
- เบื้องต้น Mode VA กองอยู่โซน 7 บาท - ราคาโซนนี้ถ้ายืนอยู่อีกสักพัก - Va จะเริ่มปูด - จะกลายเป็นจุดออกของทันที
- ราคาอยู่โซนปากหลุม แล้ว ราคาตรงนี้ ได้แต่ได้ไม่เยอะ แต่ Downside เยอะ ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง RR ไม่คุ้ม
- รอกลับไปซื้อโซน 7 บาท อาจจะมีเด้งแรงๆ อีกรอบ แต่ถ้าเราเอา เคส มาแกะ เราจะพบได้ว่า หลังจากราคากลับไปที่ปากหลุม มันจะตกมาที่ก้นหลุมอีกรอบ
-ในวันนั้น ถ้าเรายังสนใจในหุ้นตัวนี้ ราคา 5 บาทต้น อาจจะมีโอกาสได้เห็นอีกรอบ
Money game
- ถ้าพูดถึงมุม Money game ราคาโซน 5 บาท เก็บมาประมาณ 1 พันล้านหุ้น ประมาน 5 พันล้านบาท --> ตอนนี้ ขึ้นมาโซน 8.5 บาท กำไร แล้ว 3.5 พันล้าน - ถ้าเราเป็นเจ้ามือ เราจะขายไหม ?
- คำถามคือ การควบรวมเป็นการควบรวมแบบไหน ? --> เป็นการควบรวม Amalgamation คือ เจ้าของบริษัททั้ง 2 ฝ่าบ เอาหุ้นเก่าไปแลกหุ้นใหม่ในสัดส่วนที่ตกลงไว้ ซึ่งทั้งคู่จะได้แลกหุ้นใหม่ชื่อ True --> วิธีการควบรวมนี้เป็นวิธีการควบรวมที่ win-win ทั้ง 2 ฝ่าย : แทบจะไม่ใช้ต้นทุนทางการเงิน + กับได้ผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
ประโยชน์ คือ สามารถด้อยค่าสินทรัพย์แบบเนียนๆได้ และบันทึกงบขาดทุนจากการควบรวม จริงๆ แล้ว มันคือการ เคลียร์หนี้และ สินทรัพย์ด้อยค่าสะสม + กับ ส่วนต่างราคาหุ้นจากการทำ money game
ด้านพื้นฐาน
- งบปีนี้ 2567 จะออกมาขาดทุน เพราะ อ้างเรื่องด้อยค่าสินทรัพย์จากการควบรวม เพื่อ งบปี 2025 จะออกมาอลังการ และ กลางปี 2025 ราคาหุ้นอาจจะ Peak out เรียบร้อย
สรุป มุมมองส่วนตัวผม มองว่า โซนนี้ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าอยากลงทุน มองว่า 5-6 บาทมีโอกาสกลับมาได้ จากเคสเก่าๆ ที่เคยควบรวมมา
th.tradingview.com
ITC กับธีมส่งออกอาหารสัตว์มุมมองส่วนตัวกับหุ้น ITC
เบื้องต้น ธีมของปีนี้ เหมือนที่วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้า คือธีมนอกประเทศ - ในประเทศไม่มีปัจจัย Growth อะไรใหม่ๆ
- ธีมที่เล่น ส่งออก ค่าเงิน commodity ค่ารัวางเรือ
-> โอเคเรารู้ว่ากลุ่มส่งออกจะเล่น
-> ซึ่ง ITC จะอยู่ธีมเดียวกับ AAI เพราะทำธุรกิจคล้ายกัน
-> แล้วทำไม AAI ไปแล้ว ITC ยัง ???
มันก็จะเข้าสู่ Money game
1. ถ้าเราเป็นเจ้ามือหุ้น 1 ตัว หุ้นที่ Market Cap 5 พันล้าน กับ 6 หมื่นล้าน อันไหนจะลากง่ายกว่า คำตอบคือ 5 พันล้าน
2.โอเคเรารู้ว่ากลุ่ม ส่งออกจะเล่น - คำถามต่อมา คือ แล้วจะเอาตัวไหน
TU หนักจัด 70,000 ล้าน ราคาขยีบอบบหวี - ลากได้ ใช้เงินเยอะ
ITC หนักเหมือนกัน 60,000 ล้าน - ราคาไปแบบเทรน ช้าๆเรื่อยๆ ไว้กว่า TU อาจจะเพราะ ความใหม่ แต่จริงๆหนักเท่ากัน
Aai พอไหว 12,000 ล้าน - โอเค พอได้ แต่น่าจะตามตัวแม่ คือ
Asian เบาสุด 8,000 ล้าน - เจ้ามือ เล่นที รอบเดียว ขึ้นแบบไม่มีให้พักหายใจ
3.แล้ว ถ้าเลือกจะเล่น ITC ต้องทำยังไง ? -> ไม่ต้องทำไรเลย ซื้อเล่นตามเทรน เป็นหุ้นที่เบ่นง่ายเหมือน TU ลงมาซื้อ ขึ้นไปขาย แต่รอบนี้อาจจะเป็นเทรนรอบใหญ่ เพราะ
-> หุ้นแม่อย่าง TU ค่อนข้าง มี Correlation กับค่าเงินค่อนข้างสูง ถ้าบาทอ่อน หุ้นจะขึ้น / ถ้าบาทแข็ง หุ้นจะลง ถ้าไปดูย้อนหลัง จะเป็นแบบนั้นเกือบทุกรอบ
-> พูดง่ายๆ คือ เป็นหุ้นหนีตายช่วงเศรษฐกิจซบเซา แล้วบาทอ่อน
-> แล้วทำไมช่วงนี้กลุ่มนี้ถึงวิ่งแรง -> เพราะตลาดไม่มีตัวเล่น ภาพรวมจ่อจะหลุด Low คนกลัว คนที่เล่นส่วนใหญ่ในตลาดจะโฟกัสไปที่หุ้นขาขึ้น ซึ่งมันไม่มีไม่กี่ตัว แล้วกลุ่มที่เกี่ยวกับค่าเงินโดยตรง คือ กลุ่มอาหารสัตว์ส่งออก
สรุป มุมมอง Money Game อาจจะเล่นได้อีกสักพักใหญ่ๆ เพราะค่าเงินบาท ยังเป็นเทรน อ่อน อีกพักใหญ่ๆ
มุมมองกราฟ
- หุ้นเบรกกรอบ Symmetrical triangle ซึ่งเป็นกรอบที่สะสมมาเกือบปี แล้วเพิ่งเบรกกรอบ ได้ 1 เดือนกว่า -> ยังไม่จบแน่นอน
- อย่างน้อยที่สุด ต้องเล่นอีก 4-6 เดือนเพื่อจบรอบ
- Mode Va อยู่โซน 21 บาท -> ถ้าหุ้นย่อมาโซน 21-21.5 น่าซื้อเล่นรอบ
-> ต้านแรก ราคา Spread เลย คือ 25 บาท อาจจะมีแรงขาย แต่เชื่อว่ายังไม่จบ
-> ต้านต่อไป ประมาณ 30 บาท -> คิดว่าจะ Sideway ยืนออกข้างโซน 30 บาทพักใหญ่ๆ ก่อนจะจบรอบ
- วิธีการเล่น มองเป็นการรันเทรนด์ / เดย์เทรดพอไหว แต่จะไม่ได้คำใหญ่ -> หุ้นแบบนี้แนะนำให้เล่นรอบ เพราะ ไม่รู้จะมีโอกาสที่บาทอ่อนแบบนี้อีกครั้งไหม ในอนาคต
สรุป หุ้นตัวนี้เหมาะกับการรันเทรน -> อย่าลืมว่าธีมค่าเงินบาทอ่อน ไมไ่ด้เกิดขึ้นบ่อยๆ พลาดโอกาสครั้งนี้ ครั้งหน้าเราอาจจะรออีกหลายปีเลยก็ได้
th.tradingview.com
AAI กับการกลับมาตลาดส่งออกอาหารสัตว์
มุมมองส่วนตัวกับหุ้น AAI
มุมมองกราฟ
- ราคานี้ขึ้นมาแรงเกิน จะมีการย่อแรงๆอีกชุด ตอนย่อต้องเฝ้า หาจุดซื้อแถวเส้น Ema 89
- ชุด Mode va ที่เค้าเก็บจะเก็บอยู่โซน 3.8 -> ราคาที่เราเล่นคือ ราคา premium แล้ว ต้องรอย่อใกล้ 4.5
- หรือ ถ้าไม่ยอมลงให้ดูว่าทำ กรอบ Va เพิ่มไหม ถ้า Va ปูดโซนนี้ให้ซื้อฝั่งต่ำเบ้ซ้าย
- เชื่อว่ามีโอาสเหนย่อแรงๆ มีจังหวะซื้ออีกไม้ -> ตลาดตอนนี้ไม่ดี ยิ่งใกล้จะหลุดหลุด จะมีคนกลัวเสมอ
- แน้วต้าน โซน 6.5 - 7 บาท ซื้อโซนนี้ RR ไม่คุ้ม ปล่อยไปก่อน
ด้านพื้นฐาน
ส่วนตัวมองว่าเป็นหุ้น ที่เล่นเรื่องสตอรี่ค่าเงินบาท
-> เพราะอะไร -> AAI 94% รายได้ของเค้ามาจาก การผลิตทูน่ากระป๋อง OEM เพื่อส่งออกแล้วไป Rebranding ให้ลูกค้าเอาไปขายเอง พูดง่ายๆ คือ เป็นผู้ผลิต
-> แล้วทูน่าอะไร -> Skipjack Tuna บ้านเราเรียกว่า ปลาโอ - ปลาที่หาจับง่าย มีขายเยอะ
-> ค่าเงินบาทอ่อน ทำให้สินค้าในไทยถูกลง -> ต้นทุนการผลิตหลักของ AAI ก็จะถูกลงเช่นกัน -> จริงๆ ก็คือ theme ค่าเงินนั่นแหละ แค่มันส่งผลทางอ้อม ไม่ได้ส่งผลโดยตรง
-> ต้นทุนถูกลง ราคาปลาโอ ลง - กำไรมากขึ้น / ราคาปลาโอขึ้น - กำไรน้อยลง
-> สรุปสั้นๆ คือ หุ้น Commodity ทูน่า - หุ้นเหล่านี้จะมีรอบของมัน แค่ถ้าขึ้นที ขึ้นจริง เอาจริง เล่นจริง และจบไว คือ นิสัยของหุ้น Commodity
-> เรารอรอบหน้าก็ได้ แน่ถ้ารอบหน้าเห็นกรอบสะสมชัดแบบนี้ แล้วราคาปลาโอลดลงแบบมีนัยยะ = อาจจะเป็นรอบใหญ่ของพอรตเราก็ได้
สรุป จากรูปจะเห็นการหักหัวขึ้นของราคาบ้างแล้ว ขึ้นจาก 1,300$ ต่อ ตัน ขึ้นมา 1375$ ถ้าสิ้นเดือนนี้ตัวเลขบวกเกิน 1400$ ต่อตัน หุ้นมีโอกาสลงแรง
th.tradingview.com
STGT แผนปี 2024ุมุมมองส่วนตัว กับ หุ้น STGT
โดยเบื้องต้น หุ้นตัวนี้ มองกราฟ เพียวๆ ไม่ได้ เพราะ เป็นหุ้นขาลง ต้องเอา Valuation มาจับด้วย จะมองเป้าราคาได้ง่ายกว่า
มุมมองกราฟ
- ราคาโซน 7- 11 บาท เก็บของชัด เจน Va เบ้ซ้ายมากๆ
- ถ้า สมมติโซนนี้เก็บ จากเบ้ซ้าย แล้ว ทำ Normal distribution ไปทางขวา จะไปจบแถวๆ 20 บาทพอดี
- Mode Va ระยะสั้น 16 บาท ต้านแรก 20 บาท ต้าน 2
- และ 30 บาท คือ ต้านที่น่าจะไม่ถึง หรือ ถึงก็เป็นการเอาขาไปเหยีบ แล้วถอย
ส่วนตัวผม STA STGT ถ้าดูจากกราฟ อาจจะ correlation กัน
แต่
- Sta จะอิงกับ ราคายางโลก = commo 100%
- ผมชอบ STGT มากกว่า ต้นรอบ + ส่วนตัว เคยเข้า รพ ช่วงโควิดบ่อย ผมเห็น เค้าใช้ แต่แบรนด์ ศรีตรัง stgt
- ขนาด คลีนิคใกล้บ้าน หรือ ศูนย์อนามัยใกล้บ้าน แม้แต่ร้านทำฟัน ยังใช้ ศรีตรัง glove
-ส่วนหนึ่งผมว่า เหมือนจะเป็นแบรนด์มาตราฐานที่ทั่วไทยใช้
ถ้าพูดในมุม valuation
-ส่วนตัว ผมตีมูลค่า บริษัทไม่ค่อยถูก แต่ปัจจุบัน stgt มูลค่า 32000 ล้าน ถ้าจากราคานี้ Upside ไป 100% เด้งนึง = 60000 ล้าน มันจะแพงไป
- ส่วนตัวผมมองว่า โซนราคา 7-8 บาทเก็บสะสม สำหรับ คนถือยาว 2-3 ปี พอไหว ได้ปันผลด้วย เพราะ โซน 8 บาท มูลค่าบริษัท = 22000 ล้าน ยังพอไหว ถ้าคิดว่า valuation มีโอกาสเด้งไป แถวๆ 60000 ล้าน ราคาหุ้นอาจจะไปแตะ โซน 20-22 บาท 2-3 ได้ปันผล เป็นของแถม 0.5 บาท ต่อหุ้น 3 ปี = 1.5 บาท
- ถ้าคนทั่วไทยใช้ valuation 60000 ล้าน น่าจะไม่แพงเกินไป
ถ้าพูดในมุม Money game
- หุ้น sideway ออกข้าง มา 1 ปี เต็ม รับของทุกวัน เล่นแค่นี้ไม่จบง่ายๆ เพิ่งจะเริ่มขึ้นมาได้แค่ 2 เดือน ส่วนตัวมองเป้าโซน 20 บาท ถ้า สตอรี่จัด หรือ มวลชนบ้ามากๆ อาจจะไปแตะ 30 อาจจะด้วยราคา ยางแตะ ATH ด้วย
- ออกข้างนานขนาดนี้ มีคนเอาเงินมาลงชัดๆ ใช้เงินพยุง จากคนที่ติด โซนบน ขายลงมา หลายร้อยล้านหุ้นแน่ ถ้าจะทำจริงๆ ไม่จบแค่นี้
-เจ้ามือคนเดียวกับ STA อยู่แล้ว - เล่นที เล่นจริงๆ แรง หนัก ไว จบเร็ว ไม่ยืดเยื้อ --> ถ้าอ่านจากกราฟ STA ดูเป็นกลุ่มคนที่ ใจถึงนะ ดันทีดันจริง ไม่หลอกเยอะ
th.tradingview.com
STA Thailand rubber comeback มุมมองส่วนตัวกับ STA
1.มองเหมือน rcl ตลาดไทย ไม่มีหุ้นจะเล่น ไม่มีหุ้น Growth ที่จะเอาไปเล่น
- ตอนนี้มี story เรื่องไหน เล่นได้บ้าง : ค่าเงิน ส่งออก ราคา commodity ทั่วโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สงคราม ค่าระวางเรือ
- ส่วนใหญ่มีแต่ปัจจัย นอกประเทศ ที่เล่นได้ เพราะ ภายในประเทศไม่มีเรื่องให้เล่น เศรษฐกิจในไทยไม่ดี หุ้น domestic เล่นไม่ได้
- จะเห็นว่า ทำไม กลุ่มมีแค่ กลุ่ม อาหาร ผลิตอาหาร วัตถุดิบอาหร เครื่องดื่ม กลุ่มเน้นส่งออก กลุ่มยาง กลุ่มเรือที่เล่น
2.กราฟราคา sta ถ้าเทียบกับ set แข็งกว่าแบบเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่ set อยู่โซน 1350 ราคาหุ้น sta ไม่หลุด Low แล้วยก Low มาตลอด
- จากกราฟ อาการเหมือนหุ้นอยากจะขึ้นมากๆ แต่ยังกดไว้ไม่ให้ขึ้นช่วงที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะ
- ตลาดภาพใหญ่ไม่เอื้อ ถ้าเอาราคาหุ้นขึ้น จะมีแต่แรงขาย
- หลังจากเบรก 17.5 ไปได้ ขึ้นไปเทสโซน 21 ที่เป็น Mode VA ชุด เก่า สุดท้ายโดนทิ้งลงมา แบบหลุุด เส้น เทรนไลน์
- จังหวะช่วงปลายเดือน เมษา ทำท่าเหมือนจะลงๆๆ แต่ก็ไม่หลุด สุดท้ายดึงกลับ เพราะ
-ถ้าไม่เอาขึ้นตอนนี้ อนาคตก็ต้องเอาขึ้นอยู่ดี เพราะราคายางโลก กำลังจะ ทำ ATH ในรอบ 10 ปี เหตุผลทำไม Tocom rubber ถึงขึ้น ต่อในข้อถัดไป
-มุมมองส่วนตัวมองว่า ราคาจากนี้ไปอาจจะพักตัวไม่แรงมาก อาจจะไปต่ออีกชุดนึงแล้วไปติดต้านแถวๆ 25 บาท high ของรอบเก่า + ราคา spread
- เพราะดูจาก สถิติย้อนหลัง ถ้า ปีไหน เดือน พฤษภาบวก แรง เดือน มิย มักจะบวกต่อ แต่ได้ไม่เยอะ และพักตัวอาจจะไปเล่นอีกทีช่วง ปลายกันยา ถึงต้นมกรา
-ปลายธันวาต้นมกรา ทำไมถึงมีโอากาสเล่นสูง เพราะ จาก สถิติ 24 ปีที่ผ่านมา เดือนมกราคาให้ผลตอบแทน เป็นลบแค่ 6 ปี 4 ปี มาจากปีที่มีวิกฤติ ด้วย
3.ปัจจัยหลักๆ คือ มันคือ หุ้นวัฏจักร กำไรหรือขาดทุนจะขึ้นอยู่กับราคายางโลก ยาง Tocom ซึ่งกำลังจ่อ All time high ในรอบ 10 ปี
- เหตุผลหลักๆ --> ค่าเงินญี่ปุ่นอ่อน + ปัญหาสภาพอากาศปีนี้ที่เจอ เอลนีโญในไทย - ประเทศที่ส่งออกยางหลักๆ ไปที่ ญี่ปุ่น Tocom มากที่สุดในโลก คือ บ้านเรา ไทย เลยทำให้ราคาขายยางใน Tocom สูงขึ้น
- เบื้องต้น เมื่อเทียบ JPYTHB กับ ยาง TOCOM จะเห็นได้ว่าผักผันกันอย่างชัดเจน --> ถ้าค่าเงินเยนอ่อน ราคายางขึ้น ถ้าค่าเงินเยนแข็งราคายางลง
- ถ้าเทียบ ยาง TOCOM กับ ราคาหุ้น STA หลายครั้ง STA จะวิ่งไปก่อนที่ราคา ยางจะ ทำ All time high ประมาณ 1 เดือน --> แต่พอราคายาง TOCOM วิ่งแรงๆ จะมีให้เล่นชุดที่ 2 เพื่อเป็นการออกของ + กับโลกจะประโคมข่าวเรื่องราคายาง ทำ All time high --> และนั่นคือจบรอบ
ข่าว บวกเล็กๆ ไม่สำคัญมาก
-เบื้องต้น มากจาก กฏหมาย EUDR ของยุโรป
- EUDR คืออะไร - จะอนุญาติให้นำเข้าสินค้าเฉพาะที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า - ซึ่ง STA ผ่านมาตราฐานอยู่แล้ว
- ข้อดี คือ ถ้าทำได้ จะสามารถครองส่วนแบ่ง market share ตลาดยุโรปในไทยได้เจ้าเดียว
- ข้อดี คือ สามารถเพิ่มมูลค่าได้ ประมาณ 10-15%
4..หุ้นที่ยังไม่ได้ซื้อคืน
ตั้งแต่วันที่ 1/4/2567 short เพิ่มมาตลอดทาง จาก 12 ล้านหุ้น ขึ้นมา 16 ล้านหุ้น
จากวันที่ 19/4/567 จากนั้นมา จำนวนหุ้นที่ยังไม่ได้ซื้อคืน ลดลงๆมาตลอด = จาก 16 ล้านหุ้น ลดลงมาเรื่อยๆ ปัจจุบันเหลือ 14 ล้านหุ้น
5.trading plan ราคาไม่คุ้ม รอย่อ โซน 20 บาท ติดต้าน โซน 25 บาท ถ้าถอย ถอยลึกมาก RR ไม่คุ้ม
RCL เป้าปี2024มุมมองส่วนตัวกับ RCL
1.ตลาดไทย ไม่มีหุ้นจะเล่น ไม่มีหุ้น Growth ที่จะเอาไปเล่น
- ตอนนี้มี story เรื่องไหน เล่นได้บ้าง : ค่าเงิน ส่งออก ราคา commodity ทั่วโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สงคราม ค่าระวางเรือ
- ส่วนใหญ่มีแต่ปัจจัย นอกประเทศ ที่เล่นได้ เพราะ ภายในประเทศไม่มีเรื่องให้เล่น เศรษฐกิจในไทยไม่ดี หุ้น domestic เล่นไม่ได้
- จะเห็นว่า ทำไม กลุ่มมีแค่ กลุ่ม อาหาร ผลิตอาหาร วัตถุดิบอาหร เครื่องดื่ม กลุ่มเน้นส่งออก กลุ่มยาง กลุ่มเรือที่เล่น
2.แล้วทำไมถึง RCL ที่แรงสุด เห็นชัดๆ ว่ามันกดราคาลงจาก 25 บาท ลงมาเหลือ 16 บาท เป็นการลงแบบไม่พัก ไม่มีพักตัว เพื่อ Redistribution เลย ถ้ามี เจ้า - เจ้าจะออกของยังไง ถ้ามันลงทุกวัน - แถมลงหยุด Low อีก
- มันก็ชัดเลย ว่า เค้ากด ราคาเราเพื่อให้เราคายของ ให้ได้เยอะ ยิ่งหลุด low ยิ่งได้ของเยอะ / สัญญาณซื้อสำหรับรายย่อย คือ เบรก เทรนไลน์แถวๆ 23 บาท ถามว่า 23 ลงมาเหลือ 16 ใครไม่คัด ?
- ตอนหลุด 18 บาท กราฟเห็นชัดๆ ว่าหลุด แล้ว แต่ทำไม ราคาไม่ไหลแรง ? - วอลุ่มแห้องอีก จนมันกดลงมาโซน 16 บาทมี selling climax ก็ยิ่งชัด ว่ากดเอาของแน่ๆ
- จะว่าเขาก็ไม่ได้ เพราะ ถ้าดูจาก ประวัติย้อนหลัง หลายๆ ครั้งที่ขึ้นเป็นเทรน แรงๆ จะตบให้หลุด Low แล้วจะเล่นรอบใหญ่ -แต่จะรู้ได้ยังไงว่ามันรอบนี้ ?? --> ก็ต้องเอา ปัจจัยพื้นฐานมาเทียบ คือ หัวข้อถัดไป
3.ค่า SFCI และ CCFI เพิ่มขึ้น เพราะ RCL ส่งตู้เข้า-ออก ที่จีนเยอะที่สุด รายได้หลักๆ ของ RCL มาจาก ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จีน --> SCFI CCFI ขึ้น = รายได้ที่จะเก็บเพิ่มขึ้น
4.รอบนี้ ที่ SCFI CCFI ขึ้นมาเพราะ จีนประกาศกระตุ้น เศรษฐกิจ + สภาพอากาศ แปรปรวนมาก ทำให้ค่าระวางเรือขึ้น --> จริงๆ ลาก ค่า BDI โลกพุ่งไปด้วย เรื่องสภาพอากาศ
5. ปัจจัยค่า BDI โลก ก็หนุน SCFI และ CCFI อ้อมๆ เช่นกัน - เริ่มต้นจาก การแล่นเรือ ในคลองสุเอซ ลดลง 85% จาก 6 เดือนก่อน จาก 233 ลำ ปัจจุบันเหลือ 94 ลำ เพราะ เกมการเมืองของสงครามตะวันออกกลางจากการโจมตีทะเลแดง
- กลุ่มเดินเรือ ต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือใหม่ ไปผ่าน แหลม Good hope มากขึ้น จากปกติเดินเรืออยู่ 1800 ลำ ปัจจุบัน 2728 ลำ
- Demand มากขึ้น แต่ Supply เส้นทางเดินเรือ ลดลง = ค่า BDI ขึ้นทั้งโลก
+ กับ ช่วงที่ผ่านมา เจอมรสุมทางทะเล อย่างหนัก มีพายุ ทำให้ขนส่งสินค้ายาก ขึ้น - เรือใหญ่ต้องชะลอการเดินเรือ
- บริษัทตู้คอนเทนเนอร์เลยใช้ Small vessels ในการบรรทุก ตู้คอนเทนเนอร์เปล่ากลับไป
ASIAN แกะรอยคลื่นย่อพักฐานเป้าหมายรูปแบบ Extended Flat รูปแบบการย่อพักฐานแบบ Extended / Elongated Flat 3-3-5 ABC
w.A ย่อ 3 คลื่น abc ที่ความยาว 38.2% ของคลื่นอิมพัสก่อนหน้า
w.B รีบาวน์ 61.8% weak b บ่งบอกถึงแนวโน้มการย่อคลื่น C ที่มากกว่า 138.2%
w.C รูปแบบอิมพัสเร็วและรุนแรง รูปแบบโครงสร้าง 5 คลื่น ซึ่งกำลังย่อตัวไปทดสอบเป้าหมายที่ความยาวโซน 161.8% ของคลื่น A และยังเป็นโซนเป้าหมายของรูปแบบ head & shoulders
> C.1 รูปแบบอิมพัสแบบสั้นย่อ 38.2% ของคลื่น B ก่อนหน้า
> C.2 รีบาวน์ 78.6% เป็นคลื่นหลอกกระทิงหรือคลื่นดอยว่าจะกลับตัวขึ้นต่อ ทำให้สัญญาณ RSI ดีดตัวขึ้นก่อนทุบลง
> C.3 แบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบที่หายาก มีส่วนต่อขยายมากถึง 561.8% ของคลื่น 1 แล้วดึงกลับอย่างรวดเร็วเป็นคลื่น 4
> C.4 รูปแบบ ซิกแซก abc แต่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเหมือนอิมพัสมี a ยาวกว่า c เป็น c-failure แสดงให้เห็นอีกถึงความอ่อนแอของราคาหุ้น รอการย่อตัวที่จะลงลึก
> C.5 สนับสนุนด้วยสัญญาณ RSI bullish divergence มีโอกาสเป็นรูปแบบกลับตัว ending diagonal ที่คลื่นสิ้นสุดที่เป้าหมายโซน 5 บ ของรูปแบบการย่อ elongated flat.
คลื่น 5 ที่เป็น ending diagonal จะมีโครงสร้างภายใน 3-3-3-3-3
สัญญาณกลับตัวสนับสนุนด้วย RSI สัปดาห์ เกิดเบรคเอ้าท์เส้น downtrend line
รอการยืนยันการเบรคเอ้าท์ downtrend triangle / falling wedge เพื่อเป็นการยืนยัน RSI เกิดสัญญาณเบรคเอ้าท์และจะเป็นการเบรคเส้น 200 วันอีกด้วย
BTCUSDT|วิเคราะห์เป้าหมายคลื่น 3/C แนวต้านอับเทรนแชนนัล 80K vs วิเคราะห์โครงสร้างคลื่นรายสัปดาห์รูปแบบ 5 คลื่น Leading Diagonal
การเบรคออลไทม์ไฮสัปดาห์ที่ผ่านมายืนยันการเกิดคลื่น 5 เป็นรูปแบบ Leading Diagonal ถือว่าเป็นรูปแบบคลื่นส่งขนาดใหญ่ คลื่น 5 นี้ที่มีโอกาสจะสั้นหรือยาวกว่าคลื่น 3 ใหญ่ และอาจจะเป็นหรือไม่เป็นคลื่นขยายของขยายจากคลื่น 3 ใหญ่ที่ขยาย 361.8% จากคลื่น 1 ใหญ่ได้
ลักษณะคลื่น 5 สถานะปัจจุบันเป็นรูปแบบ 3 คลื่น A-B-C หรือ 1-2-3 ที่คลื่น 3/C -ที่ความยาว 261.8% ของคลื่น A/1 มีโอกาสเข้าเขตโซน liquidity ออกของวาฬใหญ่เพื่อล็อคกำไร จะผ่านได้ค่อนข้างยากมีโอกาสไซด์เวย์ออกด้านข้างหรือ triangle หากยืนที่โซนนี้ได้ไม่หลุด 60-64K มีโอกาสไปต่อเพื่อทดสอบแนวต้านอัพเทรนแชนแนลใหญ่ที่โซน 361.8% ที่โซน 80K
คลื่น 5 นี้หากจะเป็นคลื่นขยายของขยายจะต้องมีความยาวมากกว่าคลื่น 3 ใหญ่เมื่อเบรคแนวต้านอัพเทรนฟิโบนันชีแชนแนลที่โซน 77K - 80K หากยืนได้เป็นการยืนยันการเกิดคลื่น 5 ขยายของขยายซึ่งจะเปิดอัพไซด์ไปที่ราคา 90-100K เลยทีเดียว
สนับสนุนด้วยสัญญาณ RSI สัปดาห์ convergence ยกตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในรอบนี้
Bearish case: เดือนหน้าจะครบรอบการเกิด Bitcoin ซึ่งอาจจะทำให้ราคาย่อตัวลึกหรือเกิดการเทขายเหมือนรอบที่ผ่านมาทุกๆ 4 ปี Halving Countdown 2024 เหลืออีก 34 วัน 9 ชม 20 นาที ณ เวลาจบบทวิเคราะห์นี้
update XAUUSD 04 APR 2024เนื่องจากเมื่อวานแล้วเปิด SELL Position ไว้ที่ 2288 เมื่อคืนราคาก็ลงมาถึง 2258 แล้วก็เด้งกลับไปที่ 2305 ทำให้เราโดน stop loss ไปนะครับอย่างที่บอกว่าเราเล่นสวนtrend ของ major trend ดังนั้นเราจึงตั้ง mm ไว้ที่ 1% ก็ทำให้เราเสีย stop loss ตรงจุดนี้ไปแต่ก็เป็นเรื่องของ risk management ที่ดีนะครับ ตอนนี้STR indicator บ่งว่าเข้า Range market อยู่ ก็คิดว่าถ้าจะ buyควรเข้าที่ 2294 แล้วก็Take profit ที่2312 stop loss ที่ 2275
Due to the opening of SELL position at 2288 yesterday, the price dropped to 2258 last night and then rebounded to 2305, causing us to hit the stop loss as we play against the major trend. Therefore, we set the stop loss at 1% as part of good risk management. Currently, the STR indicator suggests that we are in a Range market. If planning to buy, consider entering at 2294, take profit at 2312, and set stop loss at 2275.