Gold Market Outlook [21 มกราคม 2568]🌟 Gold Market Outlook
ทองคำทำ New high ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางนโยบายของทรัมป์
📈 สรุปประเด็นสำคัญ:
ตลาดทองคำวันนี้เผชิญกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาปรับตัวขึ้น 0.7% ท่ามกลางการติดตามทิศทางนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์หลังพิธีสาบานตน โดยตลาดมีการตอบรับในเชิงบวกต่อการที่ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศมาตรการกีดกันทางการค้าในทันที อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าในระยะยาว และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่อาจส่งผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
📊 วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน:
ตลาดการเงินทั่วโลกได้ผ่อนคลายความกังวลลงหลังจากที่มีรายงานว่าการดำเนินนโยบายด้านภาษีจะเป็นไปอย่าง "รอบคอบ" ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก นักลงทุนกำลังจับตามองรายละเอียดของนโยบายภาษีนำเข้าที่ทรัมป์เสนอ โดยเฉพาะการเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั่วไป 60% สำหรับสินค้าจากจีน และ 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งมาตรการเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะยาว
นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสำคัญกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากนโยบายของทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ Fed ต้องรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ส่งผลกระทบต่อความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ตลาดจะติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหราชอาณาจักร และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ZEW ของเยอรมนี ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำในระยะสั้น
🎯 มุมมองทางเทคนิคและกลยุทธ์การลงทุน:
ในระยะสั้น ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก โดยได้ทะลุแนวต้านสำคัญที่ $2,720 และมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่ แนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับก่อนเข้าซื้อตามแนวโน้มขาขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ Buy on Dip เมื่อราคาย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับ
📈 แนวรับ-แนวต้าน (09:35)
XAUUSD
สถานะ: Slightly bullish 🚀
🔼 แนวต้าน 3: $2,735
🔼 แนวต้าน 2: $2,730
🔼 แนวต้าน 1: $2,725
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,716
🔽 แนวรับ 2: $2,709
🔽 แนวรับ 3: $2,701
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
รูปแบบชาร์ต
การวิเคราะห์ HSI FUTURES โดยใช้ TD Sequential, Pivot Zoneการวิเคราะห์ HSI FUTURES โดยใช้ TD Sequential, Pivot Points, Demand/Supply Zone:
1. TD Sequential (ตัวเลข 1-9 และสัญญาณ Break of Structure - BOS):
• การกลับตัวที่ TD 9:
o ในช่วงต้นของกราฟ มี TD 9 ที่บริเวณโซน Supply (สูงสุดของกราฟ) ซึ่งราคาปรับตัวลงหลังจากนั้น พร้อมสร้าง Break of Structure (BOS) ในทิศทางลง (แนวโน้มขาลง)
• แนวโน้มล่าสุด:
o ปัจจุบัน TD Sequential อยู่ในช่วงขาขึ้นใหม่ (การนับตัวเลข 1-5 ในรอบปัจจุบัน) ซึ่งราคาพยายามทะลุ Pivot Point (P) ที่ระดับ 20,300 ไปด้านบน
o หากราคาสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ มีโอกาสสูงที่จะนับเลขจนถึง TD 9 และทดสอบแนวต้านที่สำคัญ (R1 หรือ Supply Zone)
2. Pivot Points (S1, S2, S3 / R1, R2, R3):
• ระดับสำคัญของ Pivot Points:
o Pivot Point (P): ที่ 20,300 เป็นแนวต้านที่ราคาพยายามทะลุอยู่ หากราคาปิดเหนือระดับนี้ มีโอกาสปรับขึ้นต่อไปที่ R1 (20,933) และ R2 (22,257)
o S1 (19,215): เป็นแนวรับสำคัญในระยะใกล้ โดยมี Demand Zone สนับสนุน หากราคาย่อลงมาที่บริเวณนี้ อาจมีแรงซื้อเข้ามา
o S2 (17,712): เป็นแนวรับถัดไป ซึ่งอยู่ใกล้ Demand Zone หลัก
3. Demand/Supply Zone:
• Demand Zone:
o มี Demand Zone แข็งแกร่งที่บริเวณ 17,166 - 18,500 ซึ่งเป็นฐานรับสำคัญ หากราคาปรับตัวลงแรง
o ในระยะใกล้ มี Demand Zone รองรับในบริเวณ 19,215 ใกล้ระดับ S1
• Supply Zone:
o Supply Zone หลักอยู่ที่บริเวณ 23,000 - 23,400 ซึ่งราคาถูกปฏิเสธหลายครั้งในอดีต
o Supply Zone ย่อยที่บริเวณ 21,172 ยังเป็นแนวต้านที่ราคาอาจเผชิญแรงขายในระยะกลาง
4. แนวโน้มโดยรวม:
• ระยะสั้น: แนวโน้มขาขึ้นเริ่มชัดเจน หากราคาสามารถทะลุและยืนเหนือ Pivot Point (20,300) ได้อย่างมั่นคง โดยมีเป้าหมายที่ R1 (20,933)
• ระยะกลาง: หากราคาสามารถผ่าน Supply Zone ย่อยที่ 21,172 ได้ จะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง
• ระยะยาว: แนวต้านสำคัญอยู่ที่ Supply Zone (23,000 - 23,400) ซึ่งจะเป็นเป้าหมายสำหรับแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
________________________________________
คำแนะนำการเทรด:
1. Long Position:
o หากราคาสามารถปิดเหนือ Pivot Point (20,300) ได้:
เป้าหมาย: R1 (20,933) และ R2 (22,257)
Stop Loss: ตั้งไว้ใต้ Pivot Point ที่ 19,900
2. Short Position:
o หากราคาลงมาต่ำกว่า Pivot Point และหลุดแนว S1 (19,215):
เป้าหมาย: S2 (17,712) หรือ Demand Zone (17,166 - 18,500)
Stop Loss: ตั้งไว้เหนือ S1 (19,500)
3. Demand Zone เป็นจุดเฝ้าระวัง:
o หากราคาย่อลงมาที่ Demand Zone ใกล้ 19,215 ควรพิจารณาเปิด Long Position พร้อม Stop Loss ใกล้แนว 19,000
________________________________________
Gold Trend 20/1 - ทะลุหรือตกลง ?ราคาทองคำถูกผลักดันให้ทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนด้วยตัวเลขเศรษฐกิจ PPI และ CPI หลักของสหรัฐฯ ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ถูกปฏิเสธในปี 2720 และราคาได้เริ่มแข็งตัวก่อนที่ตลาดจะปิดในวันศุกร์ อิสราเอลและปาเลสไตน์เริ่มแลกเปลี่ยนตัวประกันหลังจากบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในขณะที่ตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ วันนี้เป็นวันหยุดของสหรัฐอเมริกา แต่ตลาดจะมุ่งเน้นไปที่นโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่หลังเข้ารับตำแหน่ง โดยเชื่อว่าข่าวต่างๆ จะช่วยขับเคลื่อนตลาดการลงทุนในสัปดาห์หน้า ราคาทองคำจะพยายามทำจุดสูงสุดใหม่หรือไม่นั้นยังคงต้องรอดูต่อไป โดยมีแนวต้านหลักอยู่ที่ 2720
กราฟ 1 ชม.(ด้านบน) > แนวโน้มราคาทองคำโดยรวมเป็นไปตามที่เราคาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล้อมรอบด้วยช่วง 2665-2720 แม้ว่าราคาจะถูกปฏิเสธในปี 2,720(1) อีกครั้ง แต่แนวโน้ม S-T ยังคงวิ่งอยู่ในช่องทางขาขึ้น (2) และยังคงอยู่ในภาวะกระทิงในขณะนี้ จับตาดูว่าราคาทองคำสามารถทะลุออกจากช่องขาขึ้น (2) ในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่ เมื่อมันตกลงไปต่ำกว่าช่องขาขึ้น มันจะเป็นสัญญาณแรกของการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้!
กราฟรายวัน(ด้านบน) > ราคาทองคำทดสอบแนวต้าน 2720 เป็นครั้งที่สามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับความพยายามสองครั้งก่อนหน้านี้ที่ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ดูเหมือนว่าตลาดได้ปรับราคาแล้ว เหนือ 2,700 ในสัปดาห์นี้ แนวโน้มราคาทองคำจะได้รับอิทธิพลจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่และนโยบายของเขา ดังนั้นโปรดติดตามการประกาศต่างๆ หากราคาทองคำทะลุแนวต้าน 2720 ได้ ก็จะทำให้เกิดการซื้อระยะยาวรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2790 แนวรับด้านล่างอยู่ที่เส้นแนวรับขาขึ้น (4) และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (5) .
P.To
สัปดาห์เปิดตัว:โอกาสในเมตา,นิวซีแลนด์,ซีดี,และทรัมป์สัปดาห์เปิดตัว:โอกาสในเมตา,นิวซีแลนด์,ซีดี,และทรัมป์
การเปิดตัวของทรัมป์เมื่อวันที่ 20 มกราคมค.ศ.2025 เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่สำหรับตลาดโดยมีความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากคำสั่งผู้บริหารขาเข้า
สกุลเงินดิจิทัล
เมื่อวันที่ 17 มกราคมค.ศ.2025 โดนัลด์ทรัมป์ทำให้อุตสาหกรรมประหลาดใจด้วยการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลมส์คือทรัมป์ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึง 72 พันล้านดอลลาร์ตามแกนหลัก รายงานระบุว่า 80%ของอุปทานของโทเค็นถูกควบคุมโดยบริษัทในเครือขององค์กรทรัมป์ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่ากว่า 550 พันล้านดอลลาร์ให้กับมูลค่าสุทธิของทรัมป์
ฟอเร็กซ์
นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ดอลลาร์นิวซีแลนด์และแคนาดาอาจมีความเสี่ยงต่อความแข็งแรงของเงินดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ประกอบด้วยทั้งสองประเทศตั้งค่าที่จะปล่อยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่ 21 มกราคม 2025
หุ้น
ศาลฎีกาของสหรัฐฯยึดถือกฎหมายกำหนดให้พ่อแม่ชาวจีนของติ๊กต๊อกเพื่อปลดการดำเนินงานของสหรัฐฯ เกมที่สนุกและง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับเด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน อาจได้รับประโยชน์เมื่อผู้ลงโฆษณาเปลี่ยนเส้นทางการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม,ทรัมป์ได้ระบุแผนการที่จะออกคำสั่งผู้บริหารล่าช้าการห้าม,ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงประมาณการเหล่านี้เว้นแต่เมตาซีอีโอมาร์คซัคเคอร์เบิร์กสามารถประสบความสำเร็จใช้ประโยชน์จากมิตรภาพที่พบใหม่ของเขากับการบริหารที่เข้ามา.
[ขาลง]ทอง 20-24 ม.ค.68 หากเปิดตลาดวันจันทร์
ราคา สวิง โซน 2702-2711 ไม่ทะลุ 2718 จะมองเป็นขาลง ไปปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ
แผนการเทรด
เปิดตลาดวันจันทร์ 20 มค 68 ทองอาจจะลงไปถึง 2695-2697 ก่อน แล้ว รีบาวกลับไป โซน 2704-2707
รอ buy 2695-2697 sl 2688 tp 2707
รอ sell 2707-2709 sl 2714 tp 2665
* ถ้าไม่เบรคเอ้า แนว 2718 สัปดาห์นี้ ขาลงแน่นวล *
www.youtube.com
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เปิดเผยสาเหตุตลาดหุ้นไทย "สแตมป์" 14.6เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เปิดเผยสาเหตุตลาดหุ้นไทย "สแตมป์" 14.6% ที่นี่
สัดส่วน Fibonacci Ratio 14.6% ไม่ได้เป็นหนึ่งในสัดส่วน Fibonacci ที่นิยมใช้ตามตำรา "ดั้งเดิม" (เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 78.6%) ที่มาจากลำดับตัวเลข Fibonacci โดยตรง
แต่สามารถอธิบายได้จากการคำนวณในลักษณะเดียวกันกับการหาสัดส่วน Fibonacci อื่น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้าง "อัตราส่วนย้อนกลับ" (Retracement Ratios)
โดยการคำนวณดังนี้:
________________________________________
การคำนวณ Fibonacci Retracement 14.6%
สัดส่วนนี้เกิดจากการคำนวณเชิงคณิตศาสตร์โดยใช้สูตร (1 - Golden Ratio)^2 ซึ่งเชื่อมโยงกับอัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio):
1. อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio)
ϕ ≈ 1.618
และค่า "กลับด้าน" ของมัน:
1/ϕ ≈ 0.6181
2. คำนวณระดับ 14.6%
สัดส่วน 14.6% มาจากการยกกำลังของ (1 - ϕ)^2
(1−0.618)2=0.146 หรือ 14.6%
________________________________________
ที่มาและเหตุผลทางคณิตศาสตร์
1. ลำดับฟีโบนัชชี (Fibonacci Sequence):
o ตัวเลขในลำดับนี้คือ: 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34
o แต่ละตัวเลขในลำดับใกล้เคียงกับการคูณอัตราส่วนทองคำ เช่น 13/21 ≈ 0.618
2. ความสัมพันธ์ในฟีโบนัชชี:
o ระดับ Fibonacci เช่น 23.6%, 38.2% ฯลฯ เกิดจากการคำนวณโดยใช้ ϕ ในลักษณะต่าง ๆ
o ระดับ 14.6% เกิดจากการใช้ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการลดระดับลึกลงไปในระดับการย้อนกลับ (retracement) ที่ตื้นที่สุด
________________________________________
ความสำคัญในตลาดการเงิน
ในเชิงปฏิบัติ สัดส่วน 14.6% เป็น การย้อนกลับตื้น (shallow retracement) ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีที่ตลาดอยู่ใน แนวโน้มที่แข็งแกร่งมาก และราคามักจะปรับตัวลงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปในทิศทางเดิม
ตัวเลขนี้ไม่ใช่สัดส่วนที่ "มาตรฐาน" แบบ 23.6% หรือ 38.2% แต่ในตลาดที่ซับซ้อนขึ้น สัดส่วนนี้ได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์บางกลุ่มที่ต้องการค้นหาจุดเข้า-ออกในช่วงการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กลง.
________________________________________
สรุป
Fibonacci Ratio 14.6% มาจากการคำนวณ (1 - Golden Ratio)^2 โดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ในลำดับ Fibonacci และอัตราส่วนทองคำ มันถูกนำมาใช้ในบางกรณีที่ตลาดมีแนวโน้มแข็งแกร่ง และการย้อนกลับที่ตื้นเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการตัดสินใจลงทุน.
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ซื้อ" 18/1/2025อธิบาย : ระบบ ATR Trend Following ใช้หลักการง่ายๆ คือ เอา ATR x multiplier มาตีกรอบราคาที่จะแกว่งของ BTC ถ้าทะลุกรอบ ก็จะเกิดการ flip ของสัญญาณ เช่น จากซื้อเป็นขาย หรือจากขาย เป็นซื้อ เป็นต้น
ความเห็นของรอบนี้ : แหม ดีดซะแรงจนเกิน ATR ไปไกลเลยนะ กว่าจะเขียวก็เกินไปตั้งหลายเปอร์เซ็นต์ 555 แต่ถ้าใครเข้าไม้แรกตอน action zone เขียว ไม้นี้ก็มาเฉลี่ยต้นทุนกันไปครับ
ส่วนตัวก็หวังว่ามันจะไปต่อ ตามหลัก new year rally แต่อีกใจก็ไม่อยากคาดหวังอะไรมาก เพราะกลัวผิดหวังครับ ก็ลุ้นกันไป ไปต่อก็ดี ไม่ตกรถ แต่ถ้าไม่ไปก็คัทอีกรอบ เจ็บกันไปเบาๆ ครับ
BTC ATR = เขียว ( 18/1/2025 )
------------------
Entry : 104000+-
SL : 95000 ( -8.6% )
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )
* ปัดให้เลขกลมๆ เพราะรอบที่แล้วโดนไป
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2025 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(1Jan-???) EMA120D = ??%
(7Jan-10Jan) ATR = -1%
(7Jan-10Jan) ActionZone = -1%
(17Jan-???) ActionZone = ??%
(18Jan-???) ATR = ??%
Sum กำไรสะสมของปี 2025 = -2% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง ( Max 4% กำไรหน่วย USD )
BTC Moon's Signal 18/01/2025 มีสัญญาณ"ซื้อ"รอบใหม่ปรากฏแล้ว!!!BTC ราคาได้ดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญที่ 102724.38 แสดงสัญญาณ”ซื้อ”รอบใหม่!!
ควรหาจังหวะเข้าซื้อในกรอบราคา 89256.69 - 102724.38
สัญญานซื้อปรากฏเมื่อราคาเหนือแนวต้านสำคัญที่ 102724.38 🔵
ควรตัดขาดทุนเมื่อราคาต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 89256.69 🟠
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ซื้อ" 17/1/2025อธิบาย : ระบบ Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ คือระบบที่ใช้หลักการดูเส้น MACD ว่า เส้นนี้จะตัดกับเส้นศูนย์เมื่อไหร่ โดย ถ้าตัดขึ้นก็จะเป็นสัญญาณซื้อ ถ้าตัดลงก็จะเป็นสัญญาณขาย ถือเป็นระบบ Trend Following ที่ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีเทรนจ๋าๆ เช่น BTC
แต่ระบบนี้ก็จะมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดเช่นกัน คือ ในช่วงตลาด sideway ออกข้างเราอาจจะเจอ false sig ทำให้ต้องคืนกำไร คืนทุน กันบ่อยๆ ได้ หรือบางทีถ้าตลาดมีการทุบแรงๆ ก็อาจจะทำให้เจอการคืนกำไรหมดเช่นกัน เพราะระบบจะต้องรอ confirm ของเส้น MACD ก่อน ถึงจะยอมขาย ตอนขึ้น บางทีทำให้มันถือได้นาน ถือได้ทน รันเทรนได้นาน แต่ถ้าลงแรงก็จบกัน 555
ความเห็นของรอบนี้ : มันเขียวอีกแล้วเพื่อนๆ! หลายๆ คนคงจะบอกว่า เฮ้อ ระบบอะไรเนี่ย กากจัง เขียวๆ แดงๆ แดงๆ เขียวๆ แค่นั่งเฉยๆ ก็สบายตัวแล้วไม่ใช่เหรอ... ส่วนนึงมันก็ถูกครับ แต่มันจะไม่ถูกก็ต่อเมื่อมันลงจริงๆ น่ะแหละ 5555
สำหรับผม การคุมความเสี่ยง คุม Drawdown ของ portfolio สำคัญกว่าการคาดหวัง upside เยอะๆ เสมอครับ ดังนั้น ผมก็ยึดการทำตามระบบเป็นหลักก่อน แต่ใครลองใช้แล้วไม่ happy ก็ไม่ผิดอะไร เพราะท่านอาจจะมองกันคนละมุมกับผม ก็ต้องลองไปหากลยุทธที่ท่านทำแล้วสบายใจกันไปนะครับ
BTC ActionZone = เขียว ( 17/1/2025 )
------------------
Entry : 100,000+-
SL : 90,000 ( -10% )
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2025 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(1Jan-???) EMA120D = ??%
(7Jan-10Jan) ATR = -1%
(7Jan-10Jan) ActionZone = -1%
(17Jan-???) ActionZone = ??%
Sum กำไรสะสมของปี 2025 = -2% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง ( Max 4% กำไรหน่วย USD )
Gold Market Outlook [17 มกราคม 2568]🌟 Gold Market Outlook
ทองคำพุ่งทะลุระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนตัว
📊 ราคาทองคำในวันนี้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอตัวลง ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นในระยะถัดไป
💹 ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 217,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 210,000 ราย สะท้อนให้เห็นถึงภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ต่อเนื่องกันถึง 4 เดือน ส่งผลให้ตลาดปรับเพิ่มการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในปี 2025 เป็น 37 bps จากเดิมที่ 31 bps
🌍 ด้านสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง มีรายงานการโจมตีทางอากาศในกาซาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 ราย แม้จะมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งปัจจัยนี้ยังคงเป็นแรงหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
📈 ในส่วนของมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำมีโอกาสเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 2,720 ดอลลาร์เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน แนะนำให้นักลงทุนรอดูทิศทางตลาดและพิจารณาเข้าซื้อ-ขายตามแนวรับ-แนวต้านของกรอบเวลาย่อย
📈 แนวรับ-แนวต้าน (8:35)
XAUUSD
สถานะ: Slightly bullish 🚀
🔼 แนวต้าน 3: $2,730
🔼 แนวต้าน 2: $2,725
🔼 แนวต้าน 1: $2,720
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,710
🔽 แนวรับ 2: $2,700
🔽 แนวรับ 3: $2,690
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
17/01/25 บทวิเคราะห์และแผนการเทรด S50H25บทวิเคราะห์และแผนการเทรด S50H25
________________________________________
1. ภาพรวมแนวโน้ม
• แนวโน้มหลัก (Trend): ขาลง (Downtrend) โดยราคายังเคลื่อนตัวในกรอบ Downtrend Channel
• Fibonacci Levels สำคัญ:
o แนวรับ: 870.0 (Ret 0.018), 876.0 (Ret 0.055), 877.7 (Ret 0.090)
o แนวต้าน: 881.1 (Ret 0.146), 889.4 (Ret 0.236), 902.8 (Ret 0.382)
• MACD Histogram: แสดงการอ่อนแรงของขาลง อาจเกิดการดีดตัวระยะสั้น แต่ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มชัดเจน
________________________________________
2. แผนการเปิดสถานะ
สถานะ Long
1. โซน 1: 870.0 - 876.0
o เหตุผล: แนวรับล่างสุดในกรอบ Fibonacci เหมาะสำหรับการเปิดสถานะเมื่อเกิดสัญญาณกลับตัว
o Entry: เปิด Long เมื่อราคาทดสอบโซนนี้และกลับตัว
o เป้าหมาย:
TP1: 877.7 (Ret 0.090)
TP2: 881.1 (Ret 0.146)
o Stop Loss: ต่ำกว่า 868.0
2. โซน 2: 877.7 - 881.1
o เหตุผล: หากราคายืนเหนือ 877.7 ได้ อาจเป็นสัญญาณของการดีดตัว
o Entry: เปิด Long เมื่อทะลุ 877.7 และย่อตัวกลับมาทดสอบ
o เป้าหมาย:
TP1: 889.4 (Ret 0.236)
TP2: 902.8 (Ret 0.382)
o Stop Loss: ต่ำกว่า 875.5
สถานะ Short
1. โซน 1: 881.1 - 889.4
o เหตุผล: แนวต้านแรกใน Fibonacci Levels มีโอกาสกลับตัวลงสูง
o Entry: เปิด Short เมื่อราคาขึ้นมาทดสอบและเกิดสัญญาณกลับตัว
o เป้าหมาย:
TP1: 877.7 (Ret 0.090)
TP2: 876.0 (Ret 0.055)
o Stop Loss: สูงกว่า 892.0
2. โซน 2: 889.4 - 902.8
o เหตุผล: แนวต้านสำคัญที่มีโอกาสกลับตัวแรง
o Entry: เปิด Short เมื่อราคาทดสอบโซนนี้และเกิดสัญญาณกลับตัว
o เป้าหมาย:
TP1: 881.1 (Ret 0.146)
TP2: 877.7 (Ret 0.090)
o Stop Loss: สูงกว่า 905.5
________________________________________
3. เปรียบเทียบโอกาสกำไร: Long vs Short
ปัจจัย Short Long
แนวโน้ม (Trend) สอดคล้องกับขาลง สวนทางขาลง
โอกาสสำเร็จ (%) 60-70% 40-50%
ผลตอบแทนรวม (R:R 2:1) +2.05 +0.70
• สถานะ Short: มีโอกาสสำเร็จสูงกว่าและผลตอบแทนรวมมากกว่า เนื่องจากสอดคล้องกับแนวโน้มขาลง
• สถานะ Long: เหมาะสำหรับจุดกลับตัวที่ชัดเจนหรือ Breakout แต่มีโอกาสสำเร็จน้อยกว่า
________________________________________
4. ข้อสรุปและคำแนะนำ
• ควรมุ่งเน้นฝั่ง Short: โซนที่เหมาะสมคือ 881.1 - 889.4 และ 889.4 - 902.8 พร้อมตั้ง Stop Loss อย่างเคร่งครัด
• สถานะ Long: เปิดเมื่อราคาทดสอบแนวรับล่างสุด (870.0 - 876.0) หรือทะลุ 877.7 อย่างชัดเจน
• บริหารความเสี่ยง:
o เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อคำสั่ง
o ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรเมื่อราคาวิ่งตามทิศทางที่ต้องการ