รูปแบบชาร์ต
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67 แผน 2
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
มุมมองทองคำ 10/12/67🔴 Super Free Gold Forex 🔴
มุมมองทองคำ 10/12/67
ราคาทองคำได้เบรค 2,666$ ขึ้นไปได้แล้ว ทำให้มุมมองฝั่งขาบายกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง
ทำให้แนวต้าน 2,688$ เป็นแนวต้านถัดไปที่ราคาสามารถขึ้นไปทดสอบได้
แม้ตัวเลข ศก. ที่ออกมาค่อนข้างดีในช่วงนี้ แต่ไส้ในยังดูเปราะบางอยู่ ทำให้มุมมองแนวโน้มที่ธนาคารกลางต้องลดดอกเบี้ยยังคงมีความเชื่ออยู่ในกลุ่มนักลงทุนอยู่นะครับ
💥💥 เดี๊ยวอัพเดทในกลุ่ม Line อีกทีนะครับ
สนใจเข้ากลุ่มได้ฟรี ทักมานะครับ
🔥 “อัพเดทในกลุ่ม Line ตลอดนะครับ” 🔥
สัญญาณการซื้อขายทองคำที่ถูกต้องวันนี้สวัสดีทุกคน. เราจะเห็นได้ว่าแนวโน้มทองคำในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับครั้งก่อนมาก หลังจากแตะประมาณ 2610 แล้วมันก็ค่อย ๆ ปรับฐานขึ้นด้านบน
แนวโน้มสุดท้ายอยู่ระหว่างปี 2610 ถึงช่วง 2680-90
ดังนั้นหากวันนี้สามารถยืนเหนือ 2,650 ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะแตะ 2,680-2690
สำหรับการดำเนินการในปัจจุบัน เราสามารถเข้าใกล้แนวรับของกราฟเพื่อดูว่าทองคำเป็นทองคำในสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่
เนื้อหาที่วิเคราะห์ทุกวันจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามแนวโน้มของตลาดการซื้อขาย นี่ไม่ใช่สถานที่แรกที่คุณจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉัน หากคุณคิดว่าบทความของฉันมีประโยชน์สำหรับคุณโปรดชอบมัน ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน
USDCHF เกิดแพทเทิร์น Head and Shoulder ขาลงที่ชัดเจนมากภาพรวมกราฟ USDCHF ในกรอบ H4
เกิดแพทเทิร์นที่ชัดเจนมากของ Head and Shoulder ขาลง
ราคาได้ทำไหล่ซ้าย หัว และไหล่ขวาอย่างสมบูรณ์ มีอัตราส่วนที่ชัดเจนและมีการทะลุเส้นคอ (Neck Line) ลงมาเป็นการคอนเฟิร์มขาลงเรียบร้อยแล้ว
โดยที่ ณ เวลาปัจจุบัน (9 ธ.ค. 2024) ได้เกิดการดึงกลับของราคา (Pull Back) เพื่อกลับมาทดสอบเส้นคอ (Neck Line) อีกครั้ง จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาจังหวะในการเข้าชอร์ทเซล
คำแนะนำในการเทรด
เทรดเดอร์สามารถย่อลงไปดูกราฟใน Timeframes ที่เล็กลงเช่น H1,M30 เพื่อหาโอกาสเทรดเพิ่มเติมด้วย Price actionได้
หรือ สามารถตั้งออเดอร์ไว้ในจุดที่น่าสนใจไว้ล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะมีหลายจุดที่น่าสนใจ โดยจะขอแนะนำ 3 โซนที่น่าสนใจต่อไปนี้:
โซนที่ 1 (Neck Line) 0.88263
โซนที่ 2 0.88042
โซนที่ 3 0.87948
จุดน่าวาง Stop Loss: ตั้งไว้ที่ 0.88497 เนื่องจากเป็นจุดที่โครงสร้างขาลงจะถูกทำลาย หากราคาทะลุจุดนี้ โอกาสที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงจะต่ำมาก
จุดที่ควรเป็นเป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1 = 0.86974 (แนวรับ) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการถือออเดอร์เกิน 1 สัปดาห์
TP2 = 0.86185 เป็นแนวรับสุดท้ายโดยคาดหวังว่าเป็นจุดสิ้นสุดของแพทเทิร์นขาลงนี้ ก่อนจะมีการกลับตัวของเทรนด์ครั้งใหม่ อาจต้องถือออเดอร์ราว2สัปดาห์
S50Z24 กับ Point Of ControlS50Z24 กับ Point Of Control
**Point of Control (POC)** ในบริบทของการวิเคราะห์ตลาดการเงิน (เช่น การวิเคราะห์ Volume Profile หรือ Market Profile) คือจุดราคาที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด มันแสดงถึงระดับราคาที่มี "การเห็นพ้องกัน" ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมากที่สุดในช่วงเวลานั้น
### อธิบายง่ายๆ
1. **POC** คือราคาที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่ดูอยู่
2. มันบ่งบอกถึง "ความสำคัญ" เพราะตลาดมักจะใช้จุดนี้เป็นจุดอ้างอิง:
- ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลงจาก POC อาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
- ถ้าราคากลับมาที่ POC แสดงว่าตลาดอาจ "พักตัว" หรือ "สะสมกำลัง" เพื่อเคลื่อนไหวอีกครั้ง
3. **ใช้งาน POC**
- **แนวรับ/แนวต้าน:** ราคามักชะลอหรือพลิกกลับใกล้ POC
- **จุดเข้า/ออก:** ใช้ดูว่าราคากำลังเคลื่อนที่ออกจาก POC ไปในทิศทางที่ชัดเจนหรือไม่
---
### ตัวอย่างเปรียบเทียบ
คิดง่ายๆ ว่า **POC** เหมือน "ศูนย์กลางของการต่อรอง" ในตลาด ถ้ามองตลาดเป็นสนามประมูล POC คือตำแหน่งที่มีการเสนอราคาเยอะที่สุดในรอบนั้น คนในตลาดจึงมักมองจุดนี้ว่ามีความสำคัญ
ถ้าให้สรุปแบบเข้าใจง่ายที่สุด:
- **POC = จุดที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุดในช่วงเวลานั้น!**
Gold Market Outlook [9 ธันวาคม 2567]Gold Market Outlook
📢 ราคาทองทรงตัวหลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐหนุนการลดดอกเบี้ย
💥 ทองคำทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ หลังรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณบ่งชี้ตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลาย เปิดทางให้เฟดพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
ตลาดทองคำคึกคักหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งแตะ 227,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขเดือนตุลาคมถูกปรับแก้ขึ้นเป็น 36,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์ชั้นนำเผย "ข้อมูลครั้งนี้สะท้อนภาวะ 'พอดี' ไม่ร้อนเกินไปและไม่เย็นเกินไป เป็นสัญญาณบวกให้เฟดสามารถปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้"
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลงหลังการเปิดเผยข้อมูล โดยนักลงทุนให้น้ำหนักถึง 91% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจากเดิม 72% ก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงาน
📈 วิเคราะห์เทคนิคอล:
ราคาทองคำเคลื่อนไหวแบบ Sideway มีแรงกดดันเล็กน้อย หากไม่ผ่านแนวต้าน 2641 อาจพิจารณา Sell ระยะสั้น 300-500 จุด แต่หากยืนเหนือแนวต้านต้องปรับกลยุทธ์ใหม่
📊 แนวรับ-แนวต้าน XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish
🔼 แนวต้าน 3: $2,647
🔼 แนวต้าน 2: $2,641
🔼 แนวต้าน 1: $2,636
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,628
🔽 แนวรับ 2: $2,625
🔽 แนวรับ 3: $2,617
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
ทุก 1 ปีหรือ 1.5 ปี หลัง Halving มักจะมีการร่วงลงของราคาบิทคอยผู้เขียนขอเกริ่นนำก่อนที่จะเริ่มบทวิเคราะห์นี้ โดยการขอเกริ่นนำคร่าวๆ ว่า Bitcoin halving และการขุดเหรียญ Bitcoin ขึ้นมาคืออะไร คืออะไร อาจจะไม่ถูกเป้ะๆ แต่เพื่อความง่าย ขออธิบายประมาณนี้ครับ
เรามาเริ่มกันเลย!
ด้าน Quality data และ Quantity data
การขุดบิทคอยคืออะไร ถ้าจะให้เปรียบง่ายๆ ปริมาณเหรียญ BTC มีทั้งโลกประมาณ 21 ล้านเหรียญ ถ้าเทียบกับทองในโลก การขุดทอง ก็เหมือนกับการขุดบิทคอย เรายังขุดบิทคอยยังไม่ครบ 21 ล้านเหรียญ และปัจจุบันก็ยังมีการขุดต่อเรื่อยๆ เราขุดทองโดยการสร้างเหมืองขุด แต่การขุดบิทคอยคือการเปิดคอมพิวเตอร์ให้ระบบคอมแก้สมการไปเรื่อยๆ จนถอดรหัสออกมาได้ เราก็จะได้บิทคอยมาเป็นรางวัลของการขุดแบบนั้นๆ
ทีนี้ BTC halving คือเหตุการณ์หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นทุก 4 ปี ตามระบบของมัน ส่งผลทำให้การขุดบิทคอยยากขึ้น แล้วทำให้ปริมาณบิทคอยที่ขุดขึ้นมาหลังจากนั้นจะน้อยลง และเมื่อ Supply น้อยลง หากไม่มีปัจจัย Demand ที่เปลี่ยนแปลง ก็อาจจะทำให้ราคาบิทคอยพุ่งสูงขึ้นตามหลัก supply & demand
เมื่อ halving เกิดขึ้น ก็จะทำให้ขุดเหรียญได้ยากขึ้น ก็จะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น (หาก demand ยังเหมือนเดิม)
งั้นเรามาดูเหตุการณ์ halving ที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับราคาหลังจาก Halving
1. Halving ครั้งแรก เมื่อ 28 พ.ย. 2012 หลังจากนั้น 1 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
2. Halving ครั้งที่ 2 เมื่อ 9 ก.ค. 2016 หลังจากนั้น 1.5 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
3. Halving ครั้งที่ 3 เมื่อ 11 พ.ค. 2020 หลังจากนั้น 1 ปีได้มีการย่อตัวลง 1 รอบ ก่อนที่จะทะยานตัวกลับไป และหลังจาก halving ครบ 1.5 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
4. Halving ครั้งที่ 4 เมื่อ 19 เม.ย. 2024 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครทราบ !
แต่หากจะประเมินตามสถิติ ก็คงจะราวๆ เมษา 2025 หรือ พฤศจิกา 2025 คงจะมีการร่วงลงของบิทคอย
เป็นไปได้มั้ยว่า หากมีคนมองเห็นภาพนี้ก่อนจะชิงขายก่อน ก็ไม่มีใครทราบได้
อีก 1 layer ของการวิเคราะห์ที่นอกเหนือจากเรื่องสถิติ ผมขอวิเคราะห์ด้าน Technical analysis เพิ่มเติม
ด้าน Technical analysis
ส่วนตัวผมค่อนข้างเข้าใจ Elliott wave และ Dow's theory มากกว่าทฤษฏีอื่นๆ ผมขออนุญาตใช้ทฤษฏีดังกล่าวประกอบการวิเคราะห์แล้วกันนะครับ
Wave 1 จากกราฟจะเห็นว่า หากมองภาพใหญ่ๆ การที่ราคาทะยานตัวมาถึง 68000$ เมื่อปี 21
อาจเทียบเท่าได้ว่าเกิด wave 1 (ซึ่งมี sub wave ครบ 5 wave และมี alternation rule ของ subwave 2 และ 4) ซึ่งการทะยานตัวของราคาดังกล่าว ทำให้เป็นช่วงที่คนส่วนหนึ่งเริ่มรู้จักบิทคอยและเข้าซื้อตาม
Wave 2 จากกราฟจะเห็นว่ามีการเทขายลงมาเหลือราวๆ 15000$ (เทียบ Fibo ราวๆ 78.6) ในปี 22 ปัจจัยแวดล้อมช่วงนั้นก็จะเป็นการทำ Quantitative Tightening จาก Federal reserve และสงครามส่งผลให้คนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง (ในมุมมองของนักลงทุนเวลานั้น) และเกิด Panic sell ระดับใหญ่ ผู้คนที่เคยเข้าซื้อ ออกจากตลาดกันค่อนข้างเยอะ และเริ่มมองภาพลบต่อบิทคอย
Wave 3 นั่นคือช่วงเวลาปัจจุบันนี้ หากลองเทียบ Fibonacci ratio ส่วนมาก wave 3 มักจะราคาพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ wave 1 ราวๆ 123.6%-161.8% หรือบางตำราอาจจะไปถึง 200-300%
ส่วนตัวผู้เขียนประเมินคร่าวๆ ว่าราคาอาจจะไปถึงช่วง ราวๆ 100000-130000$ ก็น่าจะเต็มกลืนแล้ว
ประกอบกับเส้นประสีเขียว ที่แตะเมื่อไหร่มักจะมีการร่วงลงของราคา จึงประเมินว่า Risk ของขาลงเริ่มเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับข่าวสารปัจจุบันที่อาจจะมองบิทคอยในแง่ดี
ทั้งนี้การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เขียนไม่ประสงค์ชี้แนะแนวทางการลงทุนใดๆ การลงทุนของผู้ลงทุนควรจะต้องเกิดจากความเข้าใจในตัวสินทรัพย์นั้นๆ และเหตุการณ์เศรษฐกิจโลก รวมถึงมีการประเมินความเสี่ยงอย่างครบถ้วน สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีในโลกของการลงทุนครับ ขอบคุณครับ
DEC 08, 2024. LANNA
LANNA : นานๆเข้ามาดูธุรกิจถ่านหิน แม้การผลิตไฟฟ้าเปลี่ยนไปมาก แต่ก็เห็นความต้องการถ่านหินมีอยู่ ในบางช่วงเวลา กราฟราคาดูน่าสนใจ การเลือกทาง และ จุดเข้าสำคัญเสมอ เก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจครับ ใครเฝ้าก็ ดูกราฟราครไปด้วยกันนะครับ จังหวะสำคัญเสมอ…
ผลิตและจำหน่ายถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ
1. ธุรกิจถ่านหินในประเทศ : นำเข้าถ่านหินจากเหมืองร่วมทุน และ จากแหล่งอื่นในประเทศอินโดนีเซียมาจำหน่าย
2. ธุรกิจถ่านหินในต่างประเทศ : เข้าไปร่วมลงทุนทำเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย โดย นำเข้าถ่านหินจากเหมืองร่วมทุนมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศ และ ส่งไปจำหน่ายยังประเทศอื่น ในแถบภูมิภาคเอเชีย
DEC 08, 2024. NYTNYT : เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ เผอิญเข้าหาข้อมูลช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเลยเก็บมาส่องการเคลื่อนไหวของราคากับหาข้อมูลธุรกิจนี้ น่าสนใจเลยเอามาเก็บไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง ออผมยังไม่ได้เก็บนะครับแค่เอาไว้เป็นข้อมูล เพราะยังมองภาพรวมธุรกิจนี้ไม่ออก กำไร หนี้ ระยะเวลาประมูล สัมปทาน ยังไม่มีข้อมูลเลยยังไม่ลงทุน แค่เฝ้าดูก่อน ช่วงนี้
บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ เพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) และ สินค้าทั่วไป ที่ท่าเทียบเรือ A5 ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือที่มีปริมาณการส่งออกรถยนต์มากที่สุดในประเทศไทย
ใน 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณร้อยละ 80 ของจำนวนรถยนต์ที่ส่งออกทั้งหมดของประเทศไทย ลักษณะการให้บริการแบ่งเป็น 3 ประเภท
1) การให้บริการท่าเทียบเรือ
2) การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้าและเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก
3) การให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก
DEC 08, 2024. BABA : ช่วง COVID 19 เป็นช่วงที่สนใจ และ เข้าถือ BA ช่วงนึง วันนี้กลับมาดูกราฟ ก็มีโอกาสทำ all time height เหมือนกันนะ ถ้ายังปรับฐานไปเรื่อยๆแบบนี้ เก็บไว้เป็น reference ครับสำหรับผม ตอนนี้นึกไม่ออกแล้วว่าที่ขายออกเพราะอะไร ช่วงนั้นไม่ได้บันทึกการเทรดจริงจังอะไร เพราะเพิ่งเข้าตลาดมาใหม่ ๆ ทุกอย่างยังต้องเรียนรู้ครับ ยังจดจำคำนึงได้เสมอ “รักษาเงินต้นให้ได้ ก่อนที่จะทำกำไร…” เรียนรู้ไปด้วยกันครับ