วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 9 มีนาคม 2564 ภาคเช้าตลาดทองคำวานนี้
- Open 1,700.06 $/Onz.
- Close 1,683.17 $/Onz.
- High 1,714.18 $/Onz.
- Low 1,676.69 $/Onz.
--------------------------------------------------------------
เรียกได้ว่าชาวดอยนอนเซ็งกันไปตามๆ กัน เมื่อทองคำฟื้นตัวกลับมาได้เพียงแค่วันเดียวก่อนร่วงหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แบบเห็นการพลิกกลับฟื้นตัวได้ริบหรี่ทีเดียว ช่วงเช้าวานนี้ราคาทองคำฟื้นตัวเหนือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็ต้องเจอกับแรงขายทำกำไรออกมาจนหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีและดอลลาร์ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐขยับแข็งค่าขึ้นในรอบ 3 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปิเหนือจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี สร้างแรงกดดันต่อทองคำให้ปรับตัวต่ำลง นักวิเคราะห์ออกมาเตือนหากทองคำหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงต่อการปรับฐานต่อ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถวิ่งเหนือทะลุ 1,760-1,776 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่จะพลิกเทรนด์เป็นขาขึ้นก็ยังมีอยู่
ทองคำในระยะกลางมีสัญญาณการแกว่งตัวลดลง แม้ทองจะเผชิญกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวดีขึ้น จนหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น แต่ในระยะสั้นทองคำยังมีโอกาสดีดตัวกลับจากแรงซื้อทางกายภาพของผู้ค้าผลิตเครื่องประดับทองคำและนักลงทุนอินเดียและจีน ที่มักจะเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาอยู่ในจุดที่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุให้ช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้างยามนี้ ส่วนกองทุน SPDR แม้จะมีการเข้าซื้อบ้างบางส่วน แต่ภาพรวมก็ยังเป็นการเทขายต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีกว่า 100 ตัน
ทองคำแม้จะมีการปรับขึ้นได้บ้าง แต่ก็จะมีแรงขายสลับออกมาทำกำไรเช่นกัน และจากท่าทีของเฟดก็ดูเหมือนจะพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ อาจเลี่ยงไม่ได้ที่ราคาทองคำอาจจะดิ่งลงจากระดับปัจจุบันได้อีก และอาจลึกไปถึง 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในอีกไม่นานก็เป็นได้ หากสถานการณ์ตลาดทองคำยังเป็นเช่นนี้อีก
ประเมินทางเทคนิค ทองคำวันนี้ หากยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณ 1,695-1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มทองคำอาจปรับตัวต่ำได้อีกรอบ ซึ่งในรอบนี้แนวรับจะลึกลงไปที่บริเวณ 1,666-1,677ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในภาคเช้าเราอาจได้เห็นการปรับตัวขึ้นของทองคำได้บ้าง ซึ่งก็ต้องติดตามว่าจะสามารถหลุดแนวต้านแถวๆ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ แนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีและดัชนีดอลลาร์สหรัฐคู่ขนานไปกับการเทรดทองคำในเวลานี้
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,695-1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำให้เสี่ยงเปิดขายที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1,666 - 1,677 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรหรือเข้าซื้อคืนไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,653 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภาพรวมเทรนด์ใหญ่ยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะเปิดคำสั่งซื้อขายฝั่ง "Short" เป็นหลักเพื่อรักษาสมดุลย์พอร์ตลงทุน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองลง -5.82 ตัน ปัจจุบันถือครองทั้งสิ้น 1,063.44 ตัน
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
--------------------------------------
Support : 1,677 / 1,666 / 1,653
--------------------------------------
Resistance : 1,684 / 1,695 / 1,705
--------------------------------------
*การลงทุนทองคำมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ใช่เป็นเครื่องมือการันตีการทำกำไรได้ถูกต้อง 100% เสมอไป
Analysis
หวยทองคำ 01/09/2020 (ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่)ปัจจัยหนุนแรกสำหรับทิศทางของทองคำในตอนนี้ยังคงเป็นปัจจัยหนุนมาจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่มีการปรับตัวร่วงลงถึง -1.41 ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีปัจจัยเชิงบวกของทิศทางทองคำคือการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ในการปรับนโยบายทางการเงินครั้งใหญ่
ส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปีมีการปรับตัวร่วงลงถึง 0.705% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีการเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีการส่งสัญญาณดังกล่าว
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่ามีการขยับตัวสูงขึ้นของทิศทางราคาทองคำแต่ดัชนีความกังวลของทองคำหรือ Gold Votatility ยังคงมีการขยับขึ้นเพียงแค่ 24.32 ในระดับการปิดตลาดของสหรัฐอเมริกา ต้องติดตามว่าในการเปิดตลาดของสหรัฐอเมริกาดัชนีดังกล่าวนี้จะมีความผันผวนขยับขึ้นหรือไม่
จึงส่งผลทำให้ทองคำมีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยสัญญาณดังกล่าวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับทิศทางของทองคำอย่างต่อเนื่อง
โดยถ้ามีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องกรอบแนวต้านสำคัญอย่างมากก็คือ 1992 เป็นแนวต้านที่หนึ่งและ 1995 เป็นแนวต้านที่สองและ 1998 เป็นแนวต้านที่สามและ 2000 เป็นแนวต้านที่สี่และ 2004 เป็นแนวต้านที่ห้ากับ 2006 เป็นแนวต้านที่หกและ 2009 เป็นแนวต้านที่เจ็ดและ 2013 เป็นแนวต้าน 18 และ 2015 เป็นแนวต้านสุดท้าย
แต่ถ้าเกิดมีปัจจัยหนุนในเชิงลบของทิศทางทองคำแนวรับสำคัญที่จะต้องติดตามแนวรับแรกก็คือ 1987 เป็นแนวรับที่หนึ่งและ 1984 เป็นแนวรับที่สองแรก 1980 เป็นแนวรับที่สามและ 1976 เป็นในรับที่สี่ละ 1974 เป็นแนวรับที่ห้าและ 1970 เป็นแนวรับที่หกและ 1967 เป็นแนวรับที่เจ็ดและ 1965 เป็นแนวรับที่แปดซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายในวันนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ : ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงต้องติดตามตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา คือการประกาศดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็มประกอบกับในส่วนของวันพุธที่จะถึงนี้จะเป็นการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาของ ADP และสุดท้ายวันศุกร์จะเป็นการประกาศตัวเลขอัตราการจ่ายงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างานของสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจจะสร้างความผันผวนและอาจจะกดดันให้ทองคำมีการขยับตัวผันผวนดังกล่าว
สัญญาณหวยทองคำอีกหนึ่งสัญญาณคือหุ้น Barrickข่าวใหญ่ที่สำคัญก็คือ ปู่ Warren Buffet ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Barrick Gold Corp. ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะและผลิตโลหะที่มีค่า ที่สุดอันดับสองของโลกในการถือหุ้นในครั้งนี้ในส่วนของ ปู่ Warren Buffet หรือบริษัท Berkshire Hathaway Inc. ได้เข้าซื้อหุ้น Barrick เป็นจำนวน 20.9 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.2% ของหุ้นที่ถือครองโดยนักลงทุนทั้งหมดและคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 565 ล้านดอลล่าห์ ซึ่งเป็นรายงานจาก Bloomberg และผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ก็คือ ปู่ Warren Buffet พร้อมทั้งผู้บริหารด้านการลงทุนอีกสองท่านในบริษัท Berkshire Hathaway Inc.
ซึ่งแน่นอนว่าสะท้อนให้เห็นว่า ปู่ Warren Buffet เห็นอะไรบางอย่างในสินทรัพย์นี้ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ทองคำโดยตรงดังนั้นประเด็นที่สำคัญยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองว่าทิศทางทองคำจะมีการขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่
โดยในปี 2012 มีการขยับตัวสูงขึ้นของราคาหุ้น Barrick Gold Corp. 55.51 เหรียญต่อหุ้นซึ่งในตอนนี้ หุ้นของ Barrick Gold Corp. ยังอยู่เพียงแค่ 29.99 เหรียญต่อหุ้น
โดยในกรอบราคาสะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้น Barrick Gold Corp. มักจะไปด้วยกันกับทิศทางทองคำเช่นถ้าทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นราคาหุ้น Barrick Gold Corp. จะสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกันดังนั้นยังคงเป็นข้อสังเกตว่าทำไม ปู่ Warren Buffet ถึงเข้าซื้อหุ้น Barrick Gold Corp. ในจำนวนนี้
โดยข้อสังเกตนี้อาจจะส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าเกิดหุ้นของ Barrick Gold Corp. มีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งข้อสังเกตที่อาจจะจำเป็นจะต้องติดตามอย่างมากในครั้งนี้
ซึ่งถ้าสามารถขยับขึ้นไปได้แนวต้านที่หนึ่งก็คือ 1989 แนวต้านที่สองก็คือ 1996 แนวต้านที่สามก็คือ 2000 แนวต้านที่สี่ก็คือ 2008 แนวต้านที่ห้าก็คือ 2015 แนวต้านที่หกก็คือ 2022
แต่ถ้าเกิดปัจจัยหนุนที่ส่งผลลบให้กับทิศทางทองคำแนะนำควรติดตามกรอบแนวรับสำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 1985 แนวรับที่สองก็คือ 1980 แนวรับที่สามก็คือ 1978 แนวรับที่สี่ก็คือ 1975 แนวรับที่ห้าก็คือ 1972 แนวรับที่หกก็คือ 1966 แนวรับที่เจ็ดก็คือ 1957
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อจะทำให้ทองคำมีการปรับตัวร่วงลงนั้นก็คือทิศทางของบล็อกซีนโควิด-19 ว่าจะมาในช่วงไหนและอาจจำเป็นจะต้องติดตามถึงเรื่องสภาพเศรษฐกิจและเศรษฐกิจต่างๆซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ทิศทางทองคำมีความผันผวนในช่วงนี้
ติดตามวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเพราะส่งผลอย่างหนักสำหรับทิศทางทองคำในการปรับตัวร่วงลง





