Stock Analysis - NVDA (Nvidia)ที่สนใจหุ้นตัวนี้มี 2 ปัจจัยคือ
1. ปัจจัยทางพื้นฐาน : เราจะเห็นจาก indicator EPS ด้านล่างได้ว่ามีการเติบโตอย่างสม่ำๆ และ PE ปัจจุบันเมื่อเทียบกับอดีตของมันเองอยู่ในโซนต่ำ ทำให้มองว่า Upside ทางราคาหากคาดการณ์ Fair Price ด้วย PE กับ EPS
2. ปัจจัยทางเทคนิคกราฟ : ราคาจากกราฟนั้นในภาพ Week ราคาได้มี Throw back ลงมาที่แนวต้านในอดีตที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นโซนแนวรับ และราคาก็ออกข้าง ในส่วนของภาพที่เล็กลงมา TF-Day นั้นปัจจุบันราคาก็อยู่ในโซนของ Lower Band ด้วยหากนำ Bollinger Band มาช่วยสังเกตุ
โดยมีการคาดหวังราคาเป้าหมายอยู่ที่แนวจากปัจจัยพื้นฐานจากการประเมินว่าหาก EPS ในครั้งถัดไปโตขึ้นมาอีก 10 / 15% และ PE ขึ้นมาที่ 61 / 66 นั้นจะมีเป้าหมายราคาตามแนวที่อยู่ในกราฟ แต่หากนำเป้าหมายทางเทคนิคจากการตี Fibonacci มาประกอบด้วยจะมีแนวที่ทับซ้อนกันที่ระดับราคา 170-172 และ 186-190
รูปแบบชาร์ต
BTC break flagพร้อม PA Morning starในTFDayBTCมีแรงซื้อเข้ามาเยอะ จนสามารถ
1.เบรค 2้ highย้อย ในTF h4
2.เบรคflag pattern
3.พร้อม price action Morning starในTFDay
4.ถ้าออกไปดูTF Dayอีกจะเห็นCCi ทำ Hidden Divergance สัญญานของขาขึ้นด้วยครับ
5.เทรนก็ยังเป็นเทรนขาขึ้นแบบSide way up
จริงๆน่าซื้อทั้งZoneที่กางFibไว้ให้เลยครับเพราะTrend มันแรง แต่ใครสายสวนแล้วค่อยรับย่อก็sellลงมาสัก99000แบบปลอดภัยๆ แล้วค่อยหาเก็บbuyแถวๆ 50-61.8 หรือประมาณราคา 97000-98000 Sl หรือ hedge ใต้Lowได้เลย
Swing High Up trand strategy // Swing Low Short put ATMETH เป็นเทรนด์ขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ราคาสูงสุดของ Swing high ในรอบนี้อยู่ที่ราคา ประมาณ 4085 และราคา Swing low รอบนี้อยู่ที่ราคา 3520 เมื่อวันที่ 11 /12 ราคาได้กลับตัวเป็น swing high โดยมีเป้าราคา อยู่สองเป้า 1 คือต้านเดิมที่ราคา 4085 และเป้าสองที่ราคา ประมาณ 4600
กลยุทธ์ที่เหมาะกับสภาวะตลาดช่วงนี้ UP Trand strategy
- Cover call
- Bull call Spread
- Protective put
- collar
- อื่นๆ
เพจ option society
Gold Market Outlook [12 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📈 ราคาทองพุ่งแรงหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นไปตามคาด หนุนความหวังเฟดลดดอกเบี้ย
💹 บทวิเคราะห์ตลาดทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพุธ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้ามีเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินต่อไป
📊 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
• โอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 96% จากเดิม 86% ก่อนการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ
🌍 สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงดำเนินต่อเนื่อง โดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย ซึ่งปัจจัยนี้ยังคงหนุนให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
📈 วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 2725 ในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีการย่อตัวลง คาดว่าระหว่างวันอาจมีการปรับฐานเล็กน้อย นักลงทุนควรรอจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับสำคัญ หรือรอสัญญาณที่ชัดเจนก่อนเข้าสะสม
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:35)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish
🔼 แนวต้าน 3: $2,730
🔼 แนวต้าน 2: $2,725
🔼 แนวต้าน 1: $2,715
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,705
🔽 แนวรับ 2: $2,699
🔽 แนวรับ 3: $2,692
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
MSFT ลุ้นทดสอบแนวต้าน 465 หากไม่หลุดแนวรับMSFT ลุ้นทดสอบแนวต้าน 465 หากไม่หลุดแนวรับ 440
แต่ถ้าหากหลุด 440 ไปรอดูแถวบริเวณ 430 มีโอกาสเด้ง 1 รอบ
และ ถ้าหากเบรกแนวต้าน 446-450 และยืนได้ มองขึ้นต่อ โดยมีต้านแรก 465
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
TSLA ปรับตัวขึ้นต่อ
TSLA ปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านทำกำไรที่ 440
และถ้าหากย่อมาบริเวณ 377 กับ 360 ก็ยังดูน่าสนใจสะสม
วางคัทหากหลุด 360
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
NDX กำลังลงมาทดสอบแนวรับสำคัญNDX กำลังลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ บริเวณ 21152 และ 21000 ซึ่งมีโอกาสดีดแรงๆได้ 1 ที
โดยจะมีเป้าแนวต้านคือ 21635 และ 21950 กับ 22410 โดยประมาณ
วางคัทหากหลุดแนว 21000
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
DELTA อยู่ในกรอบ trading rangeDELTA อยู่ในกรอบ trading range
และมีแนวรับหากหลุดกรอบสีเหลือง คือ บริเวณ 143 ถ้าลงมาทดสอบแล้วไม่หลุด มีโอกาสเด้งได้ 1 ที
หรือ ถ้าหลุด 143 จะไหลลงไปด้านล่าง
กลับกันหากเบรกกรอบสีเหลืองขึ้นไปได้ ลุ้นทดสอบแนวต้านด้านบนคือ 174
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
SET สัปดาห์หน้าหลัง 15 ธันวาคม รอเลือกทางSET ปัจจุบัน ติดแนวรับสำคัญมากคือ 1444
หากภายในสัปดาห์นี้ 11-13 ธันวาคม 2567 ไม่สามารถปิดยืนเหนือ 1444 ได้
มีโอกาสไหลลงมาปิด gap 1442-1436 และ ถ้าหากปิดแก็ปแล้ว ไม่สามารถขึ้นต่อ ลงหลุด 1436
ระมัดระวังการลงไปทดสอบแนวรับ 1422 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญอีกแนวนึงที่ไม่ควรหลุด
เพราะถ้าหลุดสามารถลงได้อีก 20-30 จุดโดยประมาณ ก็จะตรงกับแถว 1406-1400 ประมาณนี้
และถ้าหลุด 1400 จะมีแนวรับสำคัญอีกทีเลยคือ 1370
กลับกัน หากลงมาปิด gap 1442-1436 แล้วเด้งแรงๆทีนึง มีโอกาส กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1457 1470 และ 1485 ตามลำดับ
อาจจะเกิดการ sideway down ค่อยๆลงมาปิด gap ที่เปิดไว้อยู่ จนถึงวันที่ 16-17 ธันวาคม 2567
เพราะจากสถิติ 5 ปีที่ผ่านมา หลังวันที่ 15 ธันวาคม SET มักจะเลือกทางแรงๆ
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ HSI Futures เกิดสัญญาณ TD Sell #13เมื่อ **HSI Futures** (ดัชนีล่วงหน้า Hang Seng Index) นับ TD Sell Countdown ถึง #13 ตามระบบ **TD Sequential** ของ Tom DeMark หมายความว่า:
1. **สัญญาณกลับตัว (Reversal Signal)**
การนับ TD Sell Countdown ถึง #13 เป็นการบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังจะหมดแรง และอาจเกิดการกลับตัวลง (Bearish Reversal) หรืออย่างน้อยจะมีการปรับฐาน (Correction)
2. **จุดสูงสุด (Potential Exhaustion)**
การเกิด #13 แสดงว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะ "แรงซื้อหมด" หรือ "Exhaustion Phase" หลังจากที่ราคาเคลื่อนที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามเงื่อนไขของระบบ TD Sequential
3. **การวิเคราะห์เพิ่มเติม**
- **แนวต้านสำคัญ (Resistance)**: ตรวจสอบว่ามีการชนแนวต้านหรือระดับสำคัญในกราฟ เช่น Fibonacci Retracement, Moving Average, หรือเส้นแนวโน้ม
- **พฤติกรรมราคาหลังจากนี้**: อาจมีการพักตัวหรือปรับฐาน ก่อนที่จะเข้าสู่แนวโน้มใหม่
- **ยืนยันสัญญาณ (Confirmation)**: หากต้องการเพิ่มความแม่นยำ อาจใช้สัญญาณยืนยันเพิ่มเติม เช่นการเกิด Bearish Divergence ใน RSI หรือการตัดลงของ MACD
### การจัดการการเทรด:
1. **ระมัดระวังการซื้อเพิ่ม**
หากคุณถือสถานะ Long ควรพิจารณาการทำกำไร (Take Profit) หรือวาง Stop Loss ไว้ให้รัดกุม
2. **มองหาโอกาส Short**
หากมีสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มกำลังเปลี่ยนเป็นขาลง อาจมองหาจังหวะเปิดสถานะ Short ในช่วง Pullback
3. **ตรวจสอบบริบทตลาด**
ดูแนวโน้มตลาดโดยรวมและปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อ HSI Futures
การนับ #13 ใน TD Sell Countdown เป็นสัญญาณที่ต้องระวัง แต่ยังควรพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วยเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำที่สุดในสถานการณ์ของตลาดเฉพาะหน้า!
ทองคำ Swing Buy รอบกลางทองคำ Swing Buy รอบกลาง
ทองคำ XAUUSD ได้ทำการเบรคโซน FVG และ OB
รวมทั้งเส้นกดเส้นกด Trend Line เป็นที่เรียบร้อย
แผนย่อ Buy ทดสอบแนวต้านที่เบรคขึ้นมา
บริเวณ 2675 - 2680
โดยมีเป้าหมายราคาที่ Fibonacci 261.8 ที่ราคา 2750
จุด Stop Loss หรือจุดเปลี่ยนมุมมองจากขึ้นเป็นลง บริเวณแนวรับ 2660
DEC 11, 2024. : AGEAGE : รู้สึกว่า กลุ่มค้าขายถ่านหิน ลงมาเยอะ ทีเดียวห้วงเวลานี้ นี่ก็เป็นอีกบริษัทที่สนใจเก็บมาดู เป็น list ส่วนตัวครับ
ข้อมูลเบื้องต้นใน Settrade
: ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทางบกโดยรถบรรทุกและทางน้ำโดยเรือลำเลียง
ก็ยังอยากบอกครับ การลงทุนมีความเสี่ยง รักษาเงินต้นให้ดี หัวใจสำคัญ จังหวะการลงทุนที่ดี margin of safety ในการเข้าลงทุน ระยะที่ต้องการถือ หรือ ครอบครอง เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ลงทุนด้วย
ผลตอบแทนที่คาดหวัง ทุกอย่างต้อง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ แล้วตัดสินใจ ถ้ายังไม่รู้ก็เก็บเงินไว้ไม่ต้องรีบ โชคดีครับเรียนรู้ไปด้วยกัน สนุกกับกราฟนะครับ ถ้ามีประโยชน์ก็ดีใจด้วยครับ
XAUUSDมาวิเคราะห์โครงสร้างราคาตอนนี้ให้นะครับ ราคาเดินทางมาถึงเป้าแรกของ TF H4 และ Day แล้วใครรันมาจะแบ่งปิดหรือปิดทำกำไรก็ทั้งหมดก็ทำได้เลย โดยตอนนี้มองว่าใกล้ถึงรอบพักตัวใน H4 แล้ว แต่ผมเตือนไว้ก่อนเลยว่าอย่าหา Sell !! เพราะยังไม่มีคลื่นยืดเลยแปลว่าการขึ้น 5 อาจจะเป็นคลื่นยืดได้คือไหลได้ไกลกว่าคลื่นอื่นๆ Buy ยังคงได้เปรียบนะครับ
มาพูดถึงเรื่องหากพักตัวจริงจะรอ Buy แถวไหนได้บ้าง ก็จะมีสองแบบคือ ยืนฐานคลื่น 4 กับหลุดฐานคลื่น 4 นิดนึงแล้วเด้ง แต่เงื่อนไขสำคัญคือต้องทำคลื่นพักตัวจบก่อนอย่างน้อยๆต้องมี ABC จะต่อ D ก็ได้แต่อย่างน้อยต้อง C ใครมีพื้นฐานนับคลื่นน่าจะเข้าใจ
ใครไม่มีพื้นฐานการนับคลื่นก็รอผมลงแผนนะครับจะมีโซนให้เข้า
**ไม่ได้มองว่าจะลง แค่มองว่ามีโอกาศผันผวนในสองวันนี้เพราะมีทั้ง CPI และ PPI และเทคนิคคอลเป็นจุดที่ควรรอแล้ว**
**แท่ง Day เขียวมาก**
Gold Market Outlook [11 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองคำพุ่งทะลุ 2,700$ นักลงทุนจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ-คาดเฟดเตรียมลดดอกเบี้ย
💭 บทวิเคราะห์ตลาดทองคำ
ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคารนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้
🌍 ปัจจัยระดับโลก
สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ กระแสการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลกยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ โดยคาดว่าธนาคารกลางสำคัญหลายแห่ง ทั้งแคนาดา ยุโรป และสวิตเซอร์แลนด์ จะทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
📊 ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตลาดให้น้ำหนักกับการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพฤศจิกายม ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จะมีการประกาศในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้
🇨🇳 ปัจจัยจากจีน
รัฐบาลจีนประกาศแนวทางนโยบายการเงินแบบ "ผ่อนคลายอย่างเหมาะสม" พร้อมเดินหน้านโยบายการคลังเชิงรุกในปี 2568 ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ความต้องการทองคำเพื่อเป็นของขวัญมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
📈 บทวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในทิศทางบวกอย่างชัดเจน หลังจากเบรกผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,700$ ได้สำเร็จ โมเมนตัมเชิงบวกนี้มีโอกาสผลักดันให้ราคาทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,715-2,720$ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบสองสัปดาห์
💡 กลยุทธ์การเทรด
แนะนำให้นักลงทุนมองหาจังหวะ "ดักซื้อ" โดยรอให้ราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับก่อนเข้าสะสม เพื่อให้ได้จุดเข้าซื้อที่มีความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยสามารถตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ใต้แนวรับสำคัญที่ 2,675$
📊 แนวรับ-แนวต้าน (08:15)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish
🔼 แนวต้าน 3: $2,710
🔼 แนวต้าน 2: $2,705
🔼 แนวต้าน 1: $2,700
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,692
🔽 แนวรับ 2: $2,685
🔽 แนวรับ 3: $2,675
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
XAUUSDวันนี้มาวิเคราะห์แนวโน้มกันต่อนะครับ ตอนนี้มองว่ากำลังขึ้นคลื่น 3 ใน TF H1 และมองว่ายังขึ้นไม่จบด้วย จะมีสองอย่างคือออกขวาแล้วขึ้นต่อกับไหลขึ้นต่อไปเลื่อยๆ อย่างน้อยๆก็ต้องแตะ Fibo 261.80% ก่อนนะครับเพราะฉนั้นใครที่ได้ออเดอร์จากแผนวันศุกร์และวันจันทร์ก็ยังถือต่อได้เพราะราคาอยู่ต่ำกว่าจุดโครงสร้างที่จะย่อมาถึงในกรณีที่คลื่น 3 ไม่ใช่คลื่นขยาย(ไม่ยาวที่สุด)ก็มองว่าย่อมาแค่โซน Demand & Support ที่ทำไว้ให้และขึ้นไปคลื่น 5 ต่อ ส่วนใครที่ปิดไม้ไปแล้วให้มองหาจุด SL ของคนทั้วไปเสมอรอเค้ากวาดก่อนค่อยพิจารณากดออเดอร์
**Fibo 161.8% เป็นของ TF Day และ Fibo ย่อยที่เหลือเป็นของ H1 ใช้ประกอบการพิจารณาเก็บกำไรนะครับ**
**โมเมนตั้มฝั่ง Buy ได้เปรียบ Demand แข็งแรง Supply อ่อนแอรอเทรดแค่ออเดอร์ Buy นะครับไม่ Sell ขอให้เป็นวันที่ดีครับ**
วิธีเทรด DW ตามแนวทาง "ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future"วิธีเทรด DW ตามแนวทาง "ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future"
ต้องบอกว่า DW นี่ใช้ความรู้เทคนิคอลเป็นหลัก และควรมีความเข้าใจหลักการของสินค้าประเภทออปชั่นเบื้องต้นจะทำให้เทรดได้ดีขึ้นครับ
อย่างแรกคำศัพท์ที่ต้องทราบ ขออธิบายแบบบ้านๆ
1. Effective Gearing หรือ อัตราทด ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งดีครับ ตามหลักฟิสิกส์ออกแรงน้อยได้งานมาก นึกถึงฟันเฟืองน่ะครับ หมุนรอบตัวเล็ก ตัวใหญ่ขยับ
2. Sensitivity ความไว หรือ ความเร็วในการขึ้น/ลง ของ DW โดยอ้างอิงตัวแม่นั่นเอง ยิ่งมากยิ่งดี 0.7-1.00+ โดยประมาณ
แต่หากต่ำกว่านั้น ก็สามารถเทรดได้ โดยดูความสมดุลภาพรวมจากค่าอื่นๆประกอบ
3. Time Decay เนื่องจาก DW มันเป็นสินค้าที่ใช้หลักการ
ของออปชั่น มันเลยมี Time Value เข้ามาเกี่ยว
ขออธิบายด้วยภาษาชาวบ้าน เหมือนคุณขายข้าวมันไก่ ซื้อไก่มาต้มขาย ก็ต้องขายให้ได้ภายในระยะเวลาช่วงนึง ไม่เช่นนั้นมันก็จะบูดเน่าเสียไป ความอร่อยหรือมูลค่าก็ลดลงไปตามเวลา จนสุดท้ายหมดอายุ คือกินไม่ได้ ต้องทิ้ง ไม่เหลือคุณค่าอันใดอีกแล้ว
4. Last Trading Day วันซื้อขายสุดท้ายครับ ยิ่งเข้าใกล้เส้นตายหากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยิ่งร้อนใจ ดังนั้นเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนหมดอายุครับ
อย่างออปชั่นนี่เวลาผมเทรด ผมมองยาว 3 เดือน คือ ภาพใหญ่จนจบซีรี่ส์นั้นๆ
5. สภาพคล่อง + ผู้ออก DW ที่เชื่อถือได้ อันนี้ก็ต้องลองคบค้าสมาคมกับเค้าดูครับ สมัครไปนั่งฟังของแต่ล่ะโบรกว่าเค้ามีอะไรนำเสนอ เวลามีปัญหา แก้ไขให้เราไหม
มาถึงส่วนที่เป็นเทคนิคอล
คนส่วนมากมักจะถูกสอนให้ไล่ซื้อ Break Out
ไล่ Call ตาม Break High และ ไล่ Put ตาม Break Low
นักเก็งกำไร 95% ในตลาด ใช้วิธีการวิ่งไล่ครับ หรือคำศัพท์เท่ห์ๆ คือ การ Follow Buy
โดยสภาพตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน การเคลื่อนที่เป็น Sideway เกินกว่า 80% ครับ ดังนั้น "การวิ่งไล่" ที่นิยมทำกัน จึงใช้การดู Bid-Offer ดู Ticker เป็นหลักด้วยลักษณะแบบนี้ทำให้ต้องกินคำเล็กครับ เพราะมันเห็นภาพระยะสั้น พูดง่ายๆ คือ ไล่ Call ตอนมันวิ่งขึ้น ไล่ Put ตอนมันวิ่งลง ผิดทางต้องรีบหนี
แต่นั่นล่ะ Cut Loss มันก็เหมือน "ลดความอ้วน" ทุกคนรู้แต่ไม่ทำ มิหนำซ้ำยังใช้วิธีการอมไว้ & ซื้อถัว เพิ่มสถานะผิดทางเข้าไปอีก ทั้งๆที่ DW คือสินค้าที่มีการบูดเน่าหมดอายุเหลือศูนย์ได้
สรุปว่า ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future จะไม่ใช้วิธีนี้ครับ
เราจะใช้หลักการ "Sell The Strength & Buy The Weakness" ซื้อเมื่อมันพักตัว ทยอยแจกจ่ายตอนคนไล่ตาม
ช่วงพักตัวขาขึ้นไม่ว่า HSI, SET 50 หรือ หุ้นรายตัว ที่นิยมเทรด DW กันจะเป็นสีแดงแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ใช้วิธีวิ่งไล่ เมื่อเห็นสีแดงก็ใส่ Put เข้าไว้ เห็นสีเขียว ก็อัด Call เต็มที่
เราจะทำกลับกันอย่างมีหลักการดังนี้
1. อ่านแนวโน้มหลักก่อน "แดงในเขียวใหญ่ สุดท้ายคือเขียว"
นั่นคือ Call เมื่อตลาดพักตัวในแนวโน้มขึ้น จะเห็นว่าเรา ซื้อ/Call กันในกรอบสะสมพลัง และปล่อยของเมื่อมันระเบิดขึ้นเปลี่ยนกรอบ
2. ในทางตรงกันข้าม "เขียวในแดงใหญ่ สุดท้ายคือแดง" เราจะ Put ในจังหวะ Rebound ของแนวโน้มขาลงครับ ตอนนั้นมันจะเขียว คนส่วนใหญ่ไล่ Call แต่เราทราบว่ามันเขียวไม่นาน เดี๋ยวก็ลงไปตามแนวโน้มเดิม เราจึงทำสวนทางในจังหวะนั้น
3. หากทำสำเร็จ จะได้ผลกำไรอย่างต่ำ 10% แต่โดยทั่วไปแล้วจะมากกว่านั้นครับ
ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างต้องมองหาโอกาสในจังหวะที่ตลาดคลุมเครือครับ
อะไรที่ใครๆก็เห็นแล้ว โอกาสดีๆ ก็หายไปแล้วเสมอ
หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนนะครับ
Gold Market Outlook [10 ธันวาคม 2567]🌟 Gold Market Outlook
📈 ทองพุ่งแรงหลังจีนกลับมาซื้อ-เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
ทองคำพุ่งทะยานในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) 🚀 แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังได้แรงหนุนสำคัญจากการกลับมาซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน ภายหลังจากเว้นวรรคไป 6 เดือน ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า 💫
นักวิเคราะห์ชั้นนำระบุว่า "ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการที่ธนาคารกลางจีนรายงานการกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง ตลาดเริ่มมีความหวังว่าธนาคารกลางทั่วโลกอาจทยอยเข้าซื้อตาม และเราอาจได้เห็นการซื้อทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์" 📊
การกลับมาของจีนครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในปี 2566 จีนครองตำแหน่งผู้ซื้อทองคำภาครัฐรายใหญ่ที่สุดของโลก 🏆 แม้ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะหยุดพักการซื้อที่ดำเนินมา 18 เดือนในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ปัจจัยสนับสนุนการพุ่งขึ้นของราคาทองคำปีนี้มาจากการซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง ประกอบกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍 โดยเฟดได้เริ่มวงจรลดดอกเบี้ยด้วยการปรับลง 0.50% ในเดือนก.ย. ตามด้วย 0.25% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนประเมินโอกาสสูงถึง 86% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุม 17-18 ธ.ค.นี้ ⚡️ ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลางยังคงร้อนระอุ หลังกลุ่มกบฏซีเรียยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ ส่งผลให้ประธานาธิบดีอัสซาดต้องลี้ภัยไปรัสเซีย
ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยนั้น มักปรับตัวขึ้นในช่วงดอกเบี้ยต่ำ และเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในยามที่การเมืองตึงเครียดและเศรษฐกิจผันผวน 📈
ด้านภาพทางเทคนิค ราคาทองคำวันนี้มีแนวต้านสำคัญที่ $2,670 และ $2,675 ซึ่งอาจเป็นจุดพักฐานระหว่างวัน การทำจุดสูงสุดใหม่บ่งชี้ว่ากลยุทธ์การเทรดควรเน้นดัก Buy ตามแนวรับ หากใครพลาดช่วงเช้าอาจต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้หากราคาผ่านแนวต้านสำคัญได้ แนวโน้มขาขึ้นจะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง 💹
📊 แนวรับ-แนวต้าน (09:00)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bullish
🔼 แนวต้าน 3: $2,680
🔼 แนวต้าน 2: $2,675
🔼 แนวต้าน 1: $2,670
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,660
🔽 แนวรับ 2: $2,655
🔽 แนวรับ 3: $2,650
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 🕵️♂️
BTC "เราไม่ได้รวยขึ้นเราแค่รอดBTC ยังมองมุมเดิม จจบคลื่นย่อย1 ของคลื่นW3 โดยsub waveของคลื่นย่อย1 จุดนี้จะมีการย่อตัวของคลื่นW3 เพื่อทำsub waveของคลื่นย่อย2 ส่วนตัวมองเห็นการทำStrong B ; Running flat ที่ราคาทะลุไปหัวsub waveของคลื่นย่อย1 วัดfib ได้ที่138.2%พอดี ทั้งนี้ยังมองว่าใช้เวลาน้อยไป ในการจบคลื่นย่อย2 พิจารณาไม่ควรลงต่ำกว่าA ที่ราคา90800 หากหลุดแนวรับที่ราคานี้ถือว่าการพิจารณาคลื่นย่อยผิด แต่แนวโน้มภาพใหญยังไปได้อีกไกล เพราะจากการวิเคราห์ความยาวของช่วงคลื่น "คลื่นW3จะไม่มีทางสั้นที่สุดเสมอ."
XAUUSD ทดสอบ SUPPLY ZONE ที่ 2666 จะเกิดอะไรขึ้นจากภาพ โอกาสที่จะผ่าน SUPPLY ZONE 2666 ขึ้นไปหากรอบ 2680-2686 ยังมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
แน่นอน! Demand Zone และ Supply Zone เป็นแนวคิดสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) สำหรับการเทรด โดยเฉพาะในตลาดที่มีการซื้อขาย เช่น Forex, หุ้น หรือ Cryptocurrency ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนมักให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์
---
### **1. Demand Zone (โซนความต้องการ)**
**Demand Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีความต้องการซื้อ (Buy Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาลดลงไปต่ำ และมีการเด้งกลับขึ้นมา (Reversal) หรือบริเวณที่ราคาสามารถพักตัว (Consolidation) ก่อนที่จะเริ่มวิ่งขึ้นต่อได้
#### **ลักษณะของ Demand Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวรับ (Support Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาถูก" หรืออยู่ในระดับที่น่าซื้อ
- เกิดแรงซื้อที่เข้ามามากพอจะดันราคาขึ้น
- บริเวณนี้อาจมีลักษณะของแท่งเทียนที่เกิดขึ้น เช่น "Pin Bar," "Hammer," หรือ "Bullish Engulfing"
#### **วิธีการหา Demand Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาเด้งขึ้นแรงหลังจากลดลง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัว
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **2. Supply Zone (โซนความอุปทาน)**
**Supply Zone** คือบริเวณบนกราฟที่มีแรงขาย (Sell Orders) สูง มักจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราคาขึ้นไปสูงและมีการกลับตัวลงมา หรือบริเวณที่ราคาพักตัวก่อนจะลงต่อ
#### **ลักษณะของ Supply Zone**
- อยู่ในบริเวณแนวต้าน (Resistance Zone)
- เป็นจุดที่นักลงทุนมองว่า "ราคาแพง" หรืออยู่ในระดับที่น่าขาย
- เกิดแรงขายที่มากพอจะกดดันราคาลง
- แท่งเทียนที่เกิดในบริเวณนี้อาจเป็น "Shooting Star," "Bearish Engulfing," หรือ "Doji"
#### **วิธีการหา Supply Zone**
1. มองหาบริเวณที่ราคาลดลงแรงหลังจากขึ้นไปแตะระดับสูง
2. วาดโซนจากช่วงแท่งเทียนที่ราคาเริ่มกลับตัวลง
3. ดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้นบริเวณนี้
---
### **การใช้งาน Demand และ Supply Zone**
1. **การตั้งค่าเข้าเทรด (Entry Point)**
- เข้า **Buy** เมื่อราคาลงมาสัมผัส Demand Zone และมีสัญญาณกลับตัว
- เข้า **Sell** เมื่อราคาขึ้นไปแตะ Supply Zone และมีสัญญาณกลับตัว
2. **การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)**
- ตั้ง Stop Loss ใต้ Demand Zone เมื่อเปิดสถานะ Buy
- ตั้ง Stop Loss เหนือ Supply Zone เมื่อเปิดสถานะ Sell
3. **การตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit)**
- ใช้โซนตรงข้ามเป็นเป้าหมาย เช่น ถ้าเข้า Buy ที่ Demand Zone ก็อาจตั้งเป้าขายที่ Supply Zone
4. **การยืนยันโซน (Zone Confirmation)**
- ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Moving Average, RSI, หรือ Fibonacci ร่วมด้วยเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของโซน
---
### **ข้อควรระวัง**
- **ไม่ใช่ทุก Demand หรือ Supply Zone จะทำงานได้เสมอ**: อาจมีบางครั้งที่ราคาทะลุโซนไป (Breakout) โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
- **ตรวจสอบประวัติราคา**: โซนที่ได้รับการทดสอบหลายครั้งมักมีความแข็งแกร่งน้อยลง เนื่องจากออเดอร์ในบริเวณนั้นเริ่มหมดไป
- **หลีกเลี่ยงข่าวสำคัญ**: ข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญสามารถทำให้ Demand และ Supply Zone ล้มเหลวได้
---
การเข้าใจ Demand และ Supply Zone ช่วยให้นักลงทุนสามารถหาจุดเข้าและออกที่มีความน่าจะเป็นสูง และลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากฝึกฝนและใช้งานอย่างเหมาะสม จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในกลยุทธ์การเทรดของคุณ!