SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50Z25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 01 ต.ค. 68🔥🔥 ต่างชาติถล่มขาย&Short; TFEX กดดันบรรยากาศตลาดไทย
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🔴 เช้าเลือกทางชัด เกิด Double Top แล้วทุบทิ้งทันที
🟡 บ่ายเริ่มพักตัวและรีบาวด์กลับได้ที่ Low เดิม กลับมา Sideway กรอบใหญ่ (กรอบส้ม)
🔴 แรงขายนำโดยหุ้นพลังงานและ DELTA แบบนี้ไม่มีตัวค้ำ
🔴 ต่างชาติขายหนัก -3,777 ล้านบาท ปิดเดือน ก.ย. ขายสะสม -12,000 ล้านบาท 
🔴 Flow TFEX ไม่นิ่งตามคาด ต่างชาติพลิกกลับมา Short  -7,897 สัญญา 
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical; Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาหักเทรนขาขึ้นระยะสั้น หลังไม่สร้าง High ใหม่ พร้อมเกิดรูปแบบ Double Top สนับสนุนขาลง พร้อมหลุด Low เมื่อวาน แต่การลงเร็วรอบนี้อาจมีพักที่แนวรับ 812-814 คาด Sideway ในกรอบส้ม
🟢 Bullish Plan :
รอกลับไปยืนเหนือ 820-824 → ลุ้นทดสอบ 829 / 833
หากทะลุ 833 ได้ → Upside เปิดไปถึง 840–842
🔴 Bearish Plan :
หลุด 812–814 ให้ได้ในช่วงเช้า เพื่อหยุดการพักฐาน  → เสียทรงแน่ กดลงไป 809 / 806
หากหลุด 806 → Risk ต่อเนื่องไปโซน 801–798
🟡 Sideway Plan :แกว่งกรอบ 812–824 → ดักรับ-ขายบน เล่นสั้นตามสัญญาณ Oscillator
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 812-814
 5 จุดร่วม : BB ล่าง (TF60),Low เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB ล่าง (TF15),Low เดิมรอบกลาง (5-20 วัน),Trend Line แนวรับ
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 820-824
11 จุดร่วม : EMA10 (TFDay),Mode สะสม month ก่อน,Mode สะสม week ก่อน,POC,EMA5 (TFDay),BB บน (TF15),EMA25 (TF60),EMA75 (TF15),EMA200 (TF60),EMA25 (TFDay),Fibo1 38.2
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast; - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 40% → Sideway 812–824 (แกว่งรอทิศทางชัด)
🔹 35% → Bullish Break 824 → Test 829 / 833
🔹 25% → Bearish หลุด 812 → ลง 809 / 806
👀 สรุป : จับตาภาคเช้าพร้อมเฉลยทิศทาง หากสถานการณ์ดีเอาอยู่ไม่หลุด 812 พร้อมกลับไปเล่น Sideway กรอบบนอีกครั้ง แต่ถ้าต่างชาติเอาจริงทุบต่อ กลับเป็นขาลงเต็มตัว
<<>>
#TFEX #ค่าคอม1Xบาท #S50Z25 #SET #หุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #SET50 #derivatives
การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
แบบทดสอบ: คุณจะทำยังไงเมื่อเจอ “กับดักตลาด”แบบทดสอบ “Mindset ของเทรดเดอร์ต่อกับดักตลาด”**
ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้ “วัดตัวเอง” ว่าตอนนี้อยู่ในจุดไหนของวงจรเทรด 
ใช้ฝึกจิตและพัฒนาแนวคิดให้คมขึ้น 
เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่เข้าใจเรื่อง *สภาพคล่อง* 
แล้วอยากต่อยอดจิตวิทยาเทรด
.
---
.
# 🧭 แบบทดสอบ: คุณจะทำยังไงเมื่อเจอ “กับดักตลาด”
.
> เลือกคำตอบที่ “ตรงกับสิ่งที่คุณมักทำจริง ๆ” มากที่สุด
> ไม่มีถูกผิด — แต่แต่ละข้อจะบอก “Mindset” ที่อยู่เบื้องหลัง
---
## 🔹 ข้อ 1: ราคาพุ่งทะลุแนวต้านอย่างแรง พร้อมแท่งเทียนเขียวใหญ่ (Breakout)
คุณจะทำยังไง?
A. กด Buy ทันที เพราะคิดว่าตลาดจะไปต่อ
B. รอดูแท่งถัดไปว่าปิดเหนือแนวต้านไหม
C. รอให้ราคาย่อกลับมาทดสอบแนวที่เบรก (Retest) ก่อนค่อยเข้า
D. ขายสวน เพราะคิดว่าเจ้า “หลอกเบรก”
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **FOMO bias** (กลัวตกรถ, รายย่อย 90%)
> * B = เริ่มใช้ “การยืนยัน” แบบเทคนิคแต่ยังเสี่ยงโดนหลอก
> * C = **Professional mindset** (รอ liquidity confirm)
> * D = Over-confidence trader (อาจโดนลากก่อนลง)
---
## 🔹 ข้อ 2: ราคาลงมาแรง แล้วเกิดแท่งไส้ยาว (Rejection wick) บนโซน Demand
คุณจะทำยังไง?
A. เข้า Buy ทันทีเพราะเห็นแท่งกลับตัว
B. รอดู 1-2 แท่งต่อไปว่ามีแรง follow หรือไม่
C. ใช้เครื่องมืออื่นยืนยัน (เช่น Volume, BOS, CHOCH)
D. ปิดจอหนี เพราะกลัวลงต่อ
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **Impulsive entry** (ไวไป, ขาดการยืนยัน)
> * B = มีวินัย เริ่มเข้าใจพฤติกรรมราคา
> * C = **Smart trader** (เทรดจากข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์)
> * D = Fear-based trader (มักเสียโอกาสเพราะกลัว)
---
## 🔹 ข้อ 3: หลังจากโดน Stop Loss สองไม้ติด คุณจะ...
A. เพิ่ม lot เพื่อ “เอาคืน” (Revenge Trade)
B. ลดขนาด lot แล้วเทรดต่อทันที
C. หยุดเทรดชั่วคราว เพื่อทบทวน setup
D. ปิดกราฟ แล้วเปิดดู YouTube หรือ scroll มือถือ
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = **อันตรายสุด!** อารมณ์นำ → เสี่ยงล้างพอร์ต
> * B = ดีขึ้น แต่ยังติด mindset “ต้องชนะตอนนี้”
> * C = **Master mindset** (โฟกัสระยะยาว ไม่ใช่ไม้เดียว)
> * D = Escapism (หนีปัญหา ไม่เรียนรู้จากมัน)
---
## 🔹 ข้อ 4: คุณเห็นราคาทำ New High ต่อเนื่องแบบไม่มีจุดย่อ (ATH Phase)
คุณจะ...
A. ไล่ตามเพราะกลัวตกรถ
B. รอจังหวะพักฐาน (consolidation)
C. มองหาสัญญาณ “เจ้าเริ่มปล่อยของ” (Volume divergence / sweep)
D. Sell เลย เพราะคิดว่า “มันต้องลงแล้ว”
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = FOMO Trader (หลงกระแส)
> * B = Balanced Trader (มีวินัย รอความชัด)
> * C = **Liquidity Hunter Mindset** (อ่านเจ้าออก, เข้าใกล้ระดับโปร)
> * D = Contrarian without confirmation (กล้าแต่ไม่มีเหตุผล)
---
## 🔹 ข้อ 5: หลังเข้าไม้ Buy แล้ว ราคาไม่ไปไหน ซึม ๆ อยู่หลายชั่วโมง
คุณจะ...
A. ปิดทิ้ง เพราะเบื่อ
B. ขยับ SL ให้แคบลง “กันเสียเยอะ”
C. ปล่อยไว้ตามแผน เพราะยังไม่หลุดโครงสร้าง
D. เปิด position เพิ่มเพราะอยากเร่งกำไร
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = ขาดความอดทน (impatient mindset)
> * B = Fear-based control (แผนไม่ชัด)
> * C = **Trader มีระบบ** (วินัยเหนืออารมณ์)
> * D = Greedy behavior (โลภ, เพิ่ม risk โดยไม่มีเหตุผล)
---
## 🔹 ข้อ 6: เจอกราฟแกว่งเร็ว ผันผวนสูง (Volatility Spike)
คุณจะ...
A. เข้าเทรดเลย เพราะ “น่าจะวิ่งแรง”
B. ลด lot size ลงครึ่งหนึ่ง
C. หยุดรอดูให้ตลาดนิ่งก่อน
D. ใช้โซนใหญ่ (H1/H4) เป็นหลักแทน M1-M5
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = Over-trading (เสพ adrenaline)
> * B = Risk control mindset
> * C = High emotional discipline
> * D = **Pro-level adjustment** (เข้าใจสภาพตลาดเปลี่ยน ต้องขยายมุมมอง)
---
## 🔹 ข้อ 7: หลังจากได้กำไรติดกันหลายวัน
คุณจะ...
A. เพิ่มขนาด lot เพื่อ “เร่งพอร์ต”
B. เทรดเท่าเดิม เพราะอยากรักษาความสม่ำเสมอ
C. หยุด 1 วัน เพื่อ reset อารมณ์
D. ขยายแผนเทรด — เพิ่ม TF หรือคู่เงิน
> 💡 เฉลยเชิง Mindset:
>
> * A = Ego trap (มั่นใจเกินไป → เสี่ยง crash)
> * B = Balanced mindset
> * C = **High-performance mindset** (เข้าใจจังหวะพักของสมอง)
> * D = Creative expansion (ดี แต่ควรคุม risk)
---
# 🔍 สรุปผล (นับคะแนน Mindset)
* ถ้า Kio ตอบ **ส่วนใหญ่เป็น C หรือ D** → Mindset แบบ “Smart Money / Professional”
* ถ้าส่วนใหญ่เป็น **B** → อยู่ในช่วง “Transition” (เริ่มคิดแบบระบบ)
* ถ้าส่วนใหญ่เป็น **A** → อยู่ใน “Emotional Trader Zone” (ยังเทรดจากความรู้สึกมากกว่าข้อมูล)
---
## 🧘♀️ คำแนะนำสั้น ๆ ต่อ Mindset แต่ละระดับ
🧘♀️ ระดับ | Emotional Trader  
ลักษณะ - เทรดจากอารมณ์ / เร่งรีบ     
ควรพัฒนาเรื่อง - ฝึกหยุดก่อนเข้า, จดบันทึกเหตุผลก่อนกด     
 .
🧘♀️ระดับ| Transition Trader 
ลักษณะ - มีระบบแต่ยังลังเล           
ควรพัฒนาเรื่อง - ฝึกเชื่อมั่นใน process, ไม่แก้ระบบบ่อย 
.
.
🧘♀️ระดับ|Smart Trader      
ลักษณะ - เทรดตามโครงสร้าง / รอจังหวะ 
ควรพัฒนาเรื่อง - รักษาวินัยต่อเนื่อง, จัดการจิตใจวัน drawdown 
.
🧘♀️ระดับ| Professional      
ลักษณะ - อ่านเจ้าออก, รอ confirm     
ควรพัฒนาเรื่อง - สอนคนอื่นได้, ใช้จิตสงบและวินัยเหนือเงิน 
สิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ทำในวันเสาร์–อาทิตย์สิ่งที่เทรดเดอร์มืออาชีพทำในวันที่ตลาดปิด”
มักเป็น **สิ่งที่ทำให้เขานำหน้าคนอื่น** ในสัปดาห์ต่อไป 💪
.
---
.
# 💼 สิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทำในวันเสาร์–อาทิตย์
.
## 🧭 1. ทบทวนสัปดาห์ที่ผ่านมา (Review Week)
เทรดเดอร์ระดับโปรไม่ปล่อยให้ “กำไรหรือขาดทุน” ผ่านไปเฉย ๆ
แต่เขาจะกลับไปดูว่า...
.
* จุดเข้าทุกจุด → เข้าเพราะ *ตามแผน* หรือ *ตามอารมณ์* ❓
* จุดออก → ออกตามเงื่อนไข หรือกลัวเกินไป ❓
* Market Structure → ยังสอดคล้องกับมุมมองใหญ่มั้ย ❓
* Emotion ตอนเทรด → มีจุดไหนที่ “เราถูกเจ้าหลอกด้วยอารมณ์” หรือเปล่า
.
📒 บางคนจะเขียน “Trading Journal” หรือ “สรุปภาพตลาดรายสัปดาห์” เก็บไว้เลย
---
.
## 🧠 2. ฝึก Mindset & Psychology
.
เทรดเดอร์ที่เก่งจะรู้ว่า “ตลาดคือเกมจิตวิทยา”
วันหยุดคือเวลาที่เขา:
.
* อ่านหนังสือจิตวิทยาเทรด เช่น *Trading in the Zone*, *The Disciplined Trader*
* ฝึกสมาธิ / เดินจงกรม / วิ่ง / ฟังเพลง เพื่อรักษาโฟกัส
* เขียน Affirmation สั้น ๆ เช่น
.
  > “ฉันไม่ต้องเทรดทุกวันเพื่อรวย ฉันต้องรอวันของฉันเท่านั้น”
.
-.--
## 📊 3. เตรียมโซนสำคัญ (Top-Down Analysis)
.
ก่อนตลาดเปิด เขาจะ:
.
* ไล่ดูกราฟตั้งแต่ **Monthly → Weekly → Daily → H4 → H1**
* มาร์กแนว **Liquidity Zone / OB / EQH / EQL / Imbalance**
* ทำ “Scenario Plan” ว่า
.
  * ถ้าราคามาทาง A → ฉันจะทำอะไร
  * ถ้าราคาทะลุไปทาง B → ฉันจะไม่ทำอะไร
.
🎯 เป้าคือ “วันจันทร์ไม่ต้องคิดมาก” เพราะทุกอย่างวางไว้หมดแล้ว
.
---
.
## ⚙️ 4. ปรับปรุงระบบเทรด (System Optimization)
.
* ดูผล Backtest → ว่าระบบยังคงเสถียรหรือไม่
* ปรับ SL, RR หรือ Timeframe ให้เหมาะกับสภาวะ Volatility ล่าสุด
* ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ใน TradingView / FTMO demo
---
## 🧩 5. พักผ่อนจริง ๆ (Recovery)
.
เทรดเดอร์ระดับสูงรู้ว่า “สมองและจิตใจคือเครื่องมือทำเงิน”
วันหยุดเขาจะ:
.
* เดินเล่น, พบเพื่อน, เล่นเกม, ไปคาเฟ่ ☕
* ทำสิ่งที่เติมพลัง เช่น วางแผนเป้าหมายชีวิต, ทำ vision board
* ปิดจอมือถือ ไม่ดูกราฟสักวัน เพื่อให้สมอง Reset
.
---
.
## 💡 สรุปสั้น ๆ (Takeaway)
.
> เทรดเดอร์ธรรมดา ใช้วันหยุดพักจากกราฟ
> เทรดเดอร์ระดับโปร ใช้วันหยุด “เข้าใจกว่ากราฟ”
.
กับดักรายย่อยที่รายใหญ่สร้างขึ้น บทความแนวจิตวิทยาการเทรด เกี่ยวกับ กับดักที่รายใหญ่ทำไว้ให้รายย่อยติด
เพื่อให้เห็นชัดว่าตลาดไม่ได้วิ่งแบบสุ่ม แต่มี “เจตนา” ที่จะหลอกให้รายย่อยติดดอย/ติดดินอยู่เสมอ
---
.
# 🧠 จิตวิทยาตลาด: กับดักรายย่อยที่รายใหญ่สร้าง
.
ในโลกการเทรด **ราคามักไม่ใช่สิ่งที่เห็นตรงหน้า**
สิ่งที่ขยับราคาแท้จริงคือ **สภาพคล่อง (Liquidity)**
และผู้ที่ครอบครองพลังดันราคามากที่สุดคือ **รายใหญ่ (Smart Money, สถาบัน, เจ้ามือ)**
รายย่อย (Retail) จึงตกอยู่ใน “เกมจิตวิทยา” ตลอดเวลา
.
---
.
## 🎭 กับดักที่รายใหญ่ใช้บ่อย
.
### 1. **Breakout Trap (กับดักทะลุแนวรับ/แนวต้าน)**
.
* ราคาทะลุแนวต้านแรง → รายย่อยรีบไล่ซื้อ (FOMO)
* แต่จริงๆ รายใหญ่เพิ่ง “ปล่อยของ” ขายใส่ → ราคาเทกลับ
  📌 ผลลัพธ์: รายย่อยติดดอย
.
---
.
### 2. **Stop Hunt (ล่ากิน Stop Loss)**
* รายย่อยชอบตั้ง SL ใต้ Low / เหนือ High ที่ชัดเจน
* รายใหญ่กดราคาไปกิน SL → เก็บของราคาถูก / ปล่อยของแพง
  📌 ผลลัพธ์: รายย่อยโดนตบออกก่อนที่ราคาจะไปในทิศทางเดิม
.
---
.
### 3. **False Reversal (หลอกกลับตัว)**
.
* ราคาทำแท่งเทียนกลับตัวสวยๆ → รายย่อยรีบเข้า Buy/Sell
* แต่รายใหญ่แค่ “สร้างภาพ” เพื่อให้คนเข้า Order
* พอมีสภาพคล่องพอ → ราคาไปอีกทางทันที
  📌 ผลลัพธ์: รายย่อยติดกับ Emotional Candle
.
---
.
### 4. **Liquidity Grab (เก็บสภาพคล่องก่อนเทรนด์จริง)**
.
* ก่อนเทรนด์ใหญ่เริ่ม รายใหญ่มักจะ “วิ่งไปกิน SL ทั้งสองฝั่ง”
* เพื่อเก็บของให้เต็ม → แล้วค่อยดันไปทิศเดียวแรงๆ
  📌 ผลลัพธ์: รายย่อยโดนกวาดออกหมด → ไม่ได้อยู่บนขบวน
.
---
.
### 5. **ข่าวและอารมณ์ (News Trap)**
* ข่าวแรงๆ ออกมา → รายย่อยรีบเทรดตามอารมณ์ (FOMO / Panic)
* แต่รายใหญ่เตรียม “ตำแหน่งตรงข้าม” ไว้อยู่แล้ว
  📌 ผลลัพธ์: รายย่อยซื้อแพงขายถูก
.
---
.
## 🔑 จิตวิทยาที่รายใหญ่ใช้
.
* ใช้ **ความกลัว (Fear)** → กดให้หลุด SL
* ใช้ **ความโลภ (Greed)** → หลอกให้ไล่ราคา
* ใช้ **ความไม่แน่ใจ (Uncertainty)** → แกว่งไปมาจนรายย่อยถอดใจ
-.--
.
## ✅ วิธีเอาตัวรอดจากกับดัก
.
1. อย่าตั้ง SL ตื้นเกินไปตรงจุดที่ใครๆ ก็มองออก
2. รอ “Confirm” เสมอ อย่าตามแท่งเขียว/แดงแรงๆ ทันที
3. เข้าใจว่า Breakout = จุดที่รายใหญ่เอาไว้ “ปล่อยของ”
4. มองหาพฤติกรรมราคาใกล้ **Liquidity Zone** มากกว่าดูเพียงแนวรับ/แนวต้าน
5. ใช้จิตวิทยากลับด้าน → ถ้ารู้สึกอยากเข้าแรงๆ แปลว่าอาจโดนหลอก
.
---
.
✨ **สรุป:**
ตลาดไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนชนะ แต่สร้างขึ้นมาเพื่อ “เอาเงินจากคนส่วนมาก”
รายใหญ่ใช้ **กับดักทางจิตวิทยา** สร้างสภาพคล่องจากความกลัวและความโลภของรายย่อย
ถ้าเราอ่านเกมออก เราจะหยุดเป็นเหยื่อ และเริ่มเป็นนักล่าแทน
.
---
EUR/USD ขยับขึ้นใกล้ 1.1750 รอผล ISM Services PMI สหรัฐฯEUR/USD ขยับขึ้นใกล้ระดับ 1.1750 ก่อนการประกาศดัชนี ISM Services PMI ของสหรัฐฯ**
EUR/USD ขยับสูงขึ้นใกล้ระดับ 1.1750 ในช่วงการซื้อขายยุโรปวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวเพื่อสะสมการขาดทุนรายสัปดาห์ ท่ามกลางการหยุดชะงักของข้อมูลจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (shutdown) และความหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักลงทุนกำลังรอคอยผลการประกาศดัชนี PMI ของสหรัฐฯ และการกล่าวสุนทรพจน์จากเจ้าหน้าที่ ECB และเฟดเพื่อหาแนวทางใหม่
---
### ภาพรวมทางเทคนิคของ EUR/USD
ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟ 4 ชั่วโมงเคลื่อนไหวในแนวด้านข้างใกล้ระดับ 50 และ EUR/USD แกว่งตัวระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (20-day SMA) และ 50 วัน (50-day SMA) ซึ่งสะท้อนมุมมองที่เป็นกลางในระยะสั้น
* **แนวต้าน (Upside):**
  โซน 1.1750–1.1770 ถือเป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่ Fibonacci Retracement 23.6% ของแนวโน้มขาขึ้นล่าสุด บรรจบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 รอบ (100-period SMA) และ 20 วัน (20-day SMA) หาก EUR/USD สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ระดับถัดไปคือ 1.1820 (ระดับนิ่ง) ก่อนถึง 1.1900 (ระดับนิ่งและเป็นระดับกลม)
* **แนวรับ (Downside):**
  พื้นที่แนวรับแรกอยู่ที่ 1.1710–1.1690 (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 รอบ, Fibonacci Retracement 38.2%, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน) ก่อนจะถึง 1.1640 (Fibonacci Retracement 50%)
ดัชนี ISM Services PMI คาดว่าจะปรับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 51.7 ในเดือนกันยายน จาก 52 ในเดือนสิงหาคม เนื่องจากไม่มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) นักลงทุนอาจหันไปจับตาส่วนประกอบ **ดัชนีการจ้างงาน (Employment Index)** เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลข PMI หลักออกมาตามที่ตลาดคาด หากดัชนีการจ้างงานฟื้นตัวเหนือระดับ 50 และสะท้อนการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานในภาคบริการ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์และกดดันให้ EUR/USD ปรับตัวลง ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าค่าของเดือนสิงหาคมที่ 46.5 คู่เงิน EUR/USD อาจได้แรงหนุนเชิงบวกในช่วงการซื้อขายสหรัฐฯ
---
### ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาจะเข้าพบกับ Russ Vought ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) เพื่อพิจารณาว่าโครงการของรัฐบาลกลางใดบ้างที่จะถูกตัดงบประมาณ นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังประกาศแช่แข็งงบประมาณมูลค่า 26 พันล้านดอลลาร์สำหรับรัฐที่เอนเอียงไปทางพรรคเดโมแครต
ตลาดอาจมองในแง่บวกว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลอาจสิ้นสุดลงในไม่ช้า หากพรรคเดโมแครตพยายามหาทางออกตรงกลางในร่างกฎหมายการใช้จ่าย ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนสนับสนุนสำหรับโครงการของตน
อย่างไรก็ตาม รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls), อัตราการว่างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อค่าจ้าง จะ **ไม่ได้ถูกเผยแพร่ในภายหลังของวันนี้**
Gold Trading Plan – October 3, 2025Gold Trading Plan – October 3, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Sideways
🔹 Overview
The D1 and H4 charts remain in an uptrend. However, price recently broke below the H1 uptrend line, causing the H1 timeframe to move into a sideways range. This shift creates a possibility of a short-term pullback toward the 3830 level. That said, if price climbs above the 3880 resistance (the key stop level for sell setups), the bias should switch to the buy side, with potential continuation toward the ATH zone near 3908.
🔹 Summary
Sell Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3880
TP: 3830
RR: 1.31
Buy Setup (enter only after a confirmed close above 3880)
SL: 3852
TP: 3908
RR: 1
🔹 Disclaimer
This plan represents the author’s personal market view and is not financial advice. Please use discretion and manage risk appropriately.
แผนการเทรดทองคำ XAUUSD ประจำวันที่ 02-10-25ไอเดียเทรดวันนี้: เมื่อทองคำส่งสัญญาณ Break of Structure (BOS)
สวัสดีครับเพื่อน ๆ เทรดเดอร์ 🙌
วันนี้ผมอยากหยิบชาร์ตทองคำ Timeframe M30 มาเล่าให้ฟัง เพราะผมเห็นจังหวะที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับ Break of Structure (BOS) และการสร้าง Higher Low ที่บอกเราว่า “ตลาดอาจจะกำลังเปลี่ยนโหมด”
🔎 สิ่งที่ผมเห็นในชาร์ต
เส้นเทรนด์ไลน์ (Trendline ขาขึ้น)
ราคากำลังเคารพเส้นนี้ตลอด และสร้าง HL ต่อเนื่อง = ขาขึ้นยังแข็งแรง
Break of Structure (BOS)
ล่าสุดราคาทะลุ high เล็ก ๆ ของรอบที่แล้ว นี่คือสัญญาณว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อกลับเข้ามา
RSI Divergence
RSI ทำ higher low พร้อมกับราคาที่ไม่หลุดโครงสร้าง = momentum ฝั่งซื้อมียืนยัน
Fair Value Gap (FVG)
มีช่อง imbalance ด้านล่างที่ราคายังไม่ได้กลับมาแตะ → มักจะกลายเป็น “จุดเติมน้ำมัน” ก่อนราคาวิ่งต่อ
📝 ไอเดียเทรดที่ผมวางไว้
Plan A: Buy the Dip
รอให้ราคาย่อลงมารีเทสต์โซน BOS หรือ FVG ด้านล่าง ถ้ามีแท่งกลับตัว (pin bar/engulfing) → กด Buy
SL: วางใต้ HL ล่าสุด
TP: โซน supply ด้านบน (3880–3890)
Plan B: Break & Go
ถ้าราคาปิดเหนือ supply zone ได้ชัด ๆ → Follow Buy เล็ก ๆ ตามน้ำ เป้าไปหาโซนถัดไป
Plan C: ถ้า Fail
ถ้าราคาหลุด trendline ลงมาและยืนไม่ได้ → ถือว่า setup ล้มเหลว ผมจะพลิกเป็น Short ลงไปหา FVG ล่างทันที
✅ สิ่งที่อยากแชร์ให้จำไว้
BOS คือ “เสียงกระซิบ” ว่าตลาดอาจเปลี่ยนโครงสร้าง
FVG มักเป็นเหมือนปั๊มน้ำมันของราคา → รอเติมก่อนจะวิ่ง
อย่าเพิ่งกดเพราะเห็นแท่งเขียวอย่างเดียว → ต้องรอ confirm เช่น การปิดแท่ง/RSI/Price Action ชัดเจน
📌 สรุป: จากชาร์ตนี้ ผมเลือกมอง “Buy the Dip เป็นแผนหลัก” เพราะโครงสร้างเปลี่ยนเป็นขาขึ้น แต่จะไม่ลืมว่า ถ้า BOS หลอกแล้วหลุด trendline จริง ๆ → ต้องกล้าที่จะกลับด้านทันทีครับ
GOLD 02-10-2025Gold Trading Plan – October 2, 2025 👇👇
🔹 Trend
D1: Uptrend / H4: Uptrend / H1: Uptrend
🔹 Overview
All major timeframes remain in an uptrend. However, the M5 chart has started to form a minor downtrend, which could signal a short-term pullback toward the 3840 level. That said, if price fails to break lower and instead rises above the 3883 resistance (the key stop level for sell setups), the trading bias should shift to the buy side, with potential continuation toward the ATH area around 3908.
🔹 Summary
Sell Setup (entry can be considered immediately)
SL: 3883
TP: 3840
RR: 1.42
Buy Setup (enter only after a confirmed close above 3883)
SL: 3858
TP: 3908
RR: 1
🔹 Disclaimer
This plan reflects the personal market view of the author and does not constitute financial advice. Please exercise discretion and practice proper risk management.
ทำไมการจัดการ Position สำคัญกว่าการพยายามจับจุดเล็ก ๆเวลาตลาด ผันผวนมากขึ้น (Volatility สูง) 
การจัดการ Position สำคัญกว่าการพยายามจับจุดเล็ก ๆ
.
🎯 หลักคิด
.
Volatility สูง = แท่งแกว่งแรงขึ้น
→ SL ที่ปกติใช้ 5–10 เหรียญ อาจไม่พอ ต้องขยาย SL ให้กว้างขึ้น
ถ้าคุณ ไม่ลด Lot แต่ SL กว้างขึ้น → ความเสี่ยงต่อไม้จะโตเกินไป (Risk เกินแผน)
.
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ
👉 ลด Lot แต่ ขยาย SL เพื่อให้ “ความเสี่ยงเป็น % เท่าเดิม”
แล้วปล่อยให้กราฟวิ่งตามรอบใหญ่ (ถือเอาระยะทาง)
.
📌 ตัวอย่างง่าย ๆ
สมมติพอร์ต = 10,000 USD
คุณยอมเสี่ยง = 1% = 100 USD
.
ปกติ SL 10 เหรียญ
→ Lot size = 100 ÷ 10 = 10 หน่วย
.
ตลาดผันผวน SL ต้องขยายเป็น 25 เหรียญ
→ Lot size = 100 ÷ 25 = 4 หน่วย
.
👉 ความเสี่ยงยังคง 100 USD เท่าเดิม แต่คุณมี “พื้นที่หายใจ” ให้กราฟแกว่งก่อนจะไปทางที่ต้องการ
✅ ข้อดีของการ “ลด Lot – ถือระยะทาง”
ไม่โดน SL ง่าย ๆ เพราะแกว่งแรง
RR (Risk:Reward) มักดีกว่า เพราะได้กินรอบใหญ่ ไม่ใช่แค่เก็บเศษ
ลดความเครียด เพราะไม่ต้องเฝ้าทุกแท่งเล็ก ๆ
.
⚠️ สิ่งที่ต้องระวัง
ต้องมั่นใจว่า “TF ใหญ่ยังเป็นทิศเดียวกับเรา” (เช่น H1–H4 ยังเป็นขาขึ้น ถ้าจะ Buy)
อย่าลด Lot จนเล็กเกินไปจนไม่คุ้มค่าเวลา (หาจุด Balance ของตัวเอง)
อย่าเผลอถือสวนเทรนด์ใหญ่ เพราะการถือระยะยาวสวนเจ้า = โดนกินแน่นอน
.
📌 สรุป
ตลาดผันผวนแรงขึ้น → ใช้กลยุทธ์ ลด Lot, ขยาย SL, ถือกินรอบใหญ่ จะปลอดภัยกว่า และเป็นสไตล์ “เล่นไปกับเจ้า” เพราะเจ้าเองก็ชอบสะสมพลังแล้วปล่อยรอบใหญ่ ไม่ใช่แค่แกว่งเล็ก ๆ
SET50 Insights: ส่องทิศทาง S50U25 ผ่านเลนส์ Data&AI | 30 ก.ย. 68
🔥🔥  Sideway Up ตามเทคนิค ลุ้นกองทุนทำ Window Dressing 
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🟢 ช่วงเช้าราคาพุ่งเบรก Trend line ขาลง(กรอบส้ม) และยืนได้
🟢 ช่วงบ่ายมีแรงกระชากจากการทำราคาปิด Series U25 ส่งภาพเทคนิคสวยต่อ
🟢 ต่างชาติกลับมา Long สูงสุดในเดือน 15,895 สัญญา
🔴 แต่ยอดหุ้นยังไม่น่าวางใจ 3 ขาย 1 ซื้อ โบรกเกอร์รับคนเดียว 2,797 ล้าน
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : ราคาสลับมาเป็นขาขึ้นระยะสั้น(กรอบเขียว) หลังเบรกกรอบขาลงได้ แต่ยังคงไม่แข็งแรงมาก เนื่องจากช่วงนี้เทรนเปลี่ยนบ่อย 
🟢 Bullish Plan :
ไปต่อตามเทรน ยืนเหนือ 827 ให้ได้ใน ชม. แรก → ลุ้น test 830 / 833 / 836
หากผ่าน 836 → Upside เปิดถึง 842–843
🔴 Bearish Plan :
หลุด 823 เพื่อสร้าง Low ใหม่และไม่ทำ High → มีโอกาสกลับไป test 820 / 817
หลุด 817 จะเสียโมเมนตัมและกลับไป test แนวรับใหญ่ 812
🟡 Sideway Plan :
ไร้ปัจจัยเด่นชัด แกว่งบริเวณ 823–827 → เล่นสั้นตามสัญญาณอินดิเคเตอร์ (RSI/Stoch)
Balance Zone ช่วงนี้ = 823–827
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 823-824
 6 จุดร่วม : EMA5 (TF60),Mode สะสม month ก่อน,Mode สะสม week ก่อน,POC,BB ล่าง (TF15),Low เดิมรอบสั้น (1-5 วัน)
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 827-830
5 จุดร่วม : Trend Line แนวต้าน,High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน),BB บน (TF15),EMA200 (TF15),EMA75 (TF60)
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 45% → Sideway ในกรอบ 823–827
🔹 35% → Bullish ยืนเหนือ 827 → ลุ้นไป 830 / 833
🔹 20% → Bearish หลุด 823 → ย่อลง 820 / 817–812
👀 สรุป : วันนี้มองยาก ตลาดพึ่งจบรอบทำราคาปิดซีรีส์ และยอด Flow แปลก ทั้งโบรกซื้อหนัก-ต่างชาติพลิกมา Long หนัก ดังนั้น เล่นแบบระวังตัว ย่อรับ-ดักขาย น่าจะตอบโจทย์ที่สุด
ทำไมเทรดเดอร์ต้องรอให้กราฟเข้ากับ Setup ของตัวเอง1. **ตลาดมีโอกาสทุกวัน แต่ทุนเราไม่ได้มีไม่จำกัด**
.
   * ถ้าเข้าแบบสุ่ม ๆ เราจะเสี่ยงใช้เงินเกินความจำเป็น
   * การรอให้ตรง Setup = เลือก “ช็อตที่มีความน่าจะเป็นสูงที่สุด”
.
2. **Setup = กรอบกติกาส่วนตัว**
.
   * คือกติกาที่เรารู้ว่า เมื่อครบเงื่อนไข → มีโอกาสชนะมากกว่าแพ้
   * ถ้าเทรดนอก Setup = เล่นพนัน ไม่ใช่เทรด
.
3. **รอ = ป้องกันอารมณ์ครอบงำ**
.
   * ตลาดชอบหลอกให้รีบเข้า → ถ้าไม่มีกติกา เราจะโดนลากง่าย
   * การรอ Setup เหมือน “วางกรอบกันตัวเองไม่ให้ Overtrade”
4. **บางวันไม่มีสัญญาณ = คือการเซฟเงินทุน**
.
   * ไม่มี Setup = ไม่เสียเงิน
   * เทรดเดอร์เก่งจะคิดว่า “ไม่เสีย = กำไร” เพราะเก็บทุนไว้รอโอกาสดีกว่า
.
5. **กราฟไม่มาตามโซน → คือธรรมชาติของตลาด**
.
   * ตลาดไม่จำเป็นต้องวิ่งตามที่เราคิด
   * หน้าที่เราคือ *“รอจังหวะที่เจ้ามือเผยไพ่”* ไม่ใช่บังคับตลาด
.
---
.
## 🎯 สรุป
.
* **การรอ Setup = เลือกศึกที่เรามีโอกาสชนะมากที่สุด**
* **วันที่ไม่มีจังหวะ ไม่ใช่วันเสียเวลา แต่คือวันเซฟทุน**
* เทรดเดอร์ที่รอเป็น → อยู่รอด
* เทรดเดอร์ที่รีบเข้า → มักหมดพอร์ต
กองทุนและสถาบันใหญ่ๆ มองว่าในภาวะนี้ ทองคำยังถูกหนุน“ทองคำวันนี้”
(29/09/2568) XAUUSD #มุมมองส่วนตัว
📌 Zone สำคัญ
	•	Zone SELL: 3799–3792 🎯 TP 3769 | SL 3810
	•	Zone BUY: 3764–3758 🎯 TP 3795–3800 | SL 3749
📌 แนวรับ–แนวต้าน (Technical View)
	•	แนวต้านสำคัญ: 3799–3801 หากยืนไม่ผ่าน → มีแรงขายกดลง
	•	แนวรับแรก: 3764–3758 หากยืนได้ → เด้งกลับขึ้นได้
	•	แนวรับใหญ่: 3718 หากหลุด → เสี่ยงเปลี่ยนเทรนด์เป็นลง
📌 รูปแบบแท่งเทียน / สัญญาณ
	•	กราฟ H4 ล่าสุดมีแท่งไส้ยาว แสดงแรงขายกดเมื่อเข้าโซนบน
	•	แต่แท่งเขียวยังพยายามยืนเหนือ 3770 → บ่งชี้แรงซื้อยังไม่หมด
📌 มุมมองกองทุน / Big Money
*กองทุนและสถาบันใหญ่ๆ มองว่าในภาวะนี้ ทองคำยังถูกหนุน โดยคาดหวังนโยบายเงินผ่อนจากเฟด, ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการไหลเข้าทองคำในฐานะ safe-haven. ถึงแม้จะมีแรงขายชั่วคราวในโซนแนวต้าน แต่ถ้าข้อมูลมหภาคอ่อนแอ ดอลลาร์อาจอ่อน ทำให้ทองมีโอกาสกลับมาแรง.
	•	กองทุนบางส่วนยังถือทองในฐานะ Safe-haven จากความเสี่ยงเศรษฐกิจ
	•	แต่ถ้าดอลลาร์แข็งต่อเนื่อง อาจเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้น
👉 สรุปสั้นๆ
	•	จับตาโซน 3799–3792 ด้านบน และ 3764–3758 ด้านล่าง
	•	หากไม่ผ่านต้านบน → มีโอกาสเทขายลง
	•	หากรับล่างยืนได้ → ลุ้นเด้งขึ้นทดสอบโซนสูงอีกครั้ง
	•	แนะนำเทรดตามกรอบ พร้อมวาง SL ให้ชัดเจน
#XAUUSD #ทองคำ
เสาร์–อาทิตย์ ตลาดปิด ทำยังไงให้ Vib สูง + พัฒนาตัวเอง🌟 Weekend Ritual: 
เสาร์–อาทิตย์ ตลาดปิด ทำยังไงให้ Vib สูง + พัฒนาตัวเอง
.
1. ชาร์จพลังร่างกาย (Body Reset)
นอนพักให้เต็มที่ ปรับวงจรนอน
ออกกำลังกายเบา ๆ → วิ่งจ๊อกกิ้ง, เดินกลางแจ้ง, โยคะ
เลือกกินอาหาร high-vibration (ผลไม้สด, น้ำผัก, น้ำเปล่าเยอะ ๆ)
👉 เพราะร่างกายที่สดชื่น = ใจที่ไม่เหนื่อยง่าย
.
2. ชาร์จพลังใจ (Mind Reset)
.
อ่านหนังสือ 1 บท/วัน (ไม่ต้องหนา แต่ต้องได้ “อะไรใหม่”)
เขียน Reflection Journal → “สัปดาห์นี้ฉันเรียนรู้อะไรจากตลาด?”
ทำ Meditation 10–15 นาที (อยู่กับลมหายใจเฉย ๆ ก็พอ)
👉 เพราะการหยุดคิดเรื่องกราฟ คือวิธีให้สมองกลับมา “คมกว่าเดิม”
.
3. พัฒนาสกิลเทรด (Skill Upgrade)
Backtest ระบบของตัวเอง → ย้อนดู 3–6 เดือน
ฝึกตีเส้น, อ่านแพทเทิร์น, จดสถิติ
เขียน Trading Plan สำหรับสัปดาห์หน้า → ว่า “ฉันจะโฟกัสคู่ไหน, ท่าไหน, RR เท่าไหร่”
👉 เพราะนักรบที่แท้จริง “ลับดาบตอนที่สนามรบปิด”
.
4. ยกระดับ Vib (Energy & Soul)
อยู่กับคนที่รัก + ทำสิ่งเล็ก ๆ ที่เติมใจ เช่น ทำอาหาร, ดูหนัง, ฟังเพลง
เดินธรรมชาติ รับแสงแดด เชื่อมกับโลกจริง
เขียน Gratitude List: “3 สิ่งที่ฉันขอบคุณในสัปดาห์นี้”
👉 เพราะพลังบวกจากการขอบคุณ = ตัวแม่ดึงดูดกำไร
.
.
.
🧘  สำหรับวันหยุด
“วันหยุดนี้คือของขวัญให้ฉันชาร์จพลัง
ฉันเลือกพักเพื่อกลับมาแหลมคมกว่าเดิม
และฉันขอบคุณทุกบทเรียนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่หล่อหลอมให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น”
ถ้าเห็นรีเจคแต่ราคาซึมลงต่อ คือการหลอกกินสภาพคล่อง?**แท่งรีเจค (Rejection, ไส้ยาว)** 
ปกติคือสัญญาณว่า *มีการปฏิเสธราคา* → เช่น ซื้อดันขึ้น/ขายกดลง 
แต่…
ถ้าหลังจากนั้นราคา **ไม่ไปตามรีเจค** กลับ “ซึมลงต่อ” → แสดงว่า **แรงที่รีเจคเกิดขึ้น 
ไม่ได้มาจากเจตนาพลิกตลาดจริง แต่เป็นการ “หลอก/เทส/เก็บของ” ของเจ้ามือ**
.
---
.
## 📌 สิ่งที่เจ้ามือ (หรือ Smart Money) อาจกำลังทำ
.
1. **Stop Hunt / Liquidity Grab**
.
   * เจตนาคือเคลียร์ Stop Loss ที่อยู่เหนือ/ใต้โซน → พอรีเจคแล้วจริง ๆ เขาไม่ได้จะกลับทิศ แต่แค่ “กินสภาพคล่อง”
   * ตัวอย่าง: wick ยาวขึ้น แต่แท่งต่อไปไม่ follow buy → คือกิน SL ของ short traders แล้วกดลงต่อ
.
2. **Fake Reversal (หลอกกลับตัว)**
.
   * ทำแท่งไส้สวย ๆ ให้รายย่อยคิดว่า “กลับตัวแล้ว” → กระโดดเข้า Buy
   * จากนั้นเจ้ามือเทขายต่อ ทำให้รายย่อยติดดอย
.
3. **Absorption (การดูดซับออเดอร์)**
.
   * Wick ยาว = มีแรงซื้อจริง แต่เจ้ามือ “รับออเดอร์ทั้งหมด” เอาไว้
   * พอคนซื้อหมดแรง → ราคาก็ซึมลงต่อ (เพราะ supply ยังคงหนักกว่า demand)
.
4. **สร้างกับดักเพื่อต่อเนื่องเทรนด์เดิม**
.
   * โดยเฉพาะถ้า HTF ยังเป็นขาลง → wick ที่เห็นอาจเป็นเพียง *pause/กับดัก* ก่อนลงต่อ
.
---
## 📊 วิธีอ่านว่าเป็นรีเจคจริง หรือหลอก
.
* **Volume**: ถ้าแท่ง wick ยาว แต่ volume สูงผิดปกติ → อาจเป็น stop hunt มากกว่า true reversal
* **Candle ต่อไป**: ถ้าไม่มี follow-through (เช่น แท่งเขียวปิดสูงกว่า) = ส่วนใหญ่หลอก
* **โครงสร้าง (Market Structure)**: ถ้าเทรนด์หลักยังเป็นขาลง → wick รีเจคด้านล่างส่วนใหญ่คือ “liquidity grab” เพื่อกดต่อ
* **บริบท Zone**: ถ้า wick อยู่กลางทาง → ไม่ใช่ demand จริง แต่ถ้าอยู่ที่ demand zone/OB → ยังมีสิทธิ์เป็น reversal ได้
.
---
.
## ✅ สรุป
.
* ถ้าเห็นรีเจคแต่ราคาซึมลง → **คือการหลอกกินสภาพคล่อง** มากกว่าการกลับตัวจริง
* เจ้ากำลัง “เทส” เพื่อดูว่ามีแรงซื้อพอจะกลับหรือยัง และใช้ wick ลวงคนเข้า Buy
* เราควร “รอดู confirm BOS/CHOCH” มากกว่าที่จะรีบเข้า Buy ที่ wick รีเจคแรก
ทำไมต้องออกจากตลาดทันทีเมื่อถึงเป้ากำไรประจำวันการออกจากตลาดเมื่อถึงเป้า เป็นทักษะสำคัญเท่ากับการหา entry ดี ๆ เพราะมันป้องกันการ “ถลำเพิ่ม” ที่สุดท้ายทำกำไรหาย หรือโดนกลับทำลายพอร์ต สรุปสั้น ๆ ก่อน:
เหตุผลหลัก — รักษากำไรที่ได้มา, ป้องกัน emotional / revenge trading, ป้องกัน volatility ที่ไม่คาดคิด, และรักษาวินัยของระบบ
.
ต่อไปนี้คือแผนแบบละเอียดที่ทำเป็นขั้นตอน ให้ทำตามได้จริงเลยครับ
# ทำไมต้องออกจากตลาดทันทีเมื่อถึงเป้ากำไรประจำวัน — และขั้นตอนปิดตลาดแบบละเอียด (Step-by-step)
---
# STEP A — ก่อนกดปิด (ทันทีที่ถึงเป้า)
(เวลา: 0–3 นาที)
.
1. **ตัดสินใจก่อน** — ย้ำกฎ: “วันนี้ได้ตามเป้า = หยุด” (พูดออกเสียงสั้น ๆ เช่น “หยุดวันนี้” หรือเขียนบนสติกเกอร์)
2. **ล็อกออเดอร์ที่เปิดอยู่**
.
   * ถ้าคุณเปิดออร์เดอร์ค้าง: เลือกกลยุทธ์หนึ่งตามแผน (ดูตัวอย่างด้านล่าง) แล้วดำเนินการทันที
     * Option 1 : ปิดทุกตำแหน่งทั้งหมด → ถอนความเสี่ยงออก
     * Option 2 (แบ่งส่วน): ปิด 70–80% ของขนาดเพื่อเก็บกำไร ส่วนที่เหลือ 20–30% ให้วิ่งต่อด้วย SL ย้ายเป็น BE หรือ trailing stop ที่ชัดเจน
     * Option 3 (ถ้าอยากให้มีโอกาสได้เพิ่ม): ปิด 50% → ย้าย SL ของส่วนที่เหลือเป็น BE + ตั้ง trailing stop = 1–1.5×ATR
3. **ยืนยันการปิด** — กดปิดหรือปรับคำสั่งให้เรียบร้อย (อย่าวางไว้เป็น “ลืม” แบบ market order ที่อาจพลาด)
4. **ปิดการแจ้งเตือนตลาดทันที** (notifications, price alerts) — ลดการถูกล่อตลอดเวลา
---
# STEP B — Shutdown ritual (ปิดจอจริง ๆ)
.
(เวลา: 3–10 นาที)
.
1. **ปิด/ล็อกหน้าจอเทรด** — ออกจากโปรแกรม trading / ปิด tab ของกราฟ
2. **ปิด/ปิดเสียง/ปิดการแจ้งเตือนโทรศัพท์** ของแอปเทรดและข่าวการเงิน
3. **ถอยจากโต๊ะ 5–15 นาที** — ลุกยืด ยืดเส้น เดินรอบบ้าน ดื่มน้ำ ล้างหน้า → ให้สมองเย็นลง
4. **หากิจกรรมตัดสมาธิ** เช่น ฟังเพลง, เดินออกไปซื้อของเล็กน้อย, ทำงานบ้าน — อย่าอยู่หน้าจอต่อ
---
# STEP C — Post-trade logging & emotional check (10–30 นาที)
.
1. **บันทึกใน Trade Journal ทันที** — ใช้ template ด้านล่าง (อย่าผลัด)
2. **ตอบคำถามอารมณ์:**
   * วันนี้ฉันรู้สึกยังไงตอนเข้า/ออก? (ตื่นเต้น/กลัว/โลภ)
   * ตัดสินใจตอนเข้า/ออกมาจากเหตุผลทางระบบหรืออารมณ์?
3. **จด 3 ข้อที่เรียนรู้วันนี้** (What went well, What went wrong, What to change)
4. **ตั้งการบ้านสำหรับพรุ่งนี้** — 1–2 จุดปรับปรุง เช่น “ลดขนาดเวลา volatility” หรือ “รอ confirmation M15”
.
**ตัวอย่าง Trade-Journal Template (สั้นๆ):**
.
* วันที่/เวลา:
* ตลาด/สัญลักษณ์:
* Entry: ราคา / Size / เวลา
* Exit: ราคา / Size / เวลา
* ผล (pips/\$ / %):
* เหตุผลเข้า: (สัญญาณ)
* เหตุผลออก: ถึงเป้า/SL/อื่น
* อารมณ์ตอนเทรด:
* Lesson (3 ข้อ):
.
---
# STEP D — กฎชัดเจนเพื่อป้องกันย้อนกลับ (วิธีบังคับวินัย)
.
1. **ตั้งกฎประจำวัน (Hard Rule)**: ตัวอย่าง
   * “เมื่อกำไรต่อวัน = 1% ของพอร์ต → หยุดเทรดวันนี้”
   * หรือ “เมื่อได้ 3 ชนะติด → หยุด 1 ชั่วโมง/หยุดวัน”
2. **ใช้ระบบเทคนิคช่วยบังคับ**:
   * ตั้ง Auto-close / OCO / Close-all order เมื่อถึงยอดกำไร (หลายโบรกมีฟีเจอร์นี้)
   * ตั้ง alarm/alert ที่บอกว่า “Reached daily target — DO NOT TRADE” และตั้งเสียง/ข้อความที่เตือนแรง ๆ
3. **จำกัดทุนที่เปิดได้ต่อวัน**: เปิดบัญชีแยก หรือย้ายเงินออกจากบัญชีเทรดเมื่อจบวัน
4. **ปิด hotkeys / disable one-click trading** — ทำให้ไม่สามารถเข้าออร์เดอร์ทันทีได้ (ลด impulse)
.
---
# STEP E — หากอยากปล่อยให้บางส่วนวิ่งต่อ (กฎชัดเจน)
ถ้าคุณอนุญาตให้ “บางส่วน” วิ่งต่อ กำหนดกฎชัดเจนก่อนวันเทรด เช่น:
* สูงสุด 20% ของพอร์ตเท่านั้น
* SL = BE (breakeven) + buffer (0.5×ATR)
* Trailing stop = 1.5×ATR หรือ fixed pip (เช่น 10–15 pips)
* ถ้ราคไปถึง +2×เป้าหมายรายวัน ให้ปิดส่วนที่เหลือทั้งหมด
  ถ้าไม่มีกฎเหล่านี้ — อย่าให้เหลือ!
---
# STEP F — เทคนิคจิตวิทยา / วลีช่วย (เมื่อ FOMO อยากกลับเข้า)
.
* พูดกับตัวเองสั้น ๆ: “เป้าบอกให้หยุด — ฉันเคารพระบบ”
* ใช้ **รหัสหยุด (stop code)**: บันทึก 3 คำที่เตือนตัวเอง (เช่น “Risk Control”, “Plan First”, “Walk Away”)
* ถ้าหวั่นจะเช็กจอ → ตั้งนาฬิกา 1 ชั่วโมง เฉพาะกิจ (do not check) และทำงานอื่นแทน
---
# STEP G — ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน (ข่าวแรงหลังปิด)
.
* ถ้เป็นข่าว πολύใหญ่ และคุณมีตำแหน่งค้าง (คุณตัดสินใจให้มีส่วนเล็กเหลือ) — ให้ปฏิบัติตามกฎที่ตั้งไว้ (trailing SL หรือ close at next logical level)
* หากไม่มีตำแหน่งค้าง — **อย่าเข้าใหม่**: ให้รอถึง session ถัดไปหรือจนกว่าจะมีสัญญาณตามระบบ
---
# STEP H — สรุปวัน & เตรียมวันหน้า (สิ้นวัน)
.
1. ทำ End-of-day report: total P/L, #trades, winrate day, biggest mistake, biggest win
2. เซฟภาพหน้าจอกราฟสำคัญ 2–3 รูปที่แสดง trade คุณ
3. ตั้งเป้าสำหรับวันพรุ่งนี้ (watchlist, เหตุการณ์ข่าว, กฎพิเศษ)
4. พักผ่อน — นอนให้พอ อย่าฝืนเทรดต่อ
---
## ตัวอย่าง “Shutdown Script” (ใช้จริงก่อนปิดจอ)
.
1. **กดปิดทุกตำแหน่ง (หรือปรับตามกฎ)**
2. พูดออกเสียง: “หยุดวันนี้ — ส่งงานจบ”
3. ปิดโปรแกรมเทรด + ปิดแจ้งเตือนโทรศัพท์
4. ยืด 5 นาที แล้วจดบันทึก 10 นาที
---
# Checklist สั้น ๆ พกไว้ก่อนปิด (แสดงเมื่อถึงเป้า)
.
*   ถึงเป้ากำไรประจำวันแล้วจริงหรือไม่ (คำนวณรวมค่าธรรมเนียม)
*   ปิด/จัดการตำแหน่งตามกฎ (close all / partial / trail)
*   ปิดแจ้งเตือนทั้งหมดของตลาด
*   บันทึก trade ใน journal (entry/exit/เหตุผล/อารมณ์)
*   ทำ shutdown ritual (เดิน/น้ำ/ห่างหน้าจอ 10–30 นาที)
*   ตั้งการบ้านพรุ่งนี้ + เซฟภาพกราฟ
---
EUR/USD ทรงตัวใกล้ 1.1800 รอถ้อยแถลงพาวเวลล์EUR/USD ทรงตัวใกล้ระดับ 1.1800 หลังข้อมูล PMI สหรัฐฯ ความสนใจหันไปที่คำกล่าวของพาวเวลล์
EUR/USD ยังคงพยายามรักษากำไรจากวันจันทร์ไว้ได้ แต่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ แถวระดับ 1.1800 ข้อมูล PMI จากสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของภาคเอกชนยังคงขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งในช่วงต้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงการเข้าถือสถานะใหญ่ ๆ ก่อนที่จะได้ฟังคำกล่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์
---
### ภาพรวมทางเทคนิค EUR/USD
กราฟรายวันของคู่เงิน EUR/USD แสดงให้เห็นว่าราคายังคงถูกจำกัดอยู่ในกรอบแคบภายในวัน โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับราคาเปิด ความเสี่ยงยังคงโน้มเอียงไปทางขาขึ้น แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงส่งไปบ้างแล้วก็ตาม ตัวชี้วัดทางเทคนิคหันลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในโซนบวก ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน EUR/USD ยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ที่มีแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับแบบไดนามิกบริเวณ 1.1730 นอกจากนี้ เส้นค่าเฉลี่ย 100 และ 200 SMA ยังคงชี้ขึ้นอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่สั้นกว่า สอดคล้องกับความต้องการดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงจำกัด
ในระยะสั้น ภาพรวมค่อนข้างเป็นกลาง กราฟ 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่า ตัวชี้วัดโมเมนตัมเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเล็กน้อยเหนือเส้นค่า 100 ขณะที่ดัชนี Relative Strength Index (RSI) หันลงเล็กน้อยและอยู่บริเวณ 53 สุดท้าย คู่เงิน EUR/USD ยังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหมด โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 20 SMA ที่แบนราบทำหน้าที่เป็นแนวรับระหว่างวันบริเวณ 1.1770
**แนวรับ:** 1.1770 1.1730 1.1690
**แนวต้าน:** 1.1820 1.1855 1.1890
---
### ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
คู่เงิน EUR/USD ซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.1800 เล็กน้อย ยังคงถูกจำกัดอยู่ในระดับคุ้นเคย ขณะที่ผู้เข้าร่วมตลาดรอเบาะแสใหม่ ๆ เกี่ยวกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงคำกล่าวจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์
ตลาดการเงินยังคงเคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ การตัดสินใจล่าสุดของเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการส่งสัญญาณว่าจะมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงเผชิญแรงกดดัน แม้ว่ากระแสขาลงที่เด่นชัดเริ่มชะลอตัวลงแล้วหลังจากที่ตลาดมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน
ตลอดทั้งวัน นักลงทุนยังคงตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่ผสมผสานกัน โดยธนาคารพาณิชย์ฮัมบวร์ก (HBOC) ได้เผยประมาณการเบื้องต้นของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนกันยายน ข้อมูลจากสหภาพยุโรปออกมาแบบคละกัน โดยผลผลิตภาคการผลิตปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ดัชนีภาคบริการออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ดัชนี Composite PMI อยู่ที่ 51.2 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 51.1 และสูงกว่าค่าก่อนหน้าที่ 51 เล็กน้อย
ต่อไปจะเป็นการประกาศดัชนี PMI ของสหรัฐฯ โดย S\&P Global ซึ่งคาดว่าผลผลิตทั้งภาคการผลิตและภาคบริการจะยังคงขยายตัวอย่างมั่นคง โดยดัชนี Composite PMI คาดว่าจะออกมาที่ 54.6 เท่ากับตัวเลขเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ ประธานเฟด พาวเวลล์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในการประชุม Greater Providence Chamber of Commerce Economic Outlook Luncheon ที่โรดไอแลนด์ นักลงทุนเชิงเก็งกำไรจะจับตาดูข้อมูลและคำกล่าวของพาวเวลล์เพื่อหาสัญญาณยืนยันความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่
ราคาเคลียร์สภาพคล่องที่ Low  แล้วดีดตัวแรง  จากนั้นทำไมย่อแรง?🔹 สิ่งที่เกิดขึ้น
.
ราคาเคลียร์สภาพคล่องที่ Low
คนที่ Buy แถว Low (คิดว่าตรงนี้เป็น Support) → SL โดนกิน
คนที่ Sell Breakout (คิดว่าหลุด Low จะลงต่อ) → เข้า Sell
👉 เจ้าได้ “อาหาร” = ทั้ง Stop Loss + Order ใหม่จากฝั่ง Sell
.
ราคาดีดแรงทันที (Rejection)
พอเจ้าได้ของครบ (Buy Liquidity) → เจ้า Buy กลับขึ้นไป
มันเลยเห็นเป็น “แท่งเด้งแรง”
ทำไมหลังจากนั้นถึงย่อแรงอีก
.
แรงดีดแรก = มาจากการ “กิน Stop Loss” + “Short Squeeze”
แต่การดีดนั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าอยากลากต่อทันที
เจ้ามักจะ “เช็กโซน” → ดูว่ามีใครตามขึ้นมาบ้าง → แล้ว “ย่อแรง” เพื่อ
หลอกให้คนที่รีบ Buy ติดดอย
สะสมของเพิ่ม (Load Position) ที่ Demand Zone
.
🔹 Flow แบบละเอียด
ลงมาเคลียร์ Low → เก็บสภาพคล่อง
ดีดแรง (Impulse Move) → สัญญาณว่ามีการกลับตัวชั่วคราว
ย่อแรงตามมา (Pullback)
เพื่อทำให้ตลาด “ดูไม่ชัวร์”
และสร้างโอกาสให้เจ้าเข้าซื้อเพิ่มในราคาที่ดีกว่า
หลังจากนั้น ถ้าโครงสร้างเปลี่ยน (เช่น BOS / CHoCH) → ราคามักจะไปต่อ
.
🔹 ตัวอย่างที่คุณเจอในกราฟ
.
06:00 → เคลียร์ Low ($$$)
เด้งขึ้นแรง → เพราะกิน SL Buy และ Short Squeeze
จากนั้น ย่อแรงอีกครั้ง → คือจังหวะเจ้าเช็กตลาด + สะสมของใหม่
.
🔹 ภาษาของ Smart Money
.
Stop Hunt = เคลียร์ Low
Spring / Sweep = ดีดแรงครั้งแรก
Retest / Pullback = ย่อแรงตามมา
True Move = เทรนด์จริงที่จะตามมา (ถ้าเจ้าอยากลากต่อ)
.
สรุปสั้น ๆ:
👉 ดีดแรก = สัญญาณว่าเจ้าเริ่มกินของ
👉 ย่อแรงทีหลัง = การเช็ก + สะสมของเพิ่ม
👉 ถ้าตลาดพร้อม → ค่อยปล่อยของจริงขึ้นต่อ
SET50 Insights : ส่องทิศทาง S50U25 ผ่านเลนส์ Data&AI  22 ก.ย. 68SET50 Insights: 🔍ส่องทิศทาง S50U25 ผ่านเลนส์ Data&AI; | 22 ก.ย. 68
🔥กรอบขาขึ้น 1 เดือนหลุด/ไม่หลุด ! วันนี้ชี้ชะตา
📌 Data Checkpoints - เหตุการณ์สำคัญวันก่อน
🔴 Confirm RisingWedge Pattern @Target 819.1
🟢 ราคาพักตัวทดสอบด่านแรกแนวรับ Trendline ขาขึ้น ไม่หลุด
🟢 เกิด Bullish Divergence สนับสนุน ณ แนวรับพอดี
🔴 MACD (TFDay) เริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว วกกลับใกล้ตัดSignal
🔴 ต่างชาติขายหุ้นหนัก 3 วันติด รวมกว่า -6,617 ล้านบาท
⸻⸻
📉 Outlook&Tactical; Plan - ภาพรวมแนวโน้มวันนี้
🔹Trend : แนวโน้มระยะกลางยังเป็นขาขึ้น(กรอบน้ำเงิน) หลังราคาไม่หลุด Trend Line สำคัญ และเด้งบริเวณนั้นพร้อมมีสัญญาณกลับตัวสนับสนุน
🟢 Bullish Plan :
เชื่อในเทรนหลัก รอยืนเหนือ 832 ให้ได้ → มีลุ้นกลับไปทดสอบ 835 / 837
หากผ่าน 837 → แนวต้านใหญ่ 841–843 (BB บน TF60/Day + High เดิมรอบสั้น)
🔴 Bearish Plan :
ต่างชาติทุบต่อ ลุ้นหลุด 828–829(Low เดิม) → มีโอกาสลงต่อ 826 / 823
หากต่ำกว่า 823 → เสี่ยงถอยไป 820 / 818
🟡 Sideway Plan :
ราคามีโอกาสแกว่งในกรอบ 828–837 เพื่อสร้าง Balance Zone ใหม่
เล่นสั้นตามสัญญาณ Indicator
⸻⸻
🎯 Key levels - โซนราคาสำคัญ
🛡️แนวรับ (Support) : 828-829
5 จุดร่วม : BB ล่าง (TF15),BB ล่าง (TF60),EMA10 (TFDay),Trend Line แนวรับ,Low เดิมรอบสั้น (1-5 วัน)
⚔️แนวต้าน (Resistant) : 839-843
5 จุดร่วม : BB บน (TF60),BB บน (TFDay),Trend Line แนวต้าน,Mode สะสม week ก่อน,High เดิมรอบสั้น (1-5 วัน)
⸻⸻
⚡AI Probability&Forecast; - คาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าสนใจ
🔹 40% → Sideway 828–837 (สร้าง Balance Zone)
🔹 35% → Bearish หลุด 828 → ลงต่อ 826 / 823
🔹 25% → Bullish ยืนเหนือ 837 → ลุ้นกลับไป 841–843
👀 สรุป : จับตาการพักฐานทดสอบเทรนขาขึ้นระยะกลางรอบ1เดือนต่อในวันนี้ ถ้าหลุดจะเปลี่ยนเทรนทันที โดยมีแรงขายต่างชาติเป็นตัวกดดัน และดูว่าข่าวดีมาตราการทางเศรษฐกิจระยะสั้นจะช่วยได้หรือไม่
<<>>
พฤติกรรมของเจ้า เวลาตลาดอยู่ใน ATH  (All Time High)ผมจะเอา 2 เรื่องมารวมกันให้ชัดเจน:
พฤติกรรมของเจ้าเวลาตลาดอยู่ใน ATH (All Time High)
การย่อ–สร้าง L1 L2 → Break High
.
📊 Flow ของเจ้าเมื่ออยู่ใน ATH
ลากขึ้นต่อเนื่อง (Price Discovery)
ไม่มีแนวต้านเก่า → เจ้าลากขึ้นได้ง่าย
ใช้ SL ของคน Sell ดัก เป็นเชื้อเพลิง (Short Liquidity)
FOMO ของรายย่อย Buy ไล่ราคา = อาหารให้เจ้า ปล่อยของบางส่วน
พัก / ย่อ (Clear Liquidity ด้านล่าง)
ถึงแม้อยู่ ATH → เจ้าก็ต้อง “เติมน้ำมัน”
ลงมาเก็บ Demand Zone / EQL ที่พลาดไว้ก่อนหน้า
การย่อจะไม่ทำลายโครงสร้างหลัก → แต่พอให้สร้าง L1
ดีดขึ้น → สร้าง Higher Low (L2)
ถ้าราคาไม่หลุด Demand ใหญ่ = แปลว่าเจ้า “ยังคุมตลาด”
L2 = จุดยืนยันว่าโครงสร้างยังเป็นขาขึ้น
Break High → ATH ใหม่
หลังเก็บแรงเสร็จ → เจ้าลากต่อเพื่อสร้าง High ใหม่
ทำลายความหวังของคนที่ Sell ดักบน ATH
Cycle วนซ้ำ
ATH ใหม่ → เจ้าเริ่มปล่อยของอีก → เก็บแรง → สร้าง L1 – L2 → Break High ต่อ
นี่คือวงจร “Stop Hunt → Check Zone → Collect → Push Higher”
.
🎯 สิ่งที่สำคัญเวลาอยู่ ATH
ไม่มีแนวต้านชัดเจน → เราหาเป้าราคาได้ยาก ต้องใช้ Fibo, ATR Projection, หรือ Order Flow เป็นตัวช่วย
แนวรับชัดกว่านแนวต้าน → Demand Zone / EQL ข้างล่างคือตัวบอกว่าตลาดยังแข็งแรง
ถ้าหลุด L2 / Demand ใหญ่ → อาจเป็นสัญญาณแรกว่าเจ้าเริ่มเปลี่ยน Phase → Distribution
.
🛡 วิธีรับมือ
อย่าขายสวน ATH แบบไม่มีเหตุผล → เสี่ยงโดนลากต่อ
รอจังหวะย่อ (L1 – L2) → Buy ที่ Demand Zone ใต้โครงสร้าง
วัด Momentum → ถ้า Volume เริ่มหาย / มี Divergence → ระวังการพักยาวหรือการแจกของ (Distribution)
.
👉 สรุป:
ใน ATH เจ้าใช้ Sell Liquidity เป็นอาหารหลัก
พักลงมาสร้าง L1 – L2 เพื่อรีเซ็ตแรง → แล้วไปทำ High ใหม่
วงจรนี้จะวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าจะเริ่มแจกของ (Distribution Phase)
.
🔎 ทำไมถึงไม่มีจุดให้เข้า Buy
เจ้าไม่ย่อเพราะยังมีอาหาร (Stop Loss ฝั่ง Sell) อยู่ตลอดทาง
→ ราคาพุ่งต่อไปเรื่อย ๆ แค่กิน SL ของคนที่ Sell ดักด้านบน
.
เจ้าอยากให้คน “พลาดโอกาส”
→ คนที่รอ Buy Zone จะรู้สึกเสียดาย พอราคาไปสูง ๆ จะ “กระโดดเข้าตามน้ำ”
→ ซึ่งมักเป็นจุดที่เจ้าเริ่มปล่อยของ = รายย่อยติดดอย
.
ตลาดอยู่ในภาวะ Price Discovery (ATH)
→ ไม่มีแนวต้านเก่าให้พัก → เจ้าเลือกใช้จังหวะลากยาวแทนการพัก
.
🛡 วิธีรับมือเวลา “ไม่มีจุดเข้า Buy”
.
อย่ากระโดดตามน้ำตอนวิ่งชัน
→ ถ้าเข้า Buy ตรงยอด เสี่ยงโดนทุบเคลียร์สภาพคล่อง
ใช้ TF ย่อยหา Re-entry
ไปดู M1 / M5 → ถ้ามี Sideway เล็ก ๆ (Mini Range) → นั่นคือจุดที่เจ้า “พักหายใจ”
เข้า Buy จาก Breakout ของ Range เล็ก ๆ แทน
วาง Pending Buy ที่ Demand Zone
มาร์ก Zone ข้างล่างไว้ → วาง Buy Limit รอ
ถ้าราคาย่อมา = ได้ของถูก
ถ้าไม่ย่อเลย = ปล่อยไป ไม่เสี่ยงโดดตาม
เล่นแนวทาง Scaling In
ถ้ากลัวตกรถ → เข้าบางส่วนเล็ก ๆ (0.2 – 0.3 ของ Lot ที่ตั้งใจ)
ที่เหลือรอ Demand Zone → จะได้ไม่พลาดทั้งคู่
.
🎯 Mindset ที่สำคัญ
ตลาดที่ “ไม่ให้โอกาส” จริง ๆ แล้ว → คือการทดสอบวินัยเรา
เจ้าไม่อยากให้คุณได้ราคาดี → เขาอยากให้คุณโดดตามปลายทางแล้วติดดอย
คนที่รออย่างมีระบบ แม้จะพลาดรอบนี้ แต่จะได้จังหวะที่ “เสี่ยงคุ้มค่า” ในรอบถัดไป
.
👉 ถ้าตลาดไม่ย่อเลย คำตอบง่าย ๆ คือ:
“ไม่ใช่ทุก Wave ที่เราต้องขี่” 🐂
กราฟที่ขึ้นชัน แต่ไม่ย่อ มีวิธีรับมือยังไง?📊 สถานการณ์ที่คุณเจอ
.
XAUUSD ขึ้น แบบชันมาก → เทรนไลน์ตีแล้วแทบจะตั้งฉาก
ปกติเราจะรอให้กราฟ “ย่อ” ลงมา Clear Equal Low (EQL) หรือ Demand Zone → แต่กราฟ ไม่ย่อเลย เด้งขึ้นต่อเนื่อง
.
🔎 แปลความหมายของตลาด
สภาพตลาดอยู่ใน “Imbalance / FOMO Phase”
ช่วงนี้เป็นเฟสที่ แรงซื้อตลาดไล่ราคา (Aggressive Buy Orders)
เจ้ามือ / รายใหญ่ยัง ไม่จำเป็นต้องลงไปเคลียร์สภาพคล่อง
เพราะ Demand ที่อยู่ด้านล่าง ยังไม่ถูกทดสอบ → เขาเก็บ Order Buy ไปเรื่อย ๆ
แรงซื้อถูกดูดขึ้นไปเรื่อย ๆ
.
รายย่อยที่กลัวตกขบวน (FOMO) Buy ไล่ราคา
แต่ SL ของพวกนี้อยู่ข้างล่าง EQL / Demand Zone ทั้งนั้น
เจ้าจะปล่อยให้พลัง Buy ดันราคาไปก่อน → พอถึงจุดที่ Liquidity พอ เขาจะค่อย “ทุบกลับ”
.
“No Retracement Market”
ถ้ากราฟไม่ย่อเลย แสดงว่าตลาดอยู่ในโหมด Price Discovery (ค้นหาราคาสูงใหม่ ๆ)
โดยเฉพาะในทอง (XAUUSD) → ช่วงข่าวแรง ๆ / ดอลลาร์อ่อน / ความเสี่ยงสูง
.
🛡 วิธีรับมือ
อย่า FOMO เข้า Buy ตอนปลาย
.
ถ้าเข้า Buy ตอนกราฟชัน ๆ โดยไม่มีจุดพัก → ความเสี่ยงสูงมาก (เพราะถ้าทุบ จะทุบแรง)
มองหาการ Break Structure เล็ก ๆ (BOS/CHOCH) ใน TF ย่อย
ถ้ากราฟเริ่ม Sideway บนยอด + มี BOS ลง → นั่นอาจเป็นสัญญาณแรกที่ “เจ้าจะพัก/ย่อ”
.
ตั้ง Scenario ล่วงหน้า
Scenario 1: ถ้าไม่ย่อเลย = ปล่อยไปก่อน รอ Reversal Pattern
Scenario 2: ถ้าย่อ = Target Demand Zone / EQL ที่เราเล็งไว้
.
ใช้เครื่องมือช่วยวัด “แรงตลาด”
Volume → ถ้าเริ่มลดลงบนยอดแสดงว่ากำลัง “เก็บแรง”
ATR → ถ้าเริ่มหดเล็กลง = มีสิทธิ์พักหรือ Sideway
RSI → ถ้า Overbought แล้ว Divergence = มีสิทธิ์พักหรือลง
.
🎯 สรุป
กราฟที่ขึ้นชันแต่ไม่ย่อ → คือ ตลาดกำลัง Price Discovery / FOMO Phase
เจ้ามือยังไม่อยากเคลียร์ Liquidity → รอให้รายย่อยเข้า Buy กันเต็มก่อน ค่อยทุบทีเดียว
วิธีรับมือ: อย่ากระโดดตามตอนปลาย → รอ BOS/CHOCH หรือ Demand Zone ชัด ๆ ค่อยเข้าใหม่
123 เคล็ดลับเทรดสำหรับเรียนรู้เร็ว - เคล็ดลับ #8ที่ไหนและเมื่อไหร่ หรือขนาดเท่าไหร่? สร้างอาณาจักร? 
ในสงครามการเทรด ทหารหลายคนมุ่งเน้นเพียงการค้นหาสมรภูมิที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาทุ่มเทพลังงานทั้งหมดเพื่อค้นหาสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ ( "ที่ไหน" ) และช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ ( "เมื่อไหร่" ) เพื่อเปิดฉากโจมตีตลาด พวกเขาเชื่อว่าจุดเข้าที่ไร้ที่ติคือกุญแจสู่ชัยชนะ 🧠
อย่างไรก็ตาม การชนะการต่อสู้เล็กๆ เพียงครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าคุณจะชนะสงครามทั้งหมด แม่ทัพที่ฉลาดรู้ดีว่าชัยชนะในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับ การจัดการกองทัพ มากกว่าการบุกโจมตีอย่างกล้าหาญเพียงครั้งเดียว  เงินทุนของคุณคือกองทัพของคุณ  เคล็ดลับในการชนะสงครามไม่ใช่แค่การรู้ว่าควรรบที่ไหน แต่คือการรู้ว่าควร เสี่ยงทหารมากแค่ไหน ในแต่ละการรบ
การส่งทหารจำนวนมากเกินไป — โดยใช้ ขนาดโพซิชั่นที่ใหญ่เกินไป  — ในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่ การขาดทุนครั้งใหญ่ที่รุนแรง ซึ่งจะทำให้การทัพทั้งหมดของคุณสิ้นสุดลง แต่ด้วยการจัดกองกำลังอย่างชาญฉลาด คุณจะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการขาดทุนครั้งใดที่สามารถทำลายล้างคุณได้ สิ่งนี้ช่วยให้กองทัพของคุณ อยู่รอดเพื่อสู้ในวันต่อไป  นี่คือวิธีที่คุณจะพิชิต
 "เพื่อให้ประสบความสำเร็จในโลกของการเทรด สิ่งสำคัญคือเราเข้าที่ไหนและเมื่อไหร่ แต่เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน สิ่งที่สำคัญกว่าคือเราเข้าด้วยขนาดเท่าไหร่" 
- Navid Jafarian 
ทำไมแม่ทัพที่มั่นใจในตัวเองเกินไปถึงแพ้สงครามในตลาด? สำหรับทุกการรบ เขารู้ตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบที่จะโจมตี แต่กลยุทธ์เดียวของเขาสำหรับขนาดกองกำลังคือ  "เทหมดหน้าตัก!" ('ALL IN!')  😂
จงบัญชาการเงินทุนของคุณเหมือน นักวางกลยุทธ์ระดับปรมาจารย์  แล้วคุณจะไม่เพียงแค่ชนะการเทรด แต่คุณจะ สร้างอาณาจักรได้ 🏰
รอติดตามเคล็ดลับถัดไปของเรา!






















