วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564ตลาดทองคำปิดตลาดเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมากลับมาร่วง -7.9 ดอลลาร์ เหตุความผันผวนของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังแข็งแกร่งอยู่
ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดตลาดเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมายังปรับตัวต่ำต่อเนื่อง โดยราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 ได้
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับลดลง -7.9 ดอลลาร์ (-0.44%) ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,792.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เหตุทองคำร่วงปัจจัยหลักๆ ก็มาจากการปรับตัวแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้น +0.119(+0.13%) ปิดระดับที่ 92.640 ซึ่งแข็งค่ากว่า 6 สกุลเงินหลักในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และยังสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี นั้นก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันโดยปรับเพิ่ม +0.042(+3.23%) ปิดที่ระดับ 1.344 จึงเป็นเหตุกดดันราคาทองคำให้ร่วงลง
ทั้งนี้นักลงทุนยังเทขายทองคำหลังมีรายงานว่าผู้นำสหรัฐและจีนหารือกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. และเป็นครั้งที่ 2 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนับตั้งแต่เขาเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนม.ค. โดยทำเนียบขาวได้เปิดเผยว่าผู้นำทั้งสองหารือเกี่ยวกับความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งจะนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ และในส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. ชะลอลงหลังจากพุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ค.
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้อาจเคลื่อนไหวในกรอบ ตารางข่าวสำคัญๆ วันนี้ไม่มีอะไร หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตวขึ้นเหนือ 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราก็อาจเห็นการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาเรื่อยๆ แต่ยังมีแนวรับสำคัญที่ทองคำยังติดแนวอยู่ที่ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าหากผ่านแนวรับนี้ได้ก็มีลุ้นว่าจะมีการทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับเดิม 1,782.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้นั้นประเมินแนวรับถัดไปที่ระดับ Fibo 127.2% (1,777.19) และ 161.8%(1,770.76)
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาลงมาที่บริเวณดังกล่าวและสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคายังไม่สามารถผ่าน 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำหากยังไม่สามารถขึ้นเหนือระดับ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรที่ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,789 ดอลลาร์ต่อออน์)
Signal
สำหรับสัญญาณการเทรดวันนี้ในส่วนของ Sell Stop ยังเป็นสัญญาเดิมของสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากราคายังเคลื่อนไหวในเป้าหมาย ในวันนี้เรามีสัญญาณเทรดใหม่ที่ความเสี่ยงสูงเปิดรอ BUY ที่ 1,782 หากราคาไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ในรอบก็มีแนวโน้มปรับขึ้นเพื่อปรับฐานราคาได้อีกรอบ
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1796 / 1801 / 1808
-------------------------------------------
Support : 1782 / 1777 / 1770
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,794.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.17 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.55 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Analysis
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564ทองคำนิวยอร์กกลับมาปิดบวกอีกรอบหลังร่วงต่ำสุด รับปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปิดบวกอีกครั้ง ปัจจัยหนุนทองคำยังคงเป็นการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ทำให้ราคากลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับราคา 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่เกิดจากการปรับฐานราคาชั่วคราว
ข้อมูลแรงงาของสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทองคำไม่ขยับตัวขึ้นได้มาก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 310,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 18 เดือน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
สำหรับทองคำวันนี้เรามาดูในกรอบราย 4 ชั่วโมง หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นออกมากันอีกรอบ ประเมินแนวรับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาทองคำกลับมาบริเวณ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้เ้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อราคามาที่บริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำหากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,788-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1807 / 1812
-------------------------------------------
Support : 1789 / 1786 / 1782
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ปรับลดการถือครอง -0.35 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,794.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.17 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.55 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564[bทองคำยังเจอมรสุมการแข็งค่าของดอลลาร์ ปิดต่ำอีกรอบกว่า $5
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปิดลบ $5 หรือที่ 0.28% ปิดระดับราคาที่ 1,793.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ปรับขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ค.2543 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.18 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนเองก็ยังคงเฝ้าติดตามการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้ยังทรงตัวในแดนต่ำ กรอบระหว่าง 1,792-1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวันนี้ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น มีโอกาสที่จะมีการเทขายทองคำออกมาอีกในระยะสั้น สำหรับทองคำวันนี้ถ้าสามารถผ่าน 1,792 ก็มีโอกาสลุ้นขึ้นกลับไปทดสอบระดับจิตวิทยา 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง สำหรับในกรอบรายวันเรามองเห็นสัญญาณ Divergence เกิดขึ้นแล้ว จึงมีสิทธิ์ลุ้นทองคำวิ่งกลับขึ้นได้ในระยะสั้นเช่นกัน ซึ่งก็คือเป้าหมาย 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำที่ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทรงตัวได้ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1802 / 1808 / 1817
-------------------------------------------
Support : 1782 / 1776 / 1771
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน :ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,809.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 8 กันยายน 2564[bทองคำคืนวานนี้เจอแรงกดดันการแข็งค่าของดอลลาร์+บอนด์ ทิ้งดิ่งกว่า 35 ดอลลาร์
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดตัวร่วงแรงกว่า 35.2 ดอลลาร์ ตลาดทองคำนิวยอร์ก COMEX สัญญาส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ระดับ 1,798.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลง 1.92% เหตุดอลลาร์และบอนด์ปรับแข็งค่า
นักลงทุนยังเฝ้าติดตามสถานะการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันพุธนี้ และยังเฝ้าติดตามการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ด้วย
ในส่วนของนักวิเคราะห์เชื่อกันว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ในการประชุมวันที่ 21-22 ก.ย.
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
สำหรับทองคำในกรอบรายวันนั้น เรายังเห็นการอ่อนค่าของตัวทองคำอยู่ต่อเนื่องหลังจากที่ได้มีการปรับตัวขึ้นทดสอบ 61.8% (1,829 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และกลับมาอ่อนค่าลงหลุดต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทำให้เรามองเห็นเป้าหมายการเคลื่อนตัวของราคาที่ระดับ Fibo 38.2% เป็นระดับชนกำไร หากว่าราคายังไม่สามารถผ่าน Fibo 50%(1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)ขึ้นไปได้ สำหรับในกรอบรายชั่วโมงนั้น หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นในระยะสั้นเหนือระดับแนวต้าน fibo 23.6% (1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ก็ยังจะมีโอกาสปรับตัวลงต่ำที่ระดับต่ำสุดของราคาช่วงเช้ามืดวันนี้ที่ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นเป้าหมายกำไรระดับที่หนึ่งสำหรับตลาดวันนี้หากราคายังไม่สามารถผ่าน 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวไปได้ โดยให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรระยะสั้นที่ระดับแนวรับบริเวณ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นสูงกว่า 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1802 / 1808 / 1817
-------------------------------------------
Support : 1792 / 1782 / 1776
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน :ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,809.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 7 กันยายน 2564ทองคำนิวยอร์กวานนี้ปิดทำการเนื่องจากวันแรงาน การซื้อขายเบาบาง
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวไม่มากนัก แต่เป็นการเคลื่อนตัวต่ำตามการปรับขึ้นของดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินฝั่งยุโรป เช่น อังกฤษได้เปิดเผยดัชนี PMI ภาคก่อสร้างเดือน ส.ค. ร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน มาจากเหตุการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง โดยปรับร่วงลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือนส.ค. จึงเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์และกลับมากดดันราคาทองคำให้ทรงตัวเหนือระดับ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับการซื้อขายทองคำบนโบรกเกอร์ FXCM ปิดตลาดที่ 1,823.02 ลดลง -4.44 (0.24%) ทองคำวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสอบแนวต้านบริเวณ 1,830-1,833 ได้อีกครั้ง หากมีแรงซื้อเข้ามาหนุนราคาให้กลับไปที่บริเวณดังกล่าวได้เพียงพอ แต่หากพิจารณาจากกราฟรายวันเรายังคงเห็นการปฏิเสธราคาเกิดขึ้นที่เหนือแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ยังเป็นข้อจำกัดที่ราคายังไม่สามารถฝ่าแนวดังกล่าวขึ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหากราคาทองคำสามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น เราก็จะมีโอกาสเห็นการปรับตัวขึ้นของทองคำได้ ซึ่งแนวต้านถัดไปประเมินที่ระดับ 1,862 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (กรอบรายวัน)
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาย่อมาบริเวณ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์และทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายหากทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ใต้แนวดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดคำสั่งเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Support : 1823 / 1812 / 1807
-------------------------------------------
Resistance : 1833 / 1840 / 1845
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน :ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,809.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564ทองคำนิวยอร์คปิดลบ 4.5 ดอลลาร์ก่อนรายงาน NFP จะออกคืนนี้พั
เหตุทองคำยังร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง จากการซื้อขายที่เงียบเหงาปริมาณการลงทุนค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงต้องการรอรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในค่ำคืนนี้เวลา 19:30 ตามเวลาประเทศไทย โดยรายงานดังกล่าวอาจจะเป็นสัญญาณการติดตามการตัดสินใจในการปรับลดวงเงินในโครงการจัดซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัวเลขคาดการณ์ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% ในส่วนของข้อมูลแรงงานที่จะเปิดเผยไปในเมื่อคืนนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 340,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน หรือตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 345,000 ราย ทางฝั่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็ออกระบุเช่นกันว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 4.3% สู่ระดับ 7.01 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. โดยการนำเข้าลดลง 0.2% สู่ระดับ 2.828 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกนั้นจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.3% สู่ระดับ 2.128 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2562 เป็นต้นมา
ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะเปิดเผยในค่ำคืนนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนส.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์หรือ -0.25% ปิดระดับที่ราคา 1,811.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดตลาดที่ 92.214 หรือ -0.284 (-0.31%)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 1.285 หรือ -0.014 (-1.08%)
ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยสาเหตุจากการชะลอซื้อขายของนักลงทุนก่อนที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะรายงานออกมาในค่ำคืนนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นตัวชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงิน QE ต่อไปของเฟด
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
คาดทองคำวันนี้ยังเคลื่อนตัวในกรอบก่อน NFP ออกรายงาน โดยมีระยะเคลื่อนไหว 1,829-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อขายในกรอบเวลาเล็กๆ เพื่อทำกำไรในช่วงสั้นๆ ได้ แต่ต้องระมัดระวังแรงผันผวนของราคาก่อนรายงานดังกล่าวจะออกมาด้วย สำหรับทองคำในกรอบรายชั่วโมงนั้น หากราคายังยืนเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,808-1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,813 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะให้รอจังหวะเข้าซื้อคำสั่ง “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าวหากราคาไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ วันนี้ทองคำยังมีทิศทางปรับตัวต่ำก่อน NFP ออกรายงานมา ซึ่งแนวรับสำคัญที่ต้องเฝ้าติดตามคือ 1,807-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ วันนี้ทองคำจะปรับตัวหลุด 1,800 ได้อีกหรือไม่ก็ต้องติดตามรายงานอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Short Position : รอเข้าเปิดคำสั่ง “ขาย” หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,812 ดอลลาร์ต่ออนซ์ขึ้นไปได้ ให้เน้นทำกำไรระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ 1,808-1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวกำไรดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
หมายเหตุ : ทองคำอาจเจอช่วงผันผวนหนักก่อนข่าว NFP ออกมาเนื่องจากวันนี้ข้อมูลดังกล่าวอาจมีผลชี้นำต่อนโยบายการเงินของสหรัฐ จึงสร้างแรงผันผวนได้พอสมควร แนะนำให้บริหารพอร์ตลงทุนให้ดีๆ นะครับสำหรับใครที่มีไม้ค้างไว้ ส่วนมือใหม่ไม่แนะนำให้เข้าเทรดในช่วงเวลาดังกล่าวควรรอให้ผ่านไป 1 ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยหาจังหวะเทรดตามน้ำ
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Support : 1806 / 1802 / 1796
-------------------------------------------
Resistance : 1812 / 1823 / 1833
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ลดลง -1.46 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,809.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.52 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 2
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.20 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
****การวิเคราะห์เป็นเพียงความรู้แนวทางการลงทุนมิได้เป็นเครื่องเจตนาการชี้นำ นักลงทุนควรนำข้อมูลดังกล่าวไปพิจารณาให้รอบคอบก่อนทุกครั้ง และผลอันใดที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลผูกพันต่อความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสฯ ที่ 2 กันยายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์ปิดตลาดปรับลดลง 2.1 ดอลลาร์ หลังตลาดลงทุนชะลอตัวจับตา NFP
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อเฝ้าติดตามการตัดสินใจในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ธ.ค. ลดลง 2.1 ดอลลาร์หรือ -0.12% ปิดระดับที่ราคา 1,818.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดตลาดที่ 92.498 หรือ -0.143 (-0.15%)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 1.299 หรือ -0.013 (-0.99%)
ดอลลาร์อ่อนค่าหลังผิดหวังรายงานตัวเลขการจ้างงานจาก ADP เมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้หากยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,809 ได้อย่างแข็งแกร่ง ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,829-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้การลงทุนอาจบางตาลงไปเนื่องจากนักลงทุนเองก็ยังเฝ้ารอการตัดสินใจต่อการลงทุนทองคำต่อไปหลังได้รับรายงานจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ หรือ NFP ในค่ำคืนวันศุกร์นี้เสียก่อน จึงยังทำให้ทองคำวันนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบตลอดทั้งวัน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,809-1,819 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนทองคำไปก่อนในช่วงนี้
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : เข้าซื้อทองคำทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาทองคำย่อตัวมาบริเวณ 1,809-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าว ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น ประเมินปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,819-1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หมายเหตุ : แนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนทองคำไปก่อนช่วงนี้เนื่องจากระดับการเคลื่อนไหวอาจไม่สามารถผ่านพ้นช่วงค่าธรรมเนียมการเทรดได้มากพอ จึงไม่แนะนำให้เข้าซื้อขายทองคำในช่วงนี้ควรรอให้รายงานตัวเลข NFP ออกมาก่อน
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Support : 1806 / 1796 / 1790
-------------------------------------------
Resistance : 1823 / 1833 / 1840
-------------------------------------------
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,813.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,000.26 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 1
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -1.46 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 25 สิงหาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กคืนวานนี้ปิดบวก 2.2 ดอลลาร์ หลังทองคำข้าม 1,800 ดอลลาร์มาได้อีกครั้ง
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว สาเหตุจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากเหตุความวิตกเกี่ยวกับการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ขณะที่นักลงทุนก็ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเฝ้ามองหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดต่อไป
ทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือนธ.ค. ปิดเพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ราคา 1,808.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ยังคงสร้างแรงผลักดันให้ราคาทองคำโดนนักลงทุนเข้าซื้อเก็บอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเป็นการผันผวนจากการขึ้นลงของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ด้วยเช่นกัน ซึ่งทองคำได้ถูกปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,800 อีกครั้งช่วงเช้ามืดวันนี้หลังตลาดหุ้นสหรัฐ และดัชนีดอลลาร์ต่างพากันปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาอยู่ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง สำหรับดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ปิดราคาที่ระดับ 92.879 ปิดลบ 0.094 ( -0.10%)
ประเมินทางเทคนิคทองคำรายชั่วโมงวันนี้
ทองคำเช้านี้ได้ถูกสกัดช่วงบวกจากเมื่อวานร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยกรอบรายวันจะเห็นการปฏิเสธราคาบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA200) และช่วงดึกของเมื่อวานยังพบเห็นการเกิด Divergence ที่กรอบเวลา 1 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะปรับหลุดต่ำกว่า 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่า 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังพอมีโอกาสเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้อีกเช่นกัน ทั้งนี้ปลายสัปดาห์นี้เราคงได้เห็นความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดทองคำและตลาดการลงทุนทั่วโลก ช่วงที่มีการประชุมประจำปีของธนาคารกลางระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2564 นี้ จึงควรระมัดระวังด้วยในช่วงเวลาดังกล่าว
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำกรอบรายชั่วโมงประจำวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาย่อมาบริเวณแนวรับ 1788-1784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” และเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถปรับขึ้นไปยืนเหนือบริเวณแนวต้านดังกล่าวได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
H1 : Uptrend
H4 : Uptrend
DAY : Downtrend
WEEK : Uptrend
Month : Uptrend
แนวรับแนวต้านทองคำรายชั่วโมง
SUPPORT : 1,793/ 1,789 / 1,784
RESISTANCE : 1,801 / 1,809 / 1,818
การถือครองทองคำขอกองทุน SPDR
การถือครองทองคำล่าสุด : ลดการถือครองลง -2.03
ราคาที่เข้าซื้อขายล่าสุด : 1,806 ดอลลาร์
ระดับทองคำถือครองล่าสุด : 1,004.63 ตัน
รวมการเปลี่ยนแปลงเดือนนี้ : 12 ครั้ง
รวมการการเปลี่ยนแปลงสุทธิเดือนนี้ : -26.83 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงจึงควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลการทำกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอ จึงควรพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาการลงทุนต่อไป
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 24 สิงหาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดบวก 22.3 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์และบอนด์ต่างพากันร่วง
ตลาดทองคำตลาด COMEX ปิดตลาด 1,806.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ บวกเพิ่ม 22.30 ดอลลาร์ หรือ +1.25% หลังดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบางสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวร่วง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวร่วงลง -0.485 (-0.52%) ปิดที่ระดับ 92.973 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง -0.0030 (-0.24%) ปิดที่ระดับ 1.2550
นักลงทุนได้คาดการณ์ว่า เฟดอาจมีการชะลอการปรับลดวงเงิน QE อีกครั้งจากสาเหตุที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ยังระบาดอย่างนักจนอาจทำให้มีการขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้ นอกจากนี้การชะลอตัวลงของภาคผลิตและภาคบริการของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการคาดณ์ที่ว่าเฟดจะมีการเร่งปรับลดวงเงิน QE ทางฝั่ง IHS ได้ออกมาเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการบริการและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 55.4 ในเดือน ส.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปีที่แล้วจากระดับ 59.9 ในเดือนก.ค. แต่ก็ยังถือว่า PMI ยังอยู่เหนือระดับ 50 ก็ยังถือว่าเศรษฐกิจได้มีการขยายตัวขึ้น นักลงทุนก็ยังเฝ้าติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. นี้ โดยหัวข้อประจำปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับการปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในการประชุมดังกล่าว
ประเมินทางเทคนิคทองคำรายชั่วโมงวันนี้
ทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดอยู่ ระหว่าง 1800-1806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งตลาดเช้านี้ฝั่งเอเซียทองคำคงยังไม่มีแรงสนับสนุนส่งผลให้ทองคำเคลื่อนไหวออกจากกรอบดังกล่าวได้ คงต้องรอให้แรงซื้อขายเข้าตลาดในช่วงตลาดยุโรปและอเมริกาเข้าสนับสนุนทิศทางทองคำเพิ่มเติม โดยหากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็ยังมีแนวโน้มที่ทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปได้อีกเช่นกัน
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำกรอบรายชั่วโมงประจำวันนี้
Long Position : รอทองคำย่อตัวเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1,810 – 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
H1 : Uptrend
H4 : Uptrend
DAY : Downtrend
WEEK : Uptrend
Month : Uptrend
แนวรับแนวต้านทองคำรายชั่วโมง
SUPPORT : 1,796/ 1,778 / 1,767
RESISTANCE : 1,810 / 1,817 / 1,828
การถือครองทองคำขอกองทุน SPDR
การถือครองทองคำล่าสุด : ลดการถือครองลง -4.95
ราคาที่เข้าซื้อขายล่าสุด : 1,805.15 ดอลลาร์
ระดับทองคำถือครองล่าสุด : 1,006.66 ตัน
รวมการเปลี่ยนแปลงเดือนนี้ : 11 ครั้ง
รวมการการเปลี่ยนแปลงสุทธิเดือนนี้ : -24.80 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงจึงควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลการทำกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอ จึงควรพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาการลงทุนต่อไป
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 23 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดลบอีกหนึ่งวันอีก 5.5 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.5 หรือ -0.31% ปิดระดับ 1.777.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการปรับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ตลอดทั้งวันที่มีความผันผวนก่อนที่จะมีการแถลงต่อสภาครองเกรสของนายเจอโรม พาวเวลล์ เมื่อช่วงตีหนึ่งวันนี้ ทั้งนี้ในช่วงกลางวันทองคำได้ปรับฟื้นคืนมาได้บ้างแต่ก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด แม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่ทำให้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เช่นกลุ่มสกุลเงินอื่นๆ และเช้านี้ดอลลาร์ก็ปรับขึ้นมาอีกครั้งหลังอ่อนค่าของไปที่ระดับ 91.645 แต่หากวันนี้ดอลลาร์ไม่สามารถปรับขึ้นไปเหนือ 92 นั้นเราก็คงได้เห็นการปรับตัวต่ำของดอลลาร์หลังจากที่ดีดตัวพุ่งจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนด
เมื่อช่วงตีหนึ่งของวันนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า เฟด ได้แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยเฟดกล่าวว่ามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุม และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องอัตราเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป นายพาวเวลยังกล่าวอีกว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ได้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัวเป็นวงกว้างจนต้องทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าและการบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และภาวะติดขัดอุปทานที่เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐเริ่มเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกรอบ หลังจากต้องปิดเศรษฐกิจเป็นเวลานานเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายพาวเวลมีความเชื่อว่าเรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากการพุ่งขึ้นของราคาผู้บริโภคนั้น จะชะลอตัวลงในท้ายที่สุด
หลังคำกล่าวถึงท่าทีของเฟดที่จะยังไม่คงขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนดที่วางไว้นั้น ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอีกครั้ง เป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงไปสู่ระดับ 91.645 ก่อนปรับฟื้นขึ้นได้ในช่วงเช้ามือวันนี้อีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นการฟื้นในช่วงความกดดันต่อดอลลาร์อีกครั้ง หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยเฟดจะยังคงต้องจับตาดูข้อมูลสถิติของตลาดแรงงานเป็นวงกว้างว่ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นมาเสียก่อน
สำหรับทองคำเมื่อวานนี้ก็ยังถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นได้เพียงจำกัด แต่ไม่สามารถปรับบวกขึ้นได้จากข่าวดีดังกล่าวของตลาดทองคำ ทำให้วันนี้ต้องมาลุ้นกันต่อว่าจะสามารถปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,800 ได้หรือไม่
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงเช้าโดยหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง อาจมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขื้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าพิจารณาน้ำหนักการให้ระดับคาดการณ์วันนี้ทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้หลังตลาดฝั่งยุโรปเปิดทำการ จึงแนะนำว่าให้รอซึ้อทองคำเก็บเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง เพื่อรอทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำสามารถผ่านระดับ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นก็จะยิ่งเพิ่มความชัดเจนต่อความหวังการกลับไปยืนเหนือ 1,800 ได้อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก 3.50 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,783.20 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,049.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 10 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +6.35 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564ทองคำเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดลบ $5.8
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.8 ปิดระดับ 1.769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 มี.ค. 2563
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า “เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า” โดยนายบูลลาร์ดเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งนายบูลลาร์ดได้กล่าวว่า “ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด” ซึ่งเขาได้ระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้นั้น ถือเป็นการเตรียมรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากที่ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้นั้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19
ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าคาดการเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือน มี.ค. ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566 ทั้งหมดจึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง รวมทั้งยังกดดันทองคำให้ร่วงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำอาจเจอความผันผวนของการเคลื่อนไหวราคาอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หากราคาทองเองสามารถทรงตัวเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเห็นแนวโน้มการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นได้อีกครั้ง ประเมินแนวต้านบริเวณที่ระดับ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านในบริเวณดังกล่าวได้ อาจเกิดการเทขายทำกำไรกันอีกรอบหนึ่ง แนวรับราคาประเมินไว้ที่บริเวณ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถรองรับราคาไว้ได้นั้น แนวรับถัดไปจะเป็นที่บริเวณ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ถ้าวันนี้ราคาทองคำสามารถขยับตัวต่อเนื่องขึ้นได้ด้านบน และกลับไปยืนเหนือ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการขึ้นทดสอบแนวต้านระดับจิตวิทยาที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน วันนี้ขอแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังแนวต้านในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย หากราคายังไม่สามารถผ่านขึ้นได้ มีแนวโน้มที่จะถูกเทขายทำกำไรทำให้ทองคำปรับตัวอ่อนลงได้ จึงควรติดตามในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย วันนี้ฝั่งสหรัฐฯ ไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญอะไรนะครับ ส่วนยุโรปเวลา 21:15 จะมีแถงการของประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ตามเวลาประเทศไทยนะครับ ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงควรติดตามสถานะการณในช่วงดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อทองคำเพิ่ม +11.07 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำที่ระดับราคา : 1,764.10 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,053.06 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 9 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +9.85 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็น 26 มีนาคม 2564 🙏🏼ทองคำยังอ่อนแรงช่วงวันนี้ แม้จะรีบาวน์กลับมากลได้บ้าง แต่แรงซื้อยังจำกัดพอสมควร
---------------------------------------------------
ทองคำตลอดช่วงกลางวันนี้ปรับตัวลดลงต่ำจนหลุดแนวรับ 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยกลับไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบวันที่บริเวณ 1,723.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการอ่อนค่าของทองคำยังเป็นผลจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ แม้ช่วงบ่ายจะมีการปรับตัวลงบ้าง แต่ทิศทางของดอลลาร์นั้นก็ยังสะท้อนถึงแรงซื้อที่ชัดเจน หากราคาดอลลาร์ยังยืนเหนือ 92.60 จุดได้นั้น แนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อก็เป็นไปได้สูง
ประเมินทางเทคนิค ทองคำช่วงเย็นวันนี้อาจมีปรับตัวขึ้นได้ระยะสั้น จากการปรับฐานของดอลลาร์ แต่ก็ยังมองเพียงการปรับขึ้นที่มีข้อจำกัดอยู่พอสมควร โดยหากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะมีแรงขายสลับกลับมากดดันให้ทองคำปรับร่วงลงได้อีกเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
------------------------------------
แนะนำให้เน้นฝั่ง Sell เป็นหลักวันนี้ โดยหาจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ โดยปรับแผนดังนี้
Short : เมื่อราคาปรับขึ้นทดสอบแนว 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ที่บริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ (ตัดขาดทันหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
จังหวะการซื้อคืนนั้นบริเวณที่เหมาะและน่าสนใจหากราคาทองคำย่อลงไปบริเวณ 1,718-1,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทรงตัวตัวบริเวณนี้ได้นั้น โอกาสที่จะปรับตัวขึ้นก็มีความเป็นไปได้ จึงเป็นโอกาสที่ดีหากจะเข้าซื้อบริเวณของถูกกันอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นการเข้าลงทุนเก็งกำไรกันระยะสั้นเท่านั้นนะครับ จังหวะนี้ทองคำยังไม่มีทิศทางให้ถือได้ยาวๆ
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสฯที่ 11 มีนาคม 2564วานนี้ราคาทองคำปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือ EMA200 ในกรอบรายชั่วโมงหลังประกาศค่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (Core CPI) แบบเดือนต่อเดือน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ รายงานตัวเลขออกมา 0.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ 0.2% ทำให้ดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง เป็นเหตุให้หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นจากบริเวณพักฐานจนสามารถยืนเหนือเส้น EMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงสำเร็จ ทั้งนี้ถึงยังงัยภาพรวมของดัชนีดอลลาร์ก็ยังคงมีทิศทางขาขึ้น โดยหากดัชนีดอลลาร์ยังไม่ปรับตัวต่ำกว่า 91.65 ก็ยังมีแนวโน้มการกลับขึ้นไปได้อีก ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ก็เช่นกันแม้จะมีลักษณะการย่อลงมาบ้าง แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้อีก นักลงทุนทองคำจึงยังต้องให้ความสำคัญในการติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ควบคู่ไปกับการลงทุนทองคำในเวลานี้
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดการอ่อนตัวจากการเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งถ้าหากราคาทองคำยังไม่หลุดจากแนวรับบริเวณ 1,710-1,717 หรือทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว ก็ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับขึ้นเพื่อกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้แนวระวังสำคัญก็คงเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ราคาทองคำอาจวกกลับลงมาได้อีกเพื่อสะสมกำลังซื้อใหม่อีกรอบ ซึ่งถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวรับ 1,710-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินได้ว่าแนวโน้มที่ทองคำจะขยับขึ้นทดสอบ 1,740-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,720-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำอาจย่อลงมาบริเวณ 1,710-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด Long Position โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรหรือขายออกที่บริเวณแนวต้าน 1,732-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่หากทะลุผ่านไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน แล้วรอแนวต้านถัดไปที่ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับใครที่มี Short Position ไว้ในมือ ให้พิจารณาปรับลดขนาดการลงทุนเมื่อราคาทองคำปรับย่อตัวลงมาก่อนในเวลานี้ เพื่อปรับสมดุลย์พอร์ตที่อาจเกิดจากการแกว่งตังของราคาจากการปรับทิศของเทรนด์ใหญ่ที่กำลังจะมา
กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลง -1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,060.23 ตัน
แนวรับแนวต้านกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------------
Support : 1,711 / 1,704 / 1,694
------------------------------------------
Resistance : 1,732 / 1,740 / 1,750
------------------------------------------
*การลงทุนทองคำมีความเสี่ยงสูง จึงควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 9 มีนาคม 2564 ภาคเช้าตลาดทองคำวานนี้
- Open 1,700.06 $/Onz.
- Close 1,683.17 $/Onz.
- High 1,714.18 $/Onz.
- Low 1,676.69 $/Onz.
--------------------------------------------------------------
เรียกได้ว่าชาวดอยนอนเซ็งกันไปตามๆ กัน เมื่อทองคำฟื้นตัวกลับมาได้เพียงแค่วันเดียวก่อนร่วงหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แบบเห็นการพลิกกลับฟื้นตัวได้ริบหรี่ทีเดียว ช่วงเช้าวานนี้ราคาทองคำฟื้นตัวเหนือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็ต้องเจอกับแรงขายทำกำไรออกมาจนหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีและดอลลาร์ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐขยับแข็งค่าขึ้นในรอบ 3 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปิเหนือจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี สร้างแรงกดดันต่อทองคำให้ปรับตัวต่ำลง นักวิเคราะห์ออกมาเตือนหากทองคำหลุด 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงต่อการปรับฐานต่อ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถวิ่งเหนือทะลุ 1,760-1,776 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่จะพลิกเทรนด์เป็นขาขึ้นก็ยังมีอยู่
ทองคำในระยะกลางมีสัญญาณการแกว่งตัวลดลง แม้ทองจะเผชิญกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวดีขึ้น จนหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น แต่ในระยะสั้นทองคำยังมีโอกาสดีดตัวกลับจากแรงซื้อทางกายภาพของผู้ค้าผลิตเครื่องประดับทองคำและนักลงทุนอินเดียและจีน ที่มักจะเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาอยู่ในจุดที่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุให้ช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้างยามนี้ ส่วนกองทุน SPDR แม้จะมีการเข้าซื้อบ้างบางส่วน แต่ภาพรวมก็ยังเป็นการเทขายต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีกว่า 100 ตัน
ทองคำแม้จะมีการปรับขึ้นได้บ้าง แต่ก็จะมีแรงขายสลับออกมาทำกำไรเช่นกัน และจากท่าทีของเฟดก็ดูเหมือนจะพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ อาจเลี่ยงไม่ได้ที่ราคาทองคำอาจจะดิ่งลงจากระดับปัจจุบันได้อีก และอาจลึกไปถึง 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในอีกไม่นานก็เป็นได้ หากสถานการณ์ตลาดทองคำยังเป็นเช่นนี้อีก
ประเมินทางเทคนิค ทองคำวันนี้ หากยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณ 1,695-1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มทองคำอาจปรับตัวต่ำได้อีกรอบ ซึ่งในรอบนี้แนวรับจะลึกลงไปที่บริเวณ 1,666-1,677ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในภาคเช้าเราอาจได้เห็นการปรับตัวขึ้นของทองคำได้บ้าง ซึ่งก็ต้องติดตามว่าจะสามารถหลุดแนวต้านแถวๆ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ แนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีและดัชนีดอลลาร์สหรัฐคู่ขนานไปกับการเทรดทองคำในเวลานี้
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,695-1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำให้เสี่ยงเปิดขายที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1,666 - 1,677 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรหรือเข้าซื้อคืนไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,653 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภาพรวมเทรนด์ใหญ่ยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะเปิดคำสั่งซื้อขายฝั่ง "Short" เป็นหลักเพื่อรักษาสมดุลย์พอร์ตลงทุน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองลง -5.82 ตัน ปัจจุบันถือครองทั้งสิ้น 1,063.44 ตัน
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
--------------------------------------
Support : 1,677 / 1,666 / 1,653
--------------------------------------
Resistance : 1,684 / 1,695 / 1,705
--------------------------------------
*การลงทุนทองคำมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ใช่เป็นเครื่องมือการันตีการทำกำไรได้ถูกต้อง 100% เสมอไป
หวยทองคำ 01/09/2020 (ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่)ปัจจัยหนุนแรกสำหรับทิศทางของทองคำในตอนนี้ยังคงเป็นปัจจัยหนุนมาจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่มีการปรับตัวร่วงลงถึง -1.41 ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีปัจจัยเชิงบวกของทิศทางทองคำคือการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ในการปรับนโยบายทางการเงินครั้งใหญ่
ส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปีมีการปรับตัวร่วงลงถึง 0.705% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีการเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีการส่งสัญญาณดังกล่าว
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่ามีการขยับตัวสูงขึ้นของทิศทางราคาทองคำแต่ดัชนีความกังวลของทองคำหรือ Gold Votatility ยังคงมีการขยับขึ้นเพียงแค่ 24.32 ในระดับการปิดตลาดของสหรัฐอเมริกา ต้องติดตามว่าในการเปิดตลาดของสหรัฐอเมริกาดัชนีดังกล่าวนี้จะมีความผันผวนขยับขึ้นหรือไม่
จึงส่งผลทำให้ทองคำมีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยสัญญาณดังกล่าวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับทิศทางของทองคำอย่างต่อเนื่อง
โดยถ้ามีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องกรอบแนวต้านสำคัญอย่างมากก็คือ 1992 เป็นแนวต้านที่หนึ่งและ 1995 เป็นแนวต้านที่สองและ 1998 เป็นแนวต้านที่สามและ 2000 เป็นแนวต้านที่สี่และ 2004 เป็นแนวต้านที่ห้ากับ 2006 เป็นแนวต้านที่หกและ 2009 เป็นแนวต้านที่เจ็ดและ 2013 เป็นแนวต้าน 18 และ 2015 เป็นแนวต้านสุดท้าย
แต่ถ้าเกิดมีปัจจัยหนุนในเชิงลบของทิศทางทองคำแนวรับสำคัญที่จะต้องติดตามแนวรับแรกก็คือ 1987 เป็นแนวรับที่หนึ่งและ 1984 เป็นแนวรับที่สองแรก 1980 เป็นแนวรับที่สามและ 1976 เป็นในรับที่สี่ละ 1974 เป็นแนวรับที่ห้าและ 1970 เป็นแนวรับที่หกและ 1967 เป็นแนวรับที่เจ็ดและ 1965 เป็นแนวรับที่แปดซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายในวันนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ : ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงต้องติดตามตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา คือการประกาศดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็มประกอบกับในส่วนของวันพุธที่จะถึงนี้จะเป็นการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาของ ADP และสุดท้ายวันศุกร์จะเป็นการประกาศตัวเลขอัตราการจ่ายงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างานของสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจจะสร้างความผันผวนและอาจจะกดดันให้ทองคำมีการขยับตัวผันผวนดังกล่าว
สัญญาณหวยทองคำอีกหนึ่งสัญญาณคือหุ้น Barrickข่าวใหญ่ที่สำคัญก็คือ ปู่ Warren Buffet ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Barrick Gold Corp. ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะและผลิตโลหะที่มีค่า ที่สุดอันดับสองของโลกในการถือหุ้นในครั้งนี้ในส่วนของ ปู่ Warren Buffet หรือบริษัท Berkshire Hathaway Inc. ได้เข้าซื้อหุ้น Barrick เป็นจำนวน 20.9 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.2% ของหุ้นที่ถือครองโดยนักลงทุนทั้งหมดและคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 565 ล้านดอลล่าห์ ซึ่งเป็นรายงานจาก Bloomberg และผู้ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ก็คือ ปู่ Warren Buffet พร้อมทั้งผู้บริหารด้านการลงทุนอีกสองท่านในบริษัท Berkshire Hathaway Inc.
ซึ่งแน่นอนว่าสะท้อนให้เห็นว่า ปู่ Warren Buffet เห็นอะไรบางอย่างในสินทรัพย์นี้ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ทองคำโดยตรงดังนั้นประเด็นที่สำคัญยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองว่าทิศทางทองคำจะมีการขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่
โดยในปี 2012 มีการขยับตัวสูงขึ้นของราคาหุ้น Barrick Gold Corp. 55.51 เหรียญต่อหุ้นซึ่งในตอนนี้ หุ้นของ Barrick Gold Corp. ยังอยู่เพียงแค่ 29.99 เหรียญต่อหุ้น
โดยในกรอบราคาสะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้น Barrick Gold Corp. มักจะไปด้วยกันกับทิศทางทองคำเช่นถ้าทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นราคาหุ้น Barrick Gold Corp. จะสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกันดังนั้นยังคงเป็นข้อสังเกตว่าทำไม ปู่ Warren Buffet ถึงเข้าซื้อหุ้น Barrick Gold Corp. ในจำนวนนี้
โดยข้อสังเกตนี้อาจจะส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าเกิดหุ้นของ Barrick Gold Corp. มีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งข้อสังเกตที่อาจจะจำเป็นจะต้องติดตามอย่างมากในครั้งนี้
ซึ่งถ้าสามารถขยับขึ้นไปได้แนวต้านที่หนึ่งก็คือ 1989 แนวต้านที่สองก็คือ 1996 แนวต้านที่สามก็คือ 2000 แนวต้านที่สี่ก็คือ 2008 แนวต้านที่ห้าก็คือ 2015 แนวต้านที่หกก็คือ 2022
แต่ถ้าเกิดปัจจัยหนุนที่ส่งผลลบให้กับทิศทางทองคำแนะนำควรติดตามกรอบแนวรับสำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 1985 แนวรับที่สองก็คือ 1980 แนวรับที่สามก็คือ 1978 แนวรับที่สี่ก็คือ 1975 แนวรับที่ห้าก็คือ 1972 แนวรับที่หกก็คือ 1966 แนวรับที่เจ็ดก็คือ 1957
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อจะทำให้ทองคำมีการปรับตัวร่วงลงนั้นก็คือทิศทางของบล็อกซีนโควิด-19 ว่าจะมาในช่วงไหนและอาจจำเป็นจะต้องติดตามถึงเรื่องสภาพเศรษฐกิจและเศรษฐกิจต่างๆซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ทิศทางทองคำมีความผันผวนในช่วงนี้
ติดตามวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเพราะส่งผลอย่างหนักสำหรับทิศทางทองคำในการปรับตัวร่วงลง