XAUUSDวันนี้มีการประกาศตัวเลขจ้างงานนะครับตัวเลขที่ไม่แน่นอนในตารางข่าวก็เรื่องหนึ่งวันนี้มาดูแผนที่เป็นเทคนิคคอลเอาแล้วกัน
1.โดยส่วนตัวมองว่า Hidden Demand ตรงนี้มีนัยยะนะครับในกรณีราคาไม่ทำ Low ตำลงและไหลขึ้นเรื่อยๆ
2.แถวๆ Flib Day ตรงนี้จะเป็นแผนของ TF Day ที่ทำไว้หากจะลงลึกก็ควรจะมาติดตรงนี้แล้วขึ้นต่อในกรณีข่าวพาลง
ขอให้มีชัยในศุกร์หรรษานี้นะครับ
การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
เล่นตามโซน เทรดทองหาค่ากาแฟ 11.34น. 06/09/2567 ช่วงเที่ยง
เมื่อวาน ADP NonFarm พาทองดันขึ้น วันนี้น่าข่าวเมกาน่าจะพาขึ้นเช่นกัน ปลายปีอาจได้เห็น 2600 นะครับ
กรอบ 2550-2480
กรอบเล็ก 2530-2510
กรอบ SW รอข่าวค่ำนี้ 2522-2513
แนวต้าน 2520 2530 2535 2540 2545 2550 2555 2560 2565 2570
แนวรับ 2510 2500 2495 2488 2481 2478 2473 2465 2455
แผนวันนี้
Buy Stop 2435 TP 2442 SL 2432
Sell Limit 2545-2550 TP 2537 2529 2522 2518 2507 2501 2493 2488 SL 2565
Buy Limit 2500-2505 TP 2518 2524 2528 2532 2539 2544 2550 SL 2485
Sell Stop 2480 TP 2468 SL 2486
วิเคราะห์กราฟเทคนิคเทรด XAUUSD M1505 September 2024
วิเคราะห์กราฟเทคนิคเทรด XAUUSD M15
Update ; เเผนเทรดวันนี้กับโค้ชเจ 05 September 2024
------------------------------------
* swing trade ระยะสั้น *
ยืน 2505 Follow Buy
ไม่ยืน 2505 Follow Sell
*
- เเนวรับ 2495-285-2475
- เเนวต้าน 2505-215
DISCLAIMER : ผมไม่ใช่ที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต วิดีโอเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและความบันเทิงเท่านั้น
การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง แม้ว่าจะสามารถลดความเสี่ยงได้
แต่การลงทุนของเพื่อนๆถือเป็นความรับผิดชอบของเพื่อนๆแต่เพียงผู้เดียว
เพื่อนๆต้องทำการวิจัยและทดสอบเอง
🔰ผมแค่แบ่งปันความคิดเห็นของตัวเอง โดยไม่มีการรับประกันผลกำไรหรือขาดทุนจากการลงทุนนี้ ‼️
#โค้ชเจ #jttraderfx #เทคนิคเทรดสั้น #เทรดทอง #เทรดคริปโต #forex #เทรดหุ้น #เทรดforex #เทรดทองคํา #สอนเทรดเทรดทอง #tradewuthj #เทรดกับเจ
แผนทองคำรอบใหญ่แผนทองคำรอบใหญ่
Primary Trend : Up Trend
Secondary Trend : Up Trend
ปัจจุบันทองคำได้หลุด Speed Line ลงมา ทำให้ Momentum การขึ้นอ่อนแรงลง และเป็นจุดเข้า Sell ของ Port สวิงเล่นสั้น
ในส่วนพอร์ตรันเทรนด์รอบใหญ่ รอทองคำย่อลงมาที่แนวรับ Trend Line
และเป็นแนวรับสำคัญทางด้านราคาด้วย
คาดการณ์ว่าเป็นขา Correction ABC รอให้ราคาลงมาทำ ขา C และมีแท่งเทียนกลับตัว เป็นจุดเข้า Buy on Dip และรอการดึงกลับให้ราคา ขึ้นไปยืนเหนือ จุด A เป็นจุดเติม Position Swing Buy
แต่หากราคาหลุดลงไปต่ำกว่า 2450 จะต้องทำการ Stop Loss ออกมาทั้งหมดก่อน และถอยไปรอที่แนวรับถัดไปคือ 2400
ทางด้านระยะเวลา ของขาลง โดยนับจาก High ล่าลุด ได้ผ่านระยะเวลา 13 วันมาแล้ว จึงมองไปที่ตัวเลขต่อไปคือ 21 วัน ที่ได้คาดระยะเวลาการย่อของขานี้เอาไว้
ในส่วนเป้าหมาย Take Profit ถ้าทองเบรคขึ้นไปได้จะเป็น All Time High ไม่มีแนวต้านทางด้านราคา จึงได้ทำการกาง Fibonacci Retracement 2 ชุด และหาแนวที่ Cluster กันคือ บริเวณ 2690 เป็นเป้าสำหรับรอบใหญ่
ทั้งหมดเป็นแผนการของการซื้อเทรนด์ใหญ่ และเน้นคุมเสี่ยงเป็นสำคัญ
C.Goii Super Treader
GDH _Systam วิเคราะห์ XAUUSD 2/9/67วิเคราะห์ XAUUSD 2/9/67
ตลาดปิดที่ราคา 2502 ถือว่ายังสามารถปิดได้เหนือ 2495-2500 ได้ ซึ่งก็เป้นสัญญานที่ดีของ UpTtrend ในภาพใหญ่ แต่ช่วงก่อนปิดตลาดปิดสัปดาห์ ราคาได้ถูกแรงเทขายออก หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2530 ได้ในรอบที่ 4 แล้ว หากราคาจะสามารถทำ New ATH ได้ ก็ยังจะต้องเบรกเอ้าท์ 2530 ไปให้ได้ก่อน วันนี้เป็นวันหยุดธนาคาร อาาจะยังไม่มีวอลลุ่มมากนัก
วันนี้ราคาใน TFday ยังเป็น Bullish Trend แต่ในส่วนส่วนของกราฟรายสี่ชั่วโมง มีแรงเทขขายออกมาเป็น Bearish Trend โดยภาพรวมทางเทคนิคคอลมองว่า วันนี้ราคาจะวิ่งออกข้างก่อน หลังจากที่ราคาพยายามขึ้นทดสอบแนวต้าน 2525-2530 หลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่สามารถเบรกเอ้าท์ได้ และถูกแรงเทขายออกช่วงก่อนปิดตลาด ทำให้กราฟรายสี่โมงมีแรงขายออกมามาก หากราคาไม่หลุด 2485 มองว่ามีโอกาสรีบาวน์ได้ โดยแนวโน้มขาขึ้นยังไม่เสียทรง แต่ในทางกลับกัน หากราคาหลุด 2485 ก็มีโอกาสย่อลึกไปอีกที่แนวรับด้านล่างบริเวณ 2470-2450
วันนี้เปฌนวันหยุดธนาคารสหรัฐ วอลลุ่มน้อย ไม่จำเป็น ไม่ต้องเข้าเทรดก็ได้
XAUUSD เจาะโครงร้างทองคำ H4วิเคราะห์ H4 หลังจบสัปดาห์กันต่อนะครับโดยจะเป็นเพียงมุมมองและเทคนิคส่วนตัวที่ใช้วิเคราะห์กราฟของผมเท่านั้นเพื่อให้เพื่อนๆใช้ประกอบการตัดสินใจหรือได้เห็นมุมมองของเพื่อนเทรดเดอร์แบบผมอีกคนนะครับ
โดยเราต้องแยกมุมมองออกเป็น 2 แบบก่อนนะครับจะได้ไม่หลงทาง
1.มุมมองตามรูป นั้นคือในกรณีที่ราคาพักตัวก่อนเพราะเรายังเหลือเวลาให้กราฟพักฐานได้ 18 วันก่อนที่จะมี Fed Meeting นะครับหรือวันประกาศเรื่องการปรับดอกเบี้ยนั้นเองโดยจะอิงจากกราฟเทคนิคและการนับเวฟที่ใช้ปกตินะครับโดยที่ C สามารถลงมาได้ตามรูปเลยแต่เราต้องไม่ Bias ว่า C จะจบตรงไหนเพราะเทรนใหญ่เป็นขาขึ้นเค้าเอาราคาขึ้นได้ตลอดนะครับแต่ให้คอยนับตอนลง C เอาว่าจบคลื่นหรือยังด้วยการนับใน TF ย่อยที่เล็กกว่านี้
2.ไม่มีการทำ Low ที่ต่ำลงเลย หรือไหลขึ้นนั้นเองอันนี้เราจะเห็นรุปแบบได้วันต่อวันเท่านั้นนะครับก็ต้องรอดูในแผนรายวันว่าผมเห็นอะไรบ้าง
**การวิเคราะห์ตามรูปนี้จะจบลงทันทีเมื่อราคาขึ้นมาเหนือ 2529**
XAUUSDสำหรับวันนี้หน้าจะวันเฉลยข้อสอบนะครับโดยมีปัจจัยหนุนทองเต็มที่ในตอนนี้แต่กราฟราคาก็ยังไม่สามารถไปต่อได้
แผนคือ
รอหากราคาลงมาในโซน Base H4 แล้วยืนได้จะหาสัญญาณกลับตัวแล้ว Buy ขึ้นไปเพราะมองว่าราคายังย่อมาไม่ถึงแนว Fibo สำคัญที่จะกลับตัวและจะเป็นการ Sweep กรอบ Liquidity ที่สร้างไว้ในสัปดาห์นี้เพื่อขึ้นต่อ
จากภาพเราจะเห็นได้ว่าโครงสร้างขาลงมาแล้วและโครงสร้างขาขึ้นก็ยังไม่เสียเช่นกันถ้าตามกราฟเทคนิคคือลงนะครับ แต่เมื่อไหร่หลุด Low 2493 แล้วดึงกลับการลงจะเปลี่ยนเป็นการกวาด SL ทันทีแสดงว่าถ้าใครมองออกว่าไหลลงหรือลงมากวาด SL คุณจะได้เปรียบในวันนี้
ขึ้นลงได้เท่าตัว แต่ส่วนตัววันนี้ มองว่า "ถ้าไม่หลุด 2529 ยัง..📊มุมมองทอองคำวันนี้ 30/08/2024
ขึ้นลงได้เท่าตัว แต่ส่วนตัววันนี้ มองว่า
"ถ้าไม่หลุด 2529 ยังในน้ำหนักไปทาง SEll"
ให้ Focueข่าวในตาราง 19:30 น.
วันนี้ และอย่าลืมด฿เงื่อนไขในการเข้าทำไรกันตัว
เช่น Candlestick , Volume Marker กันด้วนนะคะ
💥1. ข่าวเศรษฐกิจและข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อทองคำวันนี้:**
- **Core PCE Price Index m/m:** ตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ โดยคาดการณ์และผลที่ออกมาตรงกันที่ 0.2% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ตลาดรับรู้ว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบที่คาดไว้ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาทองคำเนื่องจากอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- **Chicago PMI และ Revised UoM Consumer Sentiment:** ตัวเลขดัชนี PMI ของชิคาโก้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 45.0 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 68.0 ทั้งสองตัวนี้มีผลต่อการประเมินสถานะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเงินดอลลาร์และราคาทองคำต่อไป
💥2. มุมมองของกองทุนและนักวิเคราะห์:**
- **แนวโน้มขาลง (Bearish):** หลายฝ่ายมองว่าทองคำยังมีโอกาสปรับตัวลง หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสนับสนุนความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ซึ่งอาจดึงดูดการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
- **แนวโน้มขาขึ้น (Bullish):** นักลงทุนบางกลุ่มยังเชื่อว่าหากดัชนี PMI และความเชื่อมั่นผู้บริโภคแย่กว่าคาด ทองคำอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามา เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่อาจอ่อนแอลง
💥3. แนวรับแนวต้านสำคัญของทองคำ (XAU/USD):**
- แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,493 - 2,479 ดอลลาร์ หากราคาทองคำหลุดแนวรับนี้ไปอาจมีการปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 2,473 ดอลลาร์
- แนวต้านสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,521 - 2,526ดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,532 ดอลลาร์
(หมายเหตุ: การวิเคราะห์นี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด ควรเทรดอย่างมีวินัยและมีจุดยอมอย่างชัดเจน)
มุมมองทอองคำวันนี้ 29/08/2024 ขึ้นลงได้เท่าตัวให้ติดตามข่าว19.30🍀วิเคราะห์กราฟทองคำและมุมมองวันนี้ (29/08/2024)
มุมมองส่วนตัว ทองขึ้นลงได้เท่าตัว ในติดตามข่าวในตาราง 19:30 น.
วันนี้ และอย่าลืมดูเงื่อนไขในการเข้าทำไรกันตัว เช่น Candlestick , Volume Marker กันด้วนนะคะ
🕹️แนวรับและแนวต้านสำคัญ
- **แนวต้าน:**
- บริเวณ $2,528.81 (Fib 100%)
- บริเวณ $2,532.50
- **แนวรับ:**
- บริเวณ $2,506.51 (Fib 0.618)
- บริเวณ $2,493.47 (Fib 0%)
🧑🏽💻มุมมองนักวิเคราะห์และผลกระทบจากข่าว
- การที่ประธานเฟด Powell ส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดทองคำยังคงอยู่ในทิศทางที่ผันผวนและมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด
- นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ราคาทองคำอาจเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นและกดดันราคาทองคำต่อไป
🏦สรุปข่าวและมุมมองนักวิเคราะห์เกี่ยวกับทองคำ (XAUUSD) สำหรับวันที่ 29 สิงหาคม 2024
💥1. ข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
วันนี้มีประกาศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญในช่วงเวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ได้แก่:
- **Prelim GDP q/q** (ประมาณการ GDP ไตรมาส 2)
- **Unemployment Claims** (จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์)
- **Prelim GDP Price Index q/q** (ดัชนีราคาสินค้าและบริการขั้นต้น)
ข่าวเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำมีการซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อดอลลาร์แข็งค่า ราคาทองคำมักจะปรับตัวลง และในทางตรงกันข้าม เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้น
💥2. มุมมองของนักวิเคราะห์และกองทุน**
- **นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า** หาก GDP ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดการณ์ จะเป็นแรงกดดันให้ทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เช่น หุ้น หรือสกุลเงินดอลลาร์
- **ในทางกลับกัน** หากข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานมีจำนวนสูงขึ้น จะสะท้อนถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้น
💥3. แนวโน้มทางเทคนิค**
จากกราฟเทคนิค นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า ราคาทองคำอาจมีการเคลื่อนไหวในกรอบกว้างระหว่างแนวรับที่ระดับ 2,493.47 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ระดับ 2,528.81 ดอลลาร์ ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของข่าวสำคัญที่จะประกาศในคืนนี้
📊สรุป:**
ทองคำวันนี้ยังคงต้องจับตาดูแนวรับสำคัญบริเวณ $2,493.47 หากมีการหลุดลงไป ราคาทองคำอาจเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่อง แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ก็มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ $2,528.81 ต่อไป.
💥หมายเหตุ:มุมมองดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์และวิเคราะห์ตามข้อมูลที่มีในปัจจุบัน นักลงทุนควรติดตามข้อมูลและข่าวสารที่อัพเดทอย่างต่อเนื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน และควรบริหารทุนและมีจุดยอมที่ชัดเจน
XAUUSDอย่างที่บอกไปในแผนเมื่อวานนี้นะครับโซนแดงต้องไม่ติดหากจะขึ้นต่อ โซนนี้อันตรายกับขาขึ้นมากๆหากไม่มีปัจจัยพื้นฐานหนุนผมมองว่าสามารถลงได้ไกลเลยทีเดียว แต่ตอนนี้คงทำได้แค่มองเป็น Step ไปก่อนนะครับโดยจะมีโซนที่น่าสนใจอยู่ 2 โซนคือ
Monitor Buy Zone ตรงนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะรับราคาอยู่ แต่ดันเป็นโซนที่ชัดเจนจนน่ากลัวสำหรับผม ก็ต้องใช้สกิลในการมองการกลับตัวนิดนึงนะครับ
Buy Zone ตรงนี้มองว่าน่าสนใจเป็นราคาที่มองว่าลงมาเก็บ SL โซนแรกเพื่อสร้างสภาพคล่องและขึ้นต่อได้แบบสวยๆ ราคาสามารถหลุดแทงใส้ลงไปแม็ช Demand 2484 ได้แต่ต้องเด้งอย่างรวดเร็วแล้วปิดเนื้อเทียนในโซนนี้นะครับ
หากราคาลงมาทดสอบแล้วเด้งกลับขึ้นไปได้ไม่ควรติด 2510-2515 ไม่งั้นลงยาว
Trade record: Sell Goldเหตุผลที่เข้าเทรด
* เป็นเทรนขาลงในโครงสร้างทามเฟรม H1 m30
**Supercomputer ได้ทำการสร้าง Liquidity โซนไว้จำนวนมากบริเวณใต้จุดกลับตัว
**Supercomputer ได้ทำการการสะสมออเดอร์ Sell ในโซน POI โดยการหลอกล้อให้รายย่อย กด Buyอยู่ 1-2 จังหวะ
**Supercomputer ได้ทำการกวาด SL รายย่อย ทั้ง ฝั่งBuyและ ฝั่ง Sell จนครเงื่อนไข
* มี Supply Time Frame M5
** ตั้ง เบรคอีเว้นท์ 600 points
*ข้อมูลที่นำเสนอ เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเทรดเท่านั้น
*By ช่างพงษ์
XAUUSDแผนวันนี้ยังคงเป็นฝั่ง Buy นะครับโดยจะใช้ระยะเวลามาเกี่ยวข้องเพราะเราไม่รุ้แน่ชัดว่าจะย่อลึกหรือไม่ย่อเลย โดยให้รอจนกว่าจะเข้าเมกาเลยนะครับแล้วค่อยดูราคากลับตัวในแท่ง H1 ค่อย Buy โดยมีเงื่อนไขว่าราคาต้องไม่หลุด Support Zone เด็ดขาดหากยังอยากขึ้นต่ออยู่ และเมื่อขึ้นไปแล้วต้องไม่ติดโซนแดงด้วยถ้าติดจะกลายเป็นลงลึกแทนนะครับ
ทริคเล็กๆ
เมื่อวันศุกร์ราคาไหลขึ้นต่อเนื้องแสดงว่ามีคนได้ Buy มาระหว่างทางแน่นอนนะครับจะมีการกวาดก่อนเสมอนะครับหากจะขึ้นต่อ ให้ดูการกวาดใน TF M15 จะเป็นคลื่นพัก ABC จบ C จัดได้เลย
แต่ !! หากเค้ากวาดฝั่ง Sell ก่อนเมการอเทรดวันอื่นได้เลยครับ
XAUUSDแผนวันนี้คือถือไม้ในแผนเมื่อวานขึ้นไปต่อนะครับแต่หากใครยังไม่ได้ของติดมือมาก็รอย่อหากไม่ทำ Low ต่ำลงก็ช้อนซื้อขึ้นมานะครับ
ในกรณียังลงต่ออย่าหา Buy Demand ที่ใช้ไปแล้วนะครับ ให้รอโซนฟ้าข้างล่างเลยและเมื่อกราฟขึ้นไปแล้วแถวๆ 2530 ก็ไม่ควรติดนะครับถ้าติดหนีได้เลยแล้วรอวันถัดไป
การประชุม FED เมื่อคืนปัจจัยพื้นฐานก็ยังออกมาหนุนทองอยู่นะครับ
USD/JPY ฟื้นตัวแต่เผชิญความเสี่ยงต่อการหยุดลงอย่างรวดเร็ว**การคาดการณ์ USD/JPY: ความพยายามฟื้นตัวอาจเสี่ยงที่จะยุติลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่รอผลการประชุม FOMC**
* คู่เงิน USD/JPY ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์จากการปรับฐานการขาย USD ภายในวัน 📈
* ความคาดหวังที่แตกต่างกันระหว่างนโยบายของ Fed และ BoJ อาจทำให้การฟื้นตัวครั้งนี้ถูกจำกัด ✋
* นักลงทุนกำลังจับตาผลการประชุม FOMC เพื่อหาแรงจูงใจก่อนคำกล่าวของ Powell ในวันศุกร์นี้ 🕵️♂️
คู่เงิน USD/JPY แสดงความยืดหยุ่นที่ต่ำกว่า 145.00 ซึ่งเป็นจุดสำคัญทางจิตวิทยา และฟื้นตัวขึ้นอย่างดีจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่เกิดขึ้นในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 146.00 ได้ในช่วงครึ่งแรกของการซื้อขายในยุโรป เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อนหลังจากข้อมูลที่เผยแพร่ในวันนี้แสดงให้เห็นว่าการขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 621.84 พันล้านเยนในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการหยุดชะงักในการผลิตทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สิ่งนี้ทำให้การนำเข้าที่เพิ่มขึ้น 16.6% ซึ่งชี้ถึงการเติบโตของอุปสงค์ภายในประเทศ 🏭
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดจากการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ในการลาออก อาจทำให้แผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) หยุดชะงัก สิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อ JPY รวมถึงการฟื้นตัวเล็กน้อยของดอลลาร์สหรัฐ (USD) จากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กับคู่เงิน USD/JPY การปรับตัวขึ้นของ USD อาจเกิดจากการปรับฐานก่อนผลการประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคมซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ นอกจากนี้ คำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell ในการประชุม Jackson Hole Symposium ในวันศุกร์นี้จะถูกจับตามองเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับเส้นทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและแรงจูงใจสำคัญอื่น ๆ 📊
ในขณะเดียวกัน การยอมรับที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดนโยบายการเงินลงในเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เย็นลง อาจจำกัดความพยายามในการฟื้นตัวของ USD และกดดันคู่เงิน USD/JPY ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ Michelle Bowman พยายามลดความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น โดยกล่าวว่าระดับการเติบโตของราคายังคงสูงและอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยกว่า 70% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในเดือนกันยายน นอกจากนี้ ผลสำรวจของ Reuters แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในการประชุมที่เหลืออีกสามครั้งของปี 2024 💰
มุมมองทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ตกต่ำ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุน USD ไม่กล้าวางเดิมพันอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะมั่นใจว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่ดีขึ้นจะสนับสนุนให้ BoJ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้ สิ่งนี้ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่และความเชื่อมั่นทางความเสี่ยงทั่วโลกที่ลดลงเล็กน้อย อาจช่วยจำกัดการลดลงของ JPY ดังนั้น จึงควรรอการซื้อที่ตามมาอย่างแข็งแกร่งก่อนที่จะยืนยันว่าคู่เงิน USD/JPY ได้ถึงจุดต่ำสุดแล้วและพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้นี้ 🔍
**มุมมองทางเทคนิค**
จากมุมมองทางเทคนิค การทดสอบระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 200 ชั่วโมงในสัปดาห์นี้และการฟื้นตัวของคู่เงิน USD/JPY ที่ไม่สามารถผ่านระดับ 23.6% Fibonacci Retracement จากการร่วงลงล่าสุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา สร้างความระมัดระวังให้กับผู้ซื้อ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังอยู่ในแดนลบลึก และฟื้นตัวจากโซนที่ขายเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าเส้นทางที่มีแรงต้านน้อยที่สุดสำหรับราคาคือการลดลง 📉
ดังนั้น การเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นในภายหลังอาจเผชิญกับแรงต้านที่แข็งแกร่งใกล้ระดับ 146.65 หรือระดับ 38.2% Fibo. โมเมนตัมอาจขยายต่อเนื่องเกิน 147.00 แต่มีแนวโน้มว่าจะถูกจำกัดใกล้กับอุปสรรค 147.15 ซึ่งประกอบด้วยระดับ 50% Fibo., ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 100 และ 200 ชั่วโมง แนวต้านนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดหมุนสำคัญ ซึ่งหากผ่านไปได้อย่างเด็ดขาด จะเปิดทางให้เกิดกำไรเพิ่มเติมไปยังระดับ 147.70 หรือระดับ 61.8% Fibo. จนถึงระดับ 148.00 ✨
ในทางกลับกัน แนวรับทันทีอยู่ที่บริเวณ 145.45-145.40 ก่อนถึงจุดสำคัญทางจิตวิทยาที่ 145.00 การทะลุแนวรับนี้อย่างเด็ดขาดจะถือเป็นสัญญาณใหม่สำหรับผู้ขาย และดึงคู่เงิน USD/JPY ลงสู่แนวรับที่สำคัญต่อไปใกล้ระดับ 144.20-144.15 การขายต่อเนื่องต่ำกว่า 144.00 จะเปิดทางให้ลดลงไปสู่แนวรับกลางที่ 143.60 จนถึงระดับ 143.00 🔻
#USDJPY #Forex #ตลาดการเงิน #การวิเคราะห์ทางเทคนิค #FOMC #ธนาคารกลาง #JacksonHole
XAUUSDกราฟราคาเดินทางมาจะสุดเป้า Fibo ของแผน H4 ที่ทำไว้ให้แล้วนะครับแต่เมื่อเรามอง TF Day ราคาพึ่งสร้างฐานใหม่สำเร็จเองโดยมีจุดโครงสร้างที่ 2478 อย่างที่บอกว่าถึงเป้าไม่ได้แปลว่าจะลง มองขาขึ้นเป็นสำคัญใครนับเวฟได้ยิ่งดีเพราะเราจะเห็นได้เลยว่าเค้าทำคลื่นปรับแล้วไหลขึ้นต่อได้เรื่อยๆนะครับ
ตอนนี้หน้างานผมเห็นแค่นี้นะครับก็รอตามโซนกันเหมือนเดิม
ฝากเรื่องกดสนับสนุนแผนด้วยนะครับเรื่องนี้มีผลกับการตัดสินใจทำต่อหรือคำอธิบายในแผน(เขียนไปกลัวคนไม่อ่าน)
"GBP/USD แรงกดดันต่อปอนด์เพิ่ม หลัง BoE ขึ้นดอกเบี้ย"**GBP/USD แนวโน้มรายสัปดาห์: กระแสเริ่มเปลี่ยนทิศทางไม่เป็นใจให้กับปอนด์ 💷**
* GBP/USD ร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ใกล้ 1.2850 ทำให้เส้นทางบวก 3 สัปดาห์สิ้นสุดลง 📉
* แม้ว่า BoE จะมีท่าทีที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอาจจำกัดการเติบโตของปอนด์ 🚫
* ดอลลาร์สหรัฐได้รับการสนับสนุนจากมุมมองของประธาน Fed Powell และความเสี่ยงในตลาด 📊
แม้ว่า Bank of England (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกินความคาดหมาย แต่ GBP/USD ยุติช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่เป็นบวกและถอยจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ความท้าทายสำหรับปอนด์เพิ่มขึ้นเมื่อความสนใจของตลาดหันไปที่ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และหลังจากประธาน Federal Reserve (Fed) Powell บ่งชี้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมยังเป็นไปได้ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดเป็นขาลงมากขึ้น ทัศนคติต่อปอนด์เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงห้าวันที่ผ่านมา 💱
**การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE ยังไม่เพียงพอ 🏦**
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่มีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมากมายในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญ ตามด้วยการประชุมของ Bank of England ที่ลงเอยด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น่าประหลาดใจ ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐก็มีการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยมีประธาน Fed Powell ที่มีท่าทีแข็งแกร่ง ข้อมูลการจ้างงานที่หลากหลาย และตัวเลขที่น่าประหลาดใจในภาคที่อยู่อาศัย 📈
ประธาน Fed Powell ยังคงมีท่าทีแข็งแกร่ง โดยกล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมยังเป็นไปได้ และเจ้าหน้าที่ Fed คนอื่น ๆ รวมถึง Bowman ก็พูดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น แม้แต่ Goolsbee ซึ่งเป็นคนที่ถือว่ามีท่าทีผ่อนคลายก็ยังบอกว่าการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ด้วยการประชุมที่ยังคง "สดใหม่" ข้อมูลเศรษฐกิจจะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด 🔍
เกี่ยวกับข้อมูลของสหรัฐฯ การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นอยู่ที่ 264,000 ครั้ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ขณะที่ยอดขายบ้านที่มีอยู่เพิ่มขึ้น 0.2% เกินความคาดหมาย ดัชนี S&P Global Manufacturing แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างไม่คาดคิดถึง 46.3 ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ภาคบริการลดลงเหลือ 54.1 📊
ตลาดในขณะนี้แสดงให้เห็นถึงการเดิมพันที่ลดลงสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้จาก Fed โดยมีความน่าจะเป็น 70% ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม ตามข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch ความคาดหวังเหล่านี้ได้สนับสนุนดอลลาร์สหรัฐในตลาดและช่วยจำกัดการขาดทุน 💵
รายงานเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อหลักเพิ่มขึ้น 7.1% ต่อปี จาก 6.8% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1992 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.7% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเมษายน ตัวเลขเหล่านี้สูงกว่าคาดการณ์ 📈
ตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักรนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกินความคาดหมายจาก Bank of England แม้ว่าการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีจะเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมารู้สึกได้ทั่วโลก ทำให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินบางส่วน BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเป็น 5.00% โดยมีมติ 7-2 ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบนี้ของการเข้มงวด 💷
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ยอมรับว่าผลกระทบรอบสองอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะคลี่คลาย โดยระบุถึงตลาดแรงงานที่เข้มงวดและความต้องการที่ยังคงทนทาน เอกสารที่ออกโดย BoE ชี้ไปที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต 🔮
นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดจำนวน 3 ครั้งจาก BoE โดยอัตราจะไปถึง 5.75% ภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยที่อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 สิ่งที่ BoE จะทำขึ้นอยู่กับการไหลของข้อมูล ในขณะนี้คำถามสำหรับเดือนสิงหาคมคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 25 หรือ 50 จุดพื้นฐาน 🎯
**ปอนด์ต้องการข่าวดีจากสหราชอาณาจักร 🇬🇧**
นักเศรษฐศาสตร์กลัวภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร และหากไม่มีข้อมูลใหม่ การพิจารณาเหล่านี้อาจยังคงเป็นปัจจัยกดดันปอนด์ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่อาจทำให้ GBP/USD ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันคือความเสี่ยงที่ตลาดมีต่อการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าสุดและข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายอาจช่วยสนับสนุนการแก้ไขตลาดหุ้นในปัจจุบันให้ขยายตัวออกไป สิ่งแวดล้อมเช่นนี้เป็นลบต่อคู่สกุลเงินนี้ 📉
หากสถานการณ์แย่ลงอย่างมาก อาจทำให้อัตราคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ลดลงและกระทบต่อดัชนี DXY ซึ่งอาจจำกัดการขาดทุนใน GBP/USD แต่สำหรับคู่สกุลเงินนี้ที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ จำเป็นต้องมีปัจจัยมากกว่าการลดลงของผลตอบแทนในสหรัฐฯ 🌍
ปฏิทินเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์หน้านั้นเบา BoE จะเผยแพร่ Quarterly Bulletin ในวันพุธ เครดิตผู้บริโภค การอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการปล่อยสินเชื่อสุทธิให้กับบุคคลในวันพฤหัสบดี และการประมาณการใหม่ของการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 1 ในวันศุกร์ 🗓️
ปอนด์ต้องการข่าวดี ซึ่งอาจมาจากการลดลงของเงินเฟ้อและการแสดงผลงานทางเศรษฐกิจที่ดี หัวข้อข่าวเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้นำปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาสู่โต๊ะการเมือง และอาจกลายเป็นแหล่งกดดันสำหรับนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak เจ้าหน้าที่รัฐบาลกำลังขอให้ธนาคารและสมาคมอาคารสนับสนุนครัวเรือนที่มีการจ่ายค่าจำนองเพิ่มขึ้น สื่อเริ่มพูดถึง “วิกฤตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” ที่อาจแย่ลงไปอีกกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแบบคงที่สองปีเกิน 6% ในสัปดาห์นี้ 📊
ในสหรัฐฯ รายงานที่มีผลกระทบสูงสุดจะเป็นคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดขายบ้านใหม่ในวันอังคาร การขอรับสวัสดิการว่างงาน GDP และยอด
ขายบ้านที่รอดำเนินการในวันพฤหัสบดี และอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคและความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ UoM ในวันศุกร์ 📅
รายงานสำคัญจะเป็นดัชนี Core Personal Consumption Expenditures (PCE) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ชื่นชอบ Core PCE คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ต่อเดือน โดยอัตรารายปีอยู่ที่ 4.7% การอ่านนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed สำหรับการประชุมครั้งหน้า นอกจากนี้นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จะติดตามตัวเลขด้านที่อยู่อาศัยอย่างใกล้ชิดในบริบทของการฟื้นตัวของข้อมูลที่อยู่อาศัยล่าสุด 🏡
#GBPUSD #ForexTrading #BankofEngland #FederalReserve #InterestRates #EconomicOutlook #CurrencyMarket #Inflation #MonetaryPolicy
"ราคา Ripple (XRP) พร้อมพุ่ง หลังทดสอบแนวรับสำคัญ"ราคา Ripple (XRP) เตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นเนื่องจากข้อมูลออนเชนแสดงแนวโน้มที่เป็นบวก 📈
* ราคาของ Ripple (XRP) พบแนวรับที่เส้น EMA 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการขึ้นของราคาอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า 📊
* ข้อมูลออนเชนแสดงให้เห็นว่า Open Interest ของ XRP กำลังเพิ่มขึ้น และอัตราส่วนระหว่าง long-to-short สูงกว่า 1 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังมาถึง 🚀
* หากแท่งเทียนรายวันปิดต่ำกว่า $0.544 แนวโน้มขาขึ้นนี้จะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ❌
Ripple (XRP) ได้ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 200 วันอีกครั้งและเพิ่มขึ้น 6.7% ในวันจันทร์ ในช่วงเวลาการซื้อขายในเอเชีย ราคาได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.2% อยู่ที่ $0.606 ในวันอังคาร 📈
ข้อมูลออนเชนแสดงว่า Open Interest ของ XRP กำลังเพิ่มขึ้น และอัตราส่วน long-to-short สูงกว่า 1 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต 🚀
ราคา Ripple เตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นหลังจากการทดสอบระดับแนวรับสำคัญ 🛡️
ราคาของ Ripple (XRP) ได้ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 200 วันอีกครั้งที่ประมาณ $0.545 ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาและกระโดดขึ้น 6.7% ในวันจันทร์ เส้น EMA 200 วันนี้ประมาณอยู่ใกล้กับแนวรับรายวันที่ $0.544 ทำให้พื้นที่นี้เป็นระดับแนวรับที่สำคัญ 📉 ณ เวลาที่เขียนในวันจันทร์ ราคากำลังซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.2% อยู่ที่ $0.606 📊
หากเส้น EMA 200 วัน ที่ $0.545 ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับ ราคา XRP อาจขึ้น 6.5% จากระดับการซื้อขายปัจจุบันที่ $0.606 เพื่อทดสอบแนวรับรายวันอีกครั้งที่ $0.643 📈
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟรายวันได้เปลี่ยนผ่านระดับกลางที่ 50 และตัวชี้วัด Awesome Oscillator (AO) กำลังจะเข้าสู่การซื้อขายเหนือระดับกลางที่ศูนย์ สำหรับโมเมนตัมขาขึ้นที่จะยังคงอยู่ ตัวชี้วัดเหล่านี้ต้องทำการซื้อขายเหนือระดับกลางของพวกเขาเพื่อสนับสนุนการขึ้นของราคา 🟢
หากผู้ซื้อยังคงกระตือรือร้นและแนวโน้มตลาดคริปโตยังคงเป็นบวก XRP อาจปิดที่ระดับสูงกว่า $0.643 ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นต่อเนื่องอีก 13% เพื่อทดสอบแนวต้านรายวันถัดไปที่ $0.724 🚀
ข้อมูลจาก CoinGlass แสดงให้เห็นว่า Open Interest (OI) ของฟิวเจอร์ส Ripple ที่อยู่ในตลาดแลกเปลี่ยนก็กำลังเพิ่มขึ้นเช่นกัน OI หมายถึงจำนวนรวมของสัญญาอนุพันธ์ที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเงินที่ไหลเข้าสู่สัญญากำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลง 📊
การเพิ่มขึ้นของ OI แสดงถึงเงินใหม่หรือเงินเพิ่มเติมที่เข้าสู่ตลาดและการซื้อใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น เมื่อ OI ลดลง ปกติแล้วจะแสดงถึงการที่ตลาดกำลังลดลง ผู้ลงทุนจำนวนมากขึ้นกำลังออกจากตลาด และแนวโน้มราคาปัจจุบันกำลังสิ้นสุดลง 📉
กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นว่า OI ของ XRP เพิ่มขึ้นจาก $610.95 ล้านในวันอาทิตย์เป็น $693.44 ล้านในวันอังคาร ซึ่งแสดงถึงการที่เงินใหม่หรือเงินเพิ่มเติมกำลังเข้าสู่ตลาดและเกิดการซื้อใหม่ 📈
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ CoinGlass อัตราส่วน long-to-short ของ XRP อยู่ที่ 1.42 อัตราส่วนนี้สะท้อนถึงความรู้สึกเชิงบวกในตลาด เนื่องจากตัวเลขที่สูงกว่า 1 บ่งชี้ว่าการซื้อขายหลายครั้งคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของ Ripple 🚀
แม้ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลออนเชนและการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่แนวโน้มอาจเปลี่ยนเป็นขาลงได้หากแท่งเทียนรายวันของ Ripple ปิดต่ำกว่าแนวรับรายวันที่ $0.544 ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลง 9.6% เพื่อทดสอบระดับต่ำสุดที่ $0.492 ในวันที่ 7 สิงหาคม ❗
#Ripple #XRP #CryptoMarket #Blockchain #CryptoTrading #TechnicalAnalysis #Bullish #EMA #OpenInterest
XAUUSDเมื่อวานนี้ราคากลับขึ้นมาแต่ยังไม่สามารถสร้าง High ที่สูงขึ้นได้นะครับจะมองว่าการขึ้นเบาแรงลงแล้วอาจมีการปรับฐานราคาใหม่อีกครั้ง
แผนยังคงเป็นแผนรอ Buy ตามโซนที่ทำไว้ให้แต่หากเค้าทำ High สูงขึ้นไม่ได้จริงๆไม้ Sell ได้ระยะไกลพอตัวหากขึ้นไม่ไหวก็ Sell กันมาได้นะครับถึงจะสวนเทรดแต่ก็ไม่อันตรายเท่าสัปดาห์ที่แล้ว
ทีนี้หากเค้าไม่ลงแล้วไหลขึ้นต่อให้สังเกตุ Supply Zone ด้านบนหากราคาทะลุและยืนได้ก็ Buy ตามนะครับ
Gold. 19/8/24✅แนวโน้มราคา OGV4 ทองคำ 19/8/24
การประเมินจากข้อมูล Open Interest, Volume, และ Volatility
1.การวิเคราะห์จากกราฟ Open Interest (OI)
กราฟ Open Interest แสดงถึงจำนวนสัญญา Call และ Put ที่เปิดอยู่ในตลาดสำหรับ OGV4 โดยมีการกระจุกตัวของ Open Interest มากที่สุดในช่วง Strike Price ระหว่าง 2500-2550 จุด ซึ่งมีความหมายสำคัญ
- Call Options
มี Open Interest มากที่สุดที่ Strike Price 2550 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนไหวขึ้นไปสู่ระดับนี้
- Put Options
ในขณะเดียวกัน มี Open Interest สูงที่ Strike Price 2450 ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนบางส่วนคาดว่าราคาอาจลดลงมาต่ำกว่า 2500
การกระจุกตัวของ OI ในช่วงนี้บ่งบอกถึงระดับราคาที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะเป็นจุดสำคัญที่มีการเคลื่อนไหวของราคา
2.การวิเคราะห์จากกราฟ Intraday Volume
กราฟ Intraday Volume แสดงให้เห็นถึงปริมาณการซื้อขายในวันเดียวกันที่เกิดขึ้นในแต่ละ Strike Price
- ปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในช่วง Strike Price 2500-2550 จุด ซึ่งสอดคล้องกับช่วงที่มี OI สูงที่สุด
- ปริมาณการซื้อขายที่สูงในช่วงนี้ยืนยันถึงความสนใจของตลาดในระดับราคานี้ และบ่งบอกถึงโอกาสที่จะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้ในอนาคตอันใกล้
3.การวิเคราะห์จากกราฟ Volume รวม
กราฟ Volume รวมแสดงถึงปริมาณการซื้อขายสะสมทั้งหมดในช่วงเวลา
- Volume รวมสูงสุดที่ช่วง Strike Price 2500-2550 จุด เป็นการยืนยันเพิ่มเติมถึงความสนใจของนักลงทุนในช่วงราคานี้
- การมี Volume สูงในช่วงนี้ บ่งบอกถึงการสะสมของนักลงทุนในช่วงราคานี้อย่างมีนัยสำคัญ
✅กราฟทองคำ
1. รูปแบบกราฟและแนวโน้มราคา
- จากภาพจะเห็นได้ว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น (uptrend) โดยมีการสร้างแท่งเทียนสีเขียวที่ยาวขึ้น ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่มีอิทธิพลมากกว่าฝ่ายขายอย่างชัดเจน
- แนวต้านเดิมที่ระดับราคาประมาณ 2,525 ได้ถูกทะลุขึ้นไปอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นในขณะนี้
2. การทดสอบแนวต้าน
- แนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 2,550 ซึ่งเป็นแนวที่น่าจับตามองว่าจะมีการทดสอบในอนาคตอันใกล้นี้ การทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปจะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง แต่ถ้าไม่สามารถทะลุได้ อาจมีการปรับฐานลงมาเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
3.แนวรับ
- แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,500 ซึ่งเป็นแนวที่ควรติดตามว่าราคาจะย่อลงมาทดสอบและสะสมแรงซื้อหรือไม่ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเป็นสัญญาณบวกในการปรับตัวขึ้นต่อ
🔥การวิเคราะห์
จากกราฟที่เห็น ราคาทองคำ (GCZ2024) อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,525 ขึ้นไป ขณะนี้ควรจับตาดูการทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 2,550 หากราคาสามารถทะลุผ่านไปได้ แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป แต่หากมีการย่อลงมา แนวรับที่ระดับ 2,500 จะเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาการเข้าสะสมแรงซื้อใหม่.
✅OI & Volume Heat Map changes
1. การเปลี่ยนแปลงของ Open Interest (OI)
- **ระดับ 2480:** มีการเพิ่มขึ้นของ OI ที่สำคัญในฝั่ง Call ถึง 272 สัญญา ซึ่งบ่งชี้ถึงความสนใจในการเปิดสถานะซื้อที่ระดับราคานี้มากขึ้น อาจเป็นเพราะนักลงทุนคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับนี้หรือสูงกว่า
- **ระดับ 2500:** ฝั่ง Put มีการเพิ่มขึ้นของ OI ถึง 283 สัญญา ขณะที่ฝั่ง Call ลดลงถึง 220 สัญญา ซึ่งแสดงถึงการคาดหวังว่าราคาจะไม่ทะลุระดับนี้และอาจมีการย่อลงมา นักลงทุนในฝั่ง Put ดูเหมือนจะมีความมั่นใจในแนวรับที่ระดับนี้
- **ระดับ 2550:** มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของ OI ในฝั่ง Call ถึง 433 สัญญา ขณะที่ฝั่ง Put มีเพียง 1 สัญญาเท่านั้น ซึ่งแสดงว่าตลาดอาจไม่ได้คาดหวังว่าราคาจะขึ้นไปถึงระดับนี้ในระยะสั้น
2. การวิเคราะห์จากข้อมูล Volume
- Volume ที่ระดับ 2480 และ 2500 มีการซื้อขายสูง แสดงถึงการสนับสนุนของนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงหรือคาดการณ์ว่าราคาจะคงอยู่ในช่วงนี้
- ในขณะที่ Volume ที่ระดับ 2550 แทบไม่มีการซื้อขาย ซึ่งสอดคล้องกับ OI ที่ลดลงในระดับนี้ อาจบ่งบอกถึงการคาดการณ์ว่าราคาจะไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2550 ได้ง่าย ๆ
3. การประเมินแนวโน้มราคา
- จากการวิเคราะห์ OI และ Volume พบว่าตลาดกำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาที่ช่วง 2480-2500 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการสะสม OI และ Volume อย่างมาก การเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้จะมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุน
- ราคาน่าจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2480-2500 โดยที่ระดับ 2500 น่าจะเป็นแนวต้านที่สำคัญ หากราคาทะลุแนวนี้ไปได้ อาจมีโอกาสที่จะปรับขึ้นต่อ แต่หากไม่สามารถทะลุไปได้ อาจมีการปรับฐานกลับมาที่ระดับ 2480
🔥วิเคราะห์
ตลาดกำลังอยู่ในช่วงที่มีความคาดหวังสูงในระดับราคาช่วง 2480-2500 โดยระดับ 2500 น่าจะเป็นแนวต้านที่สำคัญ และหากราคาทะลุระดับนี้ได้ ก็จะเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มขาขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม การที่มี OI และ Volume ลดลงในระดับ 2550 บ่งชี้ว่าตลาดยังไม่คาดหวังว่าราคาจะทะลุระดับนี้ได้ในระยะเวลาอันใกล้
🚨แนวทางการเทรดสำหรับ GCZ2024
1. ถ้าราคาทะลุ 2,550 ขึ้นไป
- เปิดสถานะซื้อ (Long).
- เป้าหมาย: 2,575.
- Stop Loss: ต่ำกว่า 2,525.
2. ถ้าราคาย่อลงมาที่ 2,500-2,525
- เปิดสถานะซื้อ (Long).
- เป้าหมาย: 2,550.
- Stop Loss: ต่ำกว่า 2,480.
3. ถ้าราคาหลุดต่ำกว่า 2,500
- เปิดสถานะขาย (Short).
- เป้าหมาย: 2,475.
- Stop Loss: เหนือ 2,525.
ใช้ OI และ Volume สนับสนุนการตัดสินใจ.