ดอลลาร์ร่วงหนัก! ขู่ภาษีสะเทือนตลาดโลกดอลลาร์สหรัฐขยายการสูญเสียหลังตลาดอเมริกาเหนือทำให้กำไรจากการขู่เรียกเก็บภาษีเมื่อวานนี้ลดลง 📉🇺🇸
**ภาพรวม** 🌏
เมื่อวานนี้ การขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ได้ขยายไปยังจีนและสหภาพยุโรป 🇨🇳🇪🇺 แต่ตลาดอเมริกาเหนือกลับไม่ใส่ใจในประเด็นนี้มากนัก ส่งผลให้ตลาดดูเหมือนจะยอมรับมันได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าตลาดกำลังเริ่มปรับตัวให้ชินกับคำขู่นี้ 💼📊
วันนี้ ดอลลาร์ส่วนใหญ่ยังคงอ่อนค่า ยกเว้นเยนญี่ปุ่น 🇯🇵 ซึ่งเป็นสกุลเงิน G10 เดียวที่อ่อนค่าลงในช่วงก่อนเริ่มตลาดอเมริกาเหนือ แม้จะมีความมั่นใจสูงว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ในวันศุกร์ ทางด้านสหราชอาณาจักร รายงานการขาดดุลงบประมาณในเดือนธันวาคมมากกว่าที่คาดไว้ 🇬🇧 แม้พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษจะด้อยประสิทธิภาพ แต่เงินปอนด์ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ 💷✨
สกุลเงินตลาดเกิดใหม่เกือบทั้งหมดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ยกเว้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน 🇨🇳🇭🇰🇹🇼 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่า 🪙
**ดอลลาร์สหรัฐ** 💵
ดัชนีดอลลาร์สิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วที่ 109.35 และปิดเมื่อวานนี้ใกล้ระดับ 108.00 ซึ่งเป็นการปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม การลดลงนี้ทำให้ดัชนีโมเมนตัมปรับตัวลดลง ตลาดอเมริกาเหนือดูเหมือนจะมองการเรียกเก็บภาษีเป็นเพียงกลยุทธ์การเจรจาหรือการข่มขู่มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริง เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ลดลงต่ำกว่า 108.00 และแตะระดับต่ำใหม่ที่ 107.75 ในวันนี้ ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดเมื่อต้นเดือน เป้าหมายทางเทคนิคถัดไปอยู่ที่ 107.25 ในปฏิทินเศรษฐกิจวันนี้มีดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคม โดยในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากที่เคยลดลงต่อเนื่อง
**ยูโร** 💶
ยูโรแข็งค่าขึ้นและแตะระดับสูงสุดใหม่ของเดือนใกล้ $1.0450 เมื่อวานนี้ ยูโรพบแนวรับเล็กน้อยต่ำกว่า $1.0350 และฟื้นตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในตลาดอเมริกาเหนือ หากยูโรผ่าน $1.0460 อาจส่งสัญญาณให้เคลื่อนไหวไปที่ $1.0500-35
**เงินหยวนจีน (CNY)** 🇨🇳
การอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ทำให้เจ้าหน้าที่จีนมีพื้นที่หายใจเพิ่มขึ้น ดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันจันทร์ที่ CNY7.2615 กลับขึ้นไปใกล้ CNY7.2870 ก่อนลดลงในช่วงท้ายวัน PBOC กำหนดอัตราอ้างอิงดอลลาร์เมื่อวานนี้ที่ CNY7.1703 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน และวันนี้ต่ำลงอีกเป็น CNY7.1696
**เยนญี่ปุ่น (JPY)** 🇯🇵
ดอลลาร์พบแนวรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ JPY155 และถึงแม้จะลดลงต่ำกว่า JPY154.80 เมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคงปิดเหนือระดับนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรายังคงมั่นใจสูง (~95%) ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ในปลายสัปดาห์นี้
**เงินปอนด์ (GBP)** 💷
ปอนด์เคลื่อนไหวใกล้ $1.2375 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ในขณะที่ยังไม่ได้ปิดเหนือระดับนี้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม การขาดดุลงบประมาณของสหราชอาณาจักรในเดือนธันวาคมสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 17.8 พันล้านปอนด์
**ดอลลาร์แคนาดา (CAD)** 🇨🇦
เงินเฟ้อในแคนาดาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ แต่ประเด็นสำคัญคือการขู่เรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ CAD1.4310-40 และยังคงเคลื่อนไหวในช่วงต่ำของเมื่อวาน
**ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)** 🇦🇺
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดที่ $0.6300 เป้าหมายต่อไปคือ $0.6340 ขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจค่อนข้างเบา
**เปโซเม็กซิโก (MXN)** 🇲🇽
เปโซอ่อนค่าที่สุดในบรรดาสกุลเงินตลาดเกิดใหม่เมื่อวานนี้ แต่ดอลลาร์ยังคงรักษาแนวโน้มการเพิ่มขึ้น โดยตลาดสวอปคาดการณ์การลดดอกเบี้ยประมาณ 15 bps ในการประชุมธนาคารกลางวันที่ 6 กุมภาพันธ์
**ภาพรวมตลาดอื่น ๆ** 🌍
- ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงตอบสนองเชิงลบต่อการขู่เรียกเก็บภาษี
- ตลาดอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่หก
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ 31 ตุลาคมใกล้ $2760
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวเล็กน้อยสู่ $76.40
**แฮชแท็ก**
#เศรษฐกิจโลก #ตลาดเงิน #ค่าเงิน #ภาษี #ข่าวด่วน #ลงทุน
การวิเคราะห์ด้านอื่นๆ
GBP/USD ลุ้นทะลุ 1.2250 หรือดิ่งแตะ 1.2100!?**🔥พยากรณ์ราคา GBP/USD: ลุ้นทะลุแนวต้าน 1.2250 หรือจะร่วงต่อ!? 🏦📉**
- 📊 **คู่เงิน GBP/USD** เผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ขณะเคลื่อนไหวในกรอบช่องทางขาลง ⬇️
- 💡 แนวต้านแรกอยู่ที่เส้น EMA ระยะ 9 วัน บริเวณ **1.2278** 📈
- 🛡️ แนวรับสำคัญที่ระดับจิตวิทยา **1.2100** ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ **1.2099** 🕳️
📌 **ความเคลื่อนไหวล่าสุด:**
คู่เงิน GBP/USD ยังคงอยู่ในสภาวะซบเซา 💤 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยซื้อขายใกล้ระดับ **1.2230** ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย 🌏วันศุกร์ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคจากกราฟรายวันเผยให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน 📉 โดยคู่เงินยังคงเคลื่อนไหวในกรอบช่องทางขาลง 🔻
📉 **สัญญาณขาลงแรง:**
- **ดัชนี RSI ระยะ 14 วัน** อยู่เหนือระดับ 30 เพียงเล็กน้อย ⚠️ ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันขาลงที่เพิ่มขึ้น 🧲
- คู่เงินยังคงต่ำกว่าค่า EMA ระยะ 9 วัน และ 14 วัน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มราคาระยะสั้นที่อ่อนแอและย้ำถึงทิศทางขาลง 🎯
📌 **แนวรับสำคัญ:**
- คู่เงิน GBP/USD อาจเคลื่อนไหวใกล้ระดับจิตวิทยา **1.2100** 🛑 ซึ่งตรงกับระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ **1.2099** เมื่อวันที่ 13 มกราคม 🗓️
- หากหลุดผ่านระดับนี้ อาจส่งผลให้แรงกดดันขาลงรุนแรงขึ้น 🚨 และดึงราคาลงสู่ขอบล่างของกรอบช่องทางขาลงที่ **1.1950** 🚀
📌 **แนวต้านสำคัญ:**
- คู่เงินอาจเผชิญแรงต้านทันทีที่เส้น EMA ระยะ 9 วันที่ระดับ **1.2278** และเส้น EMA ระยะ 14 วันที่ **1.2328** 🛡️
- หากทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้สำเร็จ อาจเพิ่มแรงผลักดันของราคาให้วิ่งสู่ขอบบนของกรอบช่องทางขาลงที่ **1.2500** 🏆✨
#️⃣ **#การวิเคราะห์ราคา #GBPUSD #เทรดเดอร์ต้องรู้ #ตลาดเงิน #Forexไทย #คู่เงินน่าจับตา**
ทองคำ XAUUSD Swing and Runทองคำ Swing and Run
ราคาทองคำจ่อเบรคกรอบสามเหลี่ยม Contracting Triangle
ขณะนี้กำลังย่อตัวอยู่ ใช้แนว EMA เป็นจุดรับได้ เมื่อมีแท่งเทียนกลับตัว
หรือทำ Reversal Pattern เบรคทำลายโครงสร้างในภาพเล็ก
ก็จะเป็นจุดเข้า Buy
โดยมีแนวรับ FVG ใน TF Day ที่บริเวณ 2635
และไม่ควรหลุด 2600 เพราะจะเสียโมเมนตั้มขาขึ้น
Entry เมื่อมีแท่งเทียนกลับตัวเหนือแนวรับ
TP เริ่มล็อคกำไรที่ High เดิม บริเวณ 2700-2720
และหากเบรคโครงสร้างใหญ่ไปได้ เหลือ Position ถือรันไปต่อ ยกเทลลิ่งตามได้
SL เมื่อหลุดLow ก่อนหน้าจุดเข้าซื้อ
How To Manage Your Finances วิธีบริหารเงินเดือนแบบให้มีเหลือกิน How To Manage Your Financesวิธีบริหารเงินเดือนแบบให้มีเหลือกิน เหลือเก็บ
👽👽👽 กลับมาพบเจอกันอีกแล้วนะครับ ในปีใหม่นี้เรามีเป้าหมายใหม่ๆในชีวิตกันหรือยังฮะ ถ้ายัง มาอ่านบทความนี้ดูก่อน กับบทความวิธีบริหารเงินเดือนแบบให้มีเหลือกิน เหลือเก็บ เพราะพอเรามีเงิน เราจะเริ่มมีเป้าหมายใหม่ในชีวิตแน่นอน ยิ่งโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนยิ่งต้องบริหารให้ดีครับ
3 สูตรในการบริหารเงินเดือน
สูตรบริหารเงิน ที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งจะช่วยให้เราจัดสรรเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเก็บเงินได้แบบอยู่หมัดด้วย
1. สูตร 50/30/20
คือการแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วน โดยคำนวณจากรายได้หลังหักภาษีแล้ว ได้แก่
- ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ
- ค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิง 30% ของรายได้ เช่น การท่องเที่ยว รับประทานอาหารนอกบ้าน ชอปปิง ฯลฯ
- เก็บออมหรือชำระหนี้ 20% ของรายได้
*** สูตรนี้เหมาะมากครับสำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน และมีรายได้- รายจ่ายแบบตายตัว แต่ชอบกินชอบเที่ยวอยู่ เรียกว่าใช้ชีวิตไปและเก็บออมไปด้วย
2. สูตร 80/20
คือแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 2 ส่วน โดยคำนวณจากรายได้หลังหักภาษีแล้ว ได้แก่
- ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 80% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ชอปปิง ค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว ฯลฯ
- เก็บออมหรือชำระหนี้ 20% ของรายได้
*** เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการและมนุษย์เงินเดือนครับ สามารถเก็บออมได้ง่าย โดยไม่แยกยิบย่อยให้ยุ่งยากต้องลองสูตรนี้ครับ หลักการคิดง่ายๆ เงินเข้า-เงินออก แค่นั้นจบ ไม่ซับซ้อน
3. สูตร 50/15/5
คือแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วน โดยคำนวณจากรายได้หลังหักภาษีแล้ว ได้แก่
- ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ
- ออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ 15% ของรายได้
- เก็บออมเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 5% ของรายได้
-เงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ 30% โดยต้องเป็นเงินที่เราสามารถจัดสรรได้เอง(ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้) เช่นความบันเทิงต่าง ๆ ท่องเที่ยว ชอปปิง ดูหนัง
***สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว โดยแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณอายุด้วย
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับสูตรในการเก็บออมเงิน ชอบแบบไหนก็ปรับแต่งเองได้ตามใจ ลองเอาไปใช้กันดูฮะ ปีใหม่ เริ่มต้นใหม่ เริ่มสิ่งดีๆในกับตัวเราเอง ขอให้มีความสุข สมหวังในวันปีใหม่และสุขสมใจตลอดทั้งปี เทรดให้กำไร บวกๆๆๆๆๆนะครับ
"EUR/USD ยังเป็นขาลง! ฝ่ายกระทิงต้องทะลุ 1.04180 ให้ได้"### การวิเคราะห์ EUR/USD สำหรับเดือนมกราคม 2025
**แนวโน้มยังคงเป็นขาลง เว้นแต่ว่าฝ่ายกระทิงจะสามารถทำสิ่งนี้ได้...**
**การวิเคราะห์ EUR/USD: ระดับสำคัญและแนวโน้มราคา**
ฟิวเจอร์สยูโร (EUR/USD) ซื้อขายอยู่ที่ 1.03280 โดยยังคงมีแนวโน้มขาลง เนื่องจากตัวชี้วัดทางเทคนิคในกราฟรายวันส่งสัญญาณแรงขาย บทวิเคราะห์นี้จะเน้นไปที่ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ รวมถึงสถานการณ์การซื้อขายที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ซื้อขาย EUR/USD
---
### แนวโน้มขาลงสำหรับ EUR/USD
**20 EMA ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน**
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (20 EMA) ที่ลาดลงในกราฟรายวันทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ
- ราคาพยายามทะลุ 20 EMA ในวันที่ 6 และ 7 มกราคม แต่ล้มเหลวทั้งสองครั้ง ตอกย้ำมุมมองขาลง
- ฝ่ายขายยังคงควบคุมตลาด ทำให้ EUR/USD เผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง
**เป้าหมายขาลงสำหรับ EUR/USD**
หากแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป ให้จับตาระดับแนวรับเหล่านี้สำหรับการเคลื่อนไหวของราคา:
- **Value Area Low (VAL)** วันที่ 3 มกราคม: 1.03150
- **Point of Control (POC)** วันที่ 1 มกราคม: 1.02835
- **Value Area Low (VAL)** วันที่ 1 มกราคม: 1.02565
ระดับเหล่านี้มาจากประวัติของปริมาณและสภาพคล่อง ทำให้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการติดตามต่อเนื่องในขาลง
---
### แนวโน้มกระทิงสำหรับการกลับตัวของ EUR/USD
แม้ว่าจะมีแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน แต่ก็ไม่สามารถตัดโอกาสการกลับตัวเป็นขาขึ้นได้ทั้งหมด ฝ่ายซื้อจะต้องเอาชนะระดับแนวต้านที่สำคัญเพื่อฟื้นโมเมนตัม:
- **Value Area High (VAH)** วันที่ 1 มกราคม: 1.03555
- **Value Area Low (VAL)** วันที่ 7 มกราคม: 1.03800
- **VWAP** วันที่ 7 มกราคม: 1.04180
**กระทิงไม่สามารถสร้างการกลับตัวครั้งใหญ่ได้ หากไม่สามารถรักษาราคาเหนือ VWAP ของวันที่ 7 มกราคมที่ 1.04180 ได้**
หากราคาปิดรายวันเหนือ 20 EMA และเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเหนือระดับเหล่านี้ จะส่งสัญญาณการทะลุขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้น จนกว่าจะถึงเวลานั้น การพยายามของฝ่ายกระทิงอาจถูกมองว่าเป็นการปรับฐานในแนวโน้มขาลงใหญ่
---
### ช่วงการซื้อขาย EUR/USD และสถานการณ์ที่เป็นไปได้
EUR/USD อาจแกว่งตัวในช่วง 1.0400–1.0250 ก่อนที่จะเกิดการทะลุในทิศทางที่แน่นอน ผู้ซื้อขายควรจับตาระดับต่อไปนี้เพื่อดูทิศทาง:
- **เหนือ 1.04180:** ฝ่ายกระทิงอาจตั้งเป้าหมายระดับสูงกว่า เช่น 1.05385–1.05630
- **ต่ำกว่า 1.02565:** ฝ่ายขายอาจขยายอิทธิพลต่อราคา ดัน EUR/USD สู่ระดับ parity หรือ 1.0000 แต่สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในทันทีภายในสิ้นเดือนมกราคม 2025
---
### กลยุทธ์การซื้อขาย EUR/USD
**การพิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทน**
- การเข้าซื้อขายเร็วอาจมีผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น
- การรอให้ราคาปิดรายวันเหนือหรือต่ำกว่าระดับสำคัญ จะให้การยืนยันที่มากกว่า แต่ลดโอกาสกำไร
**ใช้ระดับสำคัญเป็นแนวทาง**
- **แนวรับ:** 1.03150, 1.02835, 1.02565
- **แนวต้าน:** 1.03555, 1.03800, 1.04180
**ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง**
- ใช้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และพิจารณาตั้งเป้ากำไรบางส่วนเพื่อลดการขาดทุน
---
### ภาพรวมประสิทธิภาพ EUR/USD
ฟิวเจอร์ส EUR/USD แสดงการลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกกรอบเวลา โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ -0.52% และแนวโน้มระยะยาวเผยให้เห็นการลดลงลึกกว่า:
- **1 สัปดาห์:** -0.52%
- **1 เดือน:** -2.13%
- **3 เดือน:** -5.76%
- **6 เดือน:** -5.20%
- **1 ปี:** -5.71%
---
### การวิเคราะห์และจุดเด่นที่สำคัญ
**ความอ่อนแอระยะสั้น**
- การลดลง -0.52% รายสัปดาห์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าฝ่ายขายยังคงควบคุมตลาด โดยไม่มีแรงสนับสนุนที่สำคัญจากฝ่ายซื้อ สิ่งนี้สอดคล้องกับโมเมนตัมขาลงที่เห็นในกราฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความล้มเหลวในการรักษาราคาเหนือระดับแนวต้าน เช่น 20 EMA
**แนวโน้มขาลงอย่างมั่นคง**
- การลดลงในช่วง 3 เดือน (-5.76%) และ 6 เดือน (-5.20%) บ่งชี้ถึงแรงกดดันการขายอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการขาดความสนใจจากฝ่ายกระทิง แม้จะมีการปรับตัวขึ้นเป็นระยะ
**บริบทที่กว้างขึ้น**
- การลดลง 1 ปีที่ -5.71% ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สาเหตุจากปัจจัยมหภาค เช่น นโยบายการเงินที่แตกต่าง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่แตกต่างระหว่างยูโรโซนและสหรัฐฯ
**ผลกระทบที่สำคัญ**
- การลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงเวลาแสดงให้เห็นว่า EUR/USD ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน โดยไม่มีตัวเร่งสำคัญที่ช่วยฝ่ายกระทิง ระดับแนวรับอาจทำหน้าที่เป็นจุดพักชั่วคราว แทนที่จะเป็นจุดกลับตัว
---
### สรุปการวิเคราะห์ EUR/USD
ฟิวเจอร์ส EUR/USD ยังคงมีแนวโน้มขาลง โดยฝ่ายขายตั้งเป้าระดับ 1.03150 เป็นแนวรับสำคัญ ฝ่ายกระทิงต้องเคลียร์ 20 EMA และทะลุ 1.04180 เพื่อเปลี่ยนโมเมนตัม ในระยะสั้น อาจเกิดการแกว่งตัวในช่วง 1.0400–1.0250 ขณะที่ตลาดค้นหาทิศทาง
ผู้ซื้อขายควรจับตาดูระดับสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
---
**ทำไมต้องติดตามการวิเคราะห์ EUR/USD?**
การวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้เกี่ยวกับระดับราคาสำคัญ พลวัตของปริมาณ และโมเมนตัมของตลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อขายรายวันหรือผู้ซื้อขายระยะสั้น การเข้าใจสัญญาณทางเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณรับมือกับการเคลื่อนไหวของราคายูโรได้อย่างมั่นใจ
#EURUSD #วิเคราะห์ตลาด #การซื้อขาย
GBPUSD ร่วงหนัก! ดอลลาร์สหรัฐแรงเกินคาด หลังข้อมูลเศรษฐกิจปัง**📉 ปัง! GBPUSD ร่วงหนักหลังข้อมูลสหรัฐแรงเกินคาด 💥 ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวเด่น ชี้ทางต่อคืออะไร? 🚨**
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้คู่เงิน **GBPUSD** ร่วงลงอีกครั้ง พร้อมทะลุระดับแนวรับสำคัญ! 📉 มาดูกันว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และทิศทางต่อไปจะเป็นอย่างไร? 🤔
---
### **ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้ 📊**
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ร้อนแรง 💪 โดยเฉพาะตัวเลข **Job Openings** ที่สูงเกินคาด และดัชนีราคาใน **ISM Services PMI** ที่พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023! 🔥
แม้ตลาดยังไม่เปลี่ยนทิศทางการคาดการณ์มากนัก แต่เทรดเดอร์เริ่มไม่มั่นใจว่า Federal Reserve (Fed) จะลดดอกเบี้ยก่อนเดือนกรกฎาคมแล้ว 🏦 สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือรายงาน **CPI** ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางตลาดอย่างมาก 📈
สำหรับฝั่งปอนด์สเตอร์ลิง (**GBP**) ธนาคารกลางอังกฤษ (**BoE**) ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด แต่ผลโหวตออกมาเป็นแนวโน้มลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 🕊️ ตอนนี้ตลาดมองว่ามีโอกาส **65%** ที่ BoE จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะลดดอกเบี้ยรวม **53 bps** ภายในสิ้นปีนี้ 📉
---
### **วิเคราะห์ทางเทคนิค GBPUSD 📉**
#### **กราฟรายวัน (Daily Timeframe)**
จากกราฟรายวัน จะเห็นว่า GBPUSD ร่วงลงอย่างรุนแรงหลังข้อมูลสหรัฐออกมาแรงเกินคาด 🚨 ผู้ขายเริ่มเข้าตลาดอย่างจริงจังหลังจากราคาทะลุแนวรับที่ **1.2485** และมีแนวโน้มจะพุ่งลงไปที่ **1.23** ต่อไป ส่วนผู้ซื้ออาจรอจังหวะเข้าซื้อรอบระดับ **1.23** เพื่อตั้งเป้าหมาย新高 ต่อไป 🎯
#### **กราฟ 4 ชั่วโมง (4 Hour Timeframe)**
ในกราฟ 4 ชั่วโมง ผู้ขายยังคงมีแนวโน้มจะดันราคาลงไปที่ **1.23** ขณะที่ผู้ซื้ออาจรอจังหวะกลับตัวเพื่อเข้าซื้อในระดับดังกล่าว 🔄
#### **กราฟ 1 ชั่วโมง (1 Hour Timeframe)**
ในกราฟ 1 ชั่วโมง จะเห็นแนวโน้มขาลงชัดเจน โดยผู้ขายอาจใช้แนวต้านลง (downtrend line) เป็นจุดเข้าซื้อขายต่อ 🐻 ส่วนผู้ซื้ออาจรอให้ราคา breakout สูงขึ้นก่อนจึงจะเพิ่มพอร์ตขึ้น 📈
---
### **เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตา 🗓️**
- **วันนี้**: การพูดของ Fed’s Waller, ข้อมูล ADP และ FOMC Minutes
- **พรุ่งนี้**: ตัวเลขอ้างสิทธิ์ว่างงานสหรัฐ (Jobless Claims)
- **วันศุกร์**: รายงาน Non-Farm Payrolls (NFP)
---
**#GBPUSD #Forex #ดอลลาร์สหรัฐ #ปอนด์สเตอร์ลิง #วิเคราะห์เทคนิค #ตลาดการเงิน #Fed #BoE #CPI #NFP**
XAUUSDวันนี้มีโซนที่มองว่าลงได้อยู่ 2 โซนนะครับ โดยที่โซนแรกแตะโซนไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มองว่าภาพรวมราคาจะเป็นการสวิงไปมาและลงแรงแค่ช่วงตลาดเมกาที่จะกำหนดราคาได้ชัดเจนโดยผมจะรอกดตอนช่วงเมกานะครับหากอยู่โซนไหนค่อยใช้โซนนั้นโดยหา PA กลับตัวเอาในช่วงเวลาที่กำหนด
สัปดานี้มีข่าวตัวเลย Non-Farm หรือตัวเลขจ้างงานด้วยก็อาจจะ SW รอวันศุกร์เลยก็ได้ช่วงนี้ก็ไม่ต้องรีบกันนะครับ
"ให้การรอเป็นส่วนหนึ่งของแผนเทรด"
ทองคำยืนเหนือจุดสำคัญ! แนวโน้มจะไปทางไหนต่อ?**🔥 ทองคำยืนเหนือจุดเทคนิคสำคัญ! จะไปต่อหรือไม่? รู้คำตอบที่นี่! 🔥**
🌟 **ทองคำยังคงยืนเหนือจุดสำคัญทางเทคนิคในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์**
✨ ทองคำยังคงยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันได้
💼 เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความหลากหลายสำหรับทองคำ แต่การลดลงเมื่อวานนี้ไม่ได้รุนแรงนักเมื่อมองภาพรวม 📉 ทองคำลดลงเนื่องจากดอลลาร์ฟื้นตัว 💵 และพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 📊 หลังจากที่ทรัมป์ปฏิเสธว่าจะผ่อนปรนในเรื่องภาษี 🏛️ อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับผู้ซื้อทองคำคือในเชิงเทคนิค การลดลงครั้งนี้ไม่ได้ทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (🔴 เส้นสีแดง)
📍 **ระดับสำคัญอยู่ที่ $2,626 ในขณะนี้** โดยมีแนวรับระยะสั้นเพิ่มเติมใกล้เคียง $2,600
📅 โดยทั่วไปแล้ว เดือนมกราคมมักจะเป็นเดือนที่ยอดเยี่ยมสำหรับทองคำ ✨ อันที่จริงแล้ว เดือนมกราคมเป็นเดือนที่ทองคำมีผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 🥇
📊 อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาภาพรวมก่อนเดือนมกราคมปีนี้ ทองคำเพิ่มขึ้นถึง **27% ในปี 2024** 🚀 แม้ว่าจะมีการลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมก็ตาม ราคาทองคำใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการปรับตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน 📈 และแม้กระทั่งในตอนนั้น การลดลงก็ไม่ได้ยืดเยื้อนาน ⏳
💡 **สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อในช่วงราคาลดลงยังคงมีความมั่นใจสูงอย่างน้อยในตอนนี้**
⚠️ **ข้อควรระวังสำหรับทองคำในตอนนี้**
ดอลลาร์ยังคงอยู่ในสถานะทรงตัวตั้งแต่เดือนที่แล้ว 💵 ขณะที่ทรัมป์ยังคงผลักดันนโยบายภาษี 📜 และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเฟดจะหยุดการลดดอกเบี้ย 📉 ทำให้แรงซื้อเชิงป้องกันของผู้ซื้อทองคำอาจค่อยๆ ลดลง โดยเฉพาะหากตลาดพันธบัตรยังคงให้การสนับสนุนในทิศทางเดียวกัน 📊
📣 กล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวโน้มทองคำในเดือนมกราคมอาจไม่เป็นไปตามเดิมเหมือนในอดีต 🕰️ ทดสอบแรกจะเป็นรายงานการจ้างงานของสหรัฐและข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะออกในสัปดาห์นี้ 📆
📉 **หากราคาทะลุต่ำกว่า $2,600 อย่างมีนัยสำคัญ** อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายอย่างรวดเร็วในทองคำ ⚡ หากเป็นเช่นนั้น การร่วงลงอย่างรวดเร็วเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (🔵 เส้นสีน้ำเงิน) ใกล้ $2,500 ก็อาจเกิดขึ้นได้ 🌀
⏳ สำหรับตอนนี้ ต้องรอดูว่าข้อมูลจะเป็นอย่างไรในช่วงเวลาถัดไป 📊
#️⃣ **#ราคาทองคำ #ทองคำวันนี้ #แนวโน้มทองคำ #การลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #ดอลลาร์ #ทองคำโลก #ลงทุนปลอดภัย**
5 กฎเหล็กในการเทรด Scalping 5 กฎเหล็กในการเทรด Scalping
👺👺👺 กลับมาพบเจอกันอีกแล้วกับบทความดีๆ รวมไปถึงทริคและเทคนิคการเทรดดีๆ ที่แอดพร้อมมาแชร์ให้ได้รู้กัน โดยวันนี้เอาใจสายScalping ที่ชอบเก็บกำไรสั้นๆ การเทรดที่มาพร้อมกฎเห็กในการทำกำไร มาครับมาตามอ่านกันได้เลย
ในยุคสมัยที่โลกหมุนไวไปไวนี่เอง การเทรดก็ย่อมมาเร็วเคลมเร็วไม่ต่างกัน หากเราชื่นชอบการเทรด Scalping เราก็ควรต้องมีกฎเหล็กในการเข้าทำกำไรด้วย เพราะความเสี่ยงในการเทรดรูปแบบนี้จัดว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูงมากครับ การวางแผนการเทรดที่ดีจึงช่วยให้เรามีกำไรที่สม่ำเสมอและชนะได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
5 กฎในการเทรด Scalping
1. ยิ่งแพ้ยิ่งเป็นประสบการณ์
เพราะการเทรดไม่ได้มีคำว่าชนะอย่างเดียว เราจะมีแพ้ชนะ สลับกันไป แต่ที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ แพ้น้อยกว่าชนะได้ แต่กำไรต้องมากกว่า ไม้ที่แพ้เสมอ
2. ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด
คุณต้องอยู่ในตลาดให้ได้นานมากที่สุด แม้ว่าออเดอร์ที่เข้าไปจะแพ้ก็ตาม ให้ยืนดูอยู่ข้างตลาดเอาไว้ก่อน แล้วมองหาโอกาสในการเทรดใหม่ (ที่ยืนอยู่บน Mindsetที่ดีด้วยนะ) เพราะโอกาสที่ดี มักมาในช่วงที่คนส่วนใหญ่เริ่มยอมแพ้กันหมดแล้ว
3.เริ่มจากทุนน้อยๆไปหาทุนมากๆ
อย่าเพิ่งเริ่มต้นด้วยทุนก้อนโต การค่อยเป็นค่อยไปช่วยให้เราคุ้นชินและมีประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีร่วมกัน และทำให้เราแก้ปัญหา และหลบเลี่ยงเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดียิ่งขึ้น
4. หมั่นตรวจสอบกลยุทธ์และประเมินผลลัพธ์บ่อยๆ
คล้ายกับการติดตามผลลัพธ์การเทรดนั่นแหละครับ แต่เราทำมากกว่านั้นด้วยการประเมินและวิเคราะห์กลยุทธ์ของเราตลอดเวลา อาจจะเป็นทุก3 เดือน 6 เดือน หรือปีละครั้ง ครับ
5. อย่าแหกกฎของตัวเอง
เชื่อว่าข้อสุดท้ายนี้ใครๆก็พูดได้แต่ทำยากมากที่สุด แต่จำไว้เถอะฮะ ถ้าคุณทำตามกฎการเทรดของตัวเองได้ เรื่องยากๆในชีวิตนี้จะดูง่ายขึ้นเยอะเลย จริงๆ
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หมั่นสำรวจและลองผิดลองถูกในกลยุทธ์ของตัวเอง แล้วพยายามสร้างกฎการเทรดให้ตัวเองที่ไม่ยากจนเกินไปจะทำให้เราไม่เครียด และทำตามกฎได้ง่ายขึ้น นะฮะ ว่าแล้วก็ลองไปลองเริ่มทำกันดูฮะ วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
และที่สำคัญ ฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน รับรองว่ากำไรไม่ไกลเกินฝันแน่นอนฮะ แอดเอาใจช่วย แล้วอย่าลืม MM กันด้วยนะ ชีวิตการเทรดของเราจะยืนยาวและมั่นคง แอดฟันธงให้เลย
USD/JPY พุ่งต่อเนื่อง! ลุ้นแตะ 160 ระวัง BoJ แทรกแซง!### 💹🔥 แนวโน้ม USD/JPY: ขาขึ้นยังคงควบคุมตลาด! มีโอกาสแตะจุดสูงสุดใหม่ แต่ระวัง BoJ อาจแทรกแซง! 🚨💰
**💵 USD/JPY**
USDJPY – 📈 การเคลื่อนไหวในระยะสั้นยังคงแกว่งตัวในกรอบข้างใต้ระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายสัปดาห์ (158.07) และกำลังอยู่ในช่วงพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้น 5% ในเดือนธันวาคม 📊
📉 การปรับฐานที่จำกัด (ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน) ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มขาขึ้นหลักยังคงมีอิทธิพลอยู่ และมีแนวโน้มที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากช่วงพักฐาน 💪💹
💵 ค่าเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจาก:
- มุมมองของ Fed ที่ปรับเป็นเชิงเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย 📈
- ความแตกต่างระหว่างนโยบายของ Fed และธนาคารกลางหลักอื่นๆ 🌍
- ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน 🌐🔒
📊 ปัจจัยทางเทคนิคที่เป็นบวกสนับสนุนมุมมองของการเร่งตัวครั้งสุดท้ายไปยังแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 160 และมีโอกาสทดสอบระดับสูงสุดของปี 2024 ที่ 161.95 (ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ) 🚀 อย่างไรก็ตาม ⚠️ ควรพิจารณาความเสี่ยงของการแทรกแซงจาก BoJ ในโซนนี้ด้วย 🏦🇯🇵
#USDJPY 💴 #การเงิน 📈 #เศรษฐกิจ 🌍 #ลงทุน 💰 #ข่าวด่วน 🚨
EURUSD ชี้ชะตาระดับเทคนิคสำคัญ ทิศทางเบรกน่าจับตา! 🔥 EURUSD: วิเคราะห์จุดเทคนิคสำคัญ เปิดตลาดสัปดาห์นี้! 🔥
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (100 hour MA) 🚀 ช่วยหยุดการร่วงลง 📉 ขณะที่พื้นที่แนวสวิงเดิมซึ่งเคยเป็นฐานรอง (ปัจจุบันกลายเป็นแนวต้าน) 💪 หยุดการปรับตัวขึ้นของราคา 📈
📌 EURUSD กำลังซื้อขายในระดับทางเทคนิคที่สำคัญในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์การซื้อขาย
ในช่วงเปิดตลาดยุโรปช่วงแรก ราคาปรับตัวลงเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (เส้นสีน้ำเงินบนกราฟรายชั่วโมงด้านบน) 🔵 ซึ่งผู้ซื้อเข้ามาสนับสนุนที่ระดับดังกล่าวและผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น 📤 โปรดจำไว้ว่า เส้นค่าเฉลี่ย 100 ชั่วโมงยังเคยหยุดการร่วงลงของราคาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเช่นกัน 🛡️
จากนั้น ราคาปรับตัวขึ้นไปหยุดอยู่ในพื้นที่แนวสวิงที่สำคัญ 🎯 ระหว่าง 1.0448 และ 1.0461 ซึ่งในพื้นที่นี้ยังมีระดับ Fibonacci Retracement 38.2% 📊 ของช่วงการซื้อขายในเดือนธันวาคม อยู่ที่ 1.04523 ราคาสูงสุดในช่วงนี้อยู่ที่ 1.04577 และหลังจากนั้นราคาหมุนกลับลงมา 🔄 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 1.0438 💵
แนวรับ 🟢 ค้ำไว้ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
แนวต้าน 🔴 หยุดที่พื้นที่แนวสวิง
🔮 ในการซื้อขายครั้งต่อไป การเคลื่อนตัวออกนอกช่วงนี้จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มทางเทคนิคใหม่ที่เอนเอียงไปตามทิศทางการเบรก
📈 ด้านบน: เป้าหมายถัดไปคือจุดกึ่งกลาง Fibonacci 50% ของช่วงเดือนธันวาคม อยู่ที่ 1.04859
📉 ด้านล่าง: หากราคาทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 100 ชั่วโมง อาจเปิดทางให้ราคากลับมาทดสอบระดับต่ำสุดของวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมาบริเวณ 1.0383
#EURUSD #การวิเคราะห์ทางเทคนิค #Forex #กราฟเทคนิค #ราคายูโร
AUD/USD ร่วงแตะ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ **📉🔥 AUD/USD ร่วงสู่ระดับ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ ท่ามกลางโทนเสียงผ่อนคลายจาก RBA 🐨💰**
**AUD/USD ลดลงสู่ระดับ 0.6215 ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาและโทนเสียงที่ผ่อนคลายจาก RBA**
คู่เงิน AUD/USD ซื้อขายในกรอบแคบใกล้กับแนวรับสำคัญของปีที่ระดับ 0.6200 ระหว่างการซื้อขายในวันศุกร์ช่วงตลาดอเมริกาเหนือ โดยลดลง 0.14% สู่ระดับ 0.6215 📊💸 การเคลื่อนไหวของราคาที่ซบเซานี้สะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงเงียบเหงาก่อนเทศกาลปีใหม่ 🎉🎊 คู่เงินยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานการประชุมที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และการเคลื่อนไหวแบบผสมของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 🇺🇸🤑
**📚🔍 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน**
ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงอ่อนตัวและไม่สามารถฟื้นตัวได้ เนื่องจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของ RBA ชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้กำหนดนโยบายว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังลดลงตามที่คาดการณ์ 📉💡 รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเข้มงวดของนโยบายการเงินในปัจจุบันอาจถูกผ่อนคลายลงในไม่ช้า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📅📉 ตลาดคาดการณ์ความเป็นไปได้ประมาณ 65% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะปรับลดอย่างเต็มที่ภายในเดือนเมษายน 🗓️📉
ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย Michele Bullock เน้นย้ำถึงแนวทางที่อิงตามข้อมูล โดยปฏิเสธที่จะยืนยันสถานการณ์สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📊❓ Bullock ระบุว่าคณะกรรมการไม่ได้หารืออย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และยังคงเปิดรับตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ 📈📉
**🌎💵 ด้านสหรัฐฯ** ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ดิ้นรนที่จะรักษาระดับ 108.00 📉📊 มุมมองโดยรวมของค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนโดยจุดยืนที่ระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 🚨📊 ประธาน Fed Jerome Powell เพิ่งเน้นย้ำว่าการปรับลดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการลดเงินเฟ้อ 🛑📈 นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังชี้ให้เห็นถึงนโยบายการอพยพเข้าเมือง ภาษีศุลกากร และภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ 📈💵
**📈🔧 ภาพรวมทางเทคนิค**
คู่เงิน AUD/USD ขยายการขาดทุนต่อไป เนื่องจากตัวชี้วัดทางเทคนิคยังคงอยู่ในโซนขายมากเกินไป 🛑📊 ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 27 โดยมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่อง 📉💡 แถบ MACD histogram แสดงแถบสีแดงที่แบนราบ สะท้อนถึงการขาดสัญญาณทิศทางที่ชัดเจน 🔻📊
แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 0.6200 โดยหากราคาทะลุต่ำกว่าระดับนี้ อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงเพิ่มเติมสู่ระดับ 0.6170 📉🔽 ในขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 0.6250 ตามด้วยแนวต้านที่สำคัญกว่าในระดับ 0.6280 📈🛡️ แม้ปัจจัยทางเทคนิคจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันในการขายที่จำกัด การฟื้นตัวของราคายังคงขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดและความต้องการเสี่ยงที่ดีขึ้น 📈🛍️
#AUDUSD #เทรดเดอร์ #ตลาดออสเตรเลีย #ค่าเงินดอลลาร์ #การเงิน #RBA #เทคนิคการเทรด #ข่าวเศรษฐกิจ
Rally Phase is Coming On ETHEthereum จะซ้ำรอยอีกหรือไม่
Bitcoin เริ่มมีพักตัวเงินจะเริ่มไหลเข้า Alt เหรียญอื่นๆ ซึ่งในตลาดและมี ETH เป็นผู้นำ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Alt season
ในช่วง Quarter 1 (Q1) หลังจากปีที่มี Halving ราคาของ ETH มักจะเพิ่มขึ้นอยากมากเหมือนเป็นวัฏจักร
โอกาสในประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยใน Q1 ปี 2025 หลัง Halving ล่าสุดอีกครั้ง
เป็นการเช็คสถิติย้อนหลังของกราฟที่เกิดขึ้นของ eth โดยใช้ช่วงเวลา เดือน ธันวาคม กับ มกราคม มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ากราฟมี เเพิทเทิลการขยับที่ค่อนค้างจะเหมือนกันมากๆ โดยช่วงเเรกเป็นการขยับขึ้นมาจนชนเเนวต้านสำคัญเเล้วยังผ่านไม่ได้เพราะติดเเนวต้านราคาสำคัญที่เกิดขึ้น จนเกิดการย่อรูปเเบบ drop base drop
Drop Base Drop (DBD) คือ มีการดันราคาลงไป พักตัวเป็นกลุ่ม Base แล้วมีแรงขายดันราคาลงต่อ ราคาเป็น pattern ที่บ่งบอกว่ากราฟมีโอกาสที่จะลงต่อหรือพักตัว
ทำให้ราคาเกิดการพักตัวในช่วงเดือน ธันวา - มกราคม เป็นรูปเเบบ sideway ไปเรื่อยๆ
โดยตัว ema ยังไม่หลุดเส้น 100 วัน
sto ถึงจะตัดลง เเต่ก็ไม่รุ่งเเรงจนหลุดลงไปเเรง เเต่กลับมาพักราคา sideway ที่เเนว fibo 61.8% วัดจาก base เดิมจนที่ high ที่มีการ comfirm swing ราคาที่ส่งขึ้นมา ส่วน rsi รอบนี้ยังคงค่อนค้างต่างกับรอบที่เเล้ว ตรงที่ time frame day ไม่ยอมย่อจน oversold จึงอาจจะต้องระวัดระวังการ drop ลงไปที่เเนวรับ 3000 อีกสับรอบก่อนเกิดการ Rally Phase
เเต่ซึ่งยังคง ไม่เสียงทรงขาขึ้น ของ time frame weekly ใหญ่ มองย่อเป็นการพักตัวสะสมกำลัง เพื่อเกิดเป็น Rally Phase
ในเดือนมกราคม ที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้น ของตลาด Altcoin Season ทั้งนี้ต้องรอดูว่าเหล่าวาฬจะพาดันตามสถิติเดิมหรือไม่
ไม่ได้เเนะนำให้ซื้อขายตามเเต่อย่างใดทุกกรณีนะครับ
Improve your Strategy วิธีปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายในตลาด ForexImprove your Strategy
วิธีปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายในตลาด Forex
👯👯👯 กลับมาพบเจอกันอีกแล้ว กับบทความเทคนิคดีๆในการเทรด วันนี้แอดพาพวกเราไปทำการบ้านกันครับ การบ้านในการเทรดก็คือการปรับปรุง ปรับแต่ง และการพัฒนากลยุทธ์ในการเทรดนั่นเอง มาครับไปดูกันว่าเราควรเริ่มจากอะไรได้บ้าง
💁 เพราะตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก การซื้อขายสกุลเงินถือเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย และรวยเร็ว และจนเร็วได้ด้วยเช่นกัน การปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องใช้เวลา และความพยายาม และความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง
💁การปรับปรุงกลยุทธ์หรือเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเทรด จึงถือเป็นเคล็ดลับที่เราควรต้องทำ อย่างน้อยปีละครั้งครับ
💁เพราะตลาดการเงินในตอนนี้ส่วนใหญ่แล้ว AI โรบอทเข้ามามีบทบาทสำคัญมากในตลาด ไอ่เจ้าพวกนี้แหละที่คอยจับตาและสร้าสถิติการเลียนแบบการเทรด รวมไปถึงพฤติกรรมการเทรดของเรา ให้เราชนะได้ยากขึ้น และแพ้มากขึ้นนั่นเอง
1.การเลือกโบรกเกอร์และประเภทบัญชีที่เหมาะสม
เพราะโบรกเกอร์นั้นมีเยอะและหลากหลาย แต่ประสิทธิภาพไม่ได้เหมือนกันทุกโบรก
- บางโบรกข่าวมาก็ค้างบ่อย
- บางโบรกมีเก็บค่า swap บางโบรกไม่มี
- ค่าสเปรดสูง-ต่ำ ไม่เท่ากัน ฯลฯ
การเลือกโบรกจึงค่อนข้างสำคัญฮะ เพราะความหลากหลายตรงนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำกำไร เราต้องวางแผนให้ดี ว่าการเทรดของเรา เป็นไปในลักษณะไหน ถ้าชอบถือนานๆเป็นอาทิตย์เป็นเดือน ก็ไม่ควรเลือกโบรกที่มีค่า swap แล้วหันไปเลือกโบรกที่ไม่มีค่าswap แทน เป็นต้น
2. Leverage เลเวอเรจ เป็นได้ทั้งปืนและดาบสองคม
ยิ่งซื้อมาก(Overtrade) ยิ่งล้างง่าย คำนี้จำให้ขึ้นใจ เพราะเลเวอเรจไม่ต่างจากการยืมเงินคนอื่นมาใช้ หากชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็เตรียมหงายการ์ดล้มละลายได้เลย แต่หากใช้ให้ถูกทาง ถูกหลักและแบบแผนในการเทรดเราแล้วหละก็ มีแต่กำไรแน่นอนครับ
เราต้องเลือกเลเวอเรจ ที่ไม่มากจนเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป เพราะอัตราส่วนเลเวอเรจเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงและความเหมาะสมในการเทรดของแต่ละคนครับ คำนวณดีๆยังไงเราก็ชนะแน่นอน
3. ปรับเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์ผลกำไรและการขาดทุน
เพราะค่าเฉลี่ยความผันผวนการวิ่งในตลาดนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป้าหมายการทำกำไร และการกำหนดจุดหรือเปอร์เซ็นต์การเทรดจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตาม
เช่น เราเคยทำกำไรจากตลาดทองคำ เราจะรู้ว่าเมื่อก่อนนี้หรือปีที่ผ่านๆมา ทองจะวิ่งแต่ละครั้งไม่เกิน 10-15$ หรือคิดเป็น 10,000 - 15,000 จุด แต่ในปีนี้ และปีถัดไป มันไม่ใช่แล้ว ทองสามารถวิ่งสวิงในแต่ละรอบ อยู่ที่ 50 -100$ ในแต่ละวัน เอ๊า! คิดดูเอาเองแล้วกัน ถ้าเรายังต้องการกำไร-ขาดทุนที่ 10 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เราจะเทรดขาดทุนตลอดเวลา ด้วยสัดส่วนที่มันกว้างมากขึ้นนี่เอง
4. จดบันทึกยังคงสำคัญเสมอ
อดีตมักสอนเราเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นการจดสถิติการเทรดของตัวเอง การติดตามการซื้อขายของเราเองจึงช่วยทำให้เราเห็นจุดอ่อนและจุดแข็ง อย่าปล่อยให้ AI โรบอทมาล้วงความลับของเราแค่ฝ่ายเดียว
การวิเคราะห์ข้อมูลของตัวเอง ช่วยให้เราเห็นจุดบอด และทำให้เราแก้ไขได้ตรงจุดด้วยนะ รวมไปถึงการอัพเกรดให้มันมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
5. จิตวิทยาและ mindset ก็สำคัญไม่แพ้กัน
อย่าปล่อยปะละเลยกับความสุขที่แท้จริงในชีวิต การไม่มีอะไรและการไม่คิดอะไรเลยคือความสุขที่ถาวร ปรับเปลี่ยนความคิดของเราให้ไม่ยึดติดมากเกินไปในการเทรด สิ่งนี้แหละจะช่วยทำให้เราชนะตลาดได้มากขึ้น พยายามฝึกจิต ควบคุมอารมณ์ และปล่อยวาง ไม่จดจ่ออยู่ที่ผลกำไรมากเกินไป แล้วความสุขจะมาหาเราเองครับ
👽👽👽 เป็นอย่างไรกันบ้างครับพอจะได้ทริคดีๆในการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดกันแล้วใช่มั้ยครับ อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูนะครับ มันดีจริงๆแอดคอนเฟริมเลย
แล้วที่สำคัญ หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
"ทองคำปี 2025: ราคาจะพุ่งหรือร่วง? จับตานโยบายทรัมป์และ Fed!"การคาดการณ์ราคาทองคำประจำปี: ปี 2025 จะเป็นปีที่สร้างสถิติใหม่อีกครั้งหรือไม่?
* ทองคำเปล่งประกายในปี 2024 ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยม โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
* การพัฒนาในระดับภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำในปี 2025
* แนวโน้มทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้นเมื่อเข้าสู่ปีใหม่
ทองคำได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสู่สภาพแวดล้อมนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024 โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,790 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจโลก และสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดเดาไม่ได้ อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อราคาทองคำในปี 2025
**ทองคำในปี 2024: ภูมิรัฐศาสตร์และการซื้อของธนาคารกลางขับเคลื่อนการขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่**
ทองคำเริ่มต้นปีในลักษณะที่ค่อนข้างเงียบ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ นักลงทุนเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่ ขณะจับตาดูสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และประเมินผลกระทบจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจมหภาคต่อแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำเริ่มมีแรงขาขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในเดือนมีนาคม และแตะจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือระดับ 2,200 ดอลลาร์ในกระบวนการนี้ ความกดดันในการขายดอลลาร์สหรัฐ (USD) การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และความต้องการทองคำจากจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของทองคำในไตรมาสแรก
ทองคำขยายแนวโน้มขาขึ้นในเดือนเมษายน และทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับฐานในช่วงครึ่งหลังของเดือน อย่างไรก็ตาม XAU/USD ปิดเดือนด้วยกำไรเกิน 2% การเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดของอัตราเงินเฟ้อจากดัชนี PCE ในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงการชะลอการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในเดือนเมษายน ซึ่งจำกัดศักยภาพการขึ้นของทองคำ
หลังจากช่วงการรวมตัวในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ทองคำกลับมาแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม และเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นสี่เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 15% และแตะจุดสูงสุดใหม่ใกล้ 2,800 ดอลลาร์ในวันซื้อขายสุดท้ายของเดือนตุลาคม
**ประเมินผลการดำเนินงานของทองคำในครึ่งปีแรกของปี 2024**
“ทองคำทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้น 12% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานดีกว่าสินทรัพย์หลักส่วนใหญ่ ทองคำได้รับประโยชน์จากการซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง การไหลเข้าของการลงทุนในเอเชีย ความต้องการผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่อง” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงาน Gold Mid-Year Outlook 2024
**ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำในปี 2025**
1. **สถานการณ์ที่เป็นขาลง**:
- การลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการแก้ไขปัญหาวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทองคำได้รับประโยชน์อย่างมากจากความขัดแย้งเหล่านี้ในปี 2024
- การเปลี่ยนแปลงของนโยบาย Fed ที่เป็นไปในเชิง Hawkish อาจกดดันราคาทองคำในปีหน้า
- เศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในปี 2025
2. **สถานการณ์ที่เป็นขาขึ้น**:
- การดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลก อาจช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นในปี 2025
- เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- การเพิ่มขึ้นของความกลัวทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
**ความต้องการจากธนาคารกลาง**
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนทองคำในปี 2024 คือการซื้อของธนาคารกลาง
“ธนาคารกลางจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของภาพรวม การซื้อของธนาคารกลางมีแรงขับเคลื่อนจากนโยบายและยากที่จะคาดการณ์ แต่จากการสำรวจและการวิเคราะห์ของเรา ชี้ให้เห็นว่ากระแสปัจจุบันจะยังคงอยู่” กล่าวโดย World Gold Council ในรายงานแนวโน้มทองคำปี 2025
**การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ**
รูปภาพทางเทคนิคของทองคำชี้ให้เห็นถึงการสูญเสียแรงขาขึ้น ดัชนี Relative Strength Index (RSI) บนกราฟรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ใกล้ 50 นอกจากนี้ XAU/USD ยังลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ระยะ 20 สัปดาห์ หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่ของปีเหนือระดับดังกล่าว
โซนสนับสนุนแรกของทองคำอาจอยู่ที่ 2,530-2,500 ดอลลาร์ ซึ่งระดับ Fibonacci 23.6% และระดับจิตวิทยาตรงกัน หาก XAU/USD ลดลงต่ำกว่าพื้นที่นี้และเริ่มใช้เป็นแนวต้าน เป้าหมายขาลงถัดไปอาจอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ตามลำดับ
ในทางกลับกัน หากทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ Fibonacci expansion ระยะยาวที่เสริมด้วยระดับจิตวิทยาที่ 3,000-3,020 ดอลลาร์
**"EUR/USD เสี่ยงแตะเท่าเทียมในปี 2025 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่ง"***การคาดการณ์ราคาประจำปี EUR/USD: ความเท่าเทียมทางค่าเงินดูเป็นไปได้ในปี 2025 เมื่อช่องว่างระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรปกว้างขึ้น**
🌟 **หัวข้อสำคัญที่ควรจับตา**
- ธนาคารกลางยังคงให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจควรนำพาไปข้างหน้า
- การดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประเทศอื่น
- คู่เงิน EUR/USD มีแนวโน้มทดสอบความเท่าเทียมทางค่าเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2025
#EURUSD #เศรษฐกิจ #การเงิน
🎯 **สรุปภาพรวมปี 2024 ของคู่เงิน EUR/USD**
EUR/USD เริ่มต้นปีที่ระดับประมาณ 1.1040 และปิดใกล้จุดต่ำสุดประจำปีที่ 1.0332 โดยในเดือนกันยายน คู่เงินนี้พุ่งขึ้นสู่ 1.1213 สร้างความมั่นใจว่าเงินยูโร (EUR) จะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก 🪙 อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความหวังที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับการลดนโยบายการเงินแบบเข้มงวดจากธนาคารกลาง 🌍
#เงินยูโร #ตลาดการเงิน #การเงิน
📉 **ECB เปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน แต่ไม่ใช่เพราะเงินเฟ้อ**
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นหนึ่งในธนาคารกลางแรก ๆ ที่เปลี่ยนนโยบาย โดยในเดือนมิถุนายน ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2024 และดำเนินการลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม 📉 อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากความกลัวเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ
#ECB #นโยบายการเงิน #เศรษฐกิจยุโรป
📊 **แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง**
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสองปีในวันที่ 20 ธันวาคม โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และความคาดหวังด้านนโยบายทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปในปี 2025 💵 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุด เนื่องจากนโยบายลดภาษีและการกำหนดภาษีนำเข้าของทรัมป์
#ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายเศรษฐกิจ #วอลล์สตรีท
🔮 **การคาดการณ์ EUR/USD ในปี 2025**
ในปี 2025 ความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มกว้างขึ้น โดยธนาคารกลางยุโรปอาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเนื่องจากการเติบโตที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ลดลง 📉 ในทางตรงกันข้าม เฟดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า พร้อมกับปรับประมาณการการเติบโต GDP ของปี 2024 ขึ้นเป็น 2.5%
#การคาดการณ์เศรษฐกิจ #EURUSD #ปี2025
📌 **บทสรุป**
ภาพรวมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเอื้อต่อดอลลาร์สหรัฐมากกว่าเงินยูโร แม้ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จากนโยบายของทรัมป์ แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแสดงความแข็งแกร่งสูงสุดในกลุ่ม G7 นับตั้งแต่การฟื้นตัวหลังโควิด-19
#เศรษฐกิจโลก #คู่เงิน #การลงทุน
Gold Idea - 17/12/2024 (GC - Future Price)ทองในช่องเดือนธ.ค Volume จะเริ่มวิ่งแบบไม่ปกติ
โซน Sell 1.1 - Big Volume (จาก Footprint Chart) ตอนที่เท ลงมาค้างอยู่ที่โซนตรงนั้น และมี FVG M30
โซน Sell 1.2 - ที่แถวๆปลายหาง ก็ยังมี Imbalance ที่ยัง Match ไม่หมด เช่นกัน แต่อาจจะยังขึ้นไปไม่ถึง
โซน Sell 2 - Supply + มี Imbalance ค้างอยู่ที่ยังไม่ Match เช่นกัน
โซน Buy 1 - มี VI ที่น่าสนใจ เค้าอาจจะลงมาเก็บก่อนขึ้นไป แต่จุด VI อยู่แถวๆปลายหาง เป็นไปได้ว่า อาจจะ โดน Sweep ก่อน
โซน Buy 2 - มี FVG + Demand และมี Liq ด้านบน (รอ Reject)
BTC ดิ่งแรง! จับตาระดับสำคัญ $91,500-$104,790 สัปดาห์นี้🚀 การคาดการณ์ราคา Bitcoin: ระดับสำคัญและกลยุทธ์สำหรับสัปดาห์นี้ 📊
ตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้เต็มไปด้วยแรงขาย:
BTC: ลดลง 2.5%
ETH: ลดลง 3.5%
BNB: ลดลงกว่า 4%
DOGE: ลดลง 7.5%
SHIBA: ลดลงเกือบ 7%
อย่าเพิ่งตื่นตระหนก นี่อาจเป็นจังหวะที่ตลาดกำลังตั้งค่าใหม่!
🏗️ ระดับราคาสำคัญของ Bitcoin Futures:
1. โซนรีบาวด์:
ซื้อ: $97,750 ถึง $98,850
จุดสำคัญ: $97,375
หากหลุดโซนนี้ ราคาอาจลดต่ำลงอีก
2. Value Area Low (VAL):
ช่วง: $95,400 ถึง $96,000
โซนที่ผู้ซื้อและผู้ขายมักหาข้อตกลง
3. แนวรับ VWAP:
ระดับ: ประมาณ $94,000
หากราคารีบาวด์จากจุดนี้ อาจเป็นสัญญาณซื้อ
4. โซนมั่นใจของตลาดหมี:
ระดับ: $91,500
หากราคาหลุดระดับนี้ พร้อมปิดรายวันสองวันติด อาจเกิดแรงขายหนัก
🎯 กลยุทธ์การเทรด Bitcoin:
ฝั่ง Long:
มองหาการรีบาวด์ที่ $97,750 โดยตั้งจุดหยุดขาดทุนใกล้ $97,375
หากหลุด GETTEX:97K รอเข้าที่ $95,400 หรือแนว VWAP $94,000
เป้ากำไร: $104,500 ถึง $104,790
ฝั่ง Short:
หากราคาหลุด $91,500 พร้อมปิดรายวันต่อเนื่อง อาจมีแรงขายไปสู่ $91,000
🔍 สรุป:
Bitcoin ยังแกว่งตัวในกรอบ $91,500 ถึง $104,790 คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบนี้ระยะสั้น แต่ระยะยาวยังคงมุมมองบวก
#Bitcoin #คริปโต #วิเคราะห์ราคา #BTC
XAUUSDเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาลงมาทดสอบแถวๆ 2614 อีกครั้งซึ่งเป็นบริเวณ Swing Low เพื่อทดสอบแนวรับอีกรอบว่าสามารถลงต่อได้ไหมแต่ราคาไม่สามารถผ่านได้และมีแรงซื้อกลับค่อนข้างมากในช่วงประกาศตัวเลขจ้างงานราคาเทลงมาอีกรอบก็ไม่สามารถทำ Low ต่ำลงได้เช่นกันผมจึงมองว่าอาจจะเป็นการบอกนัยๆว่าอาจจะไม่ลงแล้วก็ได้และการนับโครงสร้างคลื่นก็ถือว่าจบรอบพักตัวแล้วเช่นกัน โดยแผนในวันจันทร์นี้เงื่อนไขแผนของเราคือต้องไม่ทำ Low ต่ำกว่า 2614 เด็ดขาดหากจะขึ้น
เทคนิคคอล
-ราคา 2628-2631 เป็นโซน Buy แรกระยะก็ประมาณ 300 จุดซึ่งจะมองว่าเปิดตลาดแล้วขึ้นเลยเพราะเราก็ยังไม่รู้ว่าเสาร์-อาทิตย์นี้จะมีข่าวตูมตามอะไรอีกบ้าง
-ราคา 2619-2622 ตรงนี้ก็มองว่าลงมาทดสอบได้ถึงจะไม่ควรลงมาก็เถอะเพราะ Demand ทั้งก้อนของชุดนี้ได้ทดสอบไปแล้วในครั้งล่าสุดที่ลงมาตอบประกาศการจ้างงาน ระยะก็ 300 จุดเช่นกัน
**SL ที่สมเหตุสมผลควรอยู่ที่ 2614 นะครับหากพ็อตสามารถ MM ได้ถึงก็อย่างกเลยจะได้เทรดง่ายๆ**
XAUUSD H4มาทำโครงสร้างภาพ H4 ให้ดูมุมมองส่วนตัวของผมนะครับเผื่อผมไม่ว่างทำแผนสองสามวัน จากภาพจะเห็นว่าราคาพักตัวเป็น SW UP แต่ไม่มีความชันมากแสดงให้เห็นได้ว่าเค้ากำลังรออะไรบางอย่างนะครับโดยส่วนตัวยังคงมองว่าย่อ Buy ได้เปรียบแต่ตอนนี้ถ้าเราดูแท่ง Day เกิดแท่งแดงแล้วนะครับเป็น PA Sell ด้วย หากมีการทิ้งอีกรอบแล้วมาโซนแรกก็หยอด Buy ได้เพราะโซนแค่ 300 จุด และ Monitor Buy หากยืน 2600-2605 ได้ แต่หากไปเยอะกว่านั้นรอข้างล่างที่ Fibo ชุดใหญ่เลยนะครับ