SMC
H4 ยังเป็นขาลง
H1 มีการทำ Double ChoCH เป็นขาขึ้นแข็งแรง
ราคาได้ลงไปกวาด LQ DBT และกลับตัวที่ Demand
ณ ปัจจุบัน ราคาเดินทางขึ้นมาติดที่ Supply Filp H1 ที่สามารถทำลาย demand ก่อนหน้าได้
M15 เกิดการ ChoCH ขึ้นมาได้ และสร้าง Demand ไว้ 2 Zone (ไกล้กันZoneบนมีโอกาสเป็น IDM ให้โซนล่าง)
แผนเทรดวันนี่
แผน Buy เราจะรอให้ H1 ปิดเนื้อเทียนเหนือ Supply ได้ก่อน แล้วหาจังหวะ Buy ตามเทรนขึ้นไป
แผน Sell ให้ราคาทำลาย Deamnd ทั่ง2 Zone ออกไป แล้วเกิดการ ChoCH ก่อน
รูปแบบชาร์ต
"ทุกวิกฤตจบที่ 1183 จุด: จุดที่ Fibonacci กลายเป็นเส้นชีวิตตลาด""ทุกวิกฤตจบที่ 1183 จุด: จุดที่ Fibonacci กลายเป็นเส้นชีวิตตลาด"
ภาพนี้คือกราฟ SET Index รายไตรมาส (SET@Quarterly) ที่แสดงการย้อนกลับของราคาหลักทรัพย์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ Fibonacci Retracement จากจุดสูงสุด (ประมาณ 1789.16) มายังจุดต่ำสุด (204.59) ซึ่ง ระดับ 61.8% (ที่ 1183.85 จุด) ปรากฏว่าเป็นแนวรับสำคัญซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายวิกฤติ
🧠 ความสำคัญของแนว Fibonacci 61.8%
• Fibonacci 61.8% คือสัดส่วน "Golden Ratio" ที่มักเกิดขึ้นในธรรมชาติ และตลาดการเงินก็มักสะท้อนพฤติกรรมแบบนี้เช่นกัน
• ในแง่จิตวิทยา นักลงทุนจำนวนมากจับตาแนวนี้ และเมื่อราคาย่อลงถึง 61.8% มักมีแรงซื้อเข้ามาพยุงไว้
________________________________________
🕰️ วิเคราะห์เหตุการณ์ตามช่วงเวลาสำคัญ
📍1. จุดเริ่มต้น: 204.59 จุด (30 มิ.ย. 1998)
• หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง 1997
• SET พังจากเกือบ 1800 จุดลงมาเหลือต่ำกว่า 300 จุด
• จุดต่ำสุดเกิดในช่วง IMF เข้าแทรกแซง
• จากจุดนี้ SET เริ่มฟื้นระยะยาว
________________________________________
📍2. ปี 2008: วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Subprime Crisis)
• จากกราฟ ราคาย่อลึกในช่วงปี 2008 แต่ยัง “ไม่หลุด” แนว 61.8% (บริเวณ 1183.85)
• เกิดแรงดีดกลับขึ้น ทำ new high
________________________________________
📍3. ปี 2020: วิกฤต COVID-19
• SET ยุบอย่างรวดเร็วช่วง Q1/2020
• ต่ำสุดใกล้ระดับ 960 จุด แต่ดีดกลับขึ้นแรง → ถือเป็น Rebound แบบ V-Shape
• อีกครั้งที่ราคาลงลึก แต่ไม่หลุด 61.8%
________________________________________
📍4. ปัจจุบัน (Q2/2025): กลับมาทดสอบ 1183.85 อีกครั้ง
• ภาพแสดงว่าราคากำลัง “ชะลอตัว” ใกล้แนวแนวต้าน 61.8%
• ถือว่าเป็นจุดวัดใจระหว่าง “พักตัวเพื่อฟื้น” หรือ “หลุดแล้วจบรอบใหญ่”
________________________________________
🔁 สรุปเชิงกลยุทธ์
เหตุการณ์ จุดต่ำสุด การฟื้นตัว สถานะของ 61.8%
วิกฤต 1997 ~204.59 เริ่มต้นรอบใหม่ เป็นฐาน
วิกฤต 2008 ~380-500 เด้งกลับแรง ไม่หลุด 61.8%
วิกฤตโควิด ~960 เด้ง V-Shape ไม่หลุด 61.8%
ปัจจุบัน ~1170 รอวัดใจ กำลังทดสอบ 61.8%
________________________________________
📌 สรุปสุดท้าย
ภาพนี้แสดงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของ SET กับ Fibonacci 61.8% ได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะ:
• 61.8% (ที่ 1183.85) ทำหน้าที่เหมือน "แนวรับ-ต้าน ในอดีต" ที่ตลาดเคารพเสมอ
• เป็นระดับที่ รอดจากทุกวิกฤตใหญ่: ต้มยำกุ้ง / แฮมเบอร์เกอร์ / โควิด
• ขณะนี้กำลังทดสอบอีกครั้ง → เป็นจุดวัดใจของรอบใหญ่ในปี 2025
SniperX – XAUUSD วิเคราะห์ 3 ทาง | 23 พ.ค. 2025🔫 แผน SniperX 3 ทิศ | XAUUSD – 23 พ.ค. 2025
TF: H1 (วิเคราะห์โครงสร้างใหญ่)
---
🟩 **แผนที่ 1: Buy Rebound – หากลงมาที่ Demand Zone**
• รอที่ 3238–3248
• รอ Confirm ด้วย CHoCH + RSI Oversold
• TP: 3302 / 3345 | SL: < 3235
---
🔻 **แผนที่ 2: Sell – หากหลุด 3279 แล้ว BOS ลง**
• รอย้อนกลับขึ้น Supply 3302–3315 (หรือ QM)
• รอแท่งกลับตัวบน M5
• TP: 3248 | SL: > 3315
---
🔼 **แผนที่ 3: Buy – หากทะลุ 3315 ขึ้น พร้อม BOS ขึ้น**
• รอย่อกลับ QM Zone บนแนว 3302–3308
• เข้าเมื่อ CHoCH M5 + MACD confirm
• TP: 3345 | SL: < QM Zone
---
📩 ระบบ: SniperX
📌 Telegram: @sniperx_ai
#SniperX #XAUUSD #SmartMoney #CHoCH #BOS #QM #TradingPlan
EMA34 ตัดขึ้น EMA89 อีกครั้ง – สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม!XAUUSD ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นภายในกรอบราคาที่ชัดเจน โดยมีแนวรับแข็งแกร่งบริเวณ 3,275–3,280 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้น EMA34 และ EMA89 การดีดตัวของราคาจากบริเวณนี้แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงครองตลาด โดยเฉพาะหลังจากที่ EMA34 ตัดขึ้นเหนือ EMA89 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวขึ้นในระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวต่อไปยังเป้าหมายแนวต้านที่บริเวณ 3,436 ซึ่งเป็นขอบบนของกรอบแนวโน้มขาขึ้นและเป็นระดับยอดเดิมเดิมก่อนหน้านี้
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังรอดูข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ – หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ที่แนะนำคือ รอเข้าซื้อบริเวณ 3,290–3,305 โดยมีเป้าหมายที่ 3,435 และตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ระดับ 3,260 ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่น่าสนใจในระยะสั้น
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน!
USDJPY – แรงกดดันขาลงยังคงอยู่ใต้เส้นแนวโน้มระยะยาวในกรอบวัน USDJPY ยังคงรักษาทิศทางขาลงอย่างชัดเจน โดยเส้นแนวต้านจากต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบันยังไม่ถูกทะลุ แต่ละครั้งที่ราคาทดสอบแนวนี้จะถูกปฏิเสธแรง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
คู่เงินกำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 140.30 ซึ่งเป็นโซนสำคัญที่มีการรวมตัวของจุดต่ำเก่าและอุปสงค์จากอดีต ปัจจุบันราคากำลังเคลื่อนไหวในรูปแบบการปรับฐานแบบไซด์เวย์ ระหว่าง 140.30–146.80 หากราคายังคงถูกปฏิเสธจากแนวต้าน 146.80 ความเสี่ยงที่แนวรับ 140.30 จะถูกเจาะทะลุก็มีสูง ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาลงลึกได้มากยิ่งขึ้น
ในบริบทที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แปรผัน และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันเงินดอลลาร์ แรงขายใน USDJPY จึงยังเป็นแนวโน้มหลักที่ชัดเจน
เมื่อ SET ถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือตเมื่อ SET ถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือต่ำกว่า
_______________________________________
อธิบายภาพ
1. โครงสร้างภาพรวม
• จุด High (Hi): 18 ต.ค. 2567 ที่ระดับ 1506.82 จุด (จุดสูงสุดในรอบนี้)
• จุด Low (Lo): 8 เม.ย. 2568 ที่ระดับ 1056.41 จุด (จุดต่ำสุดในรอบนี้)
• กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของ SET Index ที่ดิ่งลงจาก Hi → Lo แบบต่อเนื่อง
2. การฟื้นตัว (Retracement)
• หลังจากทำจุดต่ำสุด SET มีแรงรีบาวด์หรือฟื้นตัวขึ้น
• เส้นแนวนอนแต่ละเส้น (สีน้ำเงิน-แดง) คือระดับ Fibonacci Retracement สำคัญ (วัดจากจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดรอบนี้)
3. จุดเด่นของภาพ: Fibonacci 38.2%
• ระดับ 38.2% (1228.47 จุด) ถูกเน้นด้วยตัวเลขและเส้นสีแดงในภาพ
• กราฟรีบาวด์มาชนแนวต้านนี้ (ฟื้นตัวขึ้นมาถึง 38.2% ของขาลงทั้งหมด) แล้วเกิดแรงขายกดกลับลงมาอีกครั้ง
________________________________________
หลักการ Fibonacci Retracement (Hi to Lo)
1. Fibonacci Retracement ใช้วัด "แรงฟื้นตัว" ของราคาหลังเกิดแนวโน้มใหญ่ (ขึ้นหรือลง)
o วาดจากจุดสูงสุด (Hi) → จุดต่ำสุด (Lo) ในรอบนั้น
2. ค่า 38.2% เป็นหนึ่งในโซนยอดนิยมที่ราคา "มัก" จะฟื้นตัวกลับมา (แต่ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง)
o ตามทฤษฎี: ถ้าราคาขึ้นไปแล้วหยุดที่ 38.2% มักสะท้อนว่า "ยังอยู่ในเทรนด์เดิม" (ในที่นี้ คือ เทรนด์ขาลงยังไม่จบ)
o หากผ่าน 38.2% ได้ชัดเจน เป้าหมายถัดไปคือ 50% และ 61.8% ตามลำดับ
________________________________________
สรุปความสำคัญ
• SET ฟื้นตัวได้ 38.2% แล้วหยุด: เป็นสัญญาณว่า “แรงขายจากเทรนด์ขาลง” ยังครอบงำอยู่
• โซน 38.2% = แนวต้านสำคัญที่เทรดเดอร์จับตามองว่าราคาจะไปต่อหรือไม่
• หากยืนเหนือ 38.2% ได้ อาจมีแรงดันไปสู่โซน 50% (1281.61) หรือ 61.8% (1334.76) ตามลำดับ
• แต่ถ้าถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือต่ำกว่า
________________________________________
สรุปย่อ
SET Index ฟื้นตัวหลังลงหนัก แต่หยุดอยู่ที่ 38.2% ตามหลัก Fibonacci—แนวต้านสำคัญที่วัดใจตลาด! ถ้าผ่านได้ มีลุ้นขึ้นต่อ แต่ถ้ายืนไม่อยู่ อาจเห็นการทดสอบจุดต่ำใหม่อีกครั้ง
ปัจจุบันก็เห็นชัดเจนว่าไม่ผ่านแนว 38.2% นะครับ
EURUSD – แนวโน้มกลับตัวลงอาจกำลังก่อตัวสวัสดีครับทุกคน! เมื่อพิจารณากราฟ 4 ชั่วโมง EURUSD เพิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1.13553 — ซึ่งเคยเป็นจุดที่ราคาถูกปฏิเสธมาก่อน ในทันทีหลังจากการดีดตัวเล็กน้อย ตลาดก็เริ่มแสดงสัญญาณของแรงซื้อที่อ่อนแอ โดยเกิดรูปแบบการปฏิเสธจากเขตอุปทาน.
ปัจจุบัน ราคากำลังเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปยังโซนแนวรับร่วมที่ 1.12600–1.12700 ซึ่งเป็นจุดตัดของเส้น EMA34 และ EMA89 — พื้นที่นี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับการเฝ้าสังเกต
เพื่อน ๆ ควรอดทนและติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณแนวรับนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นครับ!
XAUUSD – เตือนบริเวณขอบบนของกรอบขาขึ้น: แนวโน้มขาลงกำลังซุ่มโจมตสวัสดีครับพี่น้อง! มองจากกราฟ 3 ชั่วโมง ทองคำ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน แต่พฤติกรรมราคาล่าสุดเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรงบริเวณแนวต้าน 3,363–3,397 ซึ่งตรงกับขอบบนของกรอบและโซนอุปทานเดิม
หลังจากเข้าใกล้บริเวณนี้ ราคาก็เริ่มชะลอตัว พร้อมกับมีรูปแบบ pullback ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น หากราคาย่อลงไปทดสอบแนวรับล่างของกรอบที่ 3,286 แล้วไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดการหลุดกรอบและเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แนวโน้มระยะสั้น:
หากเด้งจาก 3,286 → ราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้น และอาจกลับไปทดสอบบริเวณ 3,363–3,397 ได้อีกครั้ง
หากทะลุลงต่ำกว่า 3,286 → แรงขายอาจถูกกระตุ้น เปิดโอกาสให้ขายตามเทรนด์ขาลง
มาดูจุดสำคัญของ HSI Futures จากกราฟ โดยเน้น “Fibonacci 78.6-88.6มาดูจุดสำคัญของ HSI Futures จากกราฟ โดยเน้น “Fibonacci 78.6-88.6% Zone” ซึ่งเป็นโซนที่เทรดเดอร์สาย Advanced ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษในมุมมองเชิงเทคนิคอลและจิตวิทยาตลาด
________________________________________
1. ภาพรวมโครงสร้างกราฟ
• กราฟนี้เป็น HSI Futures (Daily)
• คลื่น Elliott Wave, TD Sequential และ Fibonacci Retracement ถูกลากจากจุดต่ำสุด (Low) ไปยังจุดสูงสุด (High) ล่าสุด
• ราคาปัจจุบันอยู่บริเวณ 23,400–23,800 ซึ่งตรงกับ “Fibonacci Zone 78.6% (23,672.89) – 88.6% (24,259.39)”
________________________________________
2. ความหมายของ Fibonacci 78.6% – 88.6% Zone
ทำไมถึงสำคัญ?
• Fibonacci 78.6% และ 88.6% เป็นโซนที่นักเทรด Harmonic Patterns และ Advanced Technical มักจับตามอง เพราะมักเป็น “จุดกลับตัว” (Reversal) ที่แม่นกว่าการใช้แค่ 61.8% หรือ 50%
• เป็นจุดที่ “คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเบรกแนวต้านแล้วจะไปต่อ” แต่จริงๆ แล้ว อาจมีแรงขายหรือแรงกลับตัวซ่อนอยู่ เพราะเป็นจุดที่ผู้เล่นใหญ่ (Big Players / Smart Money) ชอบใช้ในการ “กับดักรายย่อย” (Stop Hunter)
เทคนิคที่พบเจอในโซนนี้
• Double Top, Shooting Star, Bearish Engulfing หรือสัญญาณกลับตัวอื่นๆ มักเกิดบ่อยในบริเวณนี้
• มักเกิด “False Break” คือ หลอกให้ราคาเบรกไปเหนือ High เดิม แล้วดึงกลับแรง
________________________________________
3. พฤติกรรมราคาช่วงนี้ (Context ในกราฟ)
• ราคาขึ้นมาทดสอบ 78.6% – 88.6% แล้วไม่สามารถผ่านไปได้อย่างมั่นคง
• มีแรงขายชัดเจน Candle ล่าสุดเป็นแท่งแดง และเกิดการย่อตัว
• ถ้าราคาย่อลงต่อ แนวรับถัดไปที่ 61.8% (22,687) และ 50% (21,995) มีโอกาสเป็นเป้าหมายของแรงขาย
________________________________________
4. กลยุทธ์เทรดเมื่อเจอโซน 78.6–88.6%
• ถ้าเล่นฝั่งขาย (Short):
→ ดูจังหวะกลับตัวชัดๆ เช่น Bearish Pattern, แท่งแดงใหญ่, สัญญาณจาก TD Sequential
→ Stop Loss เหนือ 88.6% เผื่อ False Break
• ถ้าจะรอเล่นฝั่งซื้อ (Long):
→ ควรรอให้ราคาทะลุ 88.6% ขึ้นไปและยืนเหนือแนวต้านเดิมได้จริง พร้อมวอลุ่มสนับสนุน
→ ไม่ควรไล่ซื้อในโซนนี้เพราะ “Risk:Reward” ไม่คุ้ม
________________________________________
5. สรุปสั้น ๆ
• Fibonacci 78.6% – 88.6% คือ “เขตสงครามจิตวิทยา” ของเทรดเดอร์
• หากราคาขึ้นไปแต่ไม่ผ่าน – มักเกิดแรงเทขายแรง หรือเทรนด์กลับตัว
• ถ้าทะลุผ่านและยืนได้ – อาจเข้าสู่รอบขาขึ้นใหม่ แต่ต้องรอ Confirmation
________________________________________
Key Takeaway:
อย่าไล่ซื้อในโซนนี้ถ้าไม่มีสัญญาณยืนยันเด็ดขาด
เน้นรอจังหวะกลับตัว หรือเล่นฝั่งขายเมื่อเห็นสัญญาณชัดเจนในบริเวณนี้จะปลอดภัยกว่า
Fibonacci 38.2% ในการวิเคราะห์กราฟ SET-WEEKFibonacci 38.2% ในการวิเคราะห์กราฟ SET
________________________________________
Fibonacci 38.2% คืออะไร?
• Fibonacci 38.2% คือ “แนวต้านสำคัญ” ที่ได้จากการลากเส้นวัดรีบาวด์ (Fibonacci Retracement) หลังจากที่ SET เกิดขาลงแรง
• ตัวเลข 38.2% มาจากหลักคณิตศาสตร์ Fibonacci ซึ่งนักเทคนิคอลใช้กันทั่วโลกเพื่อจับ “จุดเปลี่ยน” หรือ “ด่านสำคัญ” ของราคา
________________________________________
ความหมายของ 38.2% ในเชิงเทคนิค
• แนวต้านจิตวิทยา:
ราคามักจะเด้งขึ้นมาทดสอบแนวนี้หลังจบขาลงใหญ่
นักลงทุนที่ติดดอยหรือรอขายขาดทุน จะใช้จังหวะนี้ขายออก
ทำให้ราคามักหยุดชะงัก หรือพักตัวบริเวณนี้
• ถ้ายืนเหนือ 38.2% ได้:
สะท้อนว่ากำลังซื้อเริ่มกลับมา เทรนด์ฟื้นตัวมีลุ้นไปต่อถึง 50%–61.8%
• ถ้ายืนไม่ได้ หรือโดนขายหนัก:
ตลาดยังอยู่ในโหมดรีบาวด์เท่านั้น ยังไม่มีแรงซื้อจริงจัง
________________________________________
ตัวอย่างในกราฟ SET
• ในกราฟที่แสดง เส้น 38.2% อยู่ที่ 1,228.47 จุด
• จะเห็นว่าราคาวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวนี้ และเริ่มมีแรงขายกดลง
• ถ้าราคาขึ้นไปแล้วยืนเหนือ 1,228 จุดไม่ได้ ตลาดมีโอกาสพักฐานหรือลงต่อ
• ถ้าทะลุ 38.2% ขึ้นไปได้ชัดเจน จะเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับรอบฟื้นตัว
________________________________________
สรุปสั้น:
Fibonacci 38.2% คือแนวต้านหลักที่ตลาดต้องตัดสินใจ ถ้าผ่านได้ ตลาดมีลุ้นฟื้นตัวต่อ
แต่ถ้าชนแล้วกลับตัวลงอีก แสดงว่ารีบาวด์อาจจบลงแค่ตรงนี้
XAUUSD อยู่ในกรอบขาขึ้น – ควรซื้อที่จุดไหนถึงจะได้กำไรสูงสุด?XAUUSD บนกรอบเวลา H4 ยังคงรักษาทิศทางขาขึ้นอย่างมั่นคงภายในช่องราคา (Channel) ขาขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเส้น EMA34 และ EMA89 ที่เรียงตัวขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง หลังจากที่ราคาทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 3,285–3,300 และย่อตัวกลับมายืนยันระดับแนวรับได้สำเร็จ ขณะนี้ราคากำลังมุ่งหน้าไปยังแนวต้านสำคัญถัดไปที่บริเวณ 3,425–3,445 ซึ่งเป็นแนวต้านที่ต้องจับตา หากสามารถทะลุผ่านไปได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปยังบริเวณ 3,470–3,500 ได้
ในระยะสั้น อาจมีการปรับฐานเล็กน้อยลงมายังโซนแนวรับ 3,300–3,310 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอีกครั้งหากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง
ในด้านข่าวสาร นักลงทุนยังคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากรายงานการประชุม FOMC ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ ดัชนี DXY ที่อ่อนตัวลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
นักลงทุนสามารถรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อลงมายังแนวรับ หรือรอให้ราคาทะลุแนวต้าน 3,445 เพื่อเข้าซื้อในจังหวะตามแนวโน้ม.
FOMC กำลังจะมา! ทองจะไปต่อหรือย่อตัว?ทองคำกำลังเคลื่อนไหวภายในกรอบขาขึ้นอย่างมั่นคง และเพิ่งดีดกลับจากเส้นแนวรับล่างบริเวณ 3,295 – 3,300 ซึ่งสอดคล้องกับโซน EMA34/89 แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงได้เปรียบ หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้อย่างมั่นคง มีแนวโน้มที่ XAUUSD จะเดินหน้าต่อไปยังเป้าหมาย 3,360 ซึ่งเป็นแนวต้านบนของกรอบราคาในปัจจุบัน
ในภาพรวม การคาดการณ์ว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ประกอบกับความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทอง อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดต่ำกว่า 3,295 อาจเกิดแรงขายต่อเนื่องและดันราคาลงสู่บริเวณ EMA200 แถวๆ 3,250
กลยุทธ์ในช่วงนี้ควรเน้น “ซื้อเมื่อย่อตัว (buy on dip)” โดยตั้งเป้าแนวต้านที่ 3,360 – 3,375 พร้อมทั้งบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
EURUSD บวกแล้ว แต่จะไปได้ถึงไหนใครที่เข้าซื้อตั้งแต่วันศุกร์ ยินดีด้วยครับ
ตอนนี้ คอนเฟิร์มว่าเป็นขาขึ้นแล้ว
ขยับ stop loss ขึ้นมาอีก เบื้องต้น ไม่ต้องเสียแล้ว มีแต่เท่าทุนหรือบวก
หลังจากวันนี้ ปล่อยให้กราฟ ไหลไปตามที่ควรจะเป็น
สิ่งที่ควรเตรียมพร้อม หลังจากนี้
- higher high
- sideway แต่ยังคงเล็งไปในขาขึ้น
- ถ้าแตะเข้าโซน Stop loss สีแดง เตรียมเผ่น
ทะลุสามเหลี่ยม: โอกาสหรือกับดัก?XAU/USD กำลังเคลื่อนไหวภายในรูปแบบสามเหลี่ยมบีบตัว โดยมีแนวโน้มการบีบกรอบราคาตั้งแต่วันที่ 13–20 พฤษภาคม แรงขายยังคงกดดันบริเวณเส้น EMA 34 และ 89 ในขณะที่ฝั่งซื้อยังคงยืนพื้นเหนือจุดต่ำสูงขึ้น (Higher Lows) โครงสร้างทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเบรกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดกำลังรอรายงานการประชุม FOMC ในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งอาจสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงได้
หากราคาทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,215 เป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่บริเวณ 3,165–3,150 ในทางกลับกัน หากสามารถทะลุแนวต้าน 3,245 ขึ้นไปด้วยแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ก็มีโอกาสเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น
กลยุทธ์ที่แนะนำคือรอขายเมื่อราคาทะลุกรอบล่างของสามเหลี่ยม โดยตั้งจุดตัดขาดทุนเหนือ 3,245 นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบและระมัดระวังในการเทรด!
RATCH มองเล่นเก็งกำไรจบการพักตัวได้ครับ SET:RATCH Valuation
Quantitative Strength
Econ Cycle คงที่ที่ระดับ 5 ดาว และ Consensus View คงที่ที่ระดับ 4 ดาว ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 ไตรมาส
Quantitative Weakness
Earnings Revision ปรับตัวลงสู่ระดับ 1 ดาว ลดลง 3 ดาว จากไตรมาสก่อนหน้า และ Growth ปรับตัวลงสู่ระดับ 3 ดาว ลดลง 2 ดาว จากไตรมาสก่อนหน้า
Position
Position tracker index is at 48 points. The index has increased by 9 points from 4 weeks ago but flat WoW.
Overall Star Rating
การเข้าเทรด HSI DW ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า Fair Value Gap (FVG)หลักการสำคัญของการเข้าเทรดด้วยแนวคิดที่เรียกว่า Fair Value Gap (FVG) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักเทรดสไตล์ Price Action โดยเฉพาะในกลุ่มของ ICT (Inner Circle Trader)
🟢 ความหมายของ Fair Value Gap (FVG)
Fair Value Gap คือพื้นที่หรือช่องว่างที่เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวเร็วเกินไปจนทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ส่งผลให้ราคายังไม่ได้มีการเทรดหรือพักตัวในโซนนั้นอย่างสมบูรณ์ และมีแนวโน้มที่ราคาจะย้อนกลับมาปิดช่องว่างดังกล่าวในอนาคต
________________________________________
📌 3 รูปแบบสำคัญของการเทรด FVG ตามภาพ
1️⃣ Full Fill (FVG ถูกปิดสนิท)
• คือ สภาวะที่ราคาได้ย้อนกลับมาปิดช่องว่าง Fair Value Gap อย่างสมบูรณ์แล้ว (Imbalance Rebalanced)
• ราคาย้อนมาจนถึงจุดเริ่มต้นของช่องว่าง
• ถือว่าเป็นการเติมช่องว่างที่สมบูรณ์ ส่งสัญญาณว่าแรงซื้อ-แรงขายเริ่มกลับสู่จุดสมดุล
• กลยุทธ์เทรด:
o สามารถมองเป็นจุดเข้าแบบ Conservative (ปลอดภัยที่สุด) เพราะราคากลับมาปิด Gap แล้ว แสดงถึงการปรับสมดุลของราคาอย่างเต็มที่
________________________________________
2️⃣ Consequent Encroachment (C.E.) (FVG ปิดไปครึ่งหนึ่ง)
• คือ สภาวะที่ช่องว่างถูกเติมกลับไปเพียง 50% ของช่องว่างทั้งหมด
• จุด 50% (0.5 ของช่อง FVG) ถือเป็นแนวรับ/แนวต้านสำคัญ
• ราคาย้อนกลับมาทดสอบเพียงครึ่งช่องว่าง และอาจไม่ได้เติมเต็มช่องว่างทั้งหมด ก่อนจะเคลื่อนไหวต่อไป
• กลยุทธ์เทรด:
o ถือเป็นจุดเข้าแบบ Moderate (เสี่ยงกลางๆ)
o นักเทรดนิยมใช้จุดนี้เป็นระดับเข้าซื้อ/ขาย เพราะมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับไปตามแนวโน้มเดิม (Continuation) หลังจากทดสอบจุด 50%
________________________________________
3️⃣ Entry Drill (IOFED - Institutional Order Flow Entry Drill)
• คือ การที่ราคาแตะเข้าไปในพื้นที่ Fair Value Gap เพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางหลัก
• ราคาย้อนกลับเพียงสั้นๆ ไม่ถึงระดับครึ่งหนึ่งของ FVG แล้วก็เคลื่อนตัวต่อเนื่องทันที
• แสดงถึงการที่ Order Flow ของสถาบัน (Smart Money) ยังคงแข็งแกร่ง และยังสนับสนุนแนวโน้มเดิม
• กลยุทธ์เทรด:
o เหมาะสำหรับการเข้าเทรดแบบ Aggressive (เชิงรุก) เพราะมีโอกาสที่ราคาจะไม่ย้อนกลับมาลึกกว่าเดิมอีกครั้ง
o จุดเข้าเช่นนี้ต้องมีการยืนยันด้วยปัจจัยอื่นเพิ่มเติม (เช่น Momentum, Trend) เพื่อความแม่นยำ
________________________________________
🚩 สรุปแนวคิดการเทรด FVG:
• Fair Value Gap (FVG) เป็นเครื่องมือสำคัญในการจับสัญญาณการพักตัวของราคา (Retracement) ในทิศทางหลัก
• ช่องว่างที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม คือพื้นที่ที่ราคามีโอกาสกลับมาทดสอบ
• จุดที่ราคากลับเข้ามาทดสอบภายใน Gap ช่วยระบุระดับความเสี่ยงและลักษณะของเทรด (Conservative, Moderate, Aggressive)
• วิธีนี้นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ใช้ Price Action และนักเทรด ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งเน้นการเทรดตาม Smart Money (สถาบันการเงิน)
📌 การใช้งานจริง:
นักเทรดสามารถกำหนดกลยุทธ์ด้วยการตั้ง Limit Order หรือรอ Confirm Price Action ภายใน Gap เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด
นี่คือรายละเอียดของหลักการเทรด FVG ที่แสดงไว้ในภาพครับ
โอกาสทองท่ามกลางพายุแห่งความผันผวนXAU/USD กำลังแสดงปฏิกิริยาอย่างชัดเจนต่อแนวต้านที่ระดับ 3,253 – 3,260 ซึ่งเป็นบริเวณที่ราคาถูกปฏิเสธมาแล้วถึง 2 ครั้งก่อนหน้า และกำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ Double Top ที่มีความเป็นไปได้สูง เมื่อรวมกับแรงกดดันจากค่า EMA ที่ชันลง และพฤติกรรมราคาที่แสดงออกในโซนนี้ ทำให้แนวโน้มการปรับฐานลงสู่แนวรับที่ 3,143 – 3,160 เป็นไปได้มากกว่า หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ก็อาจเกิดการดีดตัวกลับขึ้นอีกครั้ง
ข่าวสารที่สนับสนุนแนวโน้มการปรับฐาน ได้แก่ ความคาดหวังว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัว และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น
กลยุทธ์: ให้ความสำคัญกับการเปิดขายบริเวณ 3,230–3,240 โดยมีเป้าหมายที่ 3,160–3,143 และรอจังหวะเข้าซื้อหากมีสัญญาณยืนยันบริเวณแนวรับ
นักลงทุนควรบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และหลีกเลี่ยงการ FOMO ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
SET หากเปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1195 เด้งขึ้นต่อ SET หากเปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1195 เด้งขึ้นต่อ
โดยมีแนวต้าน 1216 กับ 1231, 1245
แต่ถ้ายืนไม่ได้ มองย่อตัวต่อ โดยมีแนวรับย่อย 1188, 1182, 1175, 1166, 1150 ตามลำดับ
อาจจะพักตัวสักสองสามวันก่อนเลือกทางอีกที
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)