ประกอบด้วย IO สคริปต์
Order : 59 : Trading Journal of Gold (XAUUSD)Trading Journal of Gold (XAUUSD)
Order : 59
Pair : XAUUSD
Date : 25/7/2024
==============================
🔻1. Pre-Trading State
==============================
💡มุมมอง Sell ราคาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย (Price<EMA60)
💡ATR 100% Range Day : 2430.52 - 2363.72
💡ATR 100% Range Week : 2478.78 - 2326.98
นั่นหมายความว่า ราคาสามารถวิ่งได้ต่ำสุดของ ATR Week คือ 2326.98
-----------
✅COT (16 Jul 2024)
Long : 46,784 | Short : 16,535 | Total : 414,630 |
-----------
✅SPDR Gold Share (25 July 2024)
Long : +0.00 | Short : +0.00 | Total : 841.74|
-----------
✅Gold Futures Trade Price = | 2476.10|
==============================
🔻2. Risk Management Preparation
==============================
Volatility Based Model Risk Control
ATR Period : 14D = 8.54%
ATR TF : H1
Factor Scale : 2x
==============================
🔻3. Trading State
==============================
⭐Trade Order : Sell
Price : 2392.16
Stop : 2409.24
⭐Trade Order : Sell
Price : 2413.86
Stop : 2430.94
==============================
🔻4. Post-Trading State
==============================
Result :
Point :
Before :
EA ตำนาน Tesla เมืองไทยกับท่าจบลงแบบไม่สวยเลย มมองส่วนตัวกับ หุ้น EA
Fundamental
จากหุ้นที่เคยเปรียบเหมือน Tesla เมืองไทยกับจบลงแบบไม่สวยเลย บทเรียนสำคัญกับหุ้นที่ Corner ไปเยอะๆ โดยที่ใช้สตอรี่ดันราคาหุ้น ไหนจะไปทำพลังงานสะอาด ทำแบตเตอรี่ของตัวเอง ทำรถไฟฟ้า -> หุ้นที่มีแต่สตอรี่มักจะจบไม่สวยเสมอ
จริงๆ EA คือ หุ้นโรงไฟฟ้า ถ้าเรามาแกะรายได้และกำไรของ Ea เราจะเหนว่า
รายได้หลักของ EA มี 5 ทาง
1.โรงไฟฟ้ารายได้หลัก กำไร 8,500 ล้าน เป็นค่า Adder ที่รัฐให้ 6,900 ล้าน = ถ้าไม่มี Adder แล้วกำไรจะเหลือ 1,600 ล้านเอง
2.ขายรถไฟฟ้ากำไร 1200 ล้าน
3.ให้คำปรึกษาด้านพลังงานสีเขียว กำไร 60 ล้าน
4.ทำปาล์มขาดทุน -300 ล้าน
5.ทำแบตเตอรี่เอง ขาดทุน 1,200 ล้าน
ถ้าเราเอางบล่วงหน้ามารวมกัน
ถ้ารานได้เท่าเดิม กำไรปี 2023 -> 7,700 ล้าน หัก Adder ไป 6,900 = กำไรเหลือแค่ 800 ล้าน กับ Market Cap 50,000 ล้าน -> แค่คิดก็สยองแล้ว
ยกเว้น -> EA จะหาธุรกิจที่ไม่ใช่ทำโรงไฟฟ้าแล้วสามารถ Turnaround ได้ก็อาจจะกลับมาได้ -> แต่เท่าที่เห็นพื้นฐานตอนนี้ก็ยังคงแพงอยู่ดี
มุมมอง Money Game
หุ้นอาจจะไม่ลงหนักขนาดนี้ ถ้าเจ้าของไม่เอาหุ้นไปค้ำ จนโดน Force Sell -> เพราะจริงๆเจ้าของบริษัทส่วนใหญ่ จะมีแค่ Wealth และไม่มี Cash ในมือ
แต่ข้อดีคือ บริษัทยังไม่เจ๊ง ยังมีกำไร แต่หุ้นเค้าอาจจะ Exit ไปหมดแล้ว ช่วงที่ราคากำลังขึ้น -> ถ้าบริษัทไม่สามารถหา S-curve ตัวใหม่ปั้นสอตรี่เข้ามาใหม่ได้ ราคาหุ้นก็คงจะกองอยู่ข้างล่างไปอีกนาน
มุมมองกราฟ
Va ต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 13 บาท ใน Tf day แต่ถ้าหลุด 13 บาทก็เจอกันอีกที 9 บาทจาก Va ใหญ่ใน Tf week
-> ส่วนตัวมองเป็นท่ายาก สำหรับคนเล่นหุ้นสวิง เล่นได้แค่เฉพาะ Daytrade Stop Loss สั้น
-> เป้า Daytrade 17-18 บาท ถ้าหลุด 13 บาทก็ Stop loss
->เข้าด้วยเหตุผล เก็บศพ รายย่อยตายหมด เสี่ยง Bet ได้ แต่เราต้องออกให้ทัน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไร จะถล่มอีก
-> กล้าในจังหวะที่คนอื่นกลัว และกลัวในจังหวะที่คนอื่นกล้า แผนชัดเจน จบคือจบ ได้คือได้ อย่ายื้อ รอด และรวยครับ
OSP | วิเคราะห์เป้าหมายคลื่นย่อ WXY - สัญญาณกระทิงขัดแย้งภาพแท่งเทียนสัปดาห์ เป้าหมายการย่อรูปแบบ WXY double zigzag ABC 2 ชุด ที่แนวรับโซน 100% ฟิโบนันชีของ คลื่น W
รูปแบบการยืนยันการกลับตัวหากเบรคเอ้าท์ดาวน์เทรนไลน์โซน 22 บ เป้าหมายถัดไปที่โซนแนวต้าน 25 บ ที่คลื่น A เส้น 50 สัปดาห์ แนวรับ 21 บ ตัดขาดทุน 20 บ
RSI สัปดาห์สนับสนุนการเปลี่ยนแนวโน้มเกิดสัญญาณ bullish divergence เล็กๆ รอสัญญาณการเบรคเอ้าท์ดาวเทรนไลน์เพื่อการยืนยันการกลับตัว
Wice หุ้นต้นรอบกลุ่ม Logistics ที่ได้ อานิสงส์ จากกลุ่มเรือ มมองส่วนตัวกับ หุ้น Wice
Fundamental
1.อย่างที่เคย วิเคราะห์ ตลาดไทยไม่มีปัจจัย Growth ในประเทศใหม่ๆ EPS ของบริษัทลดลง + ความเชื่อมั่น่น ทำให้ Real Sector ในประเทศหดตัว --> กลายเป็นว่า Flow เงินจะไปเข้าหุ้นที่เกี่ยวกับต่างประเทศ เช่น ส่งออก - ขนส่ง - Commodity - ซึ่งปัจจุบัน เป็นธีมหลักของหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน
2.ซึ่ง Wice อยู่หมวดหุ้นกลุ่ม เดินเรือเหมือนกัน และขึ้นตามพี่ใหญ่ RCL - ซึ่งกราฟ Wice จะเห็นได้ว่า หุ้นออกข้างมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกา และมีตบหลุด Low ช่วงเดือน เมษา - พฤษภา 24 ก่อนจะดึงกลับ ซึ่งเชื่อว่า คนที่ถือหุ้นหลายๆ คน ต้องคัด แน่ เพราะ หลุด Low + กับหุ้นกลุ่มเดียวกันขึ้นมันไม่ขึ้น = มีเหตุผลอะไรที่ต้องถือต่อ (ในมุมรายย่อย)
มุมมอง Money Game
3.ส่วนตัวมองว่า Late correlation เหมือน หุ้นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน RCL PSL TTA เค้าวิ่งไปก่อนล่วงหน้า หมดแล้ว 1 เดือน มีแค่ Wice ที่ยังไม่ไป --> สุดท้ายพอ กลุ่มขนส่งเริ่มพัก (Rcl Psl Tta) wice ก็จุดขึ้นมาซึ่งแอบๆ ขึ้นมาตอนกลุ่มนี้กำลัง Peak Out แน่นอนว่า คนเลือกที่จะเข้า ตัวผู้นำง่ายกว่า
4.แต่พอวันที่ตลาด มึนๆ งงๆ SET หลุด Low หุ้นกลุ่ม เดินเรือกลับยืนได้ และ Wice เป็นตัวเดียวในกลุ่ม ที่ไม่หลุดแนวรับขาขึ้น และไม่ปิด Gap --> พอมาช่วงนี้ ที่ตลาดงงๆ จะหลุด Low ไม่หลุด Low ดี --> ชุดที่แข็งแรง จะถูกจุดขึ้นมาเล่นก่อน คือ Wice
5.และยิ่งชัดกว่าเดิม คือ ตลาดลบ 10 จุด วันก่อน และ ลบ 9 จุดวันนี้ แต่ Wice แข็งจัดยืนโซนบน = แข็งในวันที่ตลาดลง ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ต้องเล่น --> เหตุผล คือ ถ้าเค้าไม่เอาขึ้น สิ่งที่ต้องเจอคือ แรงชายมหาศาล เพราะกลัวตลาดจะหลุด Low คือ Timing ที่เหมาะที่สุดในการเอาขึ้น
มุมมองกราฟ
6.โซนซื้อคือ แถวๆ 6 บาท ชุดพัก เป็น ขา C พักตัว RR คุ้ม
เป้าแรก โซน 7.30 บาท รอย่อซื้อถือ โซนนี้ Daytrade ได้อย่างเดียว
ชุดย่ออาจจะย่อแถวๆ 6.70 บาท SL 6.30 บาท
เป้าใหญ่ 8 - 8.20 บาท = เป้า Fibo และ Mode Va
มองเป็นต้นรอบ เพราะ มีชุดเคลียร์ วอลุ่มแห้ง และดันขึ้นมา พร้อมวอลุ่ม และยังออกไม่ได้ Mode อยู่ 6.30 บาท
th.tradingview.com
์NEO หุ้น IPOที่ถูกดูด float ไปหมด มุมมอง ส่วนตัวกับหุ้น NEO
พาร์ท Fundamental
จริงๆ เป็นหุ้นที่พื้นฐานดี Growth สม่ำเสมอ -- เป็นของใช้ที่ ยังไงคนก็ต้องใช้ และ เป็น แบรนด์ที่ ติดตลาด เป็นที่เรียบร้อย : Fineline Smart Benice D-nee ส่วนตัวเคยใช้มาทั้งหมด - ราคาไม่แพง ซื้อใช้บ่อยๆได้ หาซื้อได้ง่าย จะคล้ายๆ หุ้น SPC ที่ขายของใช้ชีวิตประจำวัน และเป็นอุตสาหกรรมที่โต ตาม เศรษฐกิจ
- ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ก็โตเฉยๆ - ถ้าเศรษฐกิจดีก็โตแรง
- ข้อเสีย คือ ธุรกิจ อยู่ในจุด ค่อนข้าง อิ่มตัว - และเป็นธุรกิจ Cash Cow --> ถ้าเราเอไปโยงกับ กราฟราคา วันหนึ่ง ถ้า เล่นจนจบรอบแล้ว ก็จะเข้าสู่กรอบ Sideway อีกยาวๆ
--> ในพาร์ท งบ ดูตัวเลขผ่านๆ จะเห็นว่างบโตตลอด -->
6700 ล้าน ในปี 2563
7445 ล้าน ในปี 2564
8300 ล้าน ในปี 2565
9525 ในปี 2566
- ส่วนในปี 2567 - Q1/67 2480 ล้าน = คิด Financial projection ง่าย ๆ ครบปี 2567 จะมีรายได้เท่ากับ 9900 แสงดว่า ก็ยังคงโตอยู่
- และหุ้นตัวนี้จะเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่า ยอดขาย จะเท่าเดิม โตน้อย หรือ ถดถอย --> เพราะอย่างที่บอก หุ้นเป็นหุ้น Cash Cow โตแรงมากไม่ได้ สุดท้าย ก็จะเข้าสู่งบที่เป็น Average และนั่น คือ จังหวะที่จบรอบ
ในระหว่างนี้ ก็ยังคงเล่นไปเรื่อยๆ จาก Story ของ Digital wallet จนจบรอบ อาจจะเป็น ปลายปีหน้า
มุมมอง ส่วนตัว
Valuation ที่ Over Value ขึ้นไป คือ 4 หมื่นล้าน ถ้าเทียบกับ SPC ที่ขายของ ใน segment คล้ายๆ กัน มี Market cap แค่ 17,000 ล้าน --> ที่ให้ 40,000 ล้าน คือ บวกค่า Premium ของคนในตลาดให้กับหุ้นที่เป็นขาขึ้น = หุ้นตัวนี้ มีโอกาสขึ้นไป Test แถวๆ ระดับ 100 บาท ++ (จากความบ้าคลั่ง ของคนที่อยากซื้อหุ้นขาขึ้น)
พาร์ท Money Game และ Techincal
ถ้าดูจากผู้ถือหุ้นใหญ่ เราจะเห็นได้ว่า เซียงฮง ถือเยอะอีกแล้ว (สามารถตามต่อได้ใน โพสต์ หุ้น Kliniq ก่อนหน้า) -- ส่วนตัวราคาหุ้นที่เซียงฮงถือจะให้ความสำคัญกับเลข Fibonacci 261.8 -- ถ้าเทียบ จากราคานี้ ก็มีโอกาสไป Test แถวๆ 63 บาท ก่อนจะพักตัวระยะสั้น
เพื่อไป โซน 70 - 73 บาทต่อไป
SL เมื่อหลุด 50 บาท
Entry Zone ต่ำ 55 บาท
th.tradingview.com
Kliniq หุ้นกลุ่มความงาม เทรนของวัยรุ่น GEN Zมุมมองส่วนตัวกับหุ้น Kliniq
พาร์ท Fundamental
จริงๆ เป็นตัว correlation กับ Master (สามารถไปดูการวิเคราะห์ได้จากโพส ก่อนหน้า) - อุตสาหกรรมนี้ ส่วนตัวก็ยังมองน่าสนใจ และ แข็งกว่าตลาดเช่นเดียวกับ Master ถ้าดูจากกราฟ แต่ต่างกันตรงที่ ธุรกิจ Master จะ Niche มากกว่า Kliniq ทำคลินิกความงาม สปา เล็บ ดูแลผิวซึ่ง Barrier Entry ต่ำ ใครๆก็สามารถทำได้ = ขึ้นอยู่กับ ปริมาณ และราคา
Kliniq เกิน 90% มาจากการทำ สปา คลินิกเสริมสวยทำเล็บ --> ที่สามารถทำได้ทุกอาทิตย์ ทุกวัน เป็น Daily Usage = อัตรากำไร ก็จะน้อยเพราะ แข่งขันกันที่ปริมาณ และ ราคา
- อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้ เป็นอุตสาหกรรมที่กำไรขั้นต้นเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบ Master จะทำกำไรขั้นต้นได้ดีที่สุในกลุ่ม
พาร์ท Money Game
จริงๆ ถ้าดูผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ เซียนฮง - ถ้าเราไปแกะตัวที่เค้า เข้าไปถือล่าสุด มีหลายตัว แต่ อยากให้ดู DITTO กับ TEAMG ก่อนจะขึ้นรอบใหญ่ = ราคาตัวนั้นจะ Sideway ในกรอบกว้างๆ ก่อนจะขึ้นรอบใหญ่ หลังจาก IPO มาแล้ว --> ซึ่ง Kliniq ก็มีโอกาสซ้ำรอยเดิมได้ (ไม่ได้บอกว่าเซียงฮงทำราคา แค่จะบอกพฤติกรรมหุ้นที่เค้าถือ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง) *** (ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น) --> ซึ่ง Timing ก็น่าจะไปพร้อมๆกับ Master ซึ่งอาจจะเป็น กลาง - ปลายปีหน้า
พาร์ท Technical
ส่วนตัวผมมองว่า อาจจะมีลงมาเคลียร์ กรอบล่างอีกรอบ อาจจะหลุด Low แล้ว ดึง กลับ คล้ายๆ Ditto ช่างหลังจาก IPO ก่อนจะทำราคาขึ้นไปแบบ ไม่มีรายย่อย ไปด้วย เพราะ เคลียร์หลุด Low หมดแล้ว (ถ้าตลาดไม่ดี ก็อาจจะยังไม่ไปไหน) แต่เชื่อว่า ยิ่งตลาดไม่ดีแค่ไหน หุ้นตัวนี้จะเล่นอยู่ในกรอบ Trading range ตรงนี้ --> ก่อนเค้าจะไป เค้าจะเคลียแรงๆ ก่อน 1 รอบ ก่อนจะเป็นรอบใหญ่
เป้า แรก (ถ้าขึ้นไป) 68 - 70 บาท
Entry Zone : ต่ำ 35 บาท ซื้อได้
th.tradingview.com
XO หุ้นส่งออกซอส ของไทย ไปตลาดโลก XO กราฟกลับมาน่าสนใจสำหรับการ Swing Trade ซื้อย่อในหุ้นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายทางราคา ประมาณ 40-35 ผมประเมินจาก ความถูกแพง ให้ PE 20-25 และ คาดการกำไรปีนี้ 1000 ล้าน โดยการเข้าซื่้อ เราทยอยสะสมแนว VA 30-27 บาท
โครงสร้างรายได้ของ XO
1. รายได้จากการขายสินค้า : คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80-90% ของรายได้รวม
สินค้าหลักๆ คือ:
ซอสปรุงรส: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50-60% ของรายได้จากการขายสินค้า
ซอสพริก: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-30% ของรายได้จากการขายสินค้า
ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10-20% ของรายได้จากการขายสินค้า
2. รายได้จากการลงทุน: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของรายได้รวม
บริษัทมีรายได้จากเงินลงทุนในบริษัทอื่นๆ เช่น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด ดิสทริบิวชั่น จำกัด
3. รายได้อื่นๆ: คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของรายได้รวม
บริษัทมีรายได้อื่นๆ เช่น รายได้จากค่าเช่า รายได้จากการขายสินค้าคงคลังเหลือใช้ และรายได้จากดอกเบี้ย
แนวโน้มอุตสาหกรรม และรายได้ในอนาคต
ปัจจุบันตลาดซอสพริกและซอสปรุงรสในประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 47,977 ล้านบาท โดยคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 3-5% (1,140-2,400 ล้านบาท ) ในช่วงปี 2565 – 2568
ปี 2567:
รายได้รวม: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 2,600-2,690 ล้านบาท
กำไรสุทธิ: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 814-829 ล้านบาท
ปี 2568:
รายได้รวม: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2-4% จากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 2,670-2,800 ล้านบาท
กำไรสุทธิ: คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2-4% จากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 835-860 ล้านบาท
Master กับเทรนความงามและ การทำศัลยกรรม เฉพาะทาง มุมมองส่วนตัวกับหุ้น
พาร์ท Fundamental
จริงๆ ส่วนตัวมองว่า อุตสาหกรรมนี้น่าสนใจ และ แข็งกว่าตลาดอย่างเห็นได้ชัด เพราะ ผมมองว่า เป็นหุ้น Growth เพราะ ตลาดที่เค้าทำธุรกิจ Niche มาก แล้ว Master คือตัวที่ผมมองว่าพื้นฐานโอเคสุด ในกลุ่มหุ้น เสริมความงาม
หลักๆ มี Master Kliniq Princ TRP ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้
มาดูแต่ละตัว Princ หุ้นปั่น ตัดทิ้ง เล่นเมื่อ Flow เข้า
TRP หุ้นขาลงตัดทิ้ง
ก็จะเหลือ Kliniq และ Master
Kliniq - 90% รายได้มาจาก สปาหน้า คลินิกเสริมสวย ทำเล็บ เป็นแนว Daily usage --> อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูงมาก เพราะคู่แข่งเยอะ ยังไม่นับ ร้านเล็กๆ น้อยๆ ข้างนอก = มองว่าไม่น่าสนใจ แต่อาจจะขึ้นพร้อมๆกับ Master เพราะคือกลุ่มเดียวกัน ราคาชอบไปพร้อมๆกัน
Master - 90% รายได้มาจาก การทำศัลยกรรม เฉพาะทาง ที่น้อยรายสามารถทำได้
ความน่าสนใจของธุรกิจ ศัลยกรรม คือ ทำแพง เพราะ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง เพราะฉะนั้น ต้นทุนทางบุคลากรสูงตามมา
- ส่วนตัวพี่สาวผม เคยไปทำศัลยกรรมที่ หนึ่ง (ไม่ใช่ในเครือของ Master) --> ค่าทำจมูก 25,000 โอเคไม่แพงมาก แต่ ถ้าอยากแก้ทรง ราคาเริ่มต้น 250,000 ขึ้นอยู่กับความดังของหมออีก ยิ่งดังยิ่งแพง อาจจะไปจบที่ 500,000 บาท
- บางคนไม่ได้แก้แค่ 1 รอบ แต่แก้ 3-5 รอบก็มี และจะเจาะจงหมอคนเดิมซ้ำๆ
- เป็นธุรกิจที่แทบจะไม่มีคู่แข่งๆ = การตั้งราคาคือ แล้วแต่ฉัน 100% เพราะ คนธรรมดาไม่สามารทำได้ ต้องมีบุคลลากร มีใบอนุญาติเยอะมาก พูดง่ายๆ คือ Barrier Entry สูงมาก
- สรุป คือ ธุรกิจศัลยกรรม กำไรขั้นต้นสูงมาก + แพงค่าต้นทุนคน(หมอ) +เป็นธุรกิจที่คู่แข่งน้อย ตั้งราคาได้แพง
+ ข้อสังเกตุอีกเรื่อง ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ หมอพงศักดิ์ = หมอเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามมาก่อน จะเข้าตลาดหุ้น แปลว่า การที่เค้าเลือกจะลงทุน Master = เค้าอาจจะมองเห็นอะไร ในอุตสาหกรรมนี้ที่ Master มีแต่ตัวอื่นไม่มีมากกว่าเรา เพราะ หมอพงศักดิ์อยู่ในวงการนี้มานาน
พาร์ท Money Game
Master - Free Float 32%
Klinkiq - Free Float 35%
ชัดๆ คือ ถ้าจะ เล่น Master ง่ายกว่า เบากว่า
ถ้าดูจาก Bid - offer คนเอาหุ้นออกมาวาง
Master หลัก หมื่น หนักๆ แสนต้นๆ = หุ้นน่าจะอยู่ในมือรายใหญ่มากแล้ว จนไม่มีออกมาขายในตลาด
แต่ Kliniq เริ่มต้น แสนต้นๆ ไปถึง 3 แสนต้นๆ = หุ้นมีให้ซื้อเยอะกว่า
"ของดี มักมีไม่ค่อยเยอะเสมอ"
- มุมมอง : ช่วงนี้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว อาจจะรอเล่นหลังจาก digital wallet อาจจะทำราคา All time high -
พาร์ท Techincal
ตอนนี้ Set ลงมาจาก 1800 ลงมาเหลือ 1300 แต่ Master แข็งมาก แทบไม่ลงตาม SET เลย ตลาดจะหลุด Low - Master ยก Low ไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวมองว่า จะ Side way โซนราคาใกล้ 65 บาทไปอีกพัก ทำกรอบ Trading Range เพื่อเก็บ Va ให้สูงกว่าก่อน โซนบน + กับตลาดอาจจะหลุด อาจจะมีแรงขายเยอะ
TP สำหรับคนที่ถือยาว ระดับ 2-3 ปี
เป้าแรก 97-100 บาท
เป้าถัดไป 120 บาท
ถ้าหลุด 56.5 SL
สรุป Master จะเป็นหุ้น Growth ของตลาดไทยในอนาคต ที่ช่วงนี้เริ่มจะมีให้เห็นน้อยลง แค่ช่วงเวลานี้ ยังไม่เหมาะในการเอาหุ้นขึ้น เพียงแค่ตั้งรับหุ้นไว้ รอตลาดดี เอาขึ้นไป แบบ ไม่มีใครขายใส่เขาเลยก็ได้
XAUUSD 14/06/24มุมมองทองคำ ยังคงเป็นโครงสร้างขาลงอยู่อย่างต่อเนื่อง
ถ้ายังมีการทำนิวโลก็ยังคงมองการลงต่อ
เมื่อไหร่ที่ยกโล และ ยกไฮได้จะถือว่าการกลับตัวได้เริ่มขึ้นแล้ว
วันนี้ช่วงข่าวสนับสนุนให้ทองปรับตัวลดลง
แผนช่วงเช้า ตอนนี้มียกโลแล้ว รอการยกไฮ
ก็หาจังหวะเข้าได้บายครับ และปิดช่วง 12.00-13.00
ไปก่อน แล้วหาจังหวะเข้าใหม่ ในช่วง 16.00 ตลาดลอนดอน
เตรียมฐานดีดเสร็จ ก็ตามน้ำ พอ 1ทุ่ม ค่อยดูว่าไหน้าไหนได้เปรียบ
ก็เล่นหน้านั้นครับ
ศุกร์หรรษา วิ่งสนุกแน่นอนครับ ไม่แนะนำถือข้ามสัปดาห์นะครับ
TD13 นับแบบ Classic Count ในภาวะ sideway ส่งผลอย่างไรต่อ S50M24TD13 นับแบบ Classic Count ในภาวะ sideway ส่งผลอย่างไรต่อ S50M24
เราจะปรับรูปแบบการนับ TD SEQUENTIAL ให้เข้ากับสภาพตลาดด้วย Classic Count
จากชาร์ทแสดงผล TD13 จากช่วงบ่ายของวันที่ 11 มิ.ย.2567 อ่านได้ดังนี้
Main Support 803.60-805.30 เป็นแนวรับสำคัญ
สัญญาณ TD13 ให้แนวโน้มทางลงพักตัวชั่วขณะ สิ่งที่จะตามมาคือการ รีบาวด์ หรือ รีเวอร์ซอล
หาก "การดีดตัวเกิดขึ้นจริง" จะมีกรอบเป้าหมายดังนี้ 810-812-814
ทางขึ้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้นได้ในกรอบเป้าหมาย
ทางลงให้รอการดีดตัวทดสอบกรอบเป้าหมายแล้ว "ขึ้นหมดแรง" จึงเข้าทำ
สัญญาณ TD13 ส่งผลอย่างไรกับ S50M24 ในเช้าวันที่ 11 มิถุนายน 256711 มิถุนายน 2567 #S50M24
S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min จากบ่ายวันที่ 10/06/67 จะส่งผลอย่างไรในเช้า วันที่ 11/06/67
เมื่อใช้การนับแบบ Aggressive Count จะได้ชุด TD#13 ใน S50M24 120min
กรอบล่างคือ 803.60 จาก S4@YEAR ของสมการ Camarilla (Y/Q/M) "Bridge Zone"
อาจใช้การดีดตัวจาก TD#13 ทำกำไรสั้นๆ จบในวันได้ ในกรอบ 811-814*
โดยมีจุดยอมแพ้ที่การปิดสิ้นวันต่ำกว่า 803.60
S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min มีผลอย่างไรในบ่ายวันที่ 10/06/67S50M24 กับ TD BUY#13 ใน 120min มีผลอย่างไรในบ่ายวันที่ 10/06/67
เมื่อใช้การนับแบบ Aggressive Count จะได้ชุด TD#13 ใน S50M24 120min
กรอบล่างคือ 803.60 จาก S4@YEAR ของสมการ Camarilla
อาจใช้การดีดตัวจาก TD#13 ทำกำไรสั้นๆ จบในวันได้
โดยมีจุดยอมแพ้ที่การปิดสิ้นวันต่ำกว่า 803.60
ไอเดียเทรดทอง XAUUSD บนตลาด CFDs ไอเดียเทรดทอง XAUUSD บนตลาด CFDs
วันที่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2567
⛓ Sniper trade 🥷🥷🥷🥷🥷
📈 OANDA:XAUUSD 📣
✅ BUY // XAUUSD @2295-2293
⏩ TP1 | => 2300
⏩ TP2 | => 2315
🔺 SL | => 2286
===========================
🚧 คำเตือน 🚧
⚠️การเทรด มีความเสี่ยงสูง
⚠️เป็นเพียงการเเชร์มุมมองความรู้*ส่วนตัว*ในการเทรดบนตลาด CFDs
⚠️โปรดใช้วิจารณญาณ
- ทีมงานไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนหรือการันตีนผลกำไรใดๆทั้งสิ้น
- ไม่มีการระดมทุน /ไม่มีการรับฝากเทรด / ไม่มี COPY TRADE
=========================
JTS กับธีม Crypto จากมุมมองส่วนตัวผม
Jts จะกลายเป็นบริษัท Cash cow แล น่าจะกำลังเอาตัวเองให้เข้า Set50/100 เพื่อกระจายของให้ กองทุน เพราะรายได้ปัจจุบัน 84% จะถูกแบ่งไป Jastel
- JTS จะคล้ายๆ Intuch Tiph Byd ที่กลายเป็น Holding Company สุดท้ายถ้าธุรกิจไปได้ดี ราคาจะวิ่งในกรอบแคบๆ แต่ราคาลูกจะขึ้นแรง
ในขณะที่ Jastel ที่กำลังจะเข้าใหม่จะกลายเป็น หุ้นตัวที่เค้าอาจจะเอามาเล่น มี 2 กรณี
1. -> กรณีแรก Core Business Model ถ้ามา way แปลกๆ เช่น ทำ Ai could computer ราคาหุ้นมีโอาสไปได้ไกล
-> เพราะ บ้านเราไม่เคยมี Business Model แบบนี้ คนจะกำหนด Valuationไม่ถูก ราคาจะขึ้นแบบเป็นบ้าเป็นหลังแน่นอน
2.ทำวางระบบเหมือนเดิม Core business ยังเหมือนเดิม -> สิ่งที่เกิดขึ้น คือ จะคล้ายStgt หาสตอรี่มาเล่น เข้า Ipo มาราคาเปิดโดดไกลๆ Valutation ระดับ 7-80,000 ล้าน แล้วก็โรยจน เหลือต่ำวก่า 10,000 ล้าน float หมดเค้าอาจจะเล่น
th.tradingview.com