รูปแบบชาร์ต
Gold Market Outlook [15 มกราคม 2568]🌟 Gold Market Outlook
📰 ทองคำพุ่งทะยานต่อเนื่องหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯอ่อนตัวลง นักลงทุนจับตา CPI คืนนี้
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันอังคาร หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ต่อไป ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
📊 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
1. 📈 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
- ตัวเลข PPI เดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.4%
- ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เอื้อประโยชน์ต่อราคาทองคำ
2. 🎯 การคาดการณ์นโยบายการเงิน
- ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 29.4 basis points ภายในสิ้นปี
- นักลงทุนรอจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในคืนนี้
- คาดการณ์ CPI จะเพิ่มขึ้น 2.9% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับเดือนก่อน
3. 🌐 ปัจจัยทางการเมือง
- การกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม
- นโยบายการค้าและการขึ้นภาษีนำเข้าอาจกระตุ้นเงินเฟ้อ
4. 📱 มุมมองจากสถาบันการเงิน
UBS คาดการณ์ว่าแม้ดอลลาร์แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงจะเป็นอุปสรรคต่อราคาทองคำในครึ่งปีแรก แต่ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงจะช่วยหนุนราคา
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับรายวัน โดยให้ระมัดระวังความผันผวนในช่วงประกาศตัวเลข CPI เวลา 20:30 น.
📈 แนวรับ-แนวต้าน (11:00)
XAUUSD
สถานะ: Slightly bullish 🚀
🔼 แนวต้าน 3: $2,693
🔼 แนวต้าน 2: $2,685
🔼 แนวต้าน 1: $2,678
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,673
🔽 แนวรับ 2: $2,665
🔽 แนวรับ 3: $2,660*
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำ 14 มกราคมราคาทองคำทั่วโลกปรับตัวลดลง ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ตลาดทองคำประสบกับการปรับตัวลดลงของราคา เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ดัชนี Dow Jones เริ่มต้นการเปิดตลาดด้วยการลดลง แต่หลังจากนั้นก็พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่ NASDAQ และ S&P 500 ยังคงอยู่ในโซนลบ ราคาทองคำก็เริ่มลดลงหลังจากเปิดตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นทันทีเมื่อดัชนี Dow Jones เริ่มเพิ่มขึ้น
อัปเดตสำคัญของตลาด
ราคาทองคำปิดการซื้อขายวันที่ 13 มกราคมด้วยการลดลง 1.1% อยู่ที่ 2,658.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 โดยได้รับแรงผลักดันจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความทนทานของเศรษฐกิจและลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์และนโยบายการค้าของเขาที่เสนอ รวมถึงการกำหนดภาษีและการคุ้มครองทางการค้า อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและสงครามการค้า ซึ่งอาจทำให้ทองคำเป็นที่สนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
แนวโน้มและความคาดหวังของตลาด
นักลงทุนกำลังรอคอยการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลเงินเฟ้อ, คำร้องขอการว่างงาน และยอดขายปลีก เพื่อให้เข้าใจสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และแผนการของเฟด ในขณะนี้ ตลาดคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าความคาดหวังเดิมที่ 0.4%
กลยุทธ์การซื้อขายและคำแนะนำ
แม้ว่าเงื่อนไขตลาดในปัจจุบันจะเอื้อต่อการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้น และยังไม่มีสัญญาณที่จะแตกตัวจากระดับแนวรับสำคัญ มุมมองปัจจุบันคือการรักษาตำแหน่งซื้อ โดยมีจุดเข้าและจุดออกดังนี้:
โซนซื้อ: 2662−2660
Stop Loss: $2655
Take Profit: 2668 − 2668 − 2672 − 2676 − 2680
โซนขาย: 2685−2687
SL: 2692
TP: 2680 − 2680 − 2677 − 2673
โซนขาย: 2694−2696
SL: 2700
TP: 2690 − 2690 − 2687 − 2685 − 2680
จุดสนใจของตลาดในวันนี้
รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จะถูกเปิดเผยในวันนี้ และนักลงทุนควรระมัดระวังในการตัดสินใจการซื้อขาย แผนการสำหรับวันนี้จะได้รับการอัปเดตหลังจากตลาดเอเชียและยุโรปปิดการซื้อขาย และการมองตลาดสหรัฐฯ จะได้รับการอัปเดตหลังจากรายงาน PPI ถูกเปิดเผย โปรดจำไว้ว่าให้ปฏิบัติตามการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม และรักษาระดับ take-profit และ stop-loss เพื่อปกป้องบัญชีของคุณ
NLวันนี้กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้างราคาลงแรงหลายตัว แต่ NL ยังคงรักษาฐานได้ดี โดยสัญญาณ Bullish Divergence ทั้ง MACD และ Stoch RSI ในกราฟ day ยังคงอยู่ โดยราคาในโซน Fibonacci Time-Based Lines ระดับ 1.618 หรือที่ราคา 0.98 บาท เป็นแนวรับที่สำคัญ อาจบ่งบอกถึงจุดเร่งตัวครั้งใหม่หรือตลาดเปลี่ยนทิศทาง
NOTE จากข้อมูลข้างต้น ไม่ได้เป็นการชักชวนหรือแนะนำให้ซื้อ-ขาย ข้อมูลที่ลงเป็นเพียงการตั้งค่าวิเคราะห์จากตัวกราฟ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณา
สัญญาณการซื้อขายทองคำที่ถูกต้องสวัสดีทุกคน. มีข้อมูล NFP ที่สำคัญมากในสัปดาห์นี้ ข้อมูลนี้จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของทองคำ มาวิเคราะห์แนวโน้มทองคำประจำสัปดาห์นี้กัน คุณยังสามารถโพสต์มุมมองของคุณเกี่ยวกับแนวโน้มของทองคำในสัปดาห์นี้ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ตำแหน่งสำคัญของทองคำปัจจุบันอยู่ที่ 2610-2584 หากสีเหลืองวันจันทร์ยังคงอยู่เหนือแนวรับ 2610 ก่อนข้อมูล NFP ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทองคำจะรักษาระดับการรวมตัวไว้ที่ 2610-2665 ก่อนที่จะมีการปรับฐานเงินเดือนนอกภาคเกษตรกรรม รอคำแนะนำจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปิดบังว่าข่าวด่วนอาจทำให้ทองคำทะลุกรอบ 2610-2665 ล่วงหน้าได้
ในทางกลับกัน หากทองคำตกลงต่ำกว่า 2610 ทองคำจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลง
หากมันทรงตัวเหนือ 2610 หลังจากที่ตกลงไปต่ำกว่า 2610 แล้ว พื้นที่สำหรับทองคำจะค่อนข้างแคบ และช่วงอาจถูกจำกัดไว้ที่ 2610-2625 ตรงกันข้ามหากภาพเป็น 2665 ช่วงเวลาก็จะรันในช่วง 2665-2720
เงินหลักของเราคือซื้อที่ 2615 หลังจากจบ TP และเลือกขายที่ 2660 เมื่อวานก็ตกลงไปที่ 2642 เช่นกัน ทิศทางการซื้อขายของเราถูกต้อง การเผยแพร่เนื้อหาที่นี่อาจมีความล่าช้า หากคุณคิดว่าบทความของฉันมีประโยชน์สำหรับคุณ โปรดชอบด้วย ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ
14/01/25 สรุปการวิเคราะห์ USD/THB พร้อมแผนการเทรด บาทกำลังจะกลับมาแข็งค่า หุ้นไทยกำลังจะฟื้นจากท้องคลื่น
**สรุปการวิเคราะห์ USD/THB พร้อมแผนการเทรด**
ในกราฟ USD/THB มีการปรากฏของ **Bearish Gartley Pattern** ซึ่งเป็นรูปแบบที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวขาลงจากแนวโน้มขาขึ้นเดิม โดยใช้เครื่องมือ Fibonacci และ TD Sequential ร่วมกัน ระดับราคาสำคัญและกลยุทธ์การเทรดอธิบายได้ดังนี้:
#### **โซนราคา (Price Zones)**
1. **จุดเข้า (Entry Zone):**
- ระหว่าง **34.75 - 34.85** (ใกล้จุดสิ้นสุดของ Bearish Gartley ที่ 78.6% Fibonacci)
2. **เป้าหมายการทำกำไร (Take Profit):**
- เป้าหมายแรก: **34.59** (ระดับ 61.8% Fibonacci retracement)
- เป้าหมายที่สอง: **34.41** (ระดับ 50.0%)
- เป้าหมายสุดท้าย: **34.24** (ระดับ 38.2%)
3. **Stop Loss:**
- ตั้ง Stop Loss เหนือจุดสูงสุดของโครงสร้าง Gartley ที่ระดับ **34.95 - 35.00** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
---
### **กลยุทธ์การเทรด**
| จุดสำคัญ | ราคา (THB) | แนวทางการเทรด |
|---------------------|------------|-------------------------------------|
| **จุดเข้า (Sell Zone)** | 34.75 - 34.85 | เปิดคำสั่ง **Sell** |
| **เป้าหมายแรก** | 34.59 | ปิดทำกำไรบางส่วน (หรือทั้งหมด) |
| **เป้าหมายที่สอง** | 34.41 | ปิดทำกำไรเพิ่มเติม |
| **เป้าหมายสุดท้าย** | 34.24 | ปิดทำกำไรเต็มจำนวน |
| **Stop Loss** | 34.95 - 35.00 | ป้องกันขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาด |
---
### **กรณีที่ USD กลับมาแข็งค่า: ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย**
1. **การแข็งค่าของ USD หมายถึง THB อ่อนค่า**
- ค่าเงินบาทที่อ่อนลงทำให้ต้นทุนในการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาการนำเข้า เช่น กลุ่มธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าและบริษัทพลังงาน
2. **หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า**
- หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก (Exporters) เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, อาหาร และยานยนต์ จะได้รับประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในรูปสกุล USD
3. **ตลาดทุนโดยรวม**
- การอ่อนค่าของ THB อาจสร้างแรงกดดันต่อกระแสเงินทุนไหลออก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติจะมองหาสกุลเงินที่แข็งค่า ทำให้เกิดการขายสินทรัพย์ไทย เช่น หุ้นและพันธบัตร
---
### **สรุปความเข้าใจ**
- เปิดสถานะขาย (Sell) เมื่อราคายืนยันการกลับตัวในโซน 34.75-34.85 ด้วยเป้าหมายทำกำไรตาม Fibonacci retracement
- ติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และไทยเพื่อประเมินการเคลื่อนไหวของ USD/THB เพิ่มเติม
- หาก USD แข็งค่า อุตสาหกรรมส่งออกในไทยจะได้ประโยชน์ ขณะที่ธุรกิจที่พึ่งพาการนำเข้าและตลาดหุ้นโดยรวมอาจได้รับผลกระทบจากกระแสเงินทุนไหลออก
Gold Market Outlook [14 มกราคม 2568]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองคำร่วงแรง 1% หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่ง หนุนดอลลาร์พุ่งทะยาน
💫 บทวิเคราะห์ตลาดทองคำ
ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายหนักในวันจันทร์ หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี อานิสงส์จากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
📊 ปัจจัยกดดันราคาทองคำ
• ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ส่งผลให้ทองคำมีต้นทุนที่แพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อต่างชาติ
• นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา
• ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในวันพุธนี้
• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
• ยอดค้าปลีกสหรัฐ
• พิธีสาบานตนของโดนัลด์ ทรัมป์ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งนโยบายการค้าแบบปกป้องอาจส่งผลดีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
📈 มุมมองทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง เนื่องจากตลาดรอผลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและติดตามท่าทีของรัฐบาลชุดใหม่ แนะนำให้รอดูทิศทางตลาดในช่วงเช้าก่อนพิจารณาเข้าซื้อขายในช่วงเปิดตลาดสหรัฐฯ
📊 แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly bullish 🚀
🔼 แนวต้าน 3: $2,688
🔼 แนวต้าน 2: $2,678
🔼 แนวต้าน 1: $2,671
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,669
🔽 แนวรับ 2: $2,657
🔽 แนวรับ 3: $2,647
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 14/01/2568ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันไปยังจีนและอินเดียกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลงโทษต่อการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครน
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาน้ำมันปรับตัวเข้าใกล้โซนแนวต้านสำคัญที่ระดับ 80.56 - 79.00 การขึ้นถึงเเนวต้านใหญ่ในรอบ 5เดือนที่ผ่านมาน่าจะมีการย่อพักตัวเเล้วจึงเลือกทาง
กลยุทธ์
เปิดสถานะ Short ราคา 80.56 - 79.00
จุดตัดขาดทุน 81.50
เป้าหมายการทำกำไร: 75.82- 74.46
บิทคอยน์เข้าสู่ตลาดหมีหรือไม่? ตัวบ่งชี้ที่สำคัญกล่าวว่าใช่บิทคอยน์เข้าสู่ตลาดหมีหรือไม่? ตัวบ่งชี้ที่สำคัญกล่าวว่าใช่
การเปลี่ยนแปลงใดๆในโรงงานซึ่งจะนำไปสู่คุณลักษณะใหม่โชคดีหรือโชคร้ายนี้สามารถจะ
าซื้อกิจการเฉลี่ยของบิทคอยน์ที่จัดขึ้นน้อยกว่า 155 วัน ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าบิทคอยน์มักจะเปลี่ยนเป็นดินแดนหยาบคายเมื่อราคาลดลงต่ำก
นสำคัญที่ 992,000 และลดลงภายใต้ 990,000 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เปอร์เซนต์รายการสั่งซื้อ อย่างไรก็ตามด้วยสินทรัพย์เสี่ยงภายใต้ความกดดันบิทคอยน์อาจต่อสู้เพื่อให้บรรลุการฟื้นตัวของราคาอย่างยั่งยืน
ทองคำ XAUUSD Swing and Runทองคำ Swing and Run
ราคาทองคำจ่อเบรคกรอบสามเหลี่ยม Contracting Triangle
ขณะนี้กำลังย่อตัวอยู่ ใช้แนว EMA เป็นจุดรับได้ เมื่อมีแท่งเทียนกลับตัว
หรือทำ Reversal Pattern เบรคทำลายโครงสร้างในภาพเล็ก
ก็จะเป็นจุดเข้า Buy
โดยมีแนวรับ FVG ใน TF Day ที่บริเวณ 2635
และไม่ควรหลุด 2600 เพราะจะเสียโมเมนตั้มขาขึ้น
Entry เมื่อมีแท่งเทียนกลับตัวเหนือแนวรับ
TP เริ่มล็อคกำไรที่ High เดิม บริเวณ 2700-2720
และหากเบรคโครงสร้างใหญ่ไปได้ เหลือ Position ถือรันไปต่อ ยกเทลลิ่งตามได้
SL เมื่อหลุดLow ก่อนหน้าจุดเข้าซื้อ
ทำไมธนาคารดอยซ์แบงก์ถึงขายปอนด์? ทำไมธนาคารดอยซ์แบงก์ถึงขายปอนด์?
การเงินและการลงทุน
ปอนด์ลดลงเกือบ 2%เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาตีต่ำ 14 เดือนของ 11.2200 ซึ่งแตกต่างจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาในเดือนพฤศจิกายน 2024 ต่อไปนี้งบประมาณในสหราชอาณ "เราสนับสนุนการขายปอนด์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก"โกปาลกล่าวเน้นยูโร,ดอลลาร์,ฟรังก์
งประเทศอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์—สถานการณ์ราคาในปัจจุบันที่ 65%น่าจ
ดัชนีตลาดหุ้นที่สำคัญ เป้าหมายข้อเสียที่สำคัญอาจจะต่ำ 20231.2000 และต่ำ 2022 ของ 1.0382
มุมมองทองคำประจำวันที่ 13 / 1 / 68🔴 Super Free Gold Forex 🔴
ประจำวันที่ 13 / 1 / 68
เทรนยังคงเป็นขาขึ้นอยู่นะครับ
แต่มีไดฯให้เห็นอยู่แบบนี้รอย่อบายดูจะปลอดภัยกว่านะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
เรามี Live ประจำสัปดาห์ด้วยนะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
Gold Market Outlook [13 มกราคม 2568]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองพุ่งแรงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางนโยบายของทรัมป์ แม้ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯแข็งแกร่ง
ตลาดทองคำวันนี้ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง ถึงแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานจะออกมาดีเกินคาดก็ตาม
💹 สถานการณ์ตลาด
ราคาทองคำสปอตปรับตัวขึ้น 0.5% แตะระดับ 2,688.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าพุ่งขึ้น 1% สู่ระดับ 2,717.60 ดอลลาร์ แม้ว่าในช่วงแรกราคาจะร่วงลงสู่ระดับ 2,663.09 ดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 160,000 ตำแหน่ง
📊 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา
• ความไม่แน่นอนทางนโยบาย: นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและจำกัดความสามารถของเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
• ตัวเลขการจ้างงาน: อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.1% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.2% ส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยน้อยลงเหลือเพียง 30 basis points จากเดิมที่คาดไว้ 45 basis points
📈 การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,697 ดอลลาร์ หากผ่านได้มีโอกาสไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,705 และ 2,710 ดอลลาร์ตามลำดับ นักลงทุนควรรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ
📊 กรอบแนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly bullish 🚀
🔼 แนวต้าน 3: $2,710
🔼 แนวต้าน 2: $2,705
🔼 แนวต้าน 1: $2,697
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,685
🔽 แนวรับ 2: $2,678
🔽 แนวรับ 3: $2,665
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำในสัปดาห์หน้า 13 - 20 มกราคมสาเหตุที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง แม้ข้อมูล NFP และอัตราการว่างงานจะออกมาดีกว่าที่คาด
หลังจากมีการประกาศข้อมูล NFP (การจ้างงานนอกภาคเกษตร) และอัตราการว่างงาน (UR) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสร้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในทันทีหลังข่าวถูกเผยแพร่ออกมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้กลับมาประเมินข้อมูลใหม่อีกครั้ง และพบว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนถูกปรับลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อรวมกับตัวเลขการปรับปรุงของเดือนตุลาคม พบว่าการจ้างงานในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนรวมกันถูกปรับลดลงไปประมาณ 800,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว!
สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนธันวาคม ซึ่งดูดีในตอนนี้ อาจถูกปรับลดลงอีกเมื่อถึงต้นเดือนหน้า และหากเกิดการปรับลดลง ตัวเลขการจ้างงานจริงของเดือนธันวาคมอาจไม่ดีเท่าที่ประกาศ หรืออาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้! ปัจจัยเรื่อง "ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" นี้จึงมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาด
ผลลัพธ์คือ ราคาทองคำกลับมาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากการปรับตัวลดลงในช่วงแรก
แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าในช่วง 2718–2721 โดยพิจารณาจากแรงผลักดันของการปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระดับนี้ดูเหมือนจะสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปรับฐานในระยะเวลาอันใกล้ การปรับฐานนี้อาจช่วยเติมเต็มช่องว่างของสภาพคล่องด้านล่าง และสร้างแรงผลักดันให้ราคาพุ่งขึ้นใหม่ เพื่อกลับมาทดสอบหรือทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลได้
เหตุการณ์สำคัญในเดือนมกราคม
การกลับมาดำรงตำแหน่งของทรัมป์ที่ทำเนียบขาว: การเข้ารับตำแหน่งอาจนำมาซึ่งความผันผวนอย่างมากในตลาดในช่วงปลายเดือน
วันหยุดเทศกาลตรุษจีนในเอเชีย: วันหยุดช่วงปลายเดือนมกราคมอาจทำให้ตลาดขาดสภาพคล่อง
เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ ราคาทองคำอาจยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลในขณะนี้ มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับฐานในอีก 1–2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะเปิดโอกาสสำหรับ การขาย (Sell Position)
กลยุทธ์การซื้อขาย
ระดับราคาสำคัญได้ถูกทำเครื่องหมายไว้ในกราฟแล้ว จุดเข้าซื้อเฉพาะเจาะจงจะขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของราคาประจำวัน ซึ่งจะมีการอัปเดตเพิ่มเติมในภายหลัง สำหรับตอนนี้ ให้จับตาดูแนวต้านที่ราคามีโอกาสที่จะตอบสนองและปรับตัวลดลง
จดจำสิ่งเหล่านี้ไว้!
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำวันที่ 10 มกราคม ข่าว NF⚫ ราคาทองคำคงที่และแนวโน้มการเติบโต
ราคาทองคำสปอตอยู่ที่ 2,670.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024
⚫ โฟกัสที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm)
รายงาน Nonfarm Payrolls เดือนธันวาคม 2024 คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
⚫ ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
นโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ คาดว่าจะกระตุ้นเงินเฟ้อผ่านการเรียกเก็บภาษีและมาตรการกีดกันทางการค้า
⚫ มุมมองนโยบายจาก Fed
เอสเธอร์ จอร์จ ประธาน Fed สาขาแคนซัส ไม่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวและอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2%
ขณะนี้ตลาดกำลังรอรายงานการจ้างงานอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางนโยบายของ Fed
ในการประชุมครั้งล่าสุดของ Fed ผู้กำหนดนโยบายเห็นพ้องกันว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงต่อเนื่องในปีนี้ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่แรงกดดันด้านราคาจะคงอยู่เนื่องจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นายทรัมป์มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 และนโยบายที่เขาเสนอ เช่น ภาษีและการกีดกันทางการค้า คาดว่าจะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ
ทองคำถือเป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะลดความน่าสนใจของสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ข่าวยังคงสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตของทองคำ แม้ว่า DXY (ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ) จะมีประสิทธิภาพที่ดี แต่ทองคำยังคงรักษาเสถียรภาพและแนวโน้มขาขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทองคำเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงในช่องแนวโน้มขาขึ้น แสดงถึงแรงขับเคลื่อนที่ยั่งยืนในช่วงราคาปัจจุบัน รูปแบบแท่งเทียนแสดงให้เห็นว่าฝ่ายซื้อมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน ผลักดันราคาไปยังระดับแนวต้านสำคัญ
รายงาน Nonfarm Payrolls ในวันนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญครั้งแรกของปี นักลงทุนทั่วโลกคาดหวังและจับตารายงานนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดทั้งเดือนหรืออาจนานกว่านั้น คาดว่าช่วงราคาจะแกว่งตัวอย่างมากในระดับ 40-50 จุดเมื่อเทียบกับรายงาน Nonfarm ครั้งก่อน โปรดระมัดระวัง
กลยุทธ์การซื้อขายสำหรับตลาดเอเชีย/ยุโรป
BUY SCALP: 2662 - 2660
SL: 2656
TP: 2668 - 2672 - 2676 - 2680
BUY ZONE: 2646 - 2644
SL: 2640
TP: 2650 - 2654 - 2660 - ????
SELL SCALP: 2678 - 2680
SL: 2683
TP: 2674 - 2670 - 2668
SELL SCALP: 2690 - 2692
SL: 2696
TP: 2684 - 2682 - 2680 - 2676
SELL ZONE: 2704 - 2706
SL: 2710
TP: 2700 - 2696 - 2692 - 2888
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น วันนี้คาดว่าจะมีความผันผวนสูงเนื่องจากรายงาน Nonfarm ที่สำคัญและการปิดแท่งเทียนรายสัปดาห์ในวันศุกร์ โปรดดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตาม TP/SL อย่างเคร่งครัด และจัดการบัญชีของคุณอย่างรอบคอบ
ขอให้โชคดี!
วิเคราะห์ระยะยาวXAUUSD เเผนนี้มีผลกับราคาทองในเดือนมกราคาค่อนข้างมาก
ปัจจุบันราคาทองคำอยู่ ณ ราคา 2680 เเต่ยังมองได้ทั้ง2ทางว่าราคาจะมีการปรับตัวลงมาประมาณ60%เเละมีโอกาสขึ้นอีก40%
โดยวันนี้มีข่าวตัวนอนฟาร์มหากตัวเลขออกมาตามคาดการณ์ จะทำการเข้าเทรดออเดอร์ฝั่งขาBUY เพื่อไปเก็บกำไรที่2775 เเละถ้าตัวเลขผิดคาดการณ์จะเปิดออเดอร์ฝั่งขาSELLเเละมองเป้ายาวเหมือนเดิมที่ 2720 รวมทั้งหมดที่20,000จุด ถากราคาขึ้นไปจะได้กำไรประมาณ 3,500จุด เเละรออัพเดทเเผนใหม่หากราคามีการขึ้นมาเรียบร้อย
ในเชิงเทคนิคราคามีการเข้าโซนฮาโมนิคที่70%โอกาสที่ราคาจะมีการกดตัวลงก็มากเช่นกัน เเต่ข่าวที่ออกมาวันนี้อาจจะมองว่าเป็นการขึ้นไปเคลียร์เม่าก็เป็นไปได้ค่อนข้างสูง ยังไงก็รอติดตามอีกรอบนะครับ
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ขาย" 10/1/2025อธิบาย : ระบบ ATR Trend Following ใช้หลักการง่ายๆ คือ เอา ATR x multiplier มาตีกรอบราคาที่จะแกว่งของ BTC ถ้าทะลุกรอบ ก็จะเกิดการ flip ของสัญญาณ เช่น จากซื้อเป็นขาย หรือจากขาย เป็นซื้อ เป็นต้น
ความเห็นของรอบนี้ : เรียบร้อย รอบนี้ มาเร็ว เคลมเร็ว จุกๆ กันไป ใครวางความเสี่ยงไว้ก็เจ็บเท่าที่วางไว้ ใครไม่วางปล่อยไหลรอไปคัทตอนแดงก็จะจุกหน่อย เพราะ loss จริงจะเกินกว่าที่ตั้งไว้ครับ
ตลาดแบบนี้เปิดปีด้วยความแปลก เพราะปกติเวลาเริ่มปีใหม่ก็มักจะขึ้นต่อกันไปเลย แต่ก็นั่นแหละครับ ในการเทรด มันไม่มีอะไรแน่นอน เราจะไปแน่ใจกับภาพในอดีตไม่ได้ว่า ทุกอย่างจะต้องเหมือนเดิม ดังนั้น การคุมความเสี่ยง ถึงสำคัญที่สุดครับ
BTC ATR = เขียว ( 7/1/2025 )
------------------
Entry : 102200+-
SL : 94500 ( -7.5% )
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTC ATR = แดง ( 10/1/2025 )
------------------
Entry : 102200+-
Real Stop : 94500 ( -7.5% )
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )
Actual Loss = -1%
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2025 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(1Jan-???) EMA120D = ??%
(7Jan-10Jan) ATR = -1%
(7Jan-10Jan) ActionZone = -1%
Sum กำไรสะสมของปี 2025 = -2% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง ( Max 4% กำไรหน่วย USD )