มุมมองทองคำ 18-09-67มุมมองทองคำ 18-09-67
ตัวเลขยอดค้าปลีกออกมาลดลงกว่าครั้งที่แล้ว และสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น เป็นบวกกับราคาทองคำ
แต่ราคาขึ้นได้ไม่มาก อาจจะเพราะนักลงทุนกำลังรอการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย
ที่คาดฯว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% อยู่นะครับ ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาก่อน
เพื่อรอความชัดเจนของเฟดอีกทีนะครับ
ในทางเทคนิคเองในการย่อของราคาทองคำเอง ณ ตอนนี้มองได้ว่าจะเป็นการย่อลงมาเพื่อทำโลที่สูงขึ้นนั้นเอง
ซึ่งมีช่วงให้ย่อตัวลงได้มากพอสมควรเลยนะครับ ซึ่งในทางเทคนิคสามารถย่อได้ถึง 2530 ได้ด้วยซ้ำนะครับ
แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือ ถ้าราคาไม่ทำไฮใหม่อาจจะได้เห็นการย่อเพื่อพักฐานราคาได้นะครับ
ปล. เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่มต่ออีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
รูปแบบชาร์ต
2024 09 17 GOLD GOLD GOLD พูดเหมือนเดิม แนวทางเดิมทุกวัน แนวรับ แนวต้าน ผ่านแนวรับได้ ผ่านแนวต้านได้ มันจะไปต่อ เมื่อมีสัญญาณการกลับตัว มันจะกลับตัว ตั้ง SL ด้วย เพื่อให้มันจบเป็นครั้งๆไป ถ้าไม่ถูกจะได้แก้ใหม่ครั้งหน้า
### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด:**
- การเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบที่ผันผวนมาก ซึ่งมีการเคลื่อนตัวขึ้นและลงอย่างรุนแรงในช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนในตลาดและความผันผวนที่สูง
- มีการกลับตัวลงอย่างรวดเร็วหลังจากทดสอบแนวต้านที่ระดับประมาณ **2,575 USD**
2. **แนวรับและแนวต้าน :**
- แนวต้านที่ **2,575 USD** ซึ่งกราฟมีการทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านไปได้
- แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ **2,550 USD** หากราคาลงมาทดสอบและไม่หลุดลงไปได้ อาจเป็นจุดสนใจในการเข้าซื้อ
3. **(Indicators):**
- **MACD (Histogram):** แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในโมเมนตัม มีสัญญาณของการตัดกันระหว่างเส้น MACD และสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทาง
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในระดับกลางๆ ระดับประมาณ 50 ยังไม่เข้าข่าย Overbought หรือ Oversold
### แผนการเทรด:
1. **ถ้าอยากจะ Buy:**
- รอสัญญาณการกลับตัวที่แนวรับ **2,550 USD** หากมีการปฏิเสธราคาลงอย่างชัดเจน พร้อมกับสัญญาณบวกจากเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น แท่งเทียนที่เป็น Bullish Pin Bar หรือ Engulfing Pattern
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,575 USD** และตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่ **2,540 USD**
2. **ถ้าอยากจะ Sell:**
- หากราคาทดสอบแนวต้านที่ **2,575 USD** แล้วไม่สามารถผ่านไปได้ พิจารณาเปิดสถานะขายเมื่อมีสัญญาณการกลับตัว
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับ **2,550 USD** และตั้ง Stop Loss ข้างต้นแนวต้านที่ **2,580 USD**
### สรุป:
จากการวิเคราะห์ ราคาทองคำมีความผันผวนและแสดงถึงความไม่แน่นอน ควรใช้กลยุทธ์ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เน้นการตั้ง Stop Loss และการเข้าตำแหน่งที่มีโอกาสความสำเร็จสูง ติดตามข่าวสารและสภาพตลาดใกล้ชิดเพื่อปรับแผนการเทรดตามสถานการณ์ตลาดล่าสุด.
17 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.6917 กันยายน 2567 เมื่อ SET ปิดมากกว่าเท่ากับแนว 38.2% ที่ 1434.69 ในรอบปี 2566-2567 เราอ่านอย่างไร?
ตัวเลขฟีโบนัชชี เป็นตัวเลขอนุกรมหรือลำดับที่เรียงกัน และเรียงกันอย่างมีแบบแผน ค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า Leonardo Pisano หรือรู้จักกันกว้างขวางในนามว่า Fibonacci
Fibonacci Retracement คือ หนึ่งในประเภทของ Fibonacci Indicator ที่สามารถหาจุดพักตัวของราคา จุดกลับตัวของราคา จุดทำกำไร (Take Profit) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ถูกใช้ในการวิเคราะห์กราฟ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ด้วยการระบุ Price Level ล่วงหน้า ยิ่งนักลงทุนที่ต้องใช้แนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการกลับตัว (Breakout)
โดย Fibonacci จะเป็นการการใช้ Price Level อ้างอิงระดับราคาย้อนหลัง
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีนักลงทุนจำนวนมากที่ใช้อัตราส่วนทองคำ ในการคำนวณแนวรับและแนวต้าน เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน
ตัวอย่าง ตัวเลข Fibonacci
ตัวเลข Fibonacci ที่ได้มาคือ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233…. ไม่มีสิ้นสุด
โดยมีรายละเอียดการคำนวณดังนี้
1, 1, 2 (เกิดจาก 1+1)
3 (เกิดจาก 2+1)
5 (เกิดจาก 2+3)
8 (เกิดจาก 3+5)
13 (เกิดจาก 5+8)
21 (เกิดจาก 8+13)
34 (เกิดจาก 13+21)
55 (เกิดจาก 21+34)
89 (เกิดจาก 34+55)
144 (เกิดจาก 55+89)
233 (เกิดจาก 89+144)
นอกจากนี้ ตัวเลข Fibonacci ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ เพราะ เลข Fibonacci ตัวหลัง มีค่าออกมาใกล้เคียงกับ 0.618 เสมอ เช่น 144/233 = 0.618
ซึ่งผลลัพธ์จากคุณสมบัติข้างต้นของตัวเลข Fibonacci คือ 0.618, 1.618, 0.382 และ 2.618 ถือเป็นสัดส่วนธรรมชาติ และ 0.618 และ 1.618 คือ สัดส่วนที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด หรือที่เรียกกันว่า อัตราส่วนทองคำ
วิธีดูตัวเลข Fibonacci Level ที่ช่วยให้นักลงทุนพิจารณาสำหรับการลงทุน
0 = 0.0%
0.146 = 14.6%
0.236 = 23.6%
0.382 = 38.2%
0.5 = 50.0%
0.618 = 61.8%
0.786 = 78.6%
0.886 = 88.6%
1 = 100.0%
1.272 = 127.2%
1.618 = 161.8%
2.618 = 261.8%
4.236 = 423.6%
กลยุทธ์สำคัญของการพักราคา
และการใช้ เลข Fibonacci Retracement จะมีค่า Fibonacci ที่สำคัญอยู่ 3 โซน ได้แก่
โซนเริ่มต้นเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 14.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 23.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
โซนที่สองของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
กรณีขึ้นมาก่อนแล้วพักตัว ให้ไล่เรียง 61.8,50 และ 38.2 หากเป็นแนวโน้มลงมาก่อนให้ไล่เรียง 38.2,50 และ 61.8
ค่า Fibonacci คือ 61.8 = จุดพักตัวที่ 1 ราคามักจะมีการพักตัวบริเวณนี้
ค่า Fibonacci คือ 50.0 = จุดพักตัวที่ 2 ในกรณีที่ราคาหลัดจุดพักตัวที่ 1 ลงมาได้
ค่า Fibonacci คือ 38.2 = จุดพักตัวที่ 3 หากราคามีแนวโน้มที่แข็งแรงจะไม่สามารถลงมาถึงจุดที่ 3 ได้ แต่ถ้าหากสามารถลงมาถึงจุดนี้ได้ หมายความว่า ราคามีโอกาสกลับตัวสูง
ในทำนองเดียวกัน ในแนวโน้มลงมาก่อน เมื่อราคากลับขึ้นมาปิดเหนือแนว 38.2% ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ก็จะอ่านได้ว่ามีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางจากลงไปเป็นขึ้นได้ต่อเนื่อง
โซนที่สามของโอกาสเปลี่ยนแนวโน้ม
ค่า Fibonacci คือ 78.6 = ราคาปิดเหนือแนวนี้
ค่า Fibonacci คือ 88.6 = แนวต่อไปในการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมือ Fibonacci ในการวิเคราะห์ทิศทางของกราฟราคา โดยหลักการแนวรับ-แนวต้าน และ Golden Ratio ซึ่งประเภทของ Fibonacci ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นการวัดรอบการแกว่งตัวของราคาเพื่อหาจุดกลับตัวของรอบ ซึ่งสามารถใช้จับจังหวะในการซื้อขาย และยิ่งถ้าไปใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่นอย่างเช่น การดู Elliott Wave, Harmonic Pattern และ TD SEQUENTIAL ก็จะยิ่งทวีความมีประสิทธิภาพในการลงทุนขึ้นไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้วผู้ลงทุนจะเลือกลงทุนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้อง คิด วิเคราะห์ แล้วเตรียมรับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ
Gold Market Outlook 【17 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook 【17 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำทรงตัวที่โซน All time high รับแรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ยยกใหญ่ 📈💸
ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในการประชุมนโยบายสัปดาห์นี้ 📉💰
ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.4% ส่งผลให้ทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ มากขึ้น 🌍💵
จุดสนใจหลักของสัปดาห์นี้คือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธ นักเทรดคาดว่ามีโอกาส 61% ที่จะมีการปรับลดลง 50 basis points ตามเครื่องมือ CME FedWatch 📉🔍
ด้านความพยายามล่าสุดต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งมักจะเป็นบวกต่อทองคำ 🗳️😨 ซึ่งเอฟบีไอระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน ตกเป็นเป้าการลอบสังหารครั้งที่สองเมื่อวันอาทิตย์ 🎯😱
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเฟื่องฟูในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นลดความน่าสนใจในการถือทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน 🤔💭
ในส่วนของปัจจัยทางเทคนิคราคาทองคำวันนี้มีโอกาสได้เห็นการเคลื่อนไหวในวงจำกัดเนื่องจากใกล้ถึงช่วงประกาศอัตราดอกเบี้ยเข้ามาทุกทีอย่างไรเสียช่วงต้นตลาดวันนี้จำเป็นต้อง Wait&See ไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนในภายหลัง ไม่ควรเสี่ยงระวังจะได้ไม่คุ้มเสียเอา 💡🙏
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:45)
ทองคำ XAUUSD
สถานะ : Bullish 📈
แนวต้าน 3: $2,592
แนวต้าน 2: $2,588
แนวต้าน 1: $2,583
——————————
แนวรับ 1: $2,578
แนวรับ 2: $2,576
แนวรับ 3: $2,570
✍️ เขียนโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
2024 09 16 GOLD GOLD GOLD### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):**
- จากกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง มีการทำ Higher High และ Higher Low
- ระดับราคาที่กราฟแสดงตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ **2,586 USD** ซึ่งเป็นโซนที่น่าจะมีการทดสอบการเบรคหรือกลับตัว
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- แนวต้านแรกคือ **2,586 USD** หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ **2,600 USD** และมากกว่านั้น
- แนวรับอยู่ที่ประมาณ **2,500 USD** ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่มีการอ่อนแรงลงบ้าง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้
### การวางแผนการเทรด:
1. **ถ้าคุณต้องการซื้อ Buy:**
- รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ **2,586 USD** อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,600-2,620 USD**
- ตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ **2,550 USD** เพื่อจัดการความเสี่ยง
2. **ถ้าคุณต้องการขาย Sell:**
- หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ **2,586 USD** และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ **2,500-2,520 USD**
- ตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน **2,590 USD** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ
มุมมองทองคำ 16-20 ก.ย. 67มุมมองทองคำ 16-20 ก.ย. 67
เทรนขาขึ้นกำลังแรง ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนันสนุนฝั่งขาบายอยู่ ส่วนปัจจัยแวดล้อมก็มีส่วนดันราคาให้ขึ้นอยู่ด้วยนะครับ แต่ในสัปดาห์นี้มีข่าวที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดใน "วัน อังคาร พุธ พฤหัส" โดยเฉพาะ "วันพุธรอบดึก" กับ การประกาศดอกเบี้ยและการแถลงต่อสื่อมวลชน ของ เจอโรม พาเวล ซึ่งต้องจับตากันดีๆเลยนะครับ
ในทางเทคนิคเองตอนนี้ราคาขึ้นมาสูงมากซึ่งมีโอกาศสูงที่จะมีการเทส 2,600$ ได้ในตอนนี้ แต่จะเข้าเทรดช่วงนี้ต้องระวังอย่างมากนะครับไม่ว่าจะ บาย หรือ เซล เพราะราคาก็ดูที่จะไปต่อได้อยู่ และก็ดูท่าทีที่พร้อมจะย่อตัวลงได้ทุกเมื่อเช่นกันนะครับ การเข้าเทรดในภาพรวมตอนนี้มองทั้งบายและเซลได้แบบ 50:50 นะครับ สิ่งที่สำคัญต้องมี Sl กันไว้เสมอทั้ง 2 ฝั่งนะครับ
**ส่วนตัวมองว่าช่วงนี้ให้เทรดในใจไว้ก่อนจะดีกว่านะครับ เพื่อรอดูทิศทางหลังจากการประกาศดอกเบี้ยแล้ว แล้วค่อยเริ่มวางแผนเทรดอีกครั้งจะปลอดภัยที่สุดนะครับ
แนวต้าน
2,586 / 2,600 / 2,609 / 2,622 / 2,630 / 2,644 / 2,654
แนวรับ
2,563-66 / 2,557-59 / 2,545-51 / 2,542 / 2,532-27
ปล. เดี๊ยวอัพเดทต่อในกลุ่มอีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
Gold Market Outlook 【16 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook 【16 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำทะยาน รอเฟดลดดอกเบี้ย 🚀📉
ราคาทองคำทะยานพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำลายสถิติระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 📈🚀 ท่ามกลางแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เชิงบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กำลังจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดและเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 💸📉
กลุ่มนักลงทุนมองโลกในแง่ดีกำลังจับจองราคาทองคำที่พุ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดใหม่ โดยมีเป้าหมายแตะ $3,000 ต่อออนซ์ 🎯💰 หลังได้รับแรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลก และการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่ดุเดือด 🏛️🗳️
ด้านปัจจัยพื้นฐานเป็นใจให้กับฝั่งกระทิงทองคำและเงิน เมื่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักในสัปดาห์นี้ คาดว่า Fed จะปรับลดในสัปดาห์หน้า และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง 📉🌍
ตลาดคาดการณ์ราคาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าอย่างเต็มที่ โดยมีโอกาส 57% ที่ Fed จะลดลง 0.25% และ 43% ที่จะลดลง 0.50% จากข้อมูลของ CME FedWatch ซึ่งนี่จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fed นับตั้งแต่ปี 2020 เลยทีเดียว 📉📅
ปัจจัยหนุนความสนใจในทองคำเพิ่มขึ้น เมื่อเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปีเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันศุกร์ 💱📉
ไฮไลท์สำคัญประจำสัปดาห์นี้ ได้แก่การประชุม FOMC กลางสัปดาห์ ซึ่ง Fed เตรียมประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 🏦📣 ปัจจัยน่าสนใจอื่นๆ คือ ยอดค้าปลีกสหรัฐในวันอังคาร 19:30 น. ขณะที่อังกฤษและญี่ปุ่นก็จะประกาศอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน 🇺🇸🇬🇧🇯🇵
สำหรับปัจจัยเทคนิคราคาทองคำต้นสัปดาห์ หลังทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ ระวังการไหลออกด้างข้างหรือย่อตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมพักตัวของราคา อาจต้องใช้ TF ดักเก็งกำไรระยะสั้นตามจังหวะกราฟ โดยใช้แนวรับแนวต้านรายวันเป็นจุดอ้างอิง #โชคดีมีกำไรทุกท่านครับ 🍀💸
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
ทองคำ XAUUSD
สถานะ : Bullish 📈
แนวต้าน 3: $2,595
แนวต้าน 2: $2,590
แนวต้าน 1: $2,585
——————————
แนวรับ 1: $2,574
แนวรับ 2: $2,564
แนวรับ 3: $2,553
✍️ เขียนโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
“Fan Principle” เป็นเทคนิคที่ทรงพลังในการซื้อขาย โดยใช้เส้นแนวโน“Fan Principle” เป็นเทคนิคที่ทรงพลังในการซื้อขาย โดยใช้เส้นแนวโน้มเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคา
ไฮไลท์
📈 เทคนิคอันทรงพลัง: หลักการของพัดลมนั้นน่าเกรงขามในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
📉 การระบุจุด: การวาดเส้นแนวโน้มจากจุดสำคัญสามจุด
🔴 สัญญาณการซื้อขาย: สามารถระบุสัญญาณซื้อหรือขายได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่า
📊 ตัวอย่างเชิงปฏิบัติ: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟเพื่อแสดงเทคนิค
💰 โอกาสในการสร้างรายได้: กลยุทธ์สามารถส่งผลให้ได้รับผลกำไรอย่างมาก มากถึง 22%
🛑 การจัดการความเสี่ยง: ความสำคัญของการวางจุดหยุดขาดทุนเพื่อปกป้องการลงทุน
🔍 แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: ข้อมูลโดยละเอียดและกราฟิกจะถูกแชร์เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ
📈 ประสิทธิผลของเทคนิค: Fan Principle ช่วยระบุแนวโน้มที่ชัดเจนโดยใช้จุดอ้างอิง ทำให้กลยุทธ์ทั้งง่ายและมีประสิทธิภาพ
📉 ความสำคัญของการยืนยัน: การตรวจสอบเส้นแนวโน้มด้วยจุดที่สามจะสร้างความมั่นใจในสัญญาณการซื้อขาย เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
🔴 สัญญาณเตือน: สัญญาณการขายหรือซื้อดังที่แสดงในวิดีโอสามารถนำไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ตามการวิเคราะห์ในอดีต
📊 การวิเคราะห์ด้วยภาพ: การแสดงข้อมูลบนกราฟช่วยในการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด ซึ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
💰 ศักยภาพในการสร้างรายได้: การซื้อขายตามหลักการของ Fan สามารถให้โอกาสในการได้รับผลกำไรที่สำคัญ โดยเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของมัน
🛑 กลยุทธ์การป้องกัน: การวางจุดหยุดการขาดทุนเหนือจุดแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการจำกัดการขาดทุนในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวของตลาดในเชิงลบ
🔍 การเข้าถึงแหล่งข้อมูล: ข้อมูลที่แชร์ในคำอธิบายและบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เป็นวิธีในการทำความเข้าใจทางเทคนิคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและพัฒนาทักษะการซื้อขาย
-
หลักการทั่วไปในการซื้อขายคือกลยุทธ์ซึ่งประกอบด้วยการเปิดหลายตำแหน่งในสินทรัพย์เดียวกันในระดับราคาที่แตกต่างกัน ประเด็นหลักของแนวทางนี้มีดังนี้:
การทำงาน
แนวคิดคือการเปิดหลายตำแหน่ง (หรือ "ล็อต") ในสินทรัพย์ทางการเงินเดียวกันในระดับราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เกิด "ช่วง" ของตำแหน่ง
ตำแหน่งเหล่านี้เปิดในจุดที่พิจารณาถึงการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้น
วัตถุประสงค์คือเพื่อให้ตำแหน่งเหล่านี้เปิดเผยเหมือนอย่างพัดหรือค่อยๆ ปิดขึ้นอยู่กับการพัฒนาของตลาด
ประโยชน์
การกระจายความเสี่ยง: ด้วยการเข้าสู่ตลาดในระดับที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์จะลดผลกระทบของการเข้าที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว
การจับความเคลื่อนไหว: วิธีการนี้ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะต่างๆ
ความยืดหยุ่น: เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์ของเขาได้โดยการปิดบางสถานะในขณะที่ยังคงเปิดสถานะอื่นไว้
เครื่องมือเพิ่มเติม
หลักการพัดสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพได้:
Fibonacci Fan: เครื่องมือนี้จะวาดเส้นแนวโน้มที่ระดับสำคัญโดยอัตโนมัติ (38.2%, 50%, 61.8%) ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งแฟน ๆ
Gann Angles: เส้นเหล่านี้วาดในมุมที่แตกต่างกัน (82.5°, 75°, 71.25° ฯลฯ) ยังสามารถช่วยระบุระดับที่เป็นไปได้ในการเปิดตำแหน่ง
RSI (Relative Strength Index): เทรดเดอร์บางรายรวมหลักการพัดเข้ากับ RSI เพื่อยืนยันจุดเริ่มต้น
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
กลยุทธ์นี้จำเป็นต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเปิดหลายตำแหน่ง
สิ่งสำคัญคือต้องตั้งค่าระดับ Stop-Loss และ Take-Profit สำหรับแต่ละตำแหน่งในช่วง
การใช้แนวทางนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาดและประสบการณ์การซื้อขายที่สำคัญ
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ซื้อ" 14/9/2024ระบบ ATR Trend Following ใช้หลักการง่ายๆ คือ เอา ATR x multiplier มาตีกรอบราคาที่จะแกว่งของ BTC ถ้าทะลุกรอบ ก็จะเกิดการ flip ของสัญญาณ เช่น จากซื้อเป็นขาย หรือจากขาย เป็นซื้อ เป็นต้น
ช่วงนี้ระบบ Trend Following โดนสับขาหลอกบ่อย มาหลายเดือน เพราะถ้าเราไปดูกราฟใหญ่ก็จะเห็นได้ว่า จะไม่โดนได้อย่างไรเพราะมันออกข้างกันมาถึง 5 เดือนเต็ม 555
ส่วนตัวก็ขี้เกียจคิดไรมาก ก็ยังคงเชื่อมั่นในการทำตามระบบต่อไป ส่วนใครจะไม่ทำตามก็ไม่เป็นไร นั่งดูเฉยๆ ก็ได้ เพลินๆ เพื่อรอที่จะเล่นมีม Leo ชี้นิ้ว บอกว่า "เห็นไหม สุดท้ายก็หลอกจริงๆ ด้วย!" ดูฟรี ไม่เสียตัง 555
BTC ATR = เขียว ( 14/9/2024 )
------------------
Entry : 60500+-
SL : 55000 (-9%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
Sum = 21.56% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
2024 09 14 ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางในอนาคต
1. **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** จากกราฟ เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแนวโน้มนี้อาจจะยังคงดำเนินต่อไปหากยังไม่มีการกลับตัวที่ชัดเจน
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- ระดับแนวรับที่เห็นได้ชัดเจนอยู่บริเวณ **33.00** บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่ากว่าระดับนี้ จะเป็นสัญญาณของการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
- แนวต้านอยู่บริเวณ **33.50** บาทต่อดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ อาจจะเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **RSI** แสดงให้เห็นว่าอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะการขายที่มากเกินไป (Oversold) และมีโอกาสเกิดการกลับตัวขึ้นในอนาคต
- **MACD หรือ Histogram** แสดงถึงการแข็งค่าของเงินบาทต่อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง แต่อาจเริ่มเห็นสัญญาณของการกลับตัวในช่วงเวลาถัดไป
Update : วิเคราะห์ WAVEต่อจากครั้งที่แล้ว จากกราฟระดับ Week จะเห็นว่า WAVE นั้น ลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ ระดับราคา 0.10 - 0.11 หลังจากที่ลงมาทดสอบแนวรับ ก็เด้งขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ถ้าดูจากโครงสร้างราคาแล้ว ก็ต้องบอกว่า WAVE นั้นมีโอกาสกลับตัวค่อนข้างสูง ก็ต้องมาลุ้นกันว่า ท้ายที่สุดแล้ว WAVE จะสามารถตีทะลุกรอบราคาขึ้นไปได้ หรือ ไม่
โดยแนวต้านเส้นกดของกรอบด้านบนจะอยู่แถวๆ 0.16 - 0.17 โดยประมาณ
ถ้าสามารถตีทะลุกรอบราคาขึ้นไปได้ WAVE ก็มีโอกาสวิ่งขึ้นไปหา Target บริเวณกล่องแดง
โดย Target แรก ที่มองไว้ก็คือ 0.42 และ Target ที่สอง ก็คือ 0.62 โดยประมาณ
"หมายเหตุ" ไม่ได้ชี้นำแต่อย่างใดนะครับ เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้นนะครับ จะซื้อจะขายท่านต้องรับผิดชอบตัวท่านเอง
Gold Market Outlook 【13 กันยายน 2567】🌟 Gold Market Outlook 【13 กันยายน 2567】💰🔍
ทองคำทะยานทำสถิติสูงสุดตลอดกาล เหตุคาดการณ์เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยหนุนแรงซื้อ 📈🚀
ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 1% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี หลังตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ภายหลังข้อมูลชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง 📉💭
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 230,000 ราย หลังปรับตามฤดูกาล 📊👥
ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม ท่ามกลางต้นทุนบริการที่สูงขึ้น แต่ยังสอดคล้องกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัว 💸📉
ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยมีโอกาส 87% และมีโอกาส 13% ที่จะลดลง 0.50% ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME 📅🔮
ด้านเทคนิคราคาทองคำวันนี้ ยังมีสัญญาณบวกหลังทำสถิติใหม่สำเร็จ โดยมีแนวต้านระหว่างวันที่ 2567 ดอลลาร์ แต่ต้องระวังการย่อตัวลงด้านข้างบ้างช่วงต้นตลาด 📈⚠️ ส่วนกลยุทธ์การเทรด ไม่ควรรีบซื้อตามเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง แนะนำให้รอสัญญาณกลับตัวจากกราฟเทคนิคก่อนค่อยหาจังหวะขายทำกำไร น่าจะดีกว่าในช่วงนี้ #โชคดีกินเงินกันถ้วนหน้าครับ 🍀💰
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
ทองคำ XAUUSD
ภาพรวม: กระทิงมีแรง 💪
แนวต้าน 3: $2,575
แนวต้าน 2: $2,570
แนวต้าน 1: $2,567
——————————
แนวรับ 1: $2,553
แนวรับ 2: $2,545
แนวรับ 3: $2,534
เขียนโดย: Beam 🕵️♂️📈✨
มุมมองทองคำ 12-09-67 UPDATEมุมมองทองคำ 12-09-67 UPDATE
ปัจจัยพื้นฐานตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชี้ว่า ศก. แย่อย่างชัดเจนสักเท่าไรนะครับ แค่มีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีเท่าไรให้เห็นแล้ว ตอนนี้ราคาทองน่าจะยังไม่ทำไฮใหม่ อาจจะดักเซลบริเวณไฮเดิมได้อยู่นะครับ แต่จะเป็นการเล่นสั้นไว้ก่อนนะครับ
ปล. เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่มอีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ