รูปแบบชาร์ต
คาดการณ์ถูกว่าราคาต้องขึ้น...แต่ใน TF M15 ได้เข้ามาจังหวัดปิดแท่งแดงเพื่อจะกลับตัวเป็นขาขึ้น เห็นแท่งเขียวค่อยๆขยับๆ ก็กดBUY ไป ก็ TP ไป 2 ไม้ แต่ไม้ที่ 3 เราไปตั้งSL ใกล้จุดที่ราคาเหวี่ยงลงไปจุดเดิม จึงโดนSL ชะล่าใจ คิดว่าเค้าจะไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งไส้ เหตุการณ์นี้ทำให้ต้องกลับมาปรับจิจใจใหม่ด้วยการเทรดบัญชีเด่โม่ก่อน กฎของเราคือ ถ้าใน 1 วัน แพ้ 3 ไม้ ต้องหยุดเทรด แล้วกลับมาเทรดเด่โม่ เพื่อทดสอบระบบ ไม่งั้นเดี๋ยวใช้อารมณ์ กดเอากดเอา แบบนั้นคงไม่โอเคค่ะ
มุมมองทองคำ 17/10/67มุมมองทองคำ 17/10/67
มุมมองเชิงบวกจากความกังวลเรื่อง ศก. ถดถอย กลับมาอีกครั้งหลังจากกระแสข่าวการปลดพนังงานของบริษัทใหญ่ๆหลายแห่ง ทำให้เกิดการคาดฯที่เฟดอาจจะต้องลดดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดฯ
ปล. อาจจะไม่ได้มาอัพเดทให้บ่อยๆ เนื่องจากงานส่วนตัวเยอะมาก แต่อัพเดทในกลุ่มตลอดนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
Gold Market Outlook【17 ตุลาคม 2567】Gold Market Outlook【17 ตุลาคม 2567】🌟💰🔍
🌟 ทองคำทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ถดถอย 📈💰
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธที่ผ่านมา 🏆 โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 📉 และความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก 🌎 นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ดำเนินอยู่ยังเพิ่มแรงสนับสนุนให้กับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 🛡️
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ 📊 ส่งผลให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากทองคำมักจะเฟื่องฟูในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ 💹
นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 96% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนพฤศจิกายน 🎯 ตามข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch
ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ 🇪🇺 ในขณะที่การลดลงของอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรบ่งชี้ว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า 🇬🇧
Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลบวกต่อทองคำ ได้แก่ 🔑
- ความเสี่ยงด้านความไม่มั่นคงทางการคลัง 💼
- ความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 🏦
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍
- การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ 💱
- ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 🗳️
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ 📉
ผู้แทนในการประชุมประจำปีของสมาคมตลาดแลกเปลี่ยนทองคำลอนดอน (LBMA) คาดการณ์ว่า 🔮:
- ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2,941 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า 🥇
- ราคาเงินจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ 🥈
ในแง่ของภาพทางเทคนิค 📊:
- ราคาทองคำวันนี้ทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง 🔝
- จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด 👀
- หากราคาไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แนะนำให้:
1. พิจารณาการซื้อขายในกรอบระยะสั้น 🔄
2. รอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ ⏳
- ควรจับตาดูการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเวลา 19:30 น. 🕰️ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนชั่วคราวได้ 📊
ขอให้โชคดีและมีกำไรทุกท่านครับ 🍀💰
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (09:45)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish 🐂
🔼 แนวต้าน 3: $2,690
🔼 แนวต้าน 2: $2,685
🔼 แนวต้าน 1: $2,683
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,676
🔽 แนวรับ 2: $2,667
🔽 แนวรับ 3: $2,659
✍️ เขียนโดย: Beam 📊💡
ทะลุถึงเป้า แล้ว ยังไงต่อ- เป้าส่วนตัวผมคือ 945 แต่ตลาดก็พุ่งทะลุไปดูทีท่าว่าอาจจะ จบแถว 966 ที่แนวต้านหลัก
- ถึงตอนนี้ผมจะรอ S แต่ตลาดจะให้ถือ S ตอนไหนยังไม่รู้แต่ว่า เพดานขึ้นมันแคบลงเรื่อยๆ
- ถ้าตลาดดีจริงคงเลี้ยงราคานี้จนถึง 966
- การรอคือ กลยุทธ์อย่าง
- การถือ S เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ต้องจับจังหวะให้ดี เพราะจะจบเร็วและแรง
Gold Market Outlook【16 ตุลาคม 2567】🌟 Gold Market Outlook【16 ตุลาคม 2567】💰🔍
ทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม
📈 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง ขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่อาจให้สัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างระมัดระวัง
📉 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้ทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนมีความน่าสนใจมากขึ้น ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.2% แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน
💹 ปัจจุบัน นักเทรดคาดการณ์ว่ามีโอกาสประมาณ 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนพฤศจิกายน ตามข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch
👀 ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในช่วงท้ายสัปดาห์นี้
🏦 ทองคำ ซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนในตัวเอง มักได้รับความนิยมในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
🌍 Commerzbank ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หากรายงานข่าวเป็นความจริงและอิสราเอลละเว้นการโจมตีแหล่งน้ำมันและสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านในการตอบโต้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จะลดลง และการสนับสนุนราคาทองคำจากปัจจัยนี้ก็จะลดลงเช่นกัน
📊 สำหรับมุมมองทางเทคนิคของราคาทองคำ วันนี้เกิดสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจน โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมหรือสร้างจุดสูงสุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาบริเวณ 2670 เป็นจุดพักฐาน หากราคาสามารถทะลุผ่านได้ แนะนำให้รอจังหวะย่อตัวเพื่อเข้าซื้อต่อเนื่อง แต่หากทดสอบแล้วไม่ผ่าน ให้ระมัดระวังการพักตัวของราคาในช่วงนี้ #ขอให้โชคดีและมีกำไรทุกท่านครับ
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน
XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,675
🔼 แนวต้าน 2: $2,670
🔼 แนวต้าน 1: $2,665
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,657
🔽 แนวรับ 2: $2,653
🔽 แนวรับ 3: $2,642
✍️ เขียนโดย: Beam 📊💡
วิเคราะห์ทิศทางราคาของ Bitcoin (BTCUSDT)
1. รูปแบบราคา (Price Action):
มีการทำ Higher Lows (HL) และ Lower Highs (LH) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ (consolidation) หรืออาจจะเป็น sideway ได้
จุดสูงสุด (Highs) ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุด (Lows) ที่ต่ำลงบางจุดบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกฝั่งใด โดยการ Breakout ของเส้นแนวต้านหรือแนวรับสำคัญจะเป็นตัวชี้ขาด
2. RSI (Relative Strength Index):
RSI ในช่วง Timeframes ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน neutral zone ยกเว้นกราฟ 4 ชั่วโมง ที่ RSI อยู่ในโซน Overbought (73.50%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อมากเกินไปในช่วงเวลานี้ อาจมีการปรับฐาน (correction) ในระยะสั้นได้
RSI 1 วันและ 1 สัปดาห์ยังเป็น Neutral ซึ่งบ่งบอกว่าราคายังไม่ถึงระดับที่เป็นการซื้อหรือขายเกินไป
3. จุดสำคัญอื่น ๆ:
การเคลื่อนไหวผ่านเส้น BOS (Break of Structure) และ CHoCH (Change of Character) ในบางจุด บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเทรดในการจับทิศทางต่อไป
หากราคาสามารถ breakout ผ่านจุด LH (Lower High) ล่าสุด อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น
หากราคาหลุดระดับ HL (Higher Low) ที่มีการทำจุดต่ำสุดลง (LL) ราคามีแนวโน้มจะลงต่อได้
4. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวต้านที่แข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 66,000 USDT (ใกล้กับระดับ LH) หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจส่งสัญญาณการขึ้นต่อ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 63,379.5 USDT หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
สรุป: ในระยะสั้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจาก RSI บางช่วงเวลาแสดงว่าอยู่ในภาวะซื้อเกินไป (Overbought) แต่ในระยะยาวหากราคาสามารถทะลุแนวต้านหลักและทำ Higher Highs ต่อเนื่องได้ อาจส่งสัญญาณขาขึ้น
ดูเหมือนว่าราคากำลังอยู่ในลักษณะของ Rising Wedge เนื่องจากมีการทำ Higher Lows ต่อเนื่อง แต่การเคลื่อนไหวของราคามีการบีบตัวเข้าแคบลง หากราคาทะลุลงจากแนวรับของ Wedge อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
จุดที่น่าสนใจคือถ้าราคาหลุดออกจากแนวรับที่ระดับประมาณ 63,379 USDT (จากข้อมูลที่แสดง) อาจเป็นสัญญาณยืนยันของการปรับตัวลงตาม Rising Wedge Pattern นี้
สรุปเกี่ยวกับ Wedge Pattern: ในกราฟนี้ ดูเหมือนจะมีลักษณะของ Rising Wedge ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านได้และหลุดออกจากแนวรับ
BTCUSD : ระบบ ATR Trend Following มีสัญญาณ "ซื้อ" 15/10/2024อธิบาย : ระบบ ATR Trend Following ใช้หลักการง่ายๆ คือ เอา ATR x multiplier มาตีกรอบราคาที่จะแกว่งของ BTC ถ้าทะลุกรอบ ก็จะเกิดการ flip ของสัญญาณ เช่น จากซื้อเป็นขาย หรือจากขาย เป็นซื้อ เป็นต้น
ความเห็นของผม : ช่วง sideway ระบบนี้ก็จะโดนสับขาหลอกไปเรื่อยๆ จนหลายๆ คนก็ออกมาสบประมาทว่า ห่วยเหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละ ผมก็แค่ทำบันทึกต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นไอเดียการเทรดว่า มันเวิร์คหรือไม่เวิร์ค ต่อไปครับ
BTC ATR = เขียว ( 15/10/2024 )
------------------
Entry : 66000+-
Exit : 61000 (-7.5%)
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-2Oct) ATR = +0.05%
(19Sep-2Oct) EMA120DCross = -0.155%
(25Sep-2Oct) BreakHigh = -0.538%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(15Oct-???) BreakHigh = ?%
(15Oct-???) ATR = ?%
(15Oct-???) EMA120D = ?%
Sum กำไรสะสมของปี 2024 = 21.56% + 0.05% - 0.155% - 0.538% = 20.917% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
BTCUSD : ระบบ Break 52Days high มีสัญญาณ"ซื้อ" 15/10/2024อธิบาย : ระบบ Break 52Days High เป็นระบบที่จะดู High ย้อนหลังของแท่งเทียน เป็นเวลา 52 วัน และตีเส้นราคาลากมาเรื่อยๆ จนกว่าเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งเหนือกว่าเส้น 52 วันย้อนหลัง ระบบก็จะมีสัญญาณซื้อ ส่วนสัญญาณขายจะใช้ MA 52 วัน เพื่อตัดสินใจ โดยเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งต่ำกว่าเส้น MA52 ก็จะมีสัญญาณขาย นั่นเอง
ระบบนี้ดัดแปลงไอเดียมาจาก Break 52 Weeks High ที่ใช้กับตลาดหุ้น แต่ว่ามาใช้กับคริปโตแล้วมันช้าเกิน ก็เลยลองลดเหลือเป็น 52 วันแทน ก็ให้ผลที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะหลายๆ ครั้งระบบนี้ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเข้าๆ ออกๆ ตอนตลาด sideway down หรือขาลงจ๋าๆ เพราะเราจะนั่งเฉยๆ ตลอดทางนั่นเอง ( เหมือนกับ 5 เดือนที่ผ่านมา )
ความเห็นของผม : ช่วงนี้ก็ยังคงมาแนวยึกยักเหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่ารอบนี้จะไปจริงนะ 555
BTC BreakHigh = เขียว ( 15/10/2024 )
------------------
Entry : 66000+-
Exit : 61000 (-7.5%)
Position Size = 13% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-2Oct) ATR = +0.05%
(19Sep-2Oct) EMA120DCross = -0.155%
(25Sep-2Oct) BreakHigh = -0.538%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(15Oct-???) BreakHigh = ?%
(15Oct-???) ATR = ?%
(15Oct-???) EMA120D = ?%
Sum กำไรสะสมของปี 2024 = 21.56% + 0.05% - 0.155% - 0.538% = 20.917% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
GDH_System.วิเคราะห์ XAUUSD 15/10/67วิเคราะห์ XAUUSD 15/10/67
ราคาเมื่อวานทองวิ่งในกรอบราคา 2640-2670 โดยภาพรวมราคาวิ่งเหนือโซนฐาน 2630-2635 ได้ และยังไม่ย่อลึกไปกว่านี้ มองว่าหากวันนี้ราคายังสามารถวิ่งหรือยืนเหนือ 2635 ไปได้ แนวโน้มของขาขึ้นก็ไม่ได้น่ากังวล และแม้ว่าภาพรวมทางเทคนิคจะมองว่าราคาวิ่งเเบบ Sideway ก็ตาม
วันนี้กราฟใน TFday และ TFH4 ทิศทางหรือแนวโน้มของกราฟยังเป็นขาขึ้นได้ต่อ แม้ว่าราคาจะวิ่งออกแบบ Sideway อยู่บ้าง เนื่องจากช่วงนี้ยังมีปัจจัยข่าวที่จะเข้ามาสนับสนุนความผันผวน หาากมองตามเทคนิคคอล ราคามีการ Rebound ขึ้นแนวต้าน แต่ยังไม่สามรารถยืนได้ ถูกเทขายออกก่อนตามเทคนนิค โดยมีแนวฐานรับที่ 2630-2635 หากราคายังสามารถยืนเหนือบริเวณได้ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการขึ้นต่อตามเทรนด์ โดยราคาจะต้องไม่หลุดต่ำไปกว่า 2630 ลงไป เพราะไม่งั้นช่องว่างของแนวรับจะอยู่ค่อนข้างลลึก และอาจทำให้ราคาเสียทรงขาขึ้นได้เล็กน้อย ช่วงนี้พิจารณาไปตามทางเทคนิคคอลก่อน
แนวรับรายวัน
2645-2640/2636-2632/2627-2622/2616-2610/2605
แนวต้านรายวัน
2653-2657/2661-2667/2670/2673-2674/2685/2697
ทำไม SET ขึ้นมาพักตัวที่ Fibonacci 127.2% บริเวณ 1482-1483 จุดราคามักขึ้นมาหยุดที่ Fibonacci 127.2% เพราะระดับนี้เป็นหนึ่งในจุดที่มีความสำคัญในเชิงจิตวิทยาตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน โดยมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้ราคาเกิดการชะลอหรือกลับตัวที่ระดับนี้:
1. พฤติกรรมของนักลงทุนจำนวนมาก:
นักลงทุนและนักเทรดจำนวนมากใช้เครื่องมือ Fibonacci เพื่อคาดการณ์จุดกลับตัวหรือแนวรับแนวต้าน เมื่อหลายคนคาดหวังว่าราคาจะหยุดที่ Fibonacci 127.2% พวกเขาอาจตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าที่ระดับนี้ เช่น การทำกำไร (take profit) หรือการเปิดคำสั่งขาย (short position) ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคา
2. ระดับที่แสดงถึงการขยายตัวของราคา:
Fibonacci 127.2% เป็นระดับส่วนขยาย (extension level) ซึ่งหมายถึงราคาขึ้นมาสูงกว่าเดิมเกินจุดเริ่มต้นของการปรับตัว (หลังจากที่ราคาขึ้นถึง 100%) การเคลื่อนไหวนี้มักเป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง แต่ระดับ 127.2% มักถูกมองว่าเป็นจุดที่ตลาดอาจหยุดหรือพักการเคลื่อนไหวได้
นักลงทุนมองว่าหลังจากที่ราคาเคลื่อนที่ผ่าน 100% มาแล้ว ระดับ 127.2% เป็น "จุดทดสอบ" ที่ราคาอาจจะหยุดชั่วคราว
3. แรงจูงใจในการทำกำไร:
เมื่อราคามาถึงจุดขยายนี้ นักลงทุนที่ทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเดิมอาจเลือกที่จะทำการขายเพื่อปิดกำไร ซึ่งทำให้ราคาชะลอหรือกลับตัวเพราะแรงขายที่เพิ่มขึ้น
4. แนวรับ-แนวต้านในมุมมองทางเทคนิค:
ระดับ Fibonacci รวมถึง 127.2% ถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญ ถ้าราคาขึ้นมาชนระดับนี้ ราคาจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนักเทรดที่มองว่าเป็นโอกาสในการขายหรือการกลับทิศทาง ซึ่งส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางหรือการชะลอตัวของราคา
5. ธรรมชาติของการปรับฐานราคา (Correction):
ในบางกรณี เมื่อราคาขยับผ่านแนวต้านหรือแนวรับเดิม นักลงทุนจะมองหาระดับ Fibonacci ต่อไปเพื่อวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนไหว โดยระดับ 127.2% มักจะเป็นจุดที่ตลาดอาจมีการหยุดชั่วคราวก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนไหวต่อ
สรุปก็คือ Fibonacci 127.2% เป็นระดับที่นักลงทุนจำนวนมากใช้เป็นแนวต้านที่สำคัญ จึงมักเห็นว่าราคาเกิดการชะลอหรือกลับตัวที่ระดับนี้บ่อยครั้ง เพราะเป็นจุดที่มีการทำกำไรและแรงจิตวิทยา
Gold Market Outlook【15 ตุลาคม 2567】🌟 Gold Market Outlook【15 ตุลาคม 2567】💰🔍
📉 ทองคำอ่อนตัว ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์ 📊 แม้จีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อย่างเต็มที่ 🇨🇳 ในขณะเดียวกัน การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนส่งผลให้แรงซื้อทองคำชะลอตัวลง 💵
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ 📊 ในขณะที่เงินยูโรยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้ 🇪🇺
การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการทองคำในจีนชะลอตัวลง 📉 นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น 💰
ข้อมูลเศรษฐกิจจีนมีผลกระทบสองด้าน 🔄 หากข้อมูลแสดงถึงการชะลอตัว อาจส่งผลลบต่อความต้องการทองคำ แต่ในทางกลับกัน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนในวงกว้างอาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด ซึ่งอาจเพิ่มความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย 🏦
นักลงทุนจะติดตามความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ 🇺🇸
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีโอกาสประมาณ 84% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน 📊 การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนการถือครองทองคำ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกต่อราคา 📈
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของราคาทองคำวันนี้ แสดงถึงการเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด สะท้อนการรอปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคา 🔄 จึงแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการเข้าซื้อขาย โดยเฉพาะในช่วงเปิดตลาด อาจเป็นการดีที่จะรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ ⏳
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,665
🔼 แนวต้าน 2: $2,657
🔼 แนวต้าน 1: $2,653
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,649
🔽 แนวรับ 2: $2,641
🔽 แนวรับ 3: $2,634
✍️ เขียนโดย: Beam 📊💡
HSI FUTURES ย่อลงมาทดสอบ Fibonacci 127.2% แล้วเกิด Sell Reject14 ตุลาคม 2567 ภาพแสดง HSI FUTURES ย่อลงมาทดสอบ Fibonacci 127.2% แล้วเกิด Sell Reject
หากวันนี้ตลาดหุ้นไทยเปิด ผมคงให้ความเห็นว่า ย่อมาเรา Call DW HSI ขึ้นไปดีกว่า PUT ครับ
ลองมาฟังเหตุผลดังนี้ ด้วย MaChao Flip & Fibonacci
"MaChao Flip Aggressive Count"
ในช่วงที่ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสภาพปกติ เราสามารถใช้วิธี **Aggressive Count** หรือการนับแบบเร่ง เพื่อให้ทันกับความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
วิธีการ Aggressive Count นี้แตกต่างจาก แบบดั้งเดิมตรงที่ว่า:
1. **สำหรับการนับเพื่อซื้อ (Buy Count)**:
- ในวิธีดั้งเดิมจะเปรียบเทียบราคาปิด (Closing Price) กับราคาต่ำสุดของแท่งราคา (Price Bar) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 2 แท่ง
- แต่ในวิธี Aggressive Count จะเปลี่ยนไปเปรียบเทียบแค่ราคาต่ำสุดระหว่างแท่ง โดยไม่ใช้ราคาปิดมาเกี่ยวข้อง
- หากราคาต่ำสุดของแท่งราคาในปัจจุบัน น้อยกว่าหรือเท่ากับราคาต่ำสุดของแท่งที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า และตรงตามเงื่อนไขอื่น
2. **สำหรับการนับเพื่อขาย (Sell Count)**:
- ในวิธีดั้งเดิมจะเปรียบเทียบราคาปิดกับราคาสูงสุดของแท่งราคาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 2 แท่ง
- แต่ในวิธี Aggressive Count จะเปลี่ยนไปเปรียบเทียบแค่ราคาสูงสุด โดยไม่ใช้ราคาปิดมาเกี่ยวข้อง
- หากราคาสูงสุดของแท่งราคาในปัจจุบัน สูงกว่าหรือเท่ากับราคาสูงสุดของแท่งที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า และตรงตามเงื่อนไขอื่น
การตั้งค่า:
วิธีการ Aggressive Count ให้ผู้ใช้ **เปลี่ยนการเปรียบเทียบราคาปิด** ออกจากกล่องการตั้งค่า และเปลี่ยนไปใช้การเปรียบเทียบ **ราคาต่ำ (Low) สำหรับการซื้อ** และ **ราคาสูง (High) สำหรับการขาย** แทน
โดยสรุป วิธีนี้จะเป็นการเปรียบเทียบราคาต่ำหรือสูงของแท่งราคาในปัจจุบันกับแท่งราคาที่เกิดขึ้น 2 แท่งก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยในการตรวจจับสัญญาณซื้อหรือขายที่มีความเสี่ยงต่ำได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ณ เวลา 12:50 ของ 14/10/2024 เราพบว่า แนว Fibonacci 127.2 เป็นแนวรับหลักที่ Hold ดัชนี้ไว้
ชุด Aggressive Count นับ 8 บอกเราว่าชุดการนับทางขึ้นด้านบน ยังมีโอกาสนับได้ต่อเนื่อง
สรุปง่ายๆว่า HSI ย่อมาก็ Call ไปครับ โดยกำหนดจุด STOP LOSS ที่ low ของวันที่ 9/10/2024 มีค่า 20,241 จุด
Gold Market Outlook【14 ตุลาคม 2567】🌟 Gold Market Outlook【14 ตุลาคม 2567】💰🔍
📰 ราคาทองพุ่งแรงกว่า 1% หลังข้อมูล PPI สหรัฐหนุนความหวังเฟดลดดอกเบี้ย 📈💹
ราคาทองคำปิดตลาดวันศุกร์ด้วยการปรับตัวขึ้นกว่า 1% 💥 หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณบวกต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า 📉 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดล่าสุด 💱 นอกจากนี้ ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง 🌍🛡️
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนไม่มีการเปลี่ยนแปลง 📊 สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ และเสริมความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ 🎯
จิม วิคคอฟ นักวิเคราะห์อาวุโสจากคิทโก เมทัลส์ กล่าวว่า "ข้อมูล PPI เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดโลหะมีค่า และบ่งชี้ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลง 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้" 🗣️💡
ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะสูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อรายปีกลับต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง 📅📉
ดาเนียล พาวิโลนิส นักยุทธศาสตร์อาวุโสจากอาร์เจโอ ฟิวเจอร์ คาดการณ์ว่า "ราคาทองคำมีโอกาสแตะ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง" 🔮💰
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนราคาทอง โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 102.890 💲📉
ในแง่เทคนิค ราคาทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการยุติแนวโน้มขาลงระยะสั้น และเปลี่ยนเป็นแนวโน้มแบบ Sideway ที่โน้มเอียงไปในทิศทางบวก 📈 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 2,660 และ 2,667 ดอลลาร์ 🎯 และมีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังและลดปริมาณการลงทุนเพื่อรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น ⚠️💼
แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Sideway
🔼 แนวต้าน 3: $2,672
🔼 แนวต้าน 2: $2,667
🔼 แนวต้าน 1: $2,661
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,649
🔽 แนวรับ 2: $2,642
🔽 แนวรับ 3: $2,634
✍️ เขียนโดย: Beam 📊💡