Gold Trading Plan – October 9, 2025Gold Trading Plan – October 9, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All timeframes remain in an uptrend, but the recent price action shows a break below the rising trendline, along with the formation of a short-term downtrend on M15. This suggests the possibility of a deeper pullback, presenting a potential sell opportunity around 4026, with a stop-loss at 4042 and a target at 3994.
However, for the sell setup to remain valid, price should not break above 4042. If price successfully breaks above 4042, traders should shift focus to the buy side, targeting the 4056 level instead.
🔹 Summary
1.Sell Setup (wait for price to approach around 4026 before entering)
SL: 4042
TP: 3994
RR: 2
If price drops directly without a pullback, skip the sell — RR would not be favorable.
2.Buy Setup (enter only after a confirmed break above 4042)
SL: 4026
TP: 4056
RR: 0.88
🔹 Disclaimer
This plan reflects the author’s personal market outlook and is not financial advice. Please exercise judgment and apply proper risk management.
การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
Gold Trading Plan – October 8, 2025Gold Trading Plan – October 8, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All timeframes remain in an uptrend, giving the advantage to the buy side with an upside target around 4020. For the bullish momentum to continue, price should stay above the 3985 support. However, if the market drops below 3980, the focus should shift to sell setups instead.
🔹 Summary
Buy Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3985
TP: 4020
RR: 1.5
Sell Setup (wait for a confirmed close below 3980 before entering)
SL: 4003
TP: 3940
RR: 1.7
🔹 Disclaimer
This plan represents the author’s personal market perspective and is not financial advice. Please exercise discretion and apply proper risk management.
SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 06 ต.ค. 68SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 06 ต.ค. 68
🔥🔥 ลุ้น DELTA แบก SET ต่อวันนี้ แต่ไม่ควรเสี่ยงถือข้ามวันเพราะ ...
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🟢 DELTA ทำ All Time High ! มีสิทธิไปต่อ เนื่องจากตลาดไม่มีมาตรการสกัด
🔴 ราคาน้ำมันหลุด 61$ ต่ำสุดในรอบ5เดือน กดดันกลุ่มพลังงาน
🔴 ทางเทคนิคมี Gap ล่างรอปิด @820
🟢 ต่างชาติกลับมาLong3วัน ครั้งแรกในรอบ3เดือน!!! รวมกว่า 3 หมื่นสัญญา
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาลงทดสอบLowวันพฤหัส และ PullBack เทรนขาลงเดิม แต่ยังสามารถรีบาวด์กลับได้ ทำให้ Gap ยังรอปิดอยู่ กำลังขึ้นมาทดสอบแนวต้านเทรนขาลงใหม่ (เส้นแดงบน) ผ่านได้ลุ้นเดินหน้าต่อ High เดิม และเป้าหมาย DoubleBottom
🟢 Bullish Plan :
ยืนเหนือ 827 → ลุ้นทดสอบ 831 / 834
ทะลุ 834 ได้ → เปิด Upside ต่อไป 840–841
🔴 Bearish Plan :
หลุด 817 → แรงขายจะกลับมากดลง 812 / 809
ถ้าหลุด 809 → โอกาสลงต่อถึง 806
🟡 Sideway Plan :
แกว่งในกรอบ 817–832
รอเลือกทางตามสัญญาณ Oscillator และ Volume
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) :825-826
9 จุดร่วม : EMA25 (TF60),EMA75 (TF15),Mode สะสม month ก่อน,EMA10 (TFDay),EMA200 (TF15),EMA5 (TFDay),EMA75 (TF60),Mode สะสม week ก่อน,POC
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 831-834
4 จุดร่วม : High เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB บน (TF15),Trend Line แนวต้าน
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 45% → Sideway 817–832 (แกว่งรอเบรกแนวต้านใหญ่)
🔹 35% → Bullish Break 832 → ลุ้นทดสอบ 840–841
🔹 20% → Bearish หลุด 817 → มีแรงขายกดกลับ 812–809
👀 สรุป : Flow ต่างชาติ Long ต่อเนื่องน่าสงสัย อาจรู้อะไรมา โดยมี DELTA พาไปต่อได้ แต่สิ้นวันอย่าเสี่ยงถือเนื่องจากตลาดจะประกาศ Cash เมื่อไรไม่มีใครรู้ และอาจมีแรงหุ้นน้ำมันจากราคาที่ลงต่อเนื่อง
Update ทุกสัญญาณ Real Time ผ่าน "Alert Signal" ได้ในห้อง VIP ฟรี ! สำหรับสมาชิกที่เปิดบัญชีผ่านพาร์ทเนอร์ของเรา สนใจในคอมเมนต์
#TFEX #ค่าคอม1Xบาท #S50Z25 #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #SET50 #derivatives
SET50 Insights:ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 07 ต.ค. 68
🔥🔥 DELTA ยังรอดต่อ พร้อมแบกตลาดสวิงออกข้าง
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🟡 ตลาดสวิงออกข้าง SideWayDown ระยะสั้น
🔴 อยู่ในเทรนขาลงระยะกลางรอบ 1 เดือน
🔴 ทางเทคนิคมี Gap ล่างรอปิด @820
🔴 ต่างชาติกลับมา Short หนักพร้อมขายหุ้นติดเป็นวันที่ 3
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาเปิดกระโดดทะลุแนวต้านขาลง (เส้นแดง) แต่ไม่สามารถผ่านได้ วกกลับเข้าเทรนเดิม ยังไม่สามารถลงทำ LowerLow ได้ สวิงออกข้าง SideWayDown ระยะสั้น
🟢 Bullish Plan :
หากยืนเหนือ 830 ได้ → ลุ้นเทสแนวต้าน 832.5 / 840
ทะลุ 840 ได้ → แนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง
🔴 Bearish Plan :
หลุด 825 → กดลงต่อโซน 822 / 817
หากหลุด 817 → เปิดทางลงต่อ 812
🟡 Sideway Plan :
แกว่งในกรอบ 825–830 เล่นสั้นตามสัญญาณ RSI/Stoch
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) :825-826
7 จุดร่วม : EMA5 (TFDay),EMA75 (TF15),EMA75 (TF60),POC,BB ล่าง (TF15),EMA10 (TFDay),EMA200 (TF15)
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 831-834
3 จุดร่วม : High เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB บน (TF60)
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 45% → แกว่ง Sideway ในกรอบ 825–830
🔹 35% → เบรกขึ้นเหนือ 830 → ลุ้นเทส 832.5 / 840
🔹 20% → หลุด 824 → อ่อนตัวทดสอบ 817 / 812
👀 สรุป : ตลาดยังไม่มีทิศทางชัดเจนในระยะสั้น ต่างชาติสลับการมาขายพร้อม Short Delta สลับขึ้นลงสวนทางกับกลุ่มหุ้นใหญ่
Update ทุกสัญญาณ Real Time ผ่าน "Alert Signal" ได้ในห้อง VIP ฟรี ! สำหรับสมาชิกที่เปิดบัญชีผ่านพาร์ทเนอร์ของเรา สนใจในคอมเมนต์
#TFEX #ค่าคอม1Xบาท #S50Z25 #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #SET50 #derivatives
SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 08 ต.ค. 68SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 08 ต.ค. 68
🔥🔥 DELTA พาทัวร์ ขึ้นแรงต่อเนื่อง ไร้วี่แววติด Cash ทุก 1 บาท = 1 จุด
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🟢 ราคาBreakเทรนขาลง(เส้นแดง)รอบ 1 เดือน
🔴 DELTA เป็นตัวหลักดึงดัชนีขึ้น แต่เริ่มมีสัญญาณเตือนจากตลาด
🔴 เกิด Bearish Divergence (MACD)
🔴 ทางเทคนิคมี Gap ล่างรอปิด @820
🟢 ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นหลักพันล้าน, และ Long S50 Futures หนัก
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : เดินหน้าเข้าสู่เทรนขาขึ้นระยะสั้นที่ชัดเจนขึ้น(กรอบเขียว) หลังเบรกเทรนไลน์ขาลง โดยมีด่านทดสอบสำคัญที่ 840 จุด พร้อมเกิด Divergence หากผ่านได้ในช่วง ชม. แรกตอนเช้าลุ้นไปต่อเต็มตัว
🟢 Bullish Plan :
ยืนเหนือ 836 ล้าง Divergence → ลุ้นเทสแนวต้าน 840-842
ทะลุ 842 ได้ → เปิด Upside ต่อถึง 845,850
🔴 Bearish Plan :
ถูกเทขายทำกำไรระยะสั้นหลุด 832 → เสี่ยงพักฐานลง 828 / 825
หากหลุด 825 → แนวโน้มกลับสู่ Sideway Down
🟡 Sideway Plan :
แกว่งในกรอบ 832–840 เพื่อพักฐานสะสมแรงใหม่
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 828-832
6 จุดร่วม : BB บน (TF15),BB บน (TFDay),High เดิมรอบยาว (30 วัน+),High เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),BB บน (TF60),High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน)
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 840-842
6 จุดร่วม : High เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB บน (TF60)
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 45% → Sideway Up (830–842)
🔹 40% → Bullish Break 842 → เป้า 845
🔹 15% → Bearish หลุด 832 → ย่อพักฐานลง 825
👀 สรุป : ตลาดขับเคลื่อนด้วยหุ้นเพียงตัวเดียวอย่างชัดเจน แม้บรรยากาศจะชวนขึ้นต่อ แต่ก็ต้องระวังอย่างใกล้ชิด ตั้งคำสั่ง Stop Loss ไว้ทุกครั้ง เพราะถ้าตลาดฯ Action เมื่อไรอาจ Panic ฉับพลัน
Update ทุกสัญญาณ Real Time ผ่าน "Alert Signal" ได้ในห้อง VIP ฟรี ! สำหรับสมาชิกที่เปิดบัญชีผ่านพาร์ทเนอร์ของเรา สนใจในคอมเมนต์
#TFEX #ค่าคอม1Xบาท #S50Z25 #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #SET50 #derivatives
The Redoubling. BRBR: ราชาใหม่แห่งโภชนาการการกีฬา?เกี่ยวกับ Redoubling
Redoubling คือโครงการวิจัยของฉันเอง ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบคำถามต่อไปนี้: ฉันจะต้องใช้เวลานานเท่าใดในการเพิ่มทุนเป็นสองเท่า บทความแต่ละบทความจะมุ่งเน้นไปที่บริษัทต่างๆ ที่ฉันได้เพิ่มเข้าในพอร์ตโฟลิโอจำลองของฉัน ฉันจะใช้ราคาปิดของแท่งเทียนสุดท้ายในแต่ละวันเป็นราคาซื้อขาย ฉันจะตัดสินใจทุกอย่างโดยอาศัยการวิเคราะห์พื้นฐาน นอกจากนี้ ฉันจะไม่ใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจในการคำนวณ แต่ฉันจะลดทุนของฉันตามจำนวนคอมมิชชัน (0.1% ต่อการซื้อขาย) และภาษี (กำไรจากทุน 20% และเงินปันผล 25%) หากต้องการทราบราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน เพียงคลิกปุ่มเล่นบนแผนภูมิ แต่โปรดใช้สิ่งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเท่านั้น เพื่อให้คุณทราบว่านี่ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมโดยละเอียดของ BellRing Brands, Inc. (สัญลักษณ์: BRBR )
1. พื้นที่หลักของกิจกรรม
BellRing Brands เป็นบริษัทด้านโภชนาการสำหรับผู้บริโภคที่มุ่งเน้นในหมวดหมู่ "โภชนาการที่สะดวก" บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์โปรตีน (เชคพร้อมดื่ม ผง และแท่งโปรตีน) ภายใต้แบรนด์หลัก เช่น Premier Protein, Dymatize และ PowerBar BellRing ดำเนินงานในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้งที่ดูแลธุรกิจแบรนด์เหล่านี้ และมุ่งเน้นที่การขยายการจัดจำหน่าย การเจาะตลาด และนวัตกรรมด้านโภชนาการ
2. รูปแบบธุรกิจ
BellRing สร้างรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์โภชนาการ (เชค ผง บาร์) ผ่านช่องทางต่างๆ (เช่น คลับ ค้าปลีกจำนวนมาก อีคอมเมิร์ซ ร้านสะดวกซื้อ สินค้าเฉพาะทาง) ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ รูปแบบส่วนใหญ่เป็นแบบ B2C (ธุรกิจถึงผู้บริโภค) ผ่านทางการขายปลีกและช่องทางตรง แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้ขายปลีก ผู้จัดจำหน่าย และผู้ผลิตร่วมในการจัดการการผลิต การผลิตตามสัญญา การขนส่ง และพื้นที่ชั้นวางสินค้าอีกด้วย BellRing ยังลงทุนด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และการเข้าถึงครัวเรือนเพื่อขับเคลื่อนการซื้อซ้ำและการเติบโตของอัตราการซื้อ
3. ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลัก
แบรนด์หลักและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ BellRing ได้แก่:
Premier Protein : แบรนด์เรือธงที่นำเสนอโปรตีนเชคพร้อมดื่ม โปรตีนผง และเครื่องดื่มโปรตีนสดชื่น เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดในพอร์ตโฟลิโอของพวกเขา
Dymatize : มุ่งเน้นไปที่โปรตีนผงสำหรับนักกีฬา/อาหารเสริมสำหรับนักกีฬาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
PowerBar : แบรนด์บาร์โภชนาการเก่าแก่ที่ขยายตลาดไปยังต่างประเทศและข้ามหมวดหมู่
4. ประเทศสำคัญสำหรับธุรกิจ
แม้ว่าตลาดหลักของ BellRing จะเป็นสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทก็กำลังดำเนินการขยายการดำเนินงานในระดับนานาชาติ การเติบโตในระดับนานาชาติของ Dymatize ได้รับการยกย่องว่าเป็นแรงผลักดันเชิงบวก แบรนด์ PowerBar ยังเข้าถึงตลาดต่างประเทศมากกว่า 35 แห่ง โดยเฉพาะในยุโรป อย่างไรก็ตาม BellRing มักถูกมองว่าเป็น "บริษัทโภชนาการของสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์แบบเพียวเพลย์" ซึ่งมีความทะเยอทะยานที่จะขยายไปทั่วโลกมากขึ้น เนื่องจากช่องทางการจัดจำหน่ายและผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา การค้าปลีกในประเทศ อีคอมเมิร์ซ และช่องทางสะดวกซื้อจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ
5. คู่แข่งหลัก
BellRing แข่งขันในพื้นที่อาหาร เครื่องดื่ม และโภชนาการที่กว้างขึ้น บริษัทคู่แข่งและบริษัทอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่:
Medifast, Inc. (ผลิตภัณฑ์โภชนาการ / อาหารและสุขภาพ)
บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องดื่มรายใหญ่ เช่น Coca-Cola, Unilever, Keurig Dr Pepper, Hershey (ผ่านทางกลุ่มเครื่องดื่ม/โภชนาการ)
บริษัทโภชนาการเฉพาะทาง / อาหารเสริมในด้านโปรตีน สุขภาพ / ความสมบูรณ์ของร่างกาย
ตามข้อมูลของ Craft คู่แข่งได้แก่ Amy's Kitchen และร้านอื่นๆ ในกลุ่มโภชนาการ/อาหารที่อยู่ติดกัน
ในการเปรียบเทียบอุตสาหกรรมโดยรวม BellRing จะถูกจัดกลุ่มร่วมกับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและอุตสาหกรรมเพื่อผู้บริโภคที่ไม่เป็นวัฏจักร
6. ปัจจัยภายนอกและภายในที่ส่งผลต่อการเติบโตของกำไร
ปัจจัยภายนอก
แนวโน้มมหภาคที่มุ่งสู่สุขภาพ ความสมบูรณ์ของร่างกาย และโภชนาการเชิงฟังก์ชัน: เนื่องจากผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีน ฉลากที่สะอาด สะดวกสบาย และมีประโยชน์เชิงฟังก์ชันมากขึ้น BellRing จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการตอบสนองความต้องการ
การเจาะตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักต่ำ: บริษัทตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์เชคยังคงมีการเจาะตลาดครัวเรือนค่อนข้างต่ำ (เช่น 48% ในบางช่องทางที่ติดตาม แสดงให้เห็นถึงช่องทางในการเติบโต
การขยายการจัดจำหน่ายและช่องทางใหม่ (อีคอมเมิร์ซ ความสะดวก): การเติบโตในช่องทางที่ยังไม่ได้ติดตาม การขายระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถขยายการเข้าถึงได้
วงจรสินค้าโภคภัณฑ์และต้นทุนปัจจัยการผลิตลดลง: แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบหรือปัจจัยการผลิตที่ดี (หรือการป้องกันความเสี่ยง) อาจช่วยปรับปรุงอัตรากำไรได้ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 บริษัทอ้างว่าต้นทุนปัจจัยการผลิตสุทธิลดลงเป็นปัจจัยที่ทำให้มีอัตรากำไรสูงขึ้น
ปัจจัยภายใน
ความแข็งแกร่งของแบรนด์และการเติบโตของการเข้าถึงครัวเรือน: Premier Protein พบว่ามีการเติบโตที่แข็งแกร่งในการเข้าถึง ซึ่งสนับสนุนความต้องการที่เกิดขึ้นซ้ำ
การขยายขนาดการจัดหาและการผลิต: BellRing ได้สร้างเครือข่ายการผลิตร่วมและเพิ่มอุปทานการสั่นสะเทือนเพื่อขจัดข้อจำกัด
ประสิทธิภาพการดำเนินงานและการขยายอัตรากำไร: บริษัทใช้การควบคุมต้นทุน การจัดซื้อ ค่าธรรมเนียมการผลิต (เช่น ค่าธรรมเนียมการบรรลุเป้าหมาย) และกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง
โปรแกรมการซื้อหุ้นคืน: บริษัทดำเนินการซื้อหุ้นคืนอย่างแข็งขันเพื่อคืนทุนและสนับสนุนการเติบโตของรายได้ต่อหุ้น
นวัตกรรมและการขยายผลิตภัณฑ์: การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลุ่มโภชนาการสามารถผลักดันปริมาณและรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้
7. ปัจจัยภายนอกและภายในที่ส่งผลต่อกำไรลดลง
ภัยคุกคามจากภายนอก
การแข่งขันที่รุนแรงและการอิ่มตัวของตลาด: ธุรกิจเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการ/ฟังก์ชันมีการแข่งขันสูง โดยมีผู้ประกอบการรายเดิมจำนวนมากที่มีเงินทุนหนา การสูญเสียพื้นที่วางสินค้าหรือแรงกดดันในการส่งเสริมการขายอาจทำลายอัตรากำไรได้
การลดกำลังและสินค้าคงคลังของผู้ค้าปลีก: ในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 BellRing เปิดเผยว่าผู้ค้าปลีกหลักลดปริมาณการจัดหาสินค้าเป็นเวลาหลายสัปดาห์ คาดว่าจะสร้างอุปสรรคต่อการเติบโต
ต้นทุนปัจจัยการผลิตเพิ่มสูงขึ้นและความผันผวนของสินค้าโภคภัณฑ์: ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือการป้องกันความเสี่ยงตามมูลค่าตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยอาจทำให้กำไรลดลง
ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ การติดฉลาก หรือการอ้างสิทธิ์ด้านสุขภาพ: ในภาคส่วนอาหาร เครื่องดื่ม และโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับอาหารเสริม การอ้างสิทธิ์ด้านสุขภาพ หรือการติดฉลาก อาจทำให้เกิดต้นทุนได้
การเปิดเผยทางกฎหมาย/การฟ้องร้อง: BellRing เปิดเผยข้อตกลงมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องในอดีต (Joint Juice)
จุดอ่อนภายใน
การพึ่งพาแบรนด์หลัก/หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์มากเกินไป: หาก Premier Protein ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ความเข้มข้นของรายได้ของบริษัทอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง
ความเสี่ยงในการดำเนินการ: การขยายการผลิต การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ความล้มเหลวในการควบคุมคุณภาพ หรือความผิดพลาดในการทำการตลาดอาจส่งผลเสียต่อการเติบโต
สำรองตามกฎหมาย / สำรองเกินคาด: สำรองสำหรับประเด็นทางกฎหมายในไตรมาส 3 ปี 2568 กระทบผลประกอบการ ฉุดกำไรจากการดำเนินงาน
8. เสถียรภาพของการบริหารจัดการ
การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
Darcy Horn Davenport ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอและอยู่ในคณะกรรมการ ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นผู้นำธุรกิจ Active Nutrition ของ Post ก่อนที่ BellRing จะแยกตัวออกไป
Paul Rode ดำรงตำแหน่ง CFO มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจโภชนาการและดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ที่ Post รวมถึงการดำรงตำแหน่ง CFO ของ Active Nutrition ของ Post
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 BellRing ได้ประกาศว่า Elliot H. Stein Jr. จะลาออกจากคณะกรรมการโดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2026 ในเวลาเดียวกัน โทมัส พี. Erickson ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการอิสระชั้นนำ Shawn W. Conway ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการด้านค่าตอบแทนและการกำกับดูแล และ Jennifer Kuperman เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้รับการอธิบายว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแล/คณะกรรมการ มากกว่าการโยกย้ายผู้บริหาร
ผลกระทบต่อกลยุทธ์/วัฒนธรรมองค์กร
ดูเหมือนว่าทีมผู้บริหารจะค่อนข้างมั่นคงในระดับสูงสุด โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง CEO หรือ CFO ที่สำคัญเมื่อเร็วๆ นี้ การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการดูเหมือนจะเกี่ยวกับบทบาทของคณะกรรมการและการวางแผนการสืบทอดตำแหน่งมากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของเดเวนพอร์ต บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์การเติบโตเชิงรุก การเจาะแบรนด์ และการขยายอุปทาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องและการจัดแนวระหว่างฝ่ายบริหารและกลยุทธ์ การปรับเปลี่ยนบอร์ดมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินไปอย่างต่อเนื่องราบรื่นมากกว่าที่จะขัดขวางทิศทาง ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทำไมฉันถึงเพิ่มบริษัทนี้เข้าในพอร์ตโฟลิโอโมเดลของฉัน
ฉันลองดูข้อมูลพื้นฐานของบริษัทแล้ว ดูเหมือนว่ากำไรต่อหุ้นจะไม่เติบโตในตอนนี้ แต่รายได้รวมกลับเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อรวมเข้ากับอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ที่ต่ำและกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การลงทุน และการเงินที่สม่ำเสมอ ทำให้งบดุลมีรากฐานที่ดี สิ่งอื่นๆ ที่ควรทราบก็คือ ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนปัจจุบันแข็งแกร่ง และอัตราส่วนการครอบคลุมดอกเบี้ยก็ยอดเยี่ยม สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสภาพคล่องและความสามารถในการชำระหนี้มีความมั่นคง ด้วยอัตราส่วน P/E ที่ 20.36 ฉันคิดว่าการประเมินมูลค่านี้ถือว่าน่าสนใจเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้และสอดคล้องกับโปรไฟล์การเติบโตที่สมดุล
ฉันไม่พบข่าวสำคัญใดๆ ที่จะคุกคามเสถียรภาพของบริษัทหรือนำไปสู่การล้มละลาย เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์การกระจายความเสี่ยงที่ 20 และความเบี่ยงเบนที่สังเกตได้ของราคาหุ้นปัจจุบันจากค่าเฉลี่ยรายปีมากกว่า 16 EPS ฉันจึงตัดสินใจจัดสรรเงินทุน 15% ของฉันให้กับบริษัทนี้ที่ราคาปิดของแท่งรายวันล่าสุด
ภาพรวมพอร์ตโฟลิโอ
ด้านล่างนี้เป็นภาพหน้าจอจากเครื่องมือ Portfolios ของ TradingView ฉันใช้เงินทุนเริ่มต้น 100,000 ดอลลาร์สำหรับพอร์ตโฟลิโอจำลอง ฉันจะอัปเดตภาพหน้าจอเหล่านี้เมื่อฉันเพิ่มการซื้อขายใหม่
Gold Trading Plan – October 7, 2025
Gold Trading Plan – October 7, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All timeframes remain in an uptrend, and the current price is hovering near the H1 demand zone, giving a buying advantage with an upside target around 3983. However, if the price fails to hold above the 3943 support, the bullish structure would be invalidated — traders should then shift focus to potential sell opportunities.
🔹 Summary
Buy Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3943
TP: 3983
RR: 1.69
Sell Setup (wait for a confirmed close below 3940 before entering)
SL: 3973
TP: 3903
RR: 1.12
🔹 Disclaimer
This plan reflects the author’s personal market view and is not intended as financial advice. Please exercise caution and apply proper risk management.
ช่วงที่ราคาค่อย ๆ ไต่ขึ้น แบบช้า ๆ มันกำลัง !!!บอกอะไรเรา!!!**ทำไม “แรงเท” ถึงสำคัญ**,
และ **ช่วงที่ราคาค่อย ๆ ไต่ขึ้นแบบช้า ๆ** มันกำลัง “บอกอะไร” เกี่ยวกับรายใหญ่ 👇
---
.
## 💧 1. “แรงเทลง” คืออะไรในมุมของรายใหญ่
“แรงเทลง” หรือ *Sharp Drop* ไม่ได้เกิดเพราะเทรดเดอร์ทั่วไปขายเยอะ
แต่มันคือ “การเทหลอก” จากรายใหญ่ (Smart Money) เพื่อ **สร้างสภาพคล่อง (Liquidity)**
ให้ตัวเองเข้า Position ได้ในราคาที่ดีที่สุด
### 🔍 ตัวอย่าง:
* ราคาไต่ขึ้นเรื่อย ๆ แบบช้า ๆ
* Retail trader (รายย่อย) เริ่ม “กล้า Buy”
* แต่ยัง **ไม่มีคนตั้ง Stop Loss เยอะพอ**
→ รายใหญ่ “ยังไม่สามารถเข้าไม้ใหญ่ได้”
→ จึงต้อง **เทแรงลง (Sweep)** เพื่อ “ลาก Stop Loss” ของฝั่ง Buy
→ หลังจากนั้น **ค่อย Buy กลับในจุดล่างสุด** (OB zone)
---
.
## 💡 2. ทำไม “การไต่ขึ้นช้า” = “ของรายใหญ่ยังอยู่ในมือ”
ช่วงที่ราคาค่อย ๆ ไต่ขึ้น:
* Volume ต่ำ
* Candle body เล็ก
* ไม่มี Break Structure ที่ชัด
* ไม่มี Volatility (แรงเหวี่ยง)
สิ่งนี้บอกว่า:
> “รายใหญ่ยังไม่ปล่อยของ”
> และ “ยังไม่มีฝั่งตรงข้ามพอจะกิน Stop Loss”
เพราะฉะนั้น…
รายใหญ่จะ **ไม่สร้าง Trend ใหม่** จนกว่าเขาจะ **สร้าง Liquidity พอให้เข้าไม้ใหญ่ได้ก่อน**
---
.
## ⚙️ 3. สัญญาณว่า “แรงเท” ใกล้จะมาแล้ว
อย่าลืมสังเกต 4 อย่างนี้ก่อนเกิด Liquidity Grab ใหญ่ ๆ:
1. ราคาไต่ขึ้นเรื่อย ๆ → แต่อยู่ในกรอบ Supply เดิม
2. Volume ลดลงเรื่อย ๆ
3. มี Fair Value Gap (FVG) ค้างไว้ด้านล่าง
4. Timeframe ใหญ่ (H1–H4) เริ่ม Divergence
👉 เมื่อครบ 4 เงื่อนไขนี้ — มักจะตามด้วย **แรงเทแรง ๆ (Stop Hunt)**
และ **กลายเป็นจุดกลับตัว (Reversal OB)** ในเวลาต่อมา
---
.
.
## 🧠 Mindset ระหว่างรอ “แรงเท”
> "อย่ารีบเข้าตลาดตอนที่มันนิ่ง"
> “ของจริงจะมาเมื่อเจ็บก่อนรวย”
รอให้ตลาด “ทุบแรงก่อน” แล้วค่อยเข้าเล่น “จุดเก็บของ” หลังจากการเท
นั่นคือจุดที่ “รายใหญ่เพิ่งเข้ามา” — และคือจุดที่ “เราควรตาม”
ยูโรอ่อนค่าหนัก หลังนายกฯ ฝรั่งเศสลาออกฉับพลัน**การคาดการณ์ค่าเงิน EUR/USD: ผู้ขายยูโรเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อประเด็นการเมืองฝรั่งเศสกลับมาปรากฏอีกครั้ง**
EUR/USD ซื้อขายในแดนลบลึกต่ำกว่า 1.1700 ในวันจันทร์
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ลากอร์นู ลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่สัปดาห์
มุมมองทางเทคนิคบ่งชี้ถึงแรงกดดันฝั่งขาลงที่กำลังก่อตัวในระยะสั้น
ในช่วงการซื้อขายยุโรปวันจันทร์ EUR/USD อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักและซื้อขายต่ำกว่า 1.1700 โดยในขณะที่ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ นักลงทุนจึงคาดว่าจะให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสเป็นหลัก
ข่าวการลาออกของนายเซบาสเตียง เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายเงินยูโร (EUR) ในช่วงการซื้อขายยุโรปวันจันทร์ ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสปรับตัวลดลงประมาณ 2% หลังจากมีรายงานข่าวนี้ เนื่องจากตลาดเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตทางการเมืองที่ลุกลามมากขึ้นในประเทศฝรั่งเศส
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ เลอกอร์นูถูกกดดันอย่างหนักจากฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายซ้ายในเรื่องแผนงบประมาณของเขา
ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลสหรัฐยังคงประสบกับภาวะ “ชัตดาวน์” โดยไม่มีความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเควิน แฮสเส็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่าการปลดพนักงานอาจเกิดขึ้นหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าการเจรจา “ไม่คืบหน้าเลยอย่างสิ้นเชิง”
เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่กระทบตลาด นักลงทุนอาจหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของยูโร เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศส
ในช่วงค่ำของการซื้อขายฝั่งอเมริกา ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นางคริสติน ลาการ์ด จะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรป
---
### **การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ EUR/USD**
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟ 4 ชั่วโมงลดลงต่ำกว่า 40 และคู่เงิน EUR/USD ทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 200 ช่วงเวลา (200-period SMA) ลงมา ซึ่งสะท้อนถึงแรงโมเมนตัมขาลงที่กำลังเพิ่มขึ้น
ในด้านแนวรับ ระดับ 1.1640 (ระดับการปรับฐาน Fibonacci 50% ของแนวโน้มขาขึ้นล่าสุด) ทำหน้าที่เป็นแนวรับแรกของ EUR/USD ก่อนที่แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1.1580 (Fibonacci 61.8%) และ 1.1500 (ระดับจิตวิทยา, Fibonacci 78.6%)
ในทางกลับกัน แนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1.1700–1.1715 (Fibonacci 38.2% และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 ช่วงเวลา) และบริเวณ 1.1750–1.1760 (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ช่วงเวลา และ Fibonacci 23.6%)
Gold Trading Plan – October 6, 2025Gold Trading Plan – October 6, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All timeframes are currently in an uptrend, and with price resting on the H1 demand zone, the market favors the buy side with an upside target around 3940. However, once price reaches 3940, the market could offer a potential reversal opportunity for sell positions. Such a setup should be approached with caution and lower risk allocation.
🔹 Summary
Buy Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3898
TP: 3940
RR: 1
Sell Setup (wait for price to reach 3940 before entering)
SL: 3970
TP: 3885
RR: 1.9
Note: The sell plan is a reversal attempt and should be executed with lower risk.
🔹 Disclaimer
This plan reflects the author’s personal perspective and is not financial advice. Please exercise discretion and manage risk appropriately.
SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 01 ต.ค. 68🔥🔥 ต่างชาติถล่มขาย&Short; TFEX กดดันบรรยากาศตลาดไทย
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🔴 เช้าเลือกทางชัด เกิด Double Top แล้วทุบทิ้งทันที
🟡 บ่ายเริ่มพักตัวและรีบาวด์กลับได้ที่ Low เดิม กลับมา Sideway กรอบใหญ่ (กรอบส้ม)
🔴 แรงขายนำโดยหุ้นพลังงานและ DELTA แบบนี้ไม่มีตัวค้ำ
🔴 ต่างชาติขายหนัก -3,777 ล้านบาท ปิดเดือน ก.ย. ขายสะสม -12,000 ล้านบาท
🔴 Flow TFEX ไม่นิ่งตามคาด ต่างชาติพลิกกลับมา Short -7,897 สัญญา
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical; Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาหักเทรนขาขึ้นระยะสั้น หลังไม่สร้าง High ใหม่ พร้อมเกิดรูปแบบ Double Top สนับสนุนขาลง พร้อมหลุด Low เมื่อวาน แต่การลงเร็วรอบนี้อาจมีพักที่แนวรับ 812-814 คาด Sideway ในกรอบส้ม
🟢 Bullish Plan :
รอกลับไปยืนเหนือ 820-824 → ลุ้นทดสอบ 829 / 833
หากทะลุ 833 ได้ → Upside เปิดไปถึง 840–842
🔴 Bearish Plan :
หลุด 812–814 ให้ได้ในช่วงเช้า เพื่อหยุดการพักฐาน → เสียทรงแน่ กดลงไป 809 / 806
หากหลุด 806 → Risk ต่อเนื่องไปโซน 801–798
🟡 Sideway Plan :แกว่งกรอบ 812–824 → ดักรับ-ขายบน เล่นสั้นตามสัญญาณ Oscillator
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 812-814
5 จุดร่วม : BB ล่าง (TF60),Low เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB ล่าง (TF15),Low เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),Trend Line แนวรับ
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 820-824
11 จุดร่วม : EMA10 (TFDay),Mode สะสม month ก่อน,Mode สะสม week ก่อน,POC,EMA5 (TFDay),BB บน (TF15),EMA25 (TF60),EMA75 (TF15),EMA200 (TF60),EMA25 (TFDay),Fibo1 38.2
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast; - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 40% → Sideway 812–824 (แกว่งรอทิศทางชัด)
🔹 35% → Bullish Break 824 → Test 829 / 833
🔹 25% → Bearish หลุด 812 → ลง 809 / 806
👀 สรุป : จับตาภาคเช้าพร้อมเฉลยทิศทาง หากสถานการณ์ดีเอาอยู่ไม่หลุด 812 พร้อมกลับไปเล่น Sideway กรอบบนอีกครั้ง แต่ถ้าต่างชาติเอาจริงทุบต่อ กลับเป็นขาลงเต็มตัว
<<>>
#TFEX #ค่าคอม1Xบาท #S50Z25 #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #SET50 #derivatives
แบบทดสอบ: คุณจะทำยังไงเมื่อเจอ “กับดักตลาด”แบบทดสอบ “Mindset ของเทรดเดอร์ต่อกับดักตลาด”**
ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้ “วัดตัวเอง” ว่าตอนนี้อยู่ในจุดไหนของวงจรเทรด
ใช้ฝึกจิตและพัฒนาแนวคิดให้คมขึ้น
เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่เข้าใจเรื่อง *สภาพคล่อง*
แล้วอยากต่อยอดจิตวิทยาเทรด
.
---
.
# 🧭 แบบทดสอบ: คุณจะทำยังไงเมื่อเจอ “กับดักตลาด”
.
> เลือกคำตอบที่ “ตรงกับสิ่งที่คุณมักทำจริง ๆ” มากที่สุด
> ไม่มีถูกผิด — แต่แต่ละข้อจะบอก “Mindset” ที่อยู่เบื้องหลัง
---
## 🔹 ข้อ 1: ราคาพุ่งทะลุแนวต้านอย่างแรง พร้อมแท่งเทียนเขียวใหญ่ (Breakout)
คุณจะทำยังไง?
A. กด Buy ทันที เพราะคิดว่าตลาดจะไปต่อ
B. รอดูแท่งถัดไปว่าปิดเหนือแนวต้านไหม
C. รอให้ราคาย่อกลับมาทดสอบแนวที่เบรก (Retest) ก่อนค่อยเข้า
D. ขายสวน เพราะคิดว่าเจ้า “หลอกเบรก”
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **FOMO bias** (กลัวตกรถ, รายย่อย 90%)
> * B = เริ่มใช้ “การยืนยัน” แบบเทคนิคแต่ยังเสี่ยงโดนหลอก
> * C = **Professional mindset** (รอ liquidity confirm)
> * D = Over-confidence trader (อาจโดนลากก่อนลง)
---
## 🔹 ข้อ 2: ราคาลงมาแรง แล้วเกิดแท่งไส้ยาว (Rejection wick) บนโซน Demand
คุณจะทำยังไง?
A. เข้า Buy ทันทีเพราะเห็นแท่งกลับตัว
B. รอดู 1-2 แท่งต่อไปว่ามีแรง follow หรือไม่
C. ใช้เครื่องมืออื่นยืนยัน (เช่น Volume, BOS, CHOCH)
D. ปิดจอหนี เพราะกลัวลงต่อ
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **Impulsive entry** (ไวไป, ขาดการยืนยัน)
> * B = มีวินัย เริ่มเข้าใจพฤติกรรมราคา
> * C = **Smart trader** (เทรดจากข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์)
> * D = Fear-based trader (มักเสียโอกาสเพราะกลัว)
---
## 🔹 ข้อ 3: หลังจากโดน Stop Loss สองไม้ติด คุณจะ...
A. เพิ่ม lot เพื่อ “เอาคืน” (Revenge Trade)
B. ลดขนาด lot แล้วเทรดต่อทันที
C. หยุดเทรดชั่วคราว เพื่อทบทวน setup
D. ปิดกราฟ แล้วเปิดดู YouTube หรือ scroll มือถือ
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **อันตรายสุด!** อารมณ์นำ → เสี่ยงล้างพอร์ต
> * B = ดีขึ้น แต่ยังติด mindset “ต้องชนะตอนนี้”
> * C = **Master mindset** (โฟกัสระยะยาว ไม่ใช่ไม้เดียว)
> * D = Escapism (หนีปัญหา ไม่เรียนรู้จากมัน)
---
## 🔹 ข้อ 4: คุณเห็นราคาทำ New High ต่อเนื่องแบบไม่มีจุดย่อ (ATH Phase)
คุณจะ...
A. ไล่ตามเพราะกลัวตกรถ
B. รอจังหวะพักฐาน (consolidation)
C. มองหาสัญญาณ “เจ้าเริ่มปล่อยของ” (Volume divergence / sweep)
D. Sell เลย เพราะคิดว่า “มันต้องลงแล้ว”
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = FOMO Trader (หลงกระแส)
> * B = Balanced Trader (มีวินัย รอความชัด)
> * C = **Liquidity Hunter Mindset** (อ่านเจ้าออก, เข้าใกล้ระดับโปร)
> * D = Contrarian without confirmation (กล้าแต่ไม่มีเหตุผล)
---
## 🔹 ข้อ 5: หลังเข้าไม้ Buy แล้ว ราคาไม่ไปไหน ซึม ๆ อยู่หลายชั่วโมง
คุณจะ...
A. ปิดทิ้ง เพราะเบื่อ
B. ขยับ SL ให้แคบลง “กันเสียเยอะ”
C. ปล่อยไว้ตามแผน เพราะยังไม่หลุดโครงสร้าง
D. เปิด position เพิ่มเพราะอยากเร่งกำไร
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = ขาดความอดทน (impatient mindset)
> * B = Fear-based control (แผนไม่ชัด)
> * C = **Trader มีระบบ** (วินัยเหนืออารมณ์)
> * D = Greedy behavior (โลภ, เพิ่ม risk โดยไม่มีเหตุผล)
---
## 🔹 ข้อ 6: เจอกราฟแกว่งเร็ว ผันผวนสูง (Volatility Spike)
คุณจะ...
A. เข้าเทรดเลย เพราะ “น่าจะวิ่งแรง”
B. ลด lot size ลงครึ่งหนึ่ง
C. หยุดรอดูให้ตลาดนิ่งก่อน
D. ใช้โซนใหญ่ (H1/H4) เป็นหลักแทน M1-M5
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = Over-trading (เสพ adrenaline)
> * B = Risk control mindset
> * C = High emotional discipline
> * D = **Pro-level adjustment** (เข้าใจสภาพตลาดเปลี่ยน ต้องขยายมุมมอง)
---
## 🔹 ข้อ 7: หลังจากได้กำไรติดกันหลายวัน
คุณจะ...
A. เพิ่มขนาด lot เพื่อ “เร่งพอร์ต”
B. เทรดเท่าเดิม เพราะอยากรักษาความสม่ำเสมอ
C. หยุด 1 วัน เพื่อ reset อารมณ์
D. ขยายแผนเทรด — เพิ่ม TF หรือคู่เงิน
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = Ego trap (มั่นใจเกินไป → เสี่ยง crash)
> * B = Balanced mindset
> * C = **High-performance mindset** (เข้าใจจังหวะพักของสมอง)
> * D = Creative expansion (ดี แต่ควรคุม risk)
---
# 🔍 สรุปผล (นับคะแนน Mindset)
* ถ้า Kio ตอบ **ส่วนใหญ่เป็น C หรือ D** → Mindset แบบ “Smart Money / Professional”
* ถ้าส่วนใหญ่เป็น **B** → อยู่ในช่วง “Transition” (เริ่มคิดแบบระบบ)
* ถ้าส่วนใหญ่เป็น **A** → อยู่ใน “Emotional Trader Zone” (ยังเทรดจากความรู้สึกมากกว่าข้อมูล)
---
## 🧘♀️ คำแนะนำสั้น ๆ ต่อ Mindset แต่ละระดับ
🧘♀️ ระดับ | Emotional Trader
ลักษณะ - เทรดจากอารมณ์ / เร่งรีบ
ควรพัฒนาเรื่อง - ฝึกหยุดก่อนเข้า, จดบันทึกเหตุผลก่อนกด
.
🧘♀️ระดับ| Transition Trader
ลักษณะ - มีระบบแต่ยังลังเล
ควรพัฒนาเรื่อง - ฝึกเชื่อมั่นใน process, ไม่แก้ระบบบ่อย
.
.
🧘♀️ระดับ|Smart Trader
ลักษณะ - เทรดตามโครงสร้าง / รอจังหวะ
ควรพัฒนาเรื่อง - รักษาวินัยต่อเนื่อง, จัดการจิตใจวัน drawdown
.
🧘♀️ระดับ| Professional
ลักษณะ - อ่านเจ้าออก, รอ confirm
ควรพัฒนาเรื่อง - สอนคนอื่นได้, ใช้จิตสงบและวินัยเหนือเงิน
สิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ทำในวันเสาร์–อาทิตย์สิ่งที่เทรดเดอร์มืออาชีพทำในวันที่ตลาดปิด”
มักเป็น **สิ่งที่ทำให้เขานำหน้าคนอื่น** ในสัปดาห์ต่อไป 💪
.
---
.
# 💼 สิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทำในวันเสาร์–อาทิตย์
.
## 🧭 1. ทบทวนสัปดาห์ที่ผ่านมา (Review Week)
เทรดเดอร์ระดับโปรไม่ปล่อยให้ “กำไรหรือขาดทุน” ผ่านไปเฉย ๆ
แต่เขาจะกลับไปดูว่า...
.
* จุดเข้าทุกจุด → เข้าเพราะ *ตามแผน* หรือ *ตามอารมณ์* ❓
* จุดออก → ออกตามเงื่อนไข หรือกลัวเกินไป ❓
* Market Structure → ยังสอดคล้องกับมุมมองใหญ่มั้ย ❓
* Emotion ตอนเทรด → มีจุดไหนที่ “เราถูกเจ้าหลอกด้วยอารมณ์” หรือเปล่า
.
📒 บางคนจะเขียน “Trading Journal” หรือ “สรุปภาพตลาดรายสัปดาห์” เก็บไว้เลย
---
.
## 🧠 2. ฝึก Mindset & Psychology
.
เทรดเดอร์ที่เก่งจะรู้ว่า “ตลาดคือเกมจิตวิทยา”
วันหยุดคือเวลาที่เขา:
.
* อ่านหนังสือจิตวิทยาเทรด เช่น *Trading in the Zone*, *The Disciplined Trader*
* ฝึกสมาธิ / เดินจงกรม / วิ่ง / ฟังเพลง เพื่อรักษาโฟกัส
* เขียน Affirmation สั้น ๆ เช่น
.
> “ฉันไม่ต้องเทรดทุกวันเพื่อรวย ฉันต้องรอวันของฉันเท่านั้น”
.
-.--
## 📊 3. เตรียมโซนสำคัญ (Top-Down Analysis)
.
ก่อนตลาดเปิด เขาจะ:
.
* ไล่ดูกราฟตั้งแต่ **Monthly → Weekly → Daily → H4 → H1**
* มาร์กแนว **Liquidity Zone / OB / EQH / EQL / Imbalance**
* ทำ “Scenario Plan” ว่า
.
* ถ้าราคามาทาง A → ฉันจะทำอะไร
* ถ้าราคาทะลุไปทาง B → ฉันจะไม่ทำอะไร
.
🎯 เป้าคือ “วันจันทร์ไม่ต้องคิดมาก” เพราะทุกอย่างวางไว้หมดแล้ว
.
---
.
## ⚙️ 4. ปรับปรุงระบบเทรด (System Optimization)
.
* ดูผล Backtest → ว่าระบบยังคงเสถียรหรือไม่
* ปรับ SL, RR หรือ Timeframe ให้เหมาะกับสภาวะ Volatility ล่าสุด
* ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ใน TradingView / FTMO demo
---
## 🧩 5. พักผ่อนจริง ๆ (Recovery)
.
เทรดเดอร์ระดับสูงรู้ว่า “สมองและจิตใจคือเครื่องมือทำเงิน”
วันหยุดเขาจะ:
.
* เดินเล่น, พบเพื่อน, เล่นเกม, ไปคาเฟ่ ☕
* ทำสิ่งที่เติมพลัง เช่น วางแผนเป้าหมายชีวิต, ทำ vision board
* ปิดจอมือถือ ไม่ดูกราฟสักวัน เพื่อให้สมอง Reset
.
---
.
## 💡 สรุปสั้น ๆ (Takeaway)
.
> เทรดเดอร์ธรรมดา ใช้วันหยุดพักจากกราฟ
> เทรดเดอร์ระดับโปร ใช้วันหยุด “เข้าใจกว่ากราฟ”
.
กับดักรายย่อยที่รายใหญ่สร้างขึ้น บทความแนวจิตวิทยาการเทรด เกี่ยวกับ กับดักที่รายใหญ่ทำไว้ให้รายย่อยติด
เพื่อให้เห็นชัดว่าตลาดไม่ได้วิ่งแบบสุ่ม แต่มี “เจตนา” ที่จะหลอกให้รายย่อยติดดอย/ติดดินอยู่เสมอ
---
.
# 🧠 จิตวิทยาตลาด: กับดักรายย่อยที่รายใหญ่สร้าง
.
ในโลกการเทรด **ราคามักไม่ใช่สิ่งที่เห็นตรงหน้า**
สิ่งที่ขยับราคาแท้จริงคือ **สภาพคล่อง (Liquidity)**
และผู้ที่ครอบครองพลังดันราคามากที่สุดคือ **รายใหญ่ (Smart Money, สถาบัน, เจ้ามือ)**
รายย่อย (Retail) จึงตกอยู่ใน “เกมจิตวิทยา” ตลอดเวลา
.
---
.
## 🎭 กับดักที่รายใหญ่ใช้บ่อย
.
### 1. **Breakout Trap (กับดักทะลุแนวรับ/แนวต้าน)**
.
* ราคาทะลุแนวต้านแรง → รายย่อยรีบไล่ซื้อ (FOMO)
* แต่จริงๆ รายใหญ่เพิ่ง “ปล่อยของ” ขายใส่ → ราคาเทกลับ
📌 ผลลัพธ์: รายย่อยติดดอย
.
---
.
### 2. **Stop Hunt (ล่ากิน Stop Loss)**
* รายย่อยชอบตั้ง SL ใต้ Low / เหนือ High ที่ชัดเจน
* รายใหญ่กดราคาไปกิน SL → เก็บของราคาถูก / ปล่อยของแพง
📌 ผลลัพธ์: รายย่อยโดนตบออกก่อนที่ราคาจะไปในทิศทางเดิม
.
---
.
### 3. **False Reversal (หลอกกลับตัว)**
.
* ราคาทำแท่งเทียนกลับตัวสวยๆ → รายย่อยรีบเข้า Buy/Sell
* แต่รายใหญ่แค่ “สร้างภาพ” เพื่อให้คนเข้า Order
* พอมีสภาพคล่องพอ → ราคาไปอีกทางทันที
📌 ผลลัพธ์: รายย่อยติดกับ Emotional Candle
.
---
.
### 4. **Liquidity Grab (เก็บสภาพคล่องก่อนเทรนด์จริง)**
.
* ก่อนเทรนด์ใหญ่เริ่ม รายใหญ่มักจะ “วิ่งไปกิน SL ทั้งสองฝั่ง”
* เพื่อเก็บของให้เต็ม → แล้วค่อยดันไปทิศเดียวแรงๆ
📌 ผลลัพธ์: รายย่อยโดนกวาดออกหมด → ไม่ได้อยู่บนขบวน
.
---
.
### 5. **ข่าวและอารมณ์ (News Trap)**
* ข่าวแรงๆ ออกมา → รายย่อยรีบเทรดตามอารมณ์ (FOMO / Panic)
* แต่รายใหญ่เตรียม “ตำแหน่งตรงข้าม” ไว้อยู่แล้ว
📌 ผลลัพธ์: รายย่อยซื้อแพงขายถูก
.
---
.
## 🔑 จิตวิทยาที่รายใหญ่ใช้
.
* ใช้ **ความกลัว (Fear)** → กดให้หลุด SL
* ใช้ **ความโลภ (Greed)** → หลอกให้ไล่ราคา
* ใช้ **ความไม่แน่ใจ (Uncertainty)** → แกว่งไปมาจนรายย่อยถอดใจ
-.--
.
## ✅ วิธีเอาตัวรอดจากกับดัก
.
1. อย่าตั้ง SL ตื้นเกินไปตรงจุดที่ใครๆ ก็มองออก
2. รอ “Confirm” เสมอ อย่าตามแท่งเขียว/แดงแรงๆ ทันที
3. เข้าใจว่า Breakout = จุดที่รายใหญ่เอาไว้ “ปล่อยของ”
4. มองหาพฤติกรรมราคาใกล้ **Liquidity Zone** มากกว่าดูเพียงแนวรับ/แนวต้าน
5. ใช้จิตวิทยากลับด้าน → ถ้ารู้สึกอยากเข้าแรงๆ แปลว่าอาจโดนหลอก
.
---
.
✨ **สรุป:**
ตลาดไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนชนะ แต่สร้างขึ้นมาเพื่อ “เอาเงินจากคนส่วนมาก”
รายใหญ่ใช้ **กับดักทางจิตวิทยา** สร้างสภาพคล่องจากความกลัวและความโลภของรายย่อย
ถ้าเราอ่านเกมออก เราจะหยุดเป็นเหยื่อ และเริ่มเป็นนักล่าแทน
.
---
EUR/USD ขยับขึ้นใกล้ 1.1750 รอผล ISM Services PMI สหรัฐฯEUR/USD ขยับขึ้นใกล้ระดับ 1.1750 ก่อนการประกาศดัชนี ISM Services PMI ของสหรัฐฯ**
EUR/USD ขยับสูงขึ้นใกล้ระดับ 1.1750 ในช่วงการซื้อขายยุโรปวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวเพื่อสะสมการขาดทุนรายสัปดาห์ ท่ามกลางการหยุดชะงักของข้อมูลจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (shutdown) และความหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักลงทุนกำลังรอคอยผลการประกาศดัชนี PMI ของสหรัฐฯ และการกล่าวสุนทรพจน์จากเจ้าหน้าที่ ECB และเฟดเพื่อหาแนวทางใหม่
---
### ภาพรวมทางเทคนิคของ EUR/USD
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟ 4 ชั่วโมงเคลื่อนไหวในแนวด้านข้างใกล้ระดับ 50 และ EUR/USD แกว่งตัวระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (20-day SMA) และ 50 วัน (50-day SMA) ซึ่งสะท้อนมุมมองที่เป็นกลางในระยะสั้น
* **แนวต้าน (Upside):**
โซน 1.1750–1.1770 ถือเป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่ Fibonacci Retracement 23.6% ของแนวโน้มขาขึ้นล่าสุด บรรจบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 รอบ (100-period SMA) และ 20 วัน (20-day SMA) หาก EUR/USD สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ระดับถัดไปคือ 1.1820 (ระดับนิ่ง) ก่อนถึง 1.1900 (ระดับนิ่งและเป็นระดับกลม)
* **แนวรับ (Downside):**
พื้นที่แนวรับแรกอยู่ที่ 1.1710–1.1690 (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 รอบ, Fibonacci Retracement 38.2%, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน) ก่อนจะถึง 1.1640 (Fibonacci Retracement 50%)
ดัชนี ISM Services PMI คาดว่าจะปรับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 51.7 ในเดือนกันยายน จาก 52 ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากไม่มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) นักลงทุนอาจหันไปจับตาส่วนประกอบ **ดัชนีการจ้างงาน (Employment Index)** เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลข PMI หลักออกมาตามที่ตลาดคาด หากดัชนีการจ้างงานฟื้นตัวเหนือระดับ 50 และสะท้อนการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานในภาคบริการ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์และกดดันให้ EUR/USD ปรับตัวลง ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าค่าของเดือนสิงหาคมที่ 46.5 คู่เงิน EUR/USD อาจได้แรงหนุนเชิงบวกในช่วงการซื้อขายสหรัฐฯ
---
### ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาจะเข้าพบกับ Russ Vought ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) เพื่อพิจารณาว่าโครงการของรัฐบาลกลางใดบ้างที่จะถูกตัดงบประมาณ นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังประกาศแช่แข็งงบประมาณมูลค่า 26 พันล้านดอลลาร์สำหรับรัฐที่เอนเอียงไปทางพรรคเดโมแครต
ตลาดอาจมองในแง่บวกว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลอาจสิ้นสุดลงในไม่ช้า หากพรรคเดโมแครตพยายามหาทางออกตรงกลางในร่างกฎหมายการใช้จ่าย ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนสนับสนุนสำหรับโครงการของตน
อย่างไรก็ตาม รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls), อัตราการว่างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อค่าจ้าง จะ **ไม่ได้ถูกเผยแพร่ในภายหลังของวันนี้**
Gold Trading Plan – October 3, 2025Gold Trading Plan – October 3, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Sideways
🔹 Overview
The D1 and H4 charts remain in an uptrend. However, price recently broke below the H1 uptrend line, causing the H1 timeframe to move into a sideways range. This shift creates a possibility of a short-term pullback toward the 3830 level. That said, if price climbs above the 3880 resistance (the key stop level for sell setups), the bias should switch to the buy side, with potential continuation toward the ATH zone near 3908.
🔹 Summary
Sell Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3880
TP: 3830
RR: 1.31
Buy Setup (enter only after a confirmed close above 3880)
SL: 3852
TP: 3908
RR: 1
🔹 Disclaimer
This plan represents the author’s personal market view and is not financial advice. Please use discretion and manage risk appropriately.
แผนการเทรดทองคำ XAUUSD ประจำวันที่ 02-10-25ไอเดียเทรดวันนี้: เมื่อทองคำส่งสัญญาณ Break of Structure (BOS)
สวัสดีครับเพื่อน ๆ เทรดเดอร์ 🙌
วันนี้ผมอยากหยิบชาร์ตทองคำ Timeframe M30 มาเล่าให้ฟัง เพราะผมเห็นจังหวะที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับ Break of Structure (BOS) และการสร้าง Higher Low ที่บอกเราว่า “ตลาดอาจจะกำลังเปลี่ยนโหมด”
🔎 สิ่งที่ผมเห็นในชาร์ต
เส้นเทรนด์ไลน์ (Trendline ขาขึ้น)
ราคากำลังเคารพเส้นนี้ตลอด และสร้าง HL ต่อเนื่อง = ขาขึ้นยังแข็งแรง
Break of Structure (BOS)
ล่าสุดราคาทะลุ high เล็ก ๆ ของรอบที่แล้ว นี่คือสัญญาณว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อกลับเข้ามา
RSI Divergence
RSI ทำ higher low พร้อมกับราคาที่ไม่หลุดโครงสร้าง = momentum ฝั่งซื้อมียืนยัน
Fair Value Gap (FVG)
มีช่อง imbalance ด้านล่างที่ราคายังไม่ได้กลับมาแตะ → มักจะกลายเป็น “จุดเติมน้ำมัน” ก่อนราคาวิ่งต่อ
📝 ไอเดียเทรดที่ผมวางไว้
Plan A: Buy the Dip
รอให้ราคาย่อลงมารีเทสต์โซน BOS หรือ FVG ด้านล่าง ถ้ามีแท่งกลับตัว (pin bar/engulfing) → กด Buy
SL: วางใต้ HL ล่าสุด
TP: โซน supply ด้านบน (3880–3890)
Plan B: Break & Go
ถ้าราคาปิดเหนือ supply zone ได้ชัด ๆ → Follow Buy เล็ก ๆ ตามน้ำ เป้าไปหาโซนถัดไป
Plan C: ถ้า Fail
ถ้าราคาหลุด trendline ลงมาและยืนไม่ได้ → ถือว่า setup ล้มเหลว ผมจะพลิกเป็น Short ลงไปหา FVG ล่างทันที
✅ สิ่งที่อยากแชร์ให้จำไว้
BOS คือ “เสียงกระซิบ” ว่าตลาดอาจเปลี่ยนโครงสร้าง
FVG มักเป็นเหมือนปั๊มน้ำมันของราคา → รอเติมก่อนจะวิ่ง
อย่าเพิ่งกดเพราะเห็นแท่งเขียวอย่างเดียว → ต้องรอ confirm เช่น การปิดแท่ง/RSI/Price Action ชัดเจน
📌 สรุป: จากชาร์ตนี้ ผมเลือกมอง “Buy the Dip เป็นแผนหลัก” เพราะโครงสร้างเปลี่ยนเป็นขาขึ้น แต่จะไม่ลืมว่า ถ้า BOS หลอกแล้วหลุด trendline จริง ๆ → ต้องกล้าที่จะกลับด้านทันทีครับ
GOLD 02-10-2025Gold Trading Plan – October 2, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All major timeframes remain in an uptrend. However, the M5 chart has started to form a minor downtrend, which could signal a short-term pullback toward the 3840 level. That said, if price fails to break lower and instead rises above the 3883 resistance (the key stop level for sell setups), the trading bias should shift to the buy side, with potential continuation toward the ATH area around 3908.
🔹 Summary
Sell Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3883
TP: 3840
RR: 1.42
Buy Setup (enter only after a confirmed close above 3883)
SL: 3858
TP: 3908
RR: 1
🔹 Disclaimer
This plan reflects the personal market view of the author and does not constitute financial advice. Please exercise discretion and practice proper risk management.
ทำไมการจัดการ Position สำคัญกว่าการพยายามจับจุดเล็ก ๆเวลาตลาด ผันผวนมากขึ้น (Volatility สูง)
การจัดการ Position สำคัญกว่าการพยายามจับจุดเล็ก ๆ
.
🎯 หลักคิด
.
Volatility สูง = แท่งแกว่งแรงขึ้น
→ SL ที่ปกติใช้ 5–10 เหรียญ อาจไม่พอ ต้องขยาย SL ให้กว้างขึ้น
ถ้าคุณ ไม่ลด Lot แต่ SL กว้างขึ้น → ความเสี่ยงต่อไม้จะโตเกินไป (Risk เกินแผน)
.
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ
👉 ลด Lot แต่ ขยาย SL เพื่อให้ “ความเสี่ยงเป็น % เท่าเดิม”
แล้วปล่อยให้กราฟวิ่งตามรอบใหญ่ (ถือเอาระยะทาง)
.
📌 ตัวอย่างง่าย ๆ
สมมติพอร์ต = 10,000 USD
คุณยอมเสี่ยง = 1% = 100 USD
.
ปกติ SL 10 เหรียญ
→ Lot size = 100 ÷ 10 = 10 หน่วย
.
ตลาดผันผวน SL ต้องขยายเป็น 25 เหรียญ
→ Lot size = 100 ÷ 25 = 4 หน่วย
.
👉 ความเสี่ยงยังคง 100 USD เท่าเดิม แต่คุณมี “พื้นที่หายใจ” ให้กราฟแกว่งก่อนจะไปทางที่ต้องการ
✅ ข้อดีของการ “ลด Lot – ถือระยะทาง”
ไม่โดน SL ง่าย ๆ เพราะแกว่งแรง
RR (Risk:Reward) มักดีกว่า เพราะได้กินรอบใหญ่ ไม่ใช่แค่เก็บเศษ
ลดความเครียด เพราะไม่ต้องเฝ้าทุกแท่งเล็ก ๆ
.
⚠️ สิ่งที่ต้องระวัง
ต้องมั่นใจว่า “TF ใหญ่ยังเป็นทิศเดียวกับเรา” (เช่น H1–H4 ยังเป็นขาขึ้น ถ้าจะ Buy)
อย่าลด Lot จนเล็กเกินไปจนไม่คุ้มค่าเวลา (หาจุด Balance ของตัวเอง)
อย่าเผลอถือสวนเทรนด์ใหญ่ เพราะการถือระยะยาวสวนเจ้า = โดนกินแน่นอน
.
📌 สรุป
ตลาดผันผวนแรงขึ้น → ใช้กลยุทธ์ ลด Lot, ขยาย SL, ถือกินรอบใหญ่ จะปลอดภัยกว่า และเป็นสไตล์ “เล่นไปกับเจ้า” เพราะเจ้าเองก็ชอบสะสมพลังแล้วปล่อยรอบใหญ่ ไม่ใช่แค่แกว่งเล็ก ๆ
SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50U25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 30 ก.ย. 68
🔥🔥 Sideway Up ตามเทคนิค ลุ้นกองทุนทำ Window Dressing
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🟢 ช่วงเช้าราคาพุ่งเบรก Trend line ขาลง(กรอบส้ม) และยืนได้
🟢 ช่วงบ่ายมีแรงกระชากจากการทำราคาปิด Series U25 ส่งภาพเทคนิคสวยต่อ
🟢 ต่างชาติกลับมา Long สูงสุดในเดือน 15,895 สัญญา
🔴 แต่ยอดหุ้นยังไม่น่าวางใจ 3 ขาย 1 ซื้อ โบรกเกอร์รับคนเดียว 2,797 ล้าน
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาสลับมาเป็นขาขึ้นระยะสั้น(กรอบเขียว) หลังเบรกกรอบขาลงได้ แต่ยังคงไม่แข็งแรงมาก เนื่องจากช่วงนี้เทรนเปลี่ยนบ่อย
🟢 Bullish Plan :
ไปต่อตามเทรน ยืนเหนือ 827 ให้ได้ใน ชม. แรก → ลุ้น test 830 / 833 / 836
หากผ่าน 836 → Upside เปิดถึง 842–843
🔴 Bearish Plan :
หลุด 823 เพื่อสร้าง Low ใหม่และไม่ทำ High → มีโอกาสกลับไป test 820 / 817
หลุด 817 จะเสียโมเมนตัมและกลับไป test แนวรับใหญ่ 812
🟡 Sideway Plan :
ไร้ปัจจัยเด่นชัด แกว่งบริเวณ 823–827 → เล่นสั้นตามสัญญาณอินดิเคเตอร์ (RSI/Stoch)
Balance Zone ช่วงนี้ = 823–827
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 823-824
6 จุดร่วม : EMA5 (TF60),Mode สะสม month ก่อน,Mode สะสม week ก่อน,POC,BB ล่าง (TF15),Low เดิมรอบสั้น (1-5 วัน)
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 827-830
5 จุดร่วม : Trend Line แนวต้าน,High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB บน (TF15),EMA200 (TF15),EMA75 (TF60)
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 45% → Sideway ในกรอบ 823–827
🔹 35% → Bullish ยืนเหนือ 827 → ลุ้นไป 830 / 833
🔹 20% → Bearish หลุด 823 → ย่อลง 820 / 817–812
👀 สรุป : วันนี้มองยาก ตลาดพึ่งจบรอบทำราคาปิดซีรีส์ และยอด Flow แปลก ทั้งโบรกซื้อหนัก-ต่างชาติพลิกมา Long หนัก ดังนั้น เล่นแบบระวังตัว ย่อรับ-ดักขาย น่าจะตอบโจทย์ที่สุด
ทำไมเทรดเดอร์ต้องรอให้กราฟเข้ากับ Setup ของตัวเอง1. **ตลาดมีโอกาสทุกวัน แต่ทุนเราไม่ได้มีไม่จำกัด**
.
* ถ้าเข้าแบบสุ่ม ๆ เราจะเสี่ยงใช้เงินเกินความจำเป็น
* การรอให้ตรง Setup = เลือก “ช็อตที่มีความน่าจะเป็นสูงที่สุด”
.
2. **Setup = กรอบกติกาส่วนตัว**
.
* คือกติกาที่เรารู้ว่า เมื่อครบเงื่อนไข → มีโอกาสชนะมากกว่าแพ้
* ถ้าเทรดนอก Setup = เล่นพนัน ไม่ใช่เทรด
.
3. **รอ = ป้องกันอารมณ์ครอบงำ**
.
* ตลาดชอบหลอกให้รีบเข้า → ถ้าไม่มีกติกา เราจะโดนลากง่าย
* การรอ Setup เหมือน “วางกรอบกันตัวเองไม่ให้ Overtrade”
4. **บางวันไม่มีสัญญาณ = คือการเซฟเงินทุน**
.
* ไม่มี Setup = ไม่เสียเงิน
* เทรดเดอร์เก่งจะคิดว่า “ไม่เสีย = กำไร” เพราะเก็บทุนไว้รอโอกาสดีกว่า
.
5. **กราฟไม่มาตามโซน → คือธรรมชาติของตลาด**
.
* ตลาดไม่จำเป็นต้องวิ่งตามที่เราคิด
* หน้าที่เราคือ *“รอจังหวะที่เจ้ามือเผยไพ่”* ไม่ใช่บังคับตลาด
.
---
.
## 🎯 สรุป
.
* **การรอ Setup = เลือกศึกที่เรามีโอกาสชนะมากที่สุด**
* **วันที่ไม่มีจังหวะ ไม่ใช่วันเสียเวลา แต่คือวันเซฟทุน**
* เทรดเดอร์ที่รอเป็น → อยู่รอด
* เทรดเดอร์ที่รีบเข้า → มักหมดพอร์ต






















