อย่าพลาดจังหวะการฟื้นตัวครั้งนี้ของ BTCUSD!หลังจากที่ทะลุออกจากโซนสะสมและปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง BTCUSD ได้แตะระดับแนวต้านบริเวณ 112,500–113,000 และปรับฐานลงมา ขณะนี้ราคากำลังมีปฏิกิริยาในเขตแนวรับร่วม ซึ่งรวมถึงเส้น EMA34 และโซนอุปสงค์บริเวณ 107,500–108,000 แท่งเทียน H4 แสดงสัญญาณการรองรับที่ดี พร้อมด้วยสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค
หากไม่มีข่าวเชิงลบที่สำคัญ BTCUSD มีโอกาสกลับตัวขึ้นและทดสอบแนวต้านบริเวณ 113,000 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุต่ำกว่า 107,500 แนวโน้มขาลงอาจขยายต่อไปถึงระดับ 105,000
กลยุทธ์แนะนำ: รอซื้อบริเวณแนวรับ หากมีสัญญาณยืนยัน (เช่น Pinbar, Engulfing เป็นต้น) โดยตั้งเป้าหมายที่ 112,500–113,000 และตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ 107,000
ขอให้นักลงทุนทุกท่านเทรดอย่างรอบคอบ และขอให้โชคดีในการลงทุน!
รูปแบบชาร์ต
สถานการณ์ถัดไปสำหรับ JPY/USD คืออะไร?USD/JPY ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงภายในกรอบขาลงอย่างชัดเจนในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โดยเส้น EMA34 ตัดลงใต้ EMA89 และทำหน้าที่เป็นแนวต้านแบบเคลื่อนที่ ยืนยันแนวโน้มที่ยังคงเอนเอียงไปทางฝั่งขาย หลังจากราคาขึ้นไปแตะขอบบนของกรอบขาลง ก็กลับตัวลงและขณะนี้กำลังทดสอบขอบล่างบริเวณ 142.00 หากไม่มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะทะลุแนวรับนี้และเคลื่อนไหวลงต่อไปยังเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 141.00
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกกดดันหลังจากรายงานการประชุม FOMC มีท่าทีผ่อนคลาย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐก็อ่อนตัวลง ส่วนเงินเยนได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า BOJ อาจปรับเปลี่ยนนโยบายเร็วขึ้นหากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น
กลยุทธ์ที่แนะนำ: รอจังหวะขายเมื่อราคาดีดกลับขึ้นบริเวณเส้น EMA34 หรือขอบบนของกรอบ (143.5–144.0) เป้าหมายที่ 141.0 ตัดขาดทุนหากราคาทะลุ 144.6
ระมัดระวังในการเทรดทุกครั้ง ขอให้โชคดีครับ!
GBP/USD ใกล้ทะลุแนวต้าน – โอกาสทำกำไรกำลังมา!สวัสดีครับทุกคน วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับคู่เงิน GBP/USD ในสัปดาห์ที่แล้วกันนะครับ!
คู่เงิน GBP/USD ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ภายในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน โดยมีเส้น EMA34 และ EMA89 เป็นแนวรับที่สำคัญ หลังจากทดสอบแนวรับล่างของกรอบได้สำเร็จและดีดตัวขึ้น ราคากำลังเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1.3560–1.3650 ด้านเทคนิค รูปแบบกรอบขาขึ้นประกอบกับ EMA ที่ตัดกันเป็นสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มยังคงอยู่ในฝั่งขาขึ้น
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ค่าเงินปอนด์ยังคงได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันหลังจากรายงานการประชุม FOMC ที่ไม่ได้มีท่าที "สายเหยี่ยว" มากนัก
กลยุทธ์ที่แนะนำ: รอซื้อเมื่อราคาปรับลงใกล้เส้นแนวโน้มหรือบริเวณ EMA34 แถว 1.3450–1.3470 เป้าหมายถัดไปที่แนวต้านบนของกรอบบริเวณ 1.3650 ตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ 1.3400
นักลงทุนควรระมัดระวังในการเทรดทุกครั้ง ขอให้ทุกคนโชคดีครับ!
EUR/USD ทะลุจุดต่ำสุด – คลื่นขาขึ้นกำลังเริ่มต้นจริงหรือไม่?สังเกตกราฟ 1 ชั่วโมง – คู่เงิน EUR/USD ยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากสร้างจุดต่ำบริเวณ 1.1300 และดีดตัวขึ้นตามเส้นแนวโน้มขาขึ้น EMA34 กำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับได้ดี ยืนยันว่าแนวโน้มระยะสั้นได้เปลี่ยนเป็นขาขึ้น หากราคายังคงทรงตัวเหนือเส้นเทรนด์ไลน์และแนวรับ EMA34 ได้ เป้าหมายถัดไปอยู่ที่แนวต้านบริเวณ 1.1389
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงหลังจากรายงานการประชุม FOMC ที่ไม่ได้ออกมาในเชิง "สายเหยี่ยว" มากนัก ขณะที่ตัวเลข PMI ของยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ช่วยสนับสนุนการแข็งค่าของ EUR/USD
กลยุทธ์ที่แนะนำ: รอจังหวะซื้อบริเวณ EMA34 หรือเส้นเทรนด์ไลน์ เป้าหมาย 1.1389 ตัดขาดทุนหากหลุด 1.1328
ขอให้เทรดเดอร์ทุกท่านโชคดีครับ!
คลื่นขาขึ้นรอบใหม่ของทองคำกำลังก่อตัวอยู่หรือไม่?XAU/USD (1H) – ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ $3,345–3,350 ที่ควรรักษาไว้ หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้ มีโอกาสดีที่จะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านแถว $3,395–3,405 อีกครั้ง หลังจากที่ราคาได้ปรับฐานเล็กน้อยภายหลังแตะขอบบนของกรอบ และกำลังทดสอบขอบล่างของแนวโน้มขาขึ้นในขณะนี้ EMA34 ทำหน้าที่เป็นแนวรับเคลื่อนที่ได้ดี หากราคาหลุด EMA34 และกรอบล่างของแนวโน้ม อาจกลับลงไปทดสอบ EMA89 บริเวณ $3,304 ได้อีกครั้ง
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน รายงานการประชุม FOMC ล่าสุดไม่ได้ส่งสัญญาณเชิง Hawkish มากนัก ประกอบกับ Dollar Index ที่เริ่มอ่อนค่า และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะสั้น
กลยุทธ์แนะนำ: รอซื้อเมื่อราคาย่อลงบริเวณ $3,345–3,350 วางจุดตัดขาดทุนที่ต่ำกว่า $3,330 และตั้งเป้าทำกำไรแถว $3,400+
ตลาดย่อเล็กน้อย
จากภาพที่คุณให้มา เป็นกราฟราคาของ Bitcoin (BTC) เทียบกับ Tether (USDT) ซึ่งเป็นคู่เทรดที่นิยมในตลาดคริปโต และดูเหมือนจะเป็นกราฟจากแพลตฟอร์ม Webull โดยมีข้อมูลและตัวชี้วัดที่น่าสนใจดังนี้:
ราคาและแนวโน้มปัจจุบัน:
* ราคาปัจจุบัน: ราคา Bitcoin อยู่ที่ประมาณ $108,939.8
* แนวโน้ม:
* กราฟแสดงแท่งเทียนที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของราคา โดยช่วงก่อนหน้านี้มีแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ที่แสดงถึงการขึ้นของราคา แต่ตอนนี้มีแท่งเทียนสีแดงที่บ่งชี้ถึงการปรับฐานหรือลดลงเล็กน้อย
* มีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA/SMA) แสดงอยู่ (EMA5/SMA4) ซึ่งปกติใช้เพื่อดูแนวโน้มและหาจุดสนับสนุน/แนวต้าน เส้นสีขาวดูเหมือนเป็น EMA สั้น และเส้นสีเขียวเป็น EMA ยาว
* Fibonacci Retracement: มีเส้น Fibonacci Retracement แสดงระดับต่างๆ ซึ่งบ่งบอกถึงระดับแนวรับแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นหลังจากราคาปรับฐาน:
* 38.20% ที่ประมาณ $108,073.6
* 50.00% ที่ประมาณ $106,958.6
* 61.80% ที่ประมาณ $105,843.7
* 78.60% ที่ประมาณ $104,256.2
* 100.00% ที่ประมาณ $102,234.2
* ราคาปัจจุบันอยู่เหนือระดับ 38.20% แสดงว่ายังอยู่ในช่วงการปรับฐานที่ไม่ลึกมากนัก ณ จุดนี้
ตัวชี้วัดเสริม:
* RSI (Relative Strength Index) 14 close:
* ค่า RSI ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 50.26 ซึ่งอยู่ในโซนกลาง ไม่ได้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought, เหนือ 70) หรือขายมากเกินไป (Oversold, ต่ำกว่า 30)
* เส้น RSI สีเหลืองดูเหมือนกำลังเคลื่อนที่ลงมาจากระดับที่สูงกว่า 65.19 บ่งชี้ว่าโมเมนตัมการซื้อลดลง
ปริมาณการซื้อขาย (Volume):
* กราฟแท่งด้านล่างแสดงปริมาณการซื้อขาย แท่งปริมาณสีแดงที่สูงขึ้นในช่วงที่ราคากำลังลดลง อาจบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
การวิเคราะห์เพิ่มเติม (จากข้อมูลที่มีอยู่ในภาพ):
จากภาพ ณ เวลา 05:25 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2025:
* แนวโน้มระยะสั้น: Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงปรับฐานหลังจากที่ขึ้นไปสูง การที่ราคายืนเหนือระดับ Fibonacci 38.2% และ RSI ยังไม่เข้าสู่โซน Oversold อาจบ่งชี้ว่าการปรับฐานอาจไม่รุนแรงมากนัก หรืออาจเป็นแค่การพักตัว
* แนวรับที่สำคัญ: ระดับ Fibonacci Retracement เป็นแนวรับที่น่าจับตา โดยเฉพาะระดับ 50% ($106,958.6) และ 61.8% ($105,843.7) หากราคาลงไปถึงระดับเหล่านี้และมีการเด้งกลับ อาจเป็นสัญญาณของการฟื้นตัว
* แนวต้าน: แนวต้านแรกคือจุดสูงสุดก่อนหน้า (ประมาณ $111,683.1) หากราคาสามารถทะลุผ่านได้ อาจจะไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่
สรุปโดยรวม:
ตลาด Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงที่น่าจับตา โดยมีการปรับฐานหลังจากที่ราคาขึ้นไปสูง ตัวชี้วัด RSI แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมที่เป็นกลางมากขึ้น การจับตาดูระดับ Fibonacci retracement และปริมาณการซื้อขายจะเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าซื้อหรือขายในอนาคตอันใกล้
ข้อควรระวัง: การวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลในภาพ ณ เวลาที่กำหนดเท่านั้น ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงและปัจจัยภายนอก (ข่าวสาร, เศรษฐกิจมหภาค) อาจส่งผลกระทบต่อราคาได้อย่างรวดเร็ว ควรทำการศึกษาข้อมูลและพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
SMC
H4 ยังเป็นขาลง
H1 มีการทำ Double ChoCH เป็นขาขึ้นแข็งแรง
ราคาได้ลงไปกวาด LQ DBT และกลับตัวที่ Demand
ณ ปัจจุบัน ราคาเดินทางขึ้นมาติดที่ Supply Filp H1 ที่สามารถทำลาย demand ก่อนหน้าได้
M15 เกิดการ ChoCH ขึ้นมาได้ และสร้าง Demand ไว้ 2 Zone (ไกล้กันZoneบนมีโอกาสเป็น IDM ให้โซนล่าง)
แผนเทรดวันนี่
แผน Buy เราจะรอให้ H1 ปิดเนื้อเทียนเหนือ Supply ได้ก่อน แล้วหาจังหวะ Buy ตามเทรนขึ้นไป
แผน Sell ให้ราคาทำลาย Deamnd ทั่ง2 Zone ออกไป แล้วเกิดการ ChoCH ก่อน
"ทุกวิกฤตจบที่ 1183 จุด: จุดที่ Fibonacci กลายเป็นเส้นชีวิตตลาด""ทุกวิกฤตจบที่ 1183 จุด: จุดที่ Fibonacci กลายเป็นเส้นชีวิตตลาด"
ภาพนี้คือกราฟ SET Index รายไตรมาส (SET@Quarterly) ที่แสดงการย้อนกลับของราคาหลักทรัพย์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ Fibonacci Retracement จากจุดสูงสุด (ประมาณ 1789.16) มายังจุดต่ำสุด (204.59) ซึ่ง ระดับ 61.8% (ที่ 1183.85 จุด) ปรากฏว่าเป็นแนวรับสำคัญซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายวิกฤติ
🧠 ความสำคัญของแนว Fibonacci 61.8%
• Fibonacci 61.8% คือสัดส่วน "Golden Ratio" ที่มักเกิดขึ้นในธรรมชาติ และตลาดการเงินก็มักสะท้อนพฤติกรรมแบบนี้เช่นกัน
• ในแง่จิตวิทยา นักลงทุนจำนวนมากจับตาแนวนี้ และเมื่อราคาย่อลงถึง 61.8% มักมีแรงซื้อเข้ามาพยุงไว้
________________________________________
🕰️ วิเคราะห์เหตุการณ์ตามช่วงเวลาสำคัญ
📍1. จุดเริ่มต้น: 204.59 จุด (30 มิ.ย. 1998)
• หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง 1997
• SET พังจากเกือบ 1800 จุดลงมาเหลือต่ำกว่า 300 จุด
• จุดต่ำสุดเกิดในช่วง IMF เข้าแทรกแซง
• จากจุดนี้ SET เริ่มฟื้นระยะยาว
________________________________________
📍2. ปี 2008: วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Subprime Crisis)
• จากกราฟ ราคาย่อลึกในช่วงปี 2008 แต่ยัง “ไม่หลุด” แนว 61.8% (บริเวณ 1183.85)
• เกิดแรงดีดกลับขึ้น ทำ new high
________________________________________
📍3. ปี 2020: วิกฤต COVID-19
• SET ยุบอย่างรวดเร็วช่วง Q1/2020
• ต่ำสุดใกล้ระดับ 960 จุด แต่ดีดกลับขึ้นแรง → ถือเป็น Rebound แบบ V-Shape
• อีกครั้งที่ราคาลงลึก แต่ไม่หลุด 61.8%
________________________________________
📍4. ปัจจุบัน (Q2/2025): กลับมาทดสอบ 1183.85 อีกครั้ง
• ภาพแสดงว่าราคากำลัง “ชะลอตัว” ใกล้แนวแนวต้าน 61.8%
• ถือว่าเป็นจุดวัดใจระหว่าง “พักตัวเพื่อฟื้น” หรือ “หลุดแล้วจบรอบใหญ่”
________________________________________
🔁 สรุปเชิงกลยุทธ์
เหตุการณ์ จุดต่ำสุด การฟื้นตัว สถานะของ 61.8%
วิกฤต 1997 ~204.59 เริ่มต้นรอบใหม่ เป็นฐาน
วิกฤต 2008 ~380-500 เด้งกลับแรง ไม่หลุด 61.8%
วิกฤตโควิด ~960 เด้ง V-Shape ไม่หลุด 61.8%
ปัจจุบัน ~1170 รอวัดใจ กำลังทดสอบ 61.8%
________________________________________
📌 สรุปสุดท้าย
ภาพนี้แสดงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของ SET กับ Fibonacci 61.8% ได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะ:
• 61.8% (ที่ 1183.85) ทำหน้าที่เหมือน "แนวรับ-ต้าน ในอดีต" ที่ตลาดเคารพเสมอ
• เป็นระดับที่ รอดจากทุกวิกฤตใหญ่: ต้มยำกุ้ง / แฮมเบอร์เกอร์ / โควิด
• ขณะนี้กำลังทดสอบอีกครั้ง → เป็นจุดวัดใจของรอบใหญ่ในปี 2025
SniperX – XAUUSD วิเคราะห์ 3 ทาง | 23 พ.ค. 2025🔫 แผน SniperX 3 ทิศ | XAUUSD – 23 พ.ค. 2025
TF: H1 (วิเคราะห์โครงสร้างใหญ่)
---
🟩 **แผนที่ 1: Buy Rebound – หากลงมาที่ Demand Zone**
• รอที่ 3238–3248
• รอ Confirm ด้วย CHoCH + RSI Oversold
• TP: 3302 / 3345 | SL: < 3235
---
🔻 **แผนที่ 2: Sell – หากหลุด 3279 แล้ว BOS ลง**
• รอย้อนกลับขึ้น Supply 3302–3315 (หรือ QM)
• รอแท่งกลับตัวบน M5
• TP: 3248 | SL: > 3315
---
🔼 **แผนที่ 3: Buy – หากทะลุ 3315 ขึ้น พร้อม BOS ขึ้น**
• รอย่อกลับ QM Zone บนแนว 3302–3308
• เข้าเมื่อ CHoCH M5 + MACD confirm
• TP: 3345 | SL: < QM Zone
---
📩 ระบบ: SniperX
📌 Telegram: @sniperx_ai
#SniperX #XAUUSD #SmartMoney #CHoCH #BOS #QM #TradingPlan
EMA34 ตัดขึ้น EMA89 อีกครั้ง – สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม!XAUUSD ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นภายในกรอบราคาที่ชัดเจน โดยมีแนวรับแข็งแกร่งบริเวณ 3,275–3,280 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้น EMA34 และ EMA89 การดีดตัวของราคาจากบริเวณนี้แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงครองตลาด โดยเฉพาะหลังจากที่ EMA34 ตัดขึ้นเหนือ EMA89 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวขึ้นในระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวต่อไปยังเป้าหมายแนวต้านที่บริเวณ 3,436 ซึ่งเป็นขอบบนของกรอบแนวโน้มขาขึ้นและเป็นระดับยอดเดิมเดิมก่อนหน้านี้
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังรอดูข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ – หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ที่แนะนำคือ รอเข้าซื้อบริเวณ 3,290–3,305 โดยมีเป้าหมายที่ 3,435 และตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ระดับ 3,260 ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่น่าสนใจในระยะสั้น
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน!
USDJPY – แรงกดดันขาลงยังคงอยู่ใต้เส้นแนวโน้มระยะยาวในกรอบวัน USDJPY ยังคงรักษาทิศทางขาลงอย่างชัดเจน โดยเส้นแนวต้านจากต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบันยังไม่ถูกทะลุ แต่ละครั้งที่ราคาทดสอบแนวนี้จะถูกปฏิเสธแรง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
คู่เงินกำลังทดสอบแนวรับบริเวณ 140.30 ซึ่งเป็นโซนสำคัญที่มีการรวมตัวของจุดต่ำเก่าและอุปสงค์จากอดีต ปัจจุบันราคากำลังเคลื่อนไหวในรูปแบบการปรับฐานแบบไซด์เวย์ ระหว่าง 140.30–146.80 หากราคายังคงถูกปฏิเสธจากแนวต้าน 146.80 ความเสี่ยงที่แนวรับ 140.30 จะถูกเจาะทะลุก็มีสูง ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาลงลึกได้มากยิ่งขึ้น
ในบริบทที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แปรผัน และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันเงินดอลลาร์ แรงขายใน USDJPY จึงยังเป็นแนวโน้มหลักที่ชัดเจน
เมื่อ SET ถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือตเมื่อ SET ถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือต่ำกว่า
_______________________________________
อธิบายภาพ
1. โครงสร้างภาพรวม
• จุด High (Hi): 18 ต.ค. 2567 ที่ระดับ 1506.82 จุด (จุดสูงสุดในรอบนี้)
• จุด Low (Lo): 8 เม.ย. 2568 ที่ระดับ 1056.41 จุด (จุดต่ำสุดในรอบนี้)
• กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของ SET Index ที่ดิ่งลงจาก Hi → Lo แบบต่อเนื่อง
2. การฟื้นตัว (Retracement)
• หลังจากทำจุดต่ำสุด SET มีแรงรีบาวด์หรือฟื้นตัวขึ้น
• เส้นแนวนอนแต่ละเส้น (สีน้ำเงิน-แดง) คือระดับ Fibonacci Retracement สำคัญ (วัดจากจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดรอบนี้)
3. จุดเด่นของภาพ: Fibonacci 38.2%
• ระดับ 38.2% (1228.47 จุด) ถูกเน้นด้วยตัวเลขและเส้นสีแดงในภาพ
• กราฟรีบาวด์มาชนแนวต้านนี้ (ฟื้นตัวขึ้นมาถึง 38.2% ของขาลงทั้งหมด) แล้วเกิดแรงขายกดกลับลงมาอีกครั้ง
________________________________________
หลักการ Fibonacci Retracement (Hi to Lo)
1. Fibonacci Retracement ใช้วัด "แรงฟื้นตัว" ของราคาหลังเกิดแนวโน้มใหญ่ (ขึ้นหรือลง)
o วาดจากจุดสูงสุด (Hi) → จุดต่ำสุด (Lo) ในรอบนั้น
2. ค่า 38.2% เป็นหนึ่งในโซนยอดนิยมที่ราคา "มัก" จะฟื้นตัวกลับมา (แต่ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง)
o ตามทฤษฎี: ถ้าราคาขึ้นไปแล้วหยุดที่ 38.2% มักสะท้อนว่า "ยังอยู่ในเทรนด์เดิม" (ในที่นี้ คือ เทรนด์ขาลงยังไม่จบ)
o หากผ่าน 38.2% ได้ชัดเจน เป้าหมายถัดไปคือ 50% และ 61.8% ตามลำดับ
________________________________________
สรุปความสำคัญ
• SET ฟื้นตัวได้ 38.2% แล้วหยุด: เป็นสัญญาณว่า “แรงขายจากเทรนด์ขาลง” ยังครอบงำอยู่
• โซน 38.2% = แนวต้านสำคัญที่เทรดเดอร์จับตามองว่าราคาจะไปต่อหรือไม่
• หากยืนเหนือ 38.2% ได้ อาจมีแรงดันไปสู่โซน 50% (1281.61) หรือ 61.8% (1334.76) ตามลำดับ
• แต่ถ้าถูกกดกลับจาก 38.2% = มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวรับเดิมหรือต่ำกว่า
________________________________________
สรุปย่อ
SET Index ฟื้นตัวหลังลงหนัก แต่หยุดอยู่ที่ 38.2% ตามหลัก Fibonacci—แนวต้านสำคัญที่วัดใจตลาด! ถ้าผ่านได้ มีลุ้นขึ้นต่อ แต่ถ้ายืนไม่อยู่ อาจเห็นการทดสอบจุดต่ำใหม่อีกครั้ง
ปัจจุบันก็เห็นชัดเจนว่าไม่ผ่านแนว 38.2% นะครับ
EURUSD – แนวโน้มกลับตัวลงอาจกำลังก่อตัวสวัสดีครับทุกคน! เมื่อพิจารณากราฟ 4 ชั่วโมง EURUSD เพิ่งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1.13553 — ซึ่งเคยเป็นจุดที่ราคาถูกปฏิเสธมาก่อน ในทันทีหลังจากการดีดตัวเล็กน้อย ตลาดก็เริ่มแสดงสัญญาณของแรงซื้อที่อ่อนแอ โดยเกิดรูปแบบการปฏิเสธจากเขตอุปทาน.
ปัจจุบัน ราคากำลังเริ่มปรับตัวลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปยังโซนแนวรับร่วมที่ 1.12600–1.12700 ซึ่งเป็นจุดตัดของเส้น EMA34 และ EMA89 — พื้นที่นี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับการเฝ้าสังเกต
เพื่อน ๆ ควรอดทนและติดตามพฤติกรรมราคาบริเวณแนวรับนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นครับ!
XAUUSD – เตือนบริเวณขอบบนของกรอบขาขึ้น: แนวโน้มขาลงกำลังซุ่มโจมตสวัสดีครับพี่น้อง! มองจากกราฟ 3 ชั่วโมง ทองคำ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน แต่พฤติกรรมราคาล่าสุดเริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรงบริเวณแนวต้าน 3,363–3,397 ซึ่งตรงกับขอบบนของกรอบและโซนอุปทานเดิม
หลังจากเข้าใกล้บริเวณนี้ ราคาก็เริ่มชะลอตัว พร้อมกับมีรูปแบบ pullback ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น หากราคาย่อลงไปทดสอบแนวรับล่างของกรอบที่ 3,286 แล้วไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดการหลุดกรอบและเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แนวโน้มระยะสั้น:
หากเด้งจาก 3,286 → ราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้น และอาจกลับไปทดสอบบริเวณ 3,363–3,397 ได้อีกครั้ง
หากทะลุลงต่ำกว่า 3,286 → แรงขายอาจถูกกระตุ้น เปิดโอกาสให้ขายตามเทรนด์ขาลง
มาดูจุดสำคัญของ HSI Futures จากกราฟ โดยเน้น “Fibonacci 78.6-88.6มาดูจุดสำคัญของ HSI Futures จากกราฟ โดยเน้น “Fibonacci 78.6-88.6% Zone” ซึ่งเป็นโซนที่เทรดเดอร์สาย Advanced ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษในมุมมองเชิงเทคนิคอลและจิตวิทยาตลาด
________________________________________
1. ภาพรวมโครงสร้างกราฟ
• กราฟนี้เป็น HSI Futures (Daily)
• คลื่น Elliott Wave, TD Sequential และ Fibonacci Retracement ถูกลากจากจุดต่ำสุด (Low) ไปยังจุดสูงสุด (High) ล่าสุด
• ราคาปัจจุบันอยู่บริเวณ 23,400–23,800 ซึ่งตรงกับ “Fibonacci Zone 78.6% (23,672.89) – 88.6% (24,259.39)”
________________________________________
2. ความหมายของ Fibonacci 78.6% – 88.6% Zone
ทำไมถึงสำคัญ?
• Fibonacci 78.6% และ 88.6% เป็นโซนที่นักเทรด Harmonic Patterns และ Advanced Technical มักจับตามอง เพราะมักเป็น “จุดกลับตัว” (Reversal) ที่แม่นกว่าการใช้แค่ 61.8% หรือ 50%
• เป็นจุดที่ “คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเบรกแนวต้านแล้วจะไปต่อ” แต่จริงๆ แล้ว อาจมีแรงขายหรือแรงกลับตัวซ่อนอยู่ เพราะเป็นจุดที่ผู้เล่นใหญ่ (Big Players / Smart Money) ชอบใช้ในการ “กับดักรายย่อย” (Stop Hunter)
เทคนิคที่พบเจอในโซนนี้
• Double Top, Shooting Star, Bearish Engulfing หรือสัญญาณกลับตัวอื่นๆ มักเกิดบ่อยในบริเวณนี้
• มักเกิด “False Break” คือ หลอกให้ราคาเบรกไปเหนือ High เดิม แล้วดึงกลับแรง
________________________________________
3. พฤติกรรมราคาช่วงนี้ (Context ในกราฟ)
• ราคาขึ้นมาทดสอบ 78.6% – 88.6% แล้วไม่สามารถผ่านไปได้อย่างมั่นคง
• มีแรงขายชัดเจน Candle ล่าสุดเป็นแท่งแดง และเกิดการย่อตัว
• ถ้าราคาย่อลงต่อ แนวรับถัดไปที่ 61.8% (22,687) และ 50% (21,995) มีโอกาสเป็นเป้าหมายของแรงขาย
________________________________________
4. กลยุทธ์เทรดเมื่อเจอโซน 78.6–88.6%
• ถ้าเล่นฝั่งขาย (Short):
→ ดูจังหวะกลับตัวชัดๆ เช่น Bearish Pattern, แท่งแดงใหญ่, สัญญาณจาก TD Sequential
→ Stop Loss เหนือ 88.6% เผื่อ False Break
• ถ้าจะรอเล่นฝั่งซื้อ (Long):
→ ควรรอให้ราคาทะลุ 88.6% ขึ้นไปและยืนเหนือแนวต้านเดิมได้จริง พร้อมวอลุ่มสนับสนุน
→ ไม่ควรไล่ซื้อในโซนนี้เพราะ “Risk:Reward” ไม่คุ้ม
________________________________________
5. สรุปสั้น ๆ
• Fibonacci 78.6% – 88.6% คือ “เขตสงครามจิตวิทยา” ของเทรดเดอร์
• หากราคาขึ้นไปแต่ไม่ผ่าน – มักเกิดแรงเทขายแรง หรือเทรนด์กลับตัว
• ถ้าทะลุผ่านและยืนได้ – อาจเข้าสู่รอบขาขึ้นใหม่ แต่ต้องรอ Confirmation
________________________________________
Key Takeaway:
อย่าไล่ซื้อในโซนนี้ถ้าไม่มีสัญญาณยืนยันเด็ดขาด
เน้นรอจังหวะกลับตัว หรือเล่นฝั่งขายเมื่อเห็นสัญญาณชัดเจนในบริเวณนี้จะปลอดภัยกว่า
Fibonacci 38.2% ในการวิเคราะห์กราฟ SET-WEEKFibonacci 38.2% ในการวิเคราะห์กราฟ SET
________________________________________
Fibonacci 38.2% คืออะไร?
• Fibonacci 38.2% คือ “แนวต้านสำคัญ” ที่ได้จากการลากเส้นวัดรีบาวด์ (Fibonacci Retracement) หลังจากที่ SET เกิดขาลงแรง
• ตัวเลข 38.2% มาจากหลักคณิตศาสตร์ Fibonacci ซึ่งนักเทคนิคอลใช้กันทั่วโลกเพื่อจับ “จุดเปลี่ยน” หรือ “ด่านสำคัญ” ของราคา
________________________________________
ความหมายของ 38.2% ในเชิงเทคนิค
• แนวต้านจิตวิทยา:
ราคามักจะเด้งขึ้นมาทดสอบแนวนี้หลังจบขาลงใหญ่
นักลงทุนที่ติดดอยหรือรอขายขาดทุน จะใช้จังหวะนี้ขายออก
ทำให้ราคามักหยุดชะงัก หรือพักตัวบริเวณนี้
• ถ้ายืนเหนือ 38.2% ได้:
สะท้อนว่ากำลังซื้อเริ่มกลับมา เทรนด์ฟื้นตัวมีลุ้นไปต่อถึง 50%–61.8%
• ถ้ายืนไม่ได้ หรือโดนขายหนัก:
ตลาดยังอยู่ในโหมดรีบาวด์เท่านั้น ยังไม่มีแรงซื้อจริงจัง
________________________________________
ตัวอย่างในกราฟ SET
• ในกราฟที่แสดง เส้น 38.2% อยู่ที่ 1,228.47 จุด
• จะเห็นว่าราคาวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวนี้ และเริ่มมีแรงขายกดลง
• ถ้าราคาขึ้นไปแล้วยืนเหนือ 1,228 จุดไม่ได้ ตลาดมีโอกาสพักฐานหรือลงต่อ
• ถ้าทะลุ 38.2% ขึ้นไปได้ชัดเจน จะเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับรอบฟื้นตัว
________________________________________
สรุปสั้น:
Fibonacci 38.2% คือแนวต้านหลักที่ตลาดต้องตัดสินใจ ถ้าผ่านได้ ตลาดมีลุ้นฟื้นตัวต่อ
แต่ถ้าชนแล้วกลับตัวลงอีก แสดงว่ารีบาวด์อาจจบลงแค่ตรงนี้
XAUUSD อยู่ในกรอบขาขึ้น – ควรซื้อที่จุดไหนถึงจะได้กำไรสูงสุด?XAUUSD บนกรอบเวลา H4 ยังคงรักษาทิศทางขาขึ้นอย่างมั่นคงภายในช่องราคา (Channel) ขาขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเส้น EMA34 และ EMA89 ที่เรียงตัวขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง หลังจากที่ราคาทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 3,285–3,300 และย่อตัวกลับมายืนยันระดับแนวรับได้สำเร็จ ขณะนี้ราคากำลังมุ่งหน้าไปยังแนวต้านสำคัญถัดไปที่บริเวณ 3,425–3,445 ซึ่งเป็นแนวต้านที่ต้องจับตา หากสามารถทะลุผ่านไปได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปยังบริเวณ 3,470–3,500 ได้
ในระยะสั้น อาจมีการปรับฐานเล็กน้อยลงมายังโซนแนวรับ 3,300–3,310 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอีกครั้งหากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง
ในด้านข่าวสาร นักลงทุนยังคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากรายงานการประชุม FOMC ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ ดัชนี DXY ที่อ่อนตัวลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
นักลงทุนสามารถรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อลงมายังแนวรับ หรือรอให้ราคาทะลุแนวต้าน 3,445 เพื่อเข้าซื้อในจังหวะตามแนวโน้ม.
FOMC กำลังจะมา! ทองจะไปต่อหรือย่อตัว?ทองคำกำลังเคลื่อนไหวภายในกรอบขาขึ้นอย่างมั่นคง และเพิ่งดีดกลับจากเส้นแนวรับล่างบริเวณ 3,295 – 3,300 ซึ่งสอดคล้องกับโซน EMA34/89 แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงได้เปรียบ หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้อย่างมั่นคง มีแนวโน้มที่ XAUUSD จะเดินหน้าต่อไปยังเป้าหมาย 3,360 ซึ่งเป็นแนวต้านบนของกรอบราคาในปัจจุบัน
ในภาพรวม การคาดการณ์ว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ประกอบกับความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทอง อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดต่ำกว่า 3,295 อาจเกิดแรงขายต่อเนื่องและดันราคาลงสู่บริเวณ EMA200 แถวๆ 3,250
กลยุทธ์ในช่วงนี้ควรเน้น “ซื้อเมื่อย่อตัว (buy on dip)” โดยตั้งเป้าแนวต้านที่ 3,360 – 3,375 พร้อมทั้งบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
EURUSD บวกแล้ว แต่จะไปได้ถึงไหนใครที่เข้าซื้อตั้งแต่วันศุกร์ ยินดีด้วยครับ
ตอนนี้ คอนเฟิร์มว่าเป็นขาขึ้นแล้ว
ขยับ stop loss ขึ้นมาอีก เบื้องต้น ไม่ต้องเสียแล้ว มีแต่เท่าทุนหรือบวก
หลังจากวันนี้ ปล่อยให้กราฟ ไหลไปตามที่ควรจะเป็น
สิ่งที่ควรเตรียมพร้อม หลังจากนี้
- higher high
- sideway แต่ยังคงเล็งไปในขาขึ้น
- ถ้าแตะเข้าโซน Stop loss สีแดง เตรียมเผ่น