Gold Market Outlook 【26 สิงหาคม 2024】🌟 Gold Market Outlook 【26 สิงหาคม 2024】💰🔍
ราคาทองคำพุ่งขึ้น 1% หลังพาวเวลล์ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 📈✨
⭐️ ราคาทองคำทะยานขึ้น 1% ขณะที่ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้น 1% ในทันที 🎉💸
⭐️ นายพาวเวลล์กล่าวว่า "ถึงเวลาแล้ว" ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องลดอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงการผ่อนคลายนโยบายในเร็วๆ นี้ 🏦📉
⭐️ ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลง 0.8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีอ้างอิง ก็ปรับตัวลดลงหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวลล์ ทำให้ทองคำกลายเป็นทางเลือกที่ดึงดูดสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ 💰🌍
⭐️ นักเทรดคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 67.5% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน ขณะที่อีก 32.5% คาดว่าจะลดลึกถึง 0.50% 📊💡
⭐️ สำหรับภาพเทคนิคราคาทองคำช่วงต้นสัปดาห์ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเคลื่อนไหวแนวนอน (Sideway) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวขึ้นแรงในระยะก่อนหน้า ดังนั้น กลยุทธ์การซื้อขายในวันนี้จึงเน้นการสอยกำไรระยะสั้นตามแนวรับ-แนวต้านรายวันเช่นเคย #ขอให้ทุกท่านโชคดีและทำกำไรกันถ้วนหน้านะครับ 🍀💰
📊 แนวรับ - แนวต้าน (08:25)
XAUUSD
Status : Sideway
แนวต้าน 3 (R3): $2,531
แนวต้าน 2 (R2): $2,523
แนวต้าน 1 (R1): $2,518
——————————
แนวรับ 1 (S1): $2,505
แนวรับ 2 (S2): $2,500
แนวรับ 3 (S3): $2,489
เขียนโดย : Beam ✍️📈🔍
รูปแบบชาร์ต
Gold Market Outlook 【26 สิงหาคม 2024】🌟 Gold Market Outlook 【26 สิงหาคม 2024】💰🔍
ราคาทองคำพุ่งขึ้น 1% หลังพาวเวลล์ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 📈✨
⭐️ ราคาทองคำทะยานขึ้น 1% ขณะที่ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้น 1% ในทันที 🎉💸
⭐️ นายพาวเวลล์กล่าวว่า "ถึงเวลาแล้ว" ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องลดอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงการผ่อนคลายนโยบายในเร็วๆ นี้ 🏦📉
⭐️ ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลง 0.8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีอ้างอิง ก็ปรับตัวลดลงหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวลล์ ทำให้ทองคำกลายเป็นทางเลือกที่ดึงดูดสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ 💰🌍
⭐️ นักเทรดคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 67.5% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน ขณะที่อีก 32.5% คาดว่าจะลดลึกถึง 0.50% 📊💡
⭐️ สำหรับภาพเทคนิคราคาทองคำช่วงต้นสัปดาห์ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเคลื่อนไหวแนวนอน (Sideway) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวขึ้นแรงในระยะก่อนหน้า ดังนั้น กลยุทธ์การซื้อขายในวันนี้จึงเน้นการสอยกำไรระยะสั้นตามแนวรับ-แนวต้านรายวันเช่นเคย #ขอให้ทุกท่านโชคดีและทำกำไรกันถ้วนหน้านะครับ 🍀💰
📊 แนวรับ - แนวต้าน (08:25)
XAUUSD
Status : Sideway
แนวต้าน 3 (R3): $2,531
แนวต้าน 2 (R2): $2,523
แนวต้าน 1 (R1): $2,518
——————————
แนวรับ 1 (S1): $2,505
แนวรับ 2 (S2): $2,500
แนวรับ 3 (S3): $2,489
เขียนโดย : Beam ✍️📈🔍
XAUUSD (ทองคำ) - การวิเคราะห์แนวโน้มสำหรับวันจันทร์หน้า
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วไปที่ราว 2,518 จุดในช่วงการซื้อขายของสหรัฐฯ ในวันศุกร์เนื่องจากความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แนวโน้มโดยรวมหนึ่งชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าการดีดตัวกลับจะแข็งแกร่ง แต่ราคาทองคำก็ไม่ได้กลายเป็นขาขึ้นอย่างแท้จริง สัญญาณที่เข้าใจง่ายที่สุดคือราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวรับ 2,520 จุดและจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 2,531 จุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบ่งชี้ว่ายังคงมีแนวต้านที่แข็งแกร่งเหนือระดับนั้น หากต้องการสร้างแนวโน้มขาลงอย่างสมบูรณ์ ราคาทองคำจะต้องตกลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดในรอบก่อนหน้าที่ 2,470 จุดเสียก่อน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบความต่อเนื่องของคำสั่งซื้อขายเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นที่แน่วแน่ในทิศทางขาลงอีกด้วย
จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำพบกับแนวต้านที่ 2,518 จุดหลังจากที่พุ่งขึ้นในวันศุกร์ กลยุทธ์การดำเนินงานในสัปดาห์หน้ายังคงอิงตามจุดนี้และการขายชอร์ตโดยอิงตามแนวต้านนี้ การลดลงในระยะสั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการขายชอร์ตในรอบนี้ เป้าหมายในระยะกลางอยู่ที่ 2,480-2,470 จุด และอาจลดลงต่อไปอีก ในระยะนี้ ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การสงบสติอารมณ์และมีเหตุผลเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของผู้ขายชอร์ตแนวกลาง
โดยสรุป ข้อเสนอแนะการดำเนินการระยะสั้นสำหรับทองคำในวันจันทร์หน้ายังคงมุ่งเน้นไปที่การขายชอร์ตแบบรีบาวด์ เสริมด้วยการขายแบบคอลแบ็ก ฝั่งบนต้องมุ่งเน้นไปที่ช่วงแนวต้านที่ 2,518-2,520 ส่วนฝั่งล่างต้องมุ่งเน้นไปที่บริเวณแนวรับที่ 2,485-2,470
มุมมองทองคำ 26-08-67มุมมองทองคำ 26-08-67
ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนันสนุนราคาทองคำอยู่นะครับ ยังมองไปในทิศทางขาขึ้นได้เปลี่ยนอยู่ มองรอราคาย่อบายยังปลอดภัยอยู่นะครับ โดยเบื้องต้นราคาต้องเบรค 2,520 ขึ้นไปให้ได้ก่อน แต่ถ้าวันจันทร์ราคาเบรค 2,532 ขึ้นได้จะยิ่งดีต่อขาขึ้นนะครับ
โดยตอนนี้มีแนวรับที่สำคัญที่ราคาห้ามหลุดที่ 2,470 นะครับ เพราะถ้าราคาหลุดลงได้มองป้ายแรกแถว 2,550-60 ก่อนนะครับ
ปล. เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่มอีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
SCB on Focusประเด็นร้อนแรงเรื่อง EA ที่ได้มีการกล่าวถึง SCB ในการแถลงข่าวว่าเป็นผู้ให้กู้ในภาวะที่ EA มีกรณีที่ผู้บริหารถูก กลต กล่าวโทษตามที่เป็๋นข่าวในขณะนี้นั้น SCB มีแรงเทขายลงมาหลุด Zone ที่ทำ Sideway บริเวณ102-108 ซึ่ง indicator ทำการปรับตัวลงตามไปด้วย แนวรับตาม Fibo 101/98 และเนื่องจากที่ SCB ได้เปิดแกปทิ้งไว้บริเวณ 99.75-101 จึงมองว่ามีโอกาสที่จะลงมาปิดแกปดังกล่าวก่อน หากไม่มี SCB ในมือ รอฟังงบที่จะประกาศก่อนในวันที่ 19-07 หากมี แล้วพบว่าลบ น่าจะต้องหาจุดคัทไปก่อนตามแผนการเทรดที่วางไว้ เช่นตามแนวรับ ส่วนจังหวะเข้าซื้อใหม่ต้องรอสัญญาณแท่งเทียนกลับตัว หรือมี indicator ที่บ่งชี้ว่าสามารถเข้าซื้อได้ก่อน
BTCUSD : ระบบ CloseAboveEMA120D มีสัญญาณ"ซื้อ" 24/8/24ระบบ CloseAbove EMA120 D คือระบบที่จำลองการปิดแท่งเหนือ EMA18 W ให้มาอยู่ใน TF Daily เพื่อที่จะตัดสินใจได้เร็วขึ้น
สำหรับระบบนี้ ผมจะเก็บไว้มอง Trend ใหญ่เท่านั้น เพื่อตัดสินใจในด้าน position sizing หรือเพิ่ม-ลดความเสี่ยง แต่ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ในการ take action ซื้อหรือขายนะครับ เพราะมันจะช้าเกินไปมากๆ ถ้าจะใช้ซื้อขายให้ใช้ระบบอื่นๆ ที่เร็วกว่านี้จะดีกว่าครับ
BTC CloseAboveEMA120D = เขียว ( 24/8/2024 )
------------------
Entry : 64000+-
SL : 57300 (-10.4%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-???) ATR = ?%
(24Aug-???) EMA120DCross = ?%
Sum = 24.05% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ซื้อ" 24/8/2024ระบบ ATR Trend Following ใช้หลักการง่ายๆ คือ เอา ATR x multiplier มาตีกรอบราคาที่จะแกว่งของ BTC ถ้าทะลุกรอบ ก็จะเกิดการ flip ของสัญญาณ เช่น จากซื้อเป็นขาย หรือจากขาย เป็นซื้อ เป็นต้น
เนื่องจากในภาพใหญ่ ราคา BTC มัน sideway ออกข้างในกรอบใหญ่ๆ มาหลายเดือน ทำให้ระบบตระกูล Trend Following เจอสัญญาณหลอก ค่อนข้างบ่อย บ่อยจนหลายๆ คนอาจจะท้อเลิกทำตามระบบไปแล้ว และบางคนที่อาจจะไม่เข้าใจก็ออกมาเตือนว่า จะไปทำตามระบบทำไม รอให้เกิดเทรนก่อนสิ แล้วค่อยซื้อ
ซึ่ง.. ผมบอกเลยว่า ถ้าเรามัวรอให้เกิดเทรน เราก็จะตกรถไปและไปเข้าแบบช้ามากๆ นั่นเองครับ เพราะใน time frame ใหญ่ อย่างระดับ daily กว่าคุณจะเห็นเทรนชัดๆ มันก็ต้องตั้งลำ ตั้งทรง แล้วค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าจะแบบกะชัวร์ก็โน่น ต้องรอ break 74k ก่อนเหรอ ผมว่ามันก็ไม่ make sense เท่าไหร่...
สู้เชื่อใจระบบมันว่า ถ้ามันเขียว เราก็แค่ เข้าด้วยความเสี่ยงที่เรารับได้ ถ้ามันไม่ไปต่อ เราก็แค่คัท แต่ถ้ามันไปต่อ เราก็รันเทรนกันไปยาวๆ จนกว่าจะจบเทรน ง่ายๆ แค่นี้เอง...แต่ก็นั่นแหละ ทำโคตรยาก
BTC ATR = เขียว ( 24/8/2024 )
------------------
Entry : 64000+-
SL : 57300 (-10.4%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-???) ATR = ?%
(24Aug-???) EMA120DCross = ?%
Sum = 24.05% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
2024/08/23 GOLD now#gold
### การวิเคราะห์:
1. **แนวรับสำคัญ**: โซนแนวรับที่ 2,500-2,505 ยังคงเป็นระดับสำคัญ หากราคายังสามารถยืนเหนือแนวนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวขึ้นต่อ
2. **แนวต้านสำคัญ**: แนวต้านที่ 2,515-2,520 ยังคงเป็นจุดที่น่าจับตามอง หากสามารถทะลุไปได้ มีโอกาสที่จะเห็นการเคลื่อนไหวไปยังระดับ 2,530-2,540
3. **ปริมาณการซื้อขาย**: ปริมาณการซื้อขายล่าสุดยังคงแสดงความผันผวน แต่มีแนวโน้มที่จะหนุนให้ราคาขยับไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งในเร็วๆ นี้
### แผนการเทรด:
1. **การเข้าซื้อ (Buy)**:
- หากราคาย่อตัวมาที่โซน 2,500-2,505 แล้วสามารถสร้างแรงซื้อที่ชัดเจน สามารถพิจารณาเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ 2,515-2,520
- จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ให้ตั้งที่บริเวณต่ำกว่า 2,495
2. **การขาย (Sell) หากราคาหลุดแนวรับ**:
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 2,500 สามารถพิจารณาเปิดคำสั่งขาย (Sell) โดยตั้งเป้าหมายที่ 2,490 หรือโซนที่ต่ำกว่า
3. **ติดตามแนวต้าน**:
- หากราคาทะลุผ่าน 2,520 ขึ้นไปได้ สามารถพิจารณาซื้อเพิ่ม (Buy) โดยเป้าหมายกำไรที่ 2,530-2,540
วิเคราะห์ XAUUSD 23/8/67 เมื่อวานราคาปรับตัวลงหลุดแนวรับ 2485-2480 ลงมาต่ำถึงราคา 2470 แต่สามารถดีดกลับมาสร้างฐานที่แนว 2480 ได้ โดยเมื่อวานรายงานข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ PMI และผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ภาพรวมออกมาดูดี ทำให้นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่า ถ้อยแถลงของเฟดในวันนี้จะมีการประกาศแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นี้ ยังไงคืนนี้ยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงของเฟด
สำหรับภาาพรวมทางเทคนิครายวัน ในเทรนด์หลักยังเป็นแนวโน้มของขาขึ้น แต่ภาพรวมรายสี่ชั่วโมงมีความขัดแย้งกัน กราฟเป็นเเท่งแดงแบบ Big Body เพราะเนื่องจากเมื่อวานราคาได้หลุดฐาน 2485-2480 ลงมาทำ Low 2470 และปิดตลาดต่ำกว่า 2500 ในรอบสัปดาห์ ปิดที่ 2482 มองว่าวันนี้ราคาจะวิ่งแบบ Sideway เพื่อรอถ้อยแถลงจากพาวเวล จากเมืองเเจ็กสันโฮ ก่อนเลือกทาง ว่าพักฐานก่อนหรือจะไปต่อ ยังไงภาพรวมทางเทคนิคคอล ราคาจะต้องไม่หลุดต่ำไปกว่า 2465-2460 และต้องสามารถรักษาฐานรับ 2470-2480 ไว้ให้ได้ด้วย เพื่อให้บริเวณโซนดังกล่าว เป็นฐานแนวรับที่แข็งแรง และทำให้กราฟหาย Sideway และกลับเข้าแนวโน้มขาขึ้นเช่นเดิท
แนวรับรายวัน
2488-2484/2477-2475/2470/2465
แนวต้านรายวัน
2499-2503/2507-2515/2519-2525/2533-2536/2555
แหล่งการเรียนรู้ศึกษาหาข้อมูล
Goldenhunter Team นักล่าทองคำ Academy
Gbp/Jpjจากกราฟ GBP/JPY
แนวรับและแนวต้าน (Pivot Points):
R1 (192.732) และ R2 (194.009) เป็นแนวต้านสำคัญที่ราคาต้องผ่านหากต้องการกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน
S1 (190.178) และ S2 (188.901) เป็นแนวรับสำคัญที่ราคาควรจะรักษาไว้ได้เพื่อไม่ให้กลับไปสู่แนวโน้มขาลง
การเคลื่อนที่ของราคา:
ราคาได้พยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 191.921 แต่ไม่สามารถผ่านไปได้และมีการย่อตัวลงมาที่ระดับ 190.899
อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือแนวรับที่สำคัญบริเวณ DO (191.455) ซึ่งอาจบ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัวขึ้นอีกครั้ง
สัญญาณการกลับตัว (Reversal):
ถ้าราคาสามารถกลับขึ้นไปทะลุแนวต้านบริเวณ R1 (192.732) ได้อย่างมั่นคง จะเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นและอาจไปทดสอบแนวต้านที่ R2 (194.009) ได้
ในทางกลับกัน หากราคาลงมาต่ำกว่า S1 (190.178) และไม่สามารถกลับตัวขึ้นได้ จะมีความเสี่ยงที่จะลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ S2 (188.901)
สรุป:
สำหรับทิศทางขาขึ้น: ให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาที่บริเวณ R1 และ DO หากราคาทะลุผ่าน R1 ได้ ให้พิจารณาเปิดสถานะซื้อ (Buy) โดยมีเป้าหมายที่ R2
หากราคาไม่สามารถทะลุ R1 ได้และเกิดการย่อตัวลงมาต่ำกว่า S1 ควรพิจารณาปิดสถานะหรือระวังการเปิดสถานะซื้อใหม่
ควรติดตามความเคลื่อนไหวของราคาที่บริเวณแนวต้านและแนวรับเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น