รูปแบบชาร์ต
XAUUSD, ภาพระยะสั้น sideway แต่ระยะกลางเด้งเพื่อลงต่อXAUUSD, ภาพระยะสั้น sideway แต่ระยะกลางเด้งเพื่อลงต่อ
เราจะเห็นในกรอบสีเหลือง สร้างกรอบ sideway สามารถดักเล่นได้ทั้งสองขาจนกว่าจะเบรกกรอบ
คือ แนวต้าน 2665-2670 - 2622
ซึ่งหากเบรก 2664-2670 ได้จะมีแนวต้านลุ้นชนแล้วย่อตัวแรงๆได้ทีนึงแถว 2685-2687 กับ 2714
หรือ หลุด 2622 จะมีแนวรับเด้งได้ 2606-2600 แต่ถ้าหากรับไม่อยู่ หรือ เด้งไปไม่ทำ higher high
ก็จะไหลลงต่อ
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
Gold Market Outlook [3 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
💥 ดอลลาร์ทะยานแรง! กดทองย่อต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ
ตลาดทองคำเผชิญแรงเทขายหนักในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) 📉 ท่ามกลางการแข็งค่าอย่างรุนแรงของดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนต่างชะลอการเข้าซื้อ รอลุ้นตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์ชั้นนำในตลาดโลหะมีมุมมองว่า 🎯 ราคาทองได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากดอลลาร์ที่พุ่งทะยานขึ้น หลังจากทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้า 100% จากกลุ่มบริกส์ หากมีความพยายามสร้างสกุลเงินใหม่มาท้าชิงดอลลาร์
💹 ดัชนีดอลลาร์ทะยานขึ้นแรง 0.7% นับเป็นการปรับตัวขึ้นรายวันที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน ส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปดอลลาร์ มีต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
📊 สัปดาห์นี้ตลาดจับตามองข้อมูลแรงงานสำคัญของสหรัฐฯ หลายรายการ:
- วันนี้: ตัวเลข JOLTS เดือน ต.ค.
- วันพุธ: การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP
- วันศุกร์: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
🎯 นักลงทุนจับตาการปราศรัยของ "เจอโรม พาวเวล" ประธานเฟด ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. เวลา 01.45 น. (เวลาไทย)
📈 มุมมองทางเทคนิค:
ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เหตุนักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานวันศุกร์ แนะนำเทรดระยะสั้นหรือรอสัญญาณที่ชัดเจน
แนวรับ-แนวต้าน (10:35)
XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,651
🔼 แนวต้าน 2: $2,645
🔼 แนวต้าน 1: $2,641
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,635/2637
🔽 แนวรับ 2: $2,627
🔽 แนวรับ 3: $2,622
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
การวิเคราะห์การค้าทองคำที่เหมาะสมในสัปดาห์นี้สวัสดีพี่น้องนักลงทุนทุกท่าน ฉันเป็นเพื่อนคุณนะเวย์น วันนี้เราเห็นทองร่วงลงอย่างที่เราคาดไว้ คุณสามารถดูสิ่งที่ฉันพูดได้ในบทความก่อนหน้าของฉัน
จากกราฟราย 1 ชั่วโมง เราจะเห็นได้ว่าทองคำได้ก่อให้เกิดแนวโน้มขาลง หลังจากที่ตกลงไปต่ำกว่าเส้นแนวรับในกราฟรายชั่วโมง ปัจจุบันเรามุ่งความสนใจไปที่ราคาแนวต้านใกล้ 2650 เพื่อขายได้
หากคุณคิดว่าการวิเคราะห์ของฉันมีประโยชน์สำหรับคุณ โปรดกดชอบด้วย ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ
XAUUSD H4มาทำโครงสร้างภาพ H4 ให้ดูมุมมองส่วนตัวของผมนะครับเผื่อผมไม่ว่างทำแผนสองสามวัน จากภาพจะเห็นว่าราคาพักตัวเป็น SW UP แต่ไม่มีความชันมากแสดงให้เห็นได้ว่าเค้ากำลังรออะไรบางอย่างนะครับโดยส่วนตัวยังคงมองว่าย่อ Buy ได้เปรียบแต่ตอนนี้ถ้าเราดูแท่ง Day เกิดแท่งแดงแล้วนะครับเป็น PA Sell ด้วย หากมีการทิ้งอีกรอบแล้วมาโซนแรกก็หยอด Buy ได้เพราะโซนแค่ 300 จุด และ Monitor Buy หากยืน 2600-2605 ได้ แต่หากไปเยอะกว่านั้นรอข้างล่างที่ Fibo ชุดใหญ่เลยนะครับ
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ BTCUSD นับ TD SELL COUNTDOWN#13**TD Sell Countdown #13** เป็นส่วนหนึ่งของ **TD Sequential Indicator** ซึ่งพัฒนาโดย Tom DeMark เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและจุดกลับตัวของตลาด โดย TD Sequential จะแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก:
1. **TD Setup (9 Count):** เป็นการระบุแนวโน้มเริ่มต้น โดยจะนับจำนวนแท่งเทียนที่สูง/ต่ำกว่าราคาแท่งก่อนหน้า 4 แท่ง
2. **TD Countdown (13 Count):** เป็นการติดตามแนวโน้มจนกว่าจะครบ 13 แท่ง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดใกล้ถึงจุดกลับตัว
เมื่อ **BTC/USD นับ TD Sell Countdown #13** สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ:
### 1. **สัญญาณกลับตัวในตลาดขาขึ้น**
- TD Sell Countdown #13 มักจะบ่งชี้ว่าการขึ้นของราคาน่าจะอ่อนแรงลงและใกล้ถึงจุดกลับตัว (จากขาขึ้นเป็นขาลง)
- ผู้เทรดอาจพิจารณาทำกำไร (Take Profit) หากพอร์ตอยู่ในสถานะ Long
### 2. **แนวต้านที่สำคัญ**
- การเกิด TD Countdown #13 อาจสอดคล้องกับแนวต้านที่สำคัญในกราฟราคา
- หากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเริ่มลดลง
### 3. **ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม**
- แม้ว่า TD Countdown #13 จะส่งสัญญาณการกลับตัว แต่มันไม่ใช่สัญญาณเด็ดขาด (Standalone Indicator) ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น Volume, แนวรับ-แนวต้าน, และข้อมูลเชิงพื้นฐาน (ข่าว, ความเชื่อมั่นในตลาด)
- อาจต้องรอการยืนยันจากแท่งเทียนต่อไป เช่น Pin Bar หรือ Bearish Engulfing
### 4. **ความเป็นไปได้ของ Fake Signal**
- ในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง การกลับตัวหลัง TD Countdown #13 อาจเกิดได้ไม่เต็มรูปแบบ หรือเกิดการ "Fake Breakout"
- หากตลาดมีข่าวบวก/ลบแรง ๆ อาจทำให้ราคาผันผวนผิดจากที่คาด
### สรุป
TD Sell Countdown #13 เป็นเครื่องมือที่ช่วยบ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มที่จะอ่อนแรงลงหรือกลับตัวจากขาขึ้นสู่ขาลง แต่การตัดสินใจเทรดควรพิจารณาข้อมูลอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมหรือปัจจัยพื้นฐานของตลาดในช่วงเวลานั้น
เทรนด์ทองคำ – แรงขายทำกำไรจะครองตลาดก่อนสิ้นปีแม้ว่าราคาทองคำจะลดลงครั้งแรกในวันจันทร์ แต่ราคาทองคำกลับค่อนข้างเงียบสงบในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาพุ่งสูงถึงประมาณ 2,710 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่แล้วมันก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วหลังจากสุดสัปดาห์ที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญ ค่าความเสี่ยงลดลงอย่างมากเมื่อตลาดเอเชียเปิดทำการในวันจันทร์ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 2,700 ในช่วงแรกของเซสชั่น ในระหว่างช่วงการซื้อขายของสหรัฐฯ ในวันเดียวกันนั้น ทรัมป์ได้ประกาศนโยบายภาษีเบื้องต้นสำหรับจีน แคนาดา และเม็กซิโกผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตลาดคาดการณ์ว่าสภาพแวดล้อมที่ดอกเบี้ยสูงในสหรัฐฯ จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 สร้างความกดดันให้กับราคาทองคำอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาร่วงลงต่ำกว่า 2,650(1) หลังจากนั้นราคาทองคำก็ทรงตัว โดยมีบรรยากาศช่วงเทศกาลวันหยุด ราคาดีดตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ ปิดใกล้ 2,650
ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมากในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ในรัสเซีย/ยูเครน และอิสราเอล/ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม เมื่อความตึงเครียดผ่อนคลายลง โมเมนตัมขาขึ้นของราคาก็ลดลง เมื่อเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2024 ตลาดทองคำยังคงได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกในการทำกำไร เนื่องจากจำนวนดอกเบี้ยแบบเปิดในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของ COMEX ลดลงจาก 560,000 ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เหลือ 450,000 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปัจจัยพื้นฐาน ราคาทองคำคาดว่าจะทรงตัวต่อไป
สัปดาห์นี้ จุดสนใจจะอยู่ที่ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ โดยการคาดการณ์ของตลาดบ่งชี้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะฟื้นตัวขึ้นเป็น 200,000 ตำแหน่ง ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงกดดันก่อนที่ข้อมูลจะถูกเปิดเผย
กราฟ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > ในช่วงเช้าของเซสชั่นเอเชียวันนี้ แนวโน้ม S-T เปลี่ยนเป็นตลาดหมีเนื่องจากราคาทองคำลดลงต่ำกว่าเส้นแนวรับ (2) แนวต้านการขายที่แข็งแกร่งปรากฏใกล้ระดับ 2,665 เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่ามีการดำเนินการเบื้องต้นภายในช่วง 2,600-2665(3) หากข้อมูลงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ทำงานได้ดีในช่วงหลังของสัปดาห์ ราคาทองคำอาจกลับมาต่ำกว่า 2,600 อีกครั้ง
กราฟรายวัน(ด้านบน) > แนวโน้มโดยรวมของราคาทองคำยังคงปรับไปสู่ระดับ 2,600 ดังที่ได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงกดดันขายที่สำคัญในวันจันทร์ (4) คาดว่าจะยังคงส่งผลต่อทิศทาง S-T ช่วงกราฟรายวันถูกกำหนดไว้ระหว่าง 2605-2665 และหากมีการทะลุแนวรับขาลงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ก็อาจตั้งเป้าหมายขาลงบริเวณ MA 100 วันใกล้กับ 2574 (6)
P.To
อัตราความสำเร็จที่แท้จริงของ Ascending Wedge ในการซื้อขายอัตราความสำเร็จที่แท้จริงของ Ascending Wedge ในการซื้อขาย
การแนะนำ
ลิ่มที่เพิ่มขึ้นหรือที่เรียกว่าลิ่มที่เพิ่มขึ้น เป็นรูปแบบกราฟที่มีอัตราความสำเร็จในการซื้อขายที่โดดเด่น การวิเคราะห์นี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และตัวบ่งชี้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
อัตราความสำเร็จและประสิทธิภาพ
สถิติที่สำคัญ
อัตราความสำเร็จโดยรวม: 81% ในตลาดกระทิง
กำไรที่เป็นไปได้เฉลี่ย: 38% ในแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่
- การจัดการฝ่าวงล้อม
หยาบคาย: 60% ของกรณี
รั้น: 40% ของกรณี
ความน่าเชื่อถือตามบริบท
ตลาดกระทิง: สำเร็จ 81% กำไรเฉลี่ย 38%
หลังแนวโน้มขาลง: สำเร็จ 51% ลดลงเฉลี่ย 9%
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
โดยทั่วไปแล้วลิ่มที่เพิ่มขึ้นจะเป็นรูปแบบหมี ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการสร้างรูปแบบ
การยืนยันการทะลุผ่านโดยตัวชี้วัดอื่นๆ โดยเฉพาะปริมาณ เป็นสิ่งสำคัญ
ตัวชี้วัดเพิ่มเติม
-ปริมาณ
ลดลงทีละน้อยระหว่างการฝึก
เพิ่มขึ้นอย่างมากระหว่างการฝ่าวงล้อม
-ออสซิลเลเตอร์
RSI (Relative Strength Index): ระบุสภาวะการซื้อมากเกินไป/การขายมากเกินไป
Stochastic: ตรวจจับความแตกต่างของราคา/ตัวบ่งชี้
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
Crossovers: สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- แนวรับ/แนวต้านแบบไดนามิก: ยืนยันความถูกต้องของมุมเอียง
-ตัวชี้วัดโมเมนตัม
MACD: ระบุความแตกต่างของราคา/ตัวบ่งชี้
โมเมนตัม: ประเมินแนวโน้มที่กำลังจะหมดลง
-องค์ประกอบอื่นๆ
ระดับฟีโบนัชชี: ระบุแนวรับ/แนวต้านที่เป็นไปได้
การวิเคราะห์แท่งเทียนญี่ปุ่น: ให้ข้อบ่งชี้ในการกลับตัว
บทสรุป
ลิ่มจากน้อยไปหามากเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ โดยเสนออัตราความสำเร็จสูงและศักยภาพในการทำกำไรที่สำคัญ การใช้ตัวบ่งชี้เสริมร่วมกันจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณและปรับปรุงความแม่นยำของการตัดสินใจซื้อขาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาการบรรจบกันของสัญญาณจากหลายแหล่งเพื่อลดสัญญาณเท็จและเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย
-
นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อขายหลังจากลิ่มตัวขึ้นอย่างมืออาชีพ:
- ยืนยันการฝ่าวงล้อมแล้ว
รอให้เทียนปิดต่ำกว่าเส้นแนวรับลิ่ม
มองหาปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่จุดฝ่าวงล้อมเพื่อยืนยันความถูกต้อง
- การสอบซ้ำ
สังเกตการดึงกลับของแนวรับที่ขาดซึ่งกลายเป็นแนวต้าน
ป้อนเมื่อราคากระเด้งต่ำลงจากแนวต้านใหม่นี้ เพื่อยืนยันแนวโน้มขาลง
-การรวมตัวหลังการฝ่าวงล้อม
ระบุการก่อตัวของธงหรือชายธงหลังจากการฝ่าวงล้อมครั้งแรก
เข้าสู่ที่จุดทะลุของรูปแบบย่อยนี้ในทิศทางของแนวโน้มขาลงหลัก
- ยืนยันความคลาดเคลื่อน
มองหาความแตกต่างที่เป็นขาลงบนออสซิลเลเตอร์ เช่น RSI หรือ MACD
ป้อนเมื่อราคายืนยันความแตกต่างโดยทำลายแนวรับใกล้เคียง
-จับเวลาด้วยเทียนญี่ปุ่น
ระบุรูปแบบหมีๆ เช่น ดาวยามเย็น ฮารามิหมี หรือเมฆดำ
เข้าทันทีที่แท่งเทียนถัดไปยืนยันรูปแบบหมี
- ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
วางจุดหยุดขาดทุนเสมอเพื่อจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
อดทนและรอการยืนยันการตั้งค่าก่อนเข้าสู่การซื้อขาย
ตรวจสอบแนวโน้มในกรอบเวลาที่สูงขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการซื้อขายมีความสม่ำเสมอ
ผสานรวมการวิเคราะห์ลิ่มจากน้อยไปมากกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการตัดสินใจ
โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพรายการของพวกเขาในเวดจ์จากน้อยไปมากในขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงของสัญญาณที่ผิดพลาด
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ หุ้น MONO ขึ้นมานับ TD SELL SETUP 9 ใน DAY จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ หุ้น MONO ขึ้นมานับ TD SELL SETUP 9 ใน Time Frame DAY
เมื่อหุ้น **MONO** ขึ้นมานับถึง **TD Sell Setup 9** ใน Time Frame Day (รายวัน) ตามทฤษฎีของ Tom DeMark (TD Sequential) หมายถึงสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าหุ้นอาจมีโอกาสหยุดขึ้นหรืออาจเริ่มปรับตัวลงในระยะสั้น ทั้งนี้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น สภาพตลาดโดยรวม และการเคลื่อนไหวของหุ้นใน Time Frame อื่น ๆ
### การตีความ TD Sell Setup 9:
1. **ความหมายของ TD Sell Setup:**
- TD Sell Setup จะเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 แท่งเทียน (แท่งรายวันในกรณีนี้) โดยแต่ละแท่งต้องมีราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนเมื่อ 4 วันก่อนหน้า
- เมื่อครบ 9 แท่งเทียน จะถือว่าเป็น "สัญญาณขาย" หรือเป็นจุดที่ราคามีโอกาสชะลอตัวหรือเริ่มปรับตัวลง
2. **ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:**
- ราคาหุ้นอาจพักตัวหรือปรับฐาน
- มีโอกาสที่นักลงทุนบางส่วนจะขายทำกำไร หากเกิดแรงขายมาก ราคาหุ้นอาจปรับลดลงในระยะสั้น
- ถ้าหุ้นยังมีโมเมนตัมเชิงบวกแรง ๆ ราคาก็อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยสัญญาณ TD Sell Setup อาจล้มเหลว
### การยืนยัน (Confirmation):
- สัญญาณ TD Sell Setup 9 เป็นเพียงคำเตือนเบื้องต้น นักลงทุนมักรอ "TD Countdown" เพื่อยืนยันแนวโน้มการกลับตัว
- ดูปัจจัยเสริม เช่น เส้นแนวรับ-แนวต้าน, Volume การซื้อขาย, และสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น RSI, MACD
### สิ่งที่ควรทำ:
1. **ระมัดระวังการเข้าซื้อเพิ่ม:** หากราคาขึ้นมาต่อเนื่องจนถึง TD Sell Setup 9 แล้ว อาจไม่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อเพิ่มในระยะสั้น
2. **พิจารณาขายทำกำไร:** โดยเฉพาะหากราคามีแรงขายหรือไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้
3. **รอจังหวะปรับฐาน:** หากราคาหุ้นพักตัว อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาที่แนวรับที่แข็งแกร่ง
### สรุป:
TD Sell Setup 9 ในหุ้น MONO แสดงถึงความเสี่ยงที่ราคาหุ้นอาจหยุดขึ้นหรือเริ่มปรับตัวลงในระยะสั้น แต่ยังไม่ใช่สัญญาณการกลับตัวอย่างสมบูรณ์ นักลงทุนควรใช้ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันและวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบ.
ทรัมป์คุกคามอิฐกว่าแผนสกุลเงินประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เลือกตั้งออกคำเตือนที่คมชัดไปยังประเทศบริกส์ในช่วงสุดสัปดาห์กระตุ้นให้พวกเขา"หาอีกดูด"และคุกคามภาษี 100%เกี่ยวกับความพยายามใดๆในการสร้างสกุลเงินทางเลือกที่ท้าทายสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก
ประธานาธิบดีบราซิลลูอิซในอิซซิโอลูลาซิลวาเป็นผู้สนับสนุนที่โดดเด่นสำหรับการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์เสนอสกุลเงินที่ใช้ร่วมกันในอเมริกาใต้ในปี 2023 เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เตือนว่าสำนวนของทรัมป์อาจย้อนกลับ นทางเลือกซึ่งยังคงเป็นสัญลักษณ์มากขึ้นกว่าที่เป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจของแท้ไปยังสหรั
Gold Market Outlook [2 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
แรงซื้อทองคำกลับมาคึกคัก หลังดอลลาร์อ่อนค่า-ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 🔍
ราคาทองคำปรับตัวในแดนบวก 💫 ท่ามกลางการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยนักลงทุนยังคงมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สำหรับภาพรวมตลาดทองคำในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 📊 ราคาปรับตัวลดลงถึง 3% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 สาเหตุหลักมาจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในช่วงต้นเดือน
ด้านดัชนีดอลลาร์ 💵 แม้จะปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้จ่ายภาครัฐขนาดใหญ่ การปรับขึ้นภาษี และมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ ⚡️ ยังคงมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าภาวะเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายภาษีใหม่ อาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย
สำหรับมุมมองทางเทคนิค 📝 แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากแนวรับ-แนวต้านอยู่ในกรอบแคบ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🎯
🔼 แนวต้าน 3: $2,682
🔼 แนวต้าน 2: $2,665
🔼 แนวต้าน 1: $2,656
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,646
🔽 แนวรับ 2: $2,641
🔽 แนวรับ 3: $2,636
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
S50Z24 กับ Harmonic Bearish Butterfly### **Harmonic Bearish Butterfly**
Harmonic Bearish Butterfly เป็นหนึ่งในรูปแบบของ **Harmonic Pattern** ซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อตรวจจับจุดกลับตัวของราคา (Reversal Points) ในตลาดการเงิน โดยเป็นรูปแบบที่บ่งชี้ว่าราคากำลังจะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่ระบุในโครงสร้างของรูปแบบ
#### **องค์ประกอบของ Harmonic Bearish Butterfly**
รูปแบบนี้ประกอบด้วย 4 ขา (legs) คือ **X-A, A-B, B-C, C-D** และต้องเป็นไปตามอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้:
1. **X-A**: เป็นขาขึ้นที่เริ่มต้นรูปแบบ
2. **A-B**: ราคาย่อตัวลงจากจุด A ไปยังจุด B โดยต้องอยู่ระหว่าง 78.6% ถึง 88.6% ของขา X-A
3. **B-C**: ราคากลับตัวขึ้นจากจุด B ไปยังจุด C โดยต้องอยู่ระหว่าง 38.2% ถึง 88.6% ของขา A-B
4. **C-D**: ราคาขึ้นต่อจากจุด C ไปยังจุด D โดย:
- จุด D ควรอยู่ที่ 127.2% หรือ 161.8% ของขา X-A
- และยังสัมพันธ์กับ Fibonacci Extension ของขา B-C (อยู่ที่ 161.8% หรือมากกว่า)
#### **คุณสมบัติสำคัญ**
- จุด D คือจุดที่ผู้เทรดมองว่าเป็นโอกาสในการเปิดสถานะขาย (Short) เนื่องจากเป็นบริเวณที่ราคามีแนวโน้มกลับตัว
- รูปแบบ Bearish Butterfly มักปรากฏในแนวโน้มขาขึ้นก่อนที่ราคาจะกลับตัวลง
#### **วิธีการวาด Harmonic Bearish Butterfly**
1. วาดเส้น X-A เป็นขาขึ้นแรก
2. วาดเส้น A-B ซึ่งเป็นการย่อตัวลง
3. ต่อด้วย B-C ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น
4. และเส้นสุดท้าย C-D จะลากขึ้นไปเกินจุด X เล็กน้อย (ตาม Fibonacci Extension)
#### **กลยุทธ์การเทรด**
1. **จุดเข้า (Entry)**: เปิดสถานะขายที่จุด D
2. **จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)**: ตั้งไว้เหนือจุด D เล็กน้อย
3. **เป้าหมายทำกำไร (Take Profit)**:
- เป้าหมายแรก: ระดับ Fibonacci Retracement 38.2% ของขา C-D
- เป้าหมายที่สอง: ระดับ Fibonacci Retracement 61.8% ของขา C-D
#### **ตัวอย่างการใช้งาน**
หากกราฟราคามีรูปแบบ Bearish Butterfly และถึงจุด D ตามโครงสร้าง Fibonacci ที่กำหนดไว้ ผู้เทรดสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะเริ่มกลับตัวและปรับตัวลดลง
#### **ข้อควรระวัง**
- รูปแบบนี้ต้องใช้ Fibonacci Ratio ในการวิเคราะห์อย่างเคร่งครัด
- ควรยืนยันรูปแบบด้วยสัญญาณอื่น ๆ เช่น MACD, RSI หรือ Volume
**ตัวอย่างภาพประกอบ**: ถ้าต้องการ ผมสามารถช่วยวาดโครงสร้างหรืออธิบายเพิ่มเติมได้!
NEARNov 30, 2024 : ช่วงนี้เป็นการทดลองใช้ indicator เพื่อหาแนวทางการเทรดส่วนตัว บันทึกไว้ก็เพื่อกันลืม ว่าช่วงเวลานี้ เข้าออกแบบไหน ดูทิศทางการเคลื่อนตัวของกราฟอย่างไร มันก็ยังไม่ลงตัวเท่าไรดูยุ่งๆไปนิดนึง แต่ก็เป็นการฝึกฝนแนวทาง การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ อีกอย่างที่สำ คือ วินัย ในการตอบสนองกับกราฟ หลังจากที่ตัดสินใจแต่ละครั้งในการเข้า หรือ ออก จากสิ่งที่เลือกก่อนหน้า ทุกอย่างต้องระวัง ทุกครั้งจะต้องหาแนวทางตอบสนองกับสิ่งที่เกิด ณ ตรงหน้า ที่เหมาะกับสโตล์ที่เลือก
อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ SET TIME FRAME WEEK นับ TD SET UP #4อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ SET TIME FRAME WEEK นับ TD BUY SETUP ทางลงได้ต่อเนื่องเป็นแท่งที่ 4
**TD Buy Setup** เป็นส่วนหนึ่งของ **TD Sequential Indicator** ที่พัฒนาโดย Tom DeMark ซึ่งมักใช้ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาในตลาดการเงิน เช่น หุ้น, ดัชนี หรือสินทรัพย์อื่น ๆ
### การตีความในกรณีที่ **SET TIME FRAME WEEK** นับ TD Buy Setup ทางลงต่อเนื่องได้ 4 แท่ง
1. **TD Buy Setup คืออะไร**
- TD Buy Setup เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวลงต่อเนื่องอย่างน้อย 9 แท่ง (Candle) ที่ราคาปิดของแท่งที่ปัจจุบันต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเมื่อ 4 วันก่อนหน้า
- การนับจะเริ่มตั้งแต่แท่งแรกที่เงื่อนไขนี้เป็นจริง และนับต่อไปเรื่อย ๆ จนถึง 9 แท่ง
2. **TD Buy Setup แท่งที่ 4 หมายถึงอะไร**
- เมื่อ SET TIME FRAME นับ TD Buy Setup ได้ถึงแท่งที่ 4 หมายความว่า ราคาได้ลงมาต่อเนื่อง 4 แท่งแล้ว โดยทุกแท่งปิดต่ำกว่าแท่งที่ 4 แท่งก่อนหน้านั้น
- ยิ่งจำนวนแท่งที่เกิดมากขึ้น ความเป็นไปได้ที่ราคาจะถึงจุด Oversold หรืออยู่ในจุดที่ใกล้กลับตัวจะเพิ่มขึ้น (แต่ยังไม่ถึงจุดกลับตัวจริงจนกว่าจะครบ 9 แท่ง)
3. **สิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไป**
- **แนวโน้มราคายังคงลงต่อ**: การนับถึงแท่งที่ 4 บ่งบอกว่าแรงขายยังคงมีอยู่ในตลาด ราคายังอยู่ในช่วงขาลงและมีโอกาสนับต่อจนถึง 9 แท่ง
- **จับตาแท่งถัดไป**: หากถึงแท่งที่ 9 โดยไม่มีการตัดเงื่อนไขหรือเกิดสัญญาณ Buy Countdown (การกลับตัวหลัง TD Buy Setup) อาจมีโอกาสเกิดการดีดตัว (Reversal) จากแรงซื้อกลับ
- **ยืนยันแนวโน้ม**: ต้องดูปัจจัยเสริม เช่น ปริมาณการซื้อขาย, เส้นแนวรับ-แนวต้าน, หรือสัญญาณอื่น ๆ ที่สอดคล้องเพื่อยืนยัน
4. **แนวทางการวิเคราะห์**
- ถ้าเป็นนักลงทุนสายเทคนิค: รอสัญญาณเพิ่มเติม เช่น TD Buy Countdown, การทะลุเส้นแนวต้าน หรือ Bullish Divergence ในอินดิเคเตอร์ เช่น RSI
- ถ้าเป็นนักลงทุนสายพื้นฐาน: ตรวจสอบปัจจัยพื้นฐานหรือข่าวที่อาจส่งผลต่อดัชนี เช่น ผลประกอบการบริษัท, นโยบายการเงิน, หรือเหตุการณ์สำคัญในตลาดโลก
### สรุป
การนับได้ TD Buy Setup 4 แท่งยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในกรอบเวลานั้น ๆ และมีโอกาสนับต่อไปถึง 9 แท่ง หากแรงขายยังไม่หมด นักลงทุนควรติดตามแท่งเทียนต่อไป รวมถึงปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานที่สนับสนุนเพื่อวางแผนการลงทุนหรือการเทรดอย่างรอบคอบ