วิเคราะห์ภาพรวม บิทคอยน์ ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2564การปิดแท่งสัปดาห์ที่แล้ว บ่งบอกให้เห็นถึงโมเมนตัมในฝั่งของแรงขายในภาพรวมระยะสั้น แต่สัดส่วนการปรับตัวลงมายังไม่น่าเป็นกังวลมากนัก
รวมถึงราคายังคงพักตัวอยู่ตรงบริเวณโซนแนวรับ ซึ่งทำให้มีลุ้นเป็นเพียงการพักตัวในระยะสั้นเพื่อปรับฐานและกลับขึ้นไปต่อได้อยู่
มุมมองวันนี้จะเป็นอย่างไรเข้ามาฟังได้เลยครับ
บิทคอยน์ (สกุลเงินดิจิตอล)
ยังไม่จบ Wave Bเนื่องจากไม่สามารถทะลุผ่าน Support ลงมาได้และสามารบวกทะลุผ่าน Resistant 1 ที่วางไว้ขึ้นไป ทำให้คิดว่า Wave B ยังไม่จบ
Forecast
การขึ้นครั้งนี้คิดว่าจะสามารถทะลุ Resistant 2 และอยู่ระหว่าง 76.4-100% ของกล่อง Fibonacci ที่วางไว้ หรืออาจทำจะ ATH ก่อนลงมา Wave C
Trend-Base Fibonacci Time (Ref. Yellow Dotted line)
1.382 - 6 Oct 2021
1.618 - 25 Oct 2021
Stoploss - 40000
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
Best Regard
Trader Lv. 1
Bitcoin ชะลอตัวลงรอบแนวต้านที่สำคัญด้วยการย้อนรอย 0.786BTC /USD ได้ถือครองมาระยะหนึ่งแล้วที่ประมาณ 57,000 USD
การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มแสดงสัญญาณของความเฉื่อยชาและการชะลอตัว ซึ่งมักจะทำให้นักลงทุนตื่นตัว
การไล่ล่าราคาในที่นี้ไม่มีการคำนึงถึงตำแหน่งซื้อ/ระยะยาว นั่นคือไม่ใช่ "ระยะสัั้น" ของความประมาท หรือเรียกอีกอย่างว่า ตั้งใจ
Bitcoin ชอบการพลิกผัน GREEN D1 20 EMA ( ค่าเฉลี่ยราคาความเคลื่อนไหวของตัวเลขชี้กำลัง ) ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโครงสร้างตลาด - เมื่อใดก็ตามที่อยู่ด้านบน ก็จะกลายเป็นแนวรับ และแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นตราบใดที่การทดสอบซ้ำไม่ปิดด้านล่าง ในทางกลับกัน การขาดทุน D1 20 EMA มักเป็นอุปสรรคคือการขายต่อไปยัง MA หลักตัวอื่น เช่น 50, 100 หรือ 200
นั่นคือสิ่งที่เรากำลังรอคอย การดึงกลับไปสู่ระดับแนวรับที่สำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง 45,000 USD ถึง 51,000 USD การผสมผสานของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สำคัญและการบรรจบกันของระดับ fib จะวางโซนเหล่านี้ดังต่อไปนี้
การสนับสนุนภายใน: 51,000
สนับสนุนครั้งสำคัญครั้งที่ 1: 48,000
สนับสนุนครั้งสำคัญครั้งที่ 2: 45,000
จากตรงนั้น นักวิเคราะห์ของเราจะสังเกตเห็นวิธีการที่ BTC /USD รอบระดับ fib pivot หลัก และการเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยเพื่อกำหนดว่าสามารถกดให้แรงกดดันด้านการขายต่ำกว่านี้ได้หรือไม่ หากระดับแนวรับหลักทั้งหมดสลายลง BTC /USD อาจกลับมาที่ระดับย่อยอีกครั้ง นั่นคือ 30,000 USD
ในขณะนี้ โครงสร้างมหภาคของ Bitcoin กำลังอยู่ในขาขึ้น แต่จำเป็นต้องดึงกลับในระยะสัั้น การปิดการขายรอบโซนใด ๆ ที่กล่าวข้างต้นนั้น ตลาดขาขึ้นจะต้องมีส่วนร่วมอย่างหนัก ซึ่งเป็นการยืนยันที่จำเป็นในการซื้อการดึงกลับ และการพลิกกลับในระยะยาวที่กำลังจะมาถึง
ความคิดเห็น ข่าวสาร งานวิจัย การวิเคราะห์ ราคา ข้อมูลอื่น ๆ หรือลิงค์ที่ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามใด ๆ ที่มีอยู่บนเว็บไซต์นี้ ได้ถูกจัดทำขึ้นตาม "ที่เป็น" ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อการให้เข้ามูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้คำปรึกษา หรือการแนะนำ ไม่ถือเป็นงานวิจัย หรือบันทึกราคาการซื้อขายของเรา หรือข้อเสนอของ หรือข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับการทำธุรรรมในตราสารทางการเงินใด ๆ และถือว่าไม่ควรรับการปฏิบัติเช่นนั้น ข้อมูลที่ได้ให้ไว้ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน และความจำเป็นที่เฉพาะของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจได้รับข้อมูลเหล่านี้ โปรดตระหนักว่า การดำเนินงานในอดีตไม่ถือเป็นตัวชี้วััดที่น่าเชื่อถือของการดำเนินงาน และ/หรือผลลัพธ์ในอนาคต การดำเนินงานในอดีต หรือสถานการณ์ที่มีการคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งเกิดขึ้นตามความเชื่อที่สมเหตุสมผลของผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สามนั้น ไม่ถือว่าเป็นการรับประกันการดำเนินงานในอนาคต ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจมีเนื้อหาที่แตกต่างจากการคาดการณ์ล่วงหน้า หรือการอ้างอิงถึงการดำเนินงานในอดีต easyMarkets ไม่มีตัวแทน หรือการรับประกัน และไม่ต้องรับผิดต่อความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของเนื้อหาที่ได้ระบุไว้ หรือต่อความสูญเสียที่เกิดจากการลงทุนใด ๆ ที่มาจากคำแนะนำ การคาดการณ์ หรือจากเนื้อหาใด ๆ ที่มาจากบุคคลที่สาม
มาร่วมกับพวกเราวันนี้ ที่ : www.easymarkets.com
BITCOIN ทะลุ 61,000 ไปแล้ว เฝ้าติดตามดูเหมือนว่าราคา Bitcoin นั้นจะพุ่งทะลุระดับ 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน อ้างอิงข้อมูลจากเว็บเทรด Bitstamp การพุ่งขึ้นของราคาในวันนี้ ทำให้เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกอยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียงแค่ 7% เท่านั้นจากระดับ 64,804 ดอลลาร์ ของเมื่อวันที่ 14 เมษายน ในขณะเดียวกันมูลค่าตลาดของ Bitcoin ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ การพุ่งขึ้นของราคาล่าสุดนี้เกิดขึ้น หลังจากสื่อข่าวระดับ Bloomberg ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีท่าทีต่อต้านกองทุน Bitcoin ETF Future และนั้นหมายความว่ากองทุน Bitcoin ETF แบบ Future ตัวแรกน่าจะเปิดให้เริ่มมีการซื้อขายกันภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าราคานั้นจะพุ่งทำลายจุดสูงสุดเป็นประวัตการณ์ที่เคยทำไว้เมื่อเดือนเมษายนได้หรือไม่ แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้ราคา Bitcoin ของเว็บกระดานเทรดเหรียญคริปโตในไทยพุ่งทะลุ 2 ล้านบาทไปแล้ว
BINANCE:BTCUSDT
บิตคอยน์ร่วงบิตคอยน์ร่วงกว่า 600 ดอลล์ หลังซีอีโอเจพีมอร์แกนระบุบิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ราคาบิตคอยน์ร่วงกว่า 600 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ หลังจากนายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส กล่าวว่า "บิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า"
นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนได้แสดงความเห็นในการประชุมของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เมื่อวานนี้ว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า บิตคอยน์เป็นสิ่งไร้ค่า ผมไม่ต้องการเป็นกระบอกเสียงให้กับบิตคอยน์ และผมไม่สนใจที่ตัวเองคิดต่างจากคนอื่น"
การแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่า นายไดมอนยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อบิทคอยน์ โดยก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวในการประชุม "Delivering Alpha " ซึ่งจัดโดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สกุลเงินบิตคอยน์เป็นเรื่องของการหลอกลวง ไม่ใช่เรื่องจริง และท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องปิดฉากลง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า เจพีมอร์แกนซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ได้จัดตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้าในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
นายไดมอนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ลูกค้าของผมล้วนเป็นผู้ที่มีวัยวุฒิ หากพวกเขาต้องการเข้าซื้อบิตคอยน์ ซึ่งเราไม่สามารถคุ้มครองได้ แต่เราสามารถช่วยให้พวกเขาซื้อขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะทำได้"
การวิเคราะห์ของราคา
ราคาบิทคอยน์ยังคงทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในรอบวันมีการปรับตัวขึ้น +0.20% และอาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นประเด็นนี้อาจจะส่งผลทำให้มีการขยับตัวสูงขึ้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 57,870 แนวต้านที่สองก็คือ 59,450 บาทแนวต้านสุดท้ายก็คือ 60,900
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 56,210 แนวรับที่สองก็คือ 54,740 แนวรับสุดท้ายก็คือ 53,920
Bitcoin ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวล EvergrandeBitcion ปรับตัวลงต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลวิกฤติ Evergrande
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง 16.23% ซึ่งมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลของวิกฤติ Evergrande ซึ่งมีการปรับตัวลงไปพร้อมกันกับดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวร่วงลงและดูเหมือนว่าอาจจะมีการย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าสกุลเงินบิทคอยน์อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นแต่ต้องจับตาดูว่าในส่วนของวิกฤติ Evergrande ที่จำเป็นจะต้องจับตาดูการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนนี้จะมีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ชี้นำคลิปโตครินทร์ซี่และสกุลเงินบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องจึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
โดยสกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวลงถึง -2.07% ในรอบวันและอาจจะมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามถ้ามีการเกิดวิกฤติในครั้งนี้และอาจจะเป็นวิกฤติในระยะสั้นนั้นอาจจะมีการปรับตัวย่อตัวลงอีกครั้งจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงโดยเฉพาะการทะลุผ่าน 42,390 ลงมาแล้วแนวรับที่สองก็คือ 41,674 และแนวรับสุดท้ายก็คือ 40,510
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 43,490 แนวต้านที่สองก็คือ 45,060 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 45,070
BTC พักตัวระยะสั้นสกุลเงินบิทคอยน์ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นตามสกุลเงินคลิปโต
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หลังจากที่สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างหนักโดยปัจจัยหลักยังคงมีความกังวลของ เชื่อไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลอย่างมากส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างเห็นได้ชัดและทำให้ ตลาดคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
การคาดหวังในครั้งนี้?
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามตลาดคลิปโตโดยเฉพาะปัจจัยที่อาจจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาอีกต่อเนื่องอาจจะส่งผลทำให้สกุลเงินคลิปโตมีการฟื้นตัวขึ้นแต่อย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาได้หรือไม่ดังนั้นจับตาดูมาตรการต่างๆในสหรัฐอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
สกุลเงินคลิปโตมีการปรับตัวร่วงลงส่งผลทำให้สกุลเงินบิทคอยน์มีการปรับตัวร่วงลงเช่นเดียวกันดังนั้นในการปรับตัวร่วงลงในหลายวันที่ผ่านมาอาจจะส่งผลทำให้มีแรงหนุนทำให้มีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นอย่างไรก็ดีต้องจับตาดูว่าในการหนุนขึ้นในครั้งนี้อาจจะส่งผลทำให้มีความผันผวนในระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 46,490 ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 47,180 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 47,880
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 45,070 แนวรับที่สองก็คือ 44,580 แนวรับสุดท้ายก็คือ 44,010