ไอเดียชุมชน
ดอลลาร์สหรัฐผันผวน เฟดจ่อหั่นดอกเบี้ยท่ามกลางความไม่แน่นอน🔹 การคาดการณ์รายสัปดาห์ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ: ดินแดนแห่งความสับสน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ถูกคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐในเดือนกันยายนต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย
---
## 📅 สรุปเหตุการณ์สำคัญของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เปิดสัปดาห์ด้วยท่าทีแข็งแกร่ง แม้โมเมนตัมจะอ่อนตัวลงเมื่อเข้าสู่กลางสัปดาห์ แต่ **ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY)** ยังสามารถปิดบวกได้เล็กน้อยใกล้ระดับ **99.00 จุด** เพียงพอที่จะลบการอ่อนค่าของสัปดาห์ก่อนหน้าและรักษาการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดกลางเดือนกันยายน 2025 ได้
แรงหนุนของดอลลาร์กลับมาอีกครั้งหลังจาก **ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ–จีน** ถึงทางตัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงความคืบหน้าทางการทูต หลังจากประธานาธิบดี **โดนัลด์ ทรัมป์** ส่งสัญญาณเตรียมพบกับ **สี จิ้นผิง** ในสัปดาห์หน้า
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาความไม่แน่นอนในวอชิงตัน เนื่องจาก **ความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง (shutdown)** ที่ยืดเยื้อยังคงกดดันความเชื่อมั่นของตลาด ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย–ยูเครนยังคงอยู่ในพื้นหลัง เช่นเดียวกับการพบปะระหว่างทรัมป์–ปูตินที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
ในตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มชะลอการปรับตัวลง และขยับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ บ่งชี้ถึงการพักตัวของแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมาในช่วงเดือนก่อนหน้า
---
## 🏦 ท่าทีผ่อนคลายของเฟด (The Fed’s Dovish Tilt)
นักลงทุนเพิ่มเดิมพันว่า **เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องหลายครั้ง** หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดแสดงให้เห็นแรงกดดันด้านราคาที่ลดลงเล็กน้อยในเดือนกันยายน
ข้อมูลจาก **สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS)** ชี้ว่า **ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)** เพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) สูงกว่าระดับ 2.9% ของเดือนสิงหาคมเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ การอ่านค่าที่อ่อนลงนี้ยืนยันมุมมองว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอลง ซึ่งเปิดโอกาสให้เฟดสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้มากขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อิงอัตราดอกเบี้ยของเฟดบ่งชี้เกือบแน่นอนว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะ **ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงสู่ช่วง 3.75%–4.00%** ในการประชุมวันที่ **29 ตุลาคม**
นอกจากนี้ ตลาดยังให้โอกาสกว่า 95% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม และมีความเป็นไปได้ประมาณ 55% ที่จะมีการลดอีกครั้งในเดือนมกราคม
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่า **เฟดกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น** ขณะที่เงินเฟ้อค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมาย 2%
---
## 🏛️ วิกฤติการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4
วิกฤติ **รัฐบาลสหรัฐปิดทำการ (shutdown)** ยืดเยื้อมาจนเข้าสู่วันที่ 24 โดยยังไม่มีสัญญาณของการประนีประนอมระหว่างพรรคการเมือง ทั้งสภาคองเกรสและวุฒิสภายังอยู่ในภาวะชะงักงัน การลงมติครั้งต่อไปถูกเลื่อนออกไปถึงวันอังคาร ซึ่งหลายฝ่ายไม่คาดว่าจะได้ข้อสรุป
นี่คือ **การปิดรัฐบาลครั้งที่ยาวนานเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สหรัฐ** และหากยืดไปถึงวันที่ **5 พฤศจิกายน** จะกลายเป็นการปิดรัฐบาลที่ยาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าสถิติเดิม 35 วันในปี 2018–2019
ผลกระทบเริ่มชัดเจนมากขึ้น — **เจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายแสนคนขาดรายได้**, **บริการสาธารณะดำเนินงานอย่างจำกัด**, และ **ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเริ่มสั่นคลอน** นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าการปิดแต่ละสัปดาห์อาจทำให้ GDP ไตรมาสนั้นหดตัวลงเป็นทศนิยม และกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการจ้างงาน
เมื่อวันศุกร์ ความขัดแย้งในวุฒิสภาปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อพรรคเดโมแครตปฏิเสธข้อเสนอของรีพับลิกันที่จะจ่ายเงินเฉพาะให้ “พนักงานจำเป็น” ขณะที่รีพับลิกันก็ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ครอบคลุมพนักงานที่ถูกพักงานด้วย ผลลัพธ์คือทุกฝ่ายยังไม่ได้รับค่าจ้าง เพิ่มแรงกดดันต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีทางออก
---
## 🇺🇸–🇨🇳 ภาษีศุลกากร: ชัยชนะเชิงยุทธวิธีแต่เสี่ยงในระยะยาว
**ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์** เตรียมพบกับ **ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง** ระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
การพบกันครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดทางการค้าและรื้อฟื้นการเจรจาที่หยุดชะงักไปก่อนหน้านี้ โดยจะเป็น **การพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคม** และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019
ช่วงเวลานี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ **ข้อตกลงหยุดยิงทางการค้า (truce)** จะหมดอายุในวันที่ **10 พฤศจิกายน** หากทั้งสองฝ่ายไม่ต่ออายุ และทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายวันที่ **1 พฤศจิกายน** สำหรับการขึ้นภาษีรอบใหม่ 100%
มาตรการตอบโต้กันระหว่างสองประเทศยังดำเนินต่อไป เช่น **ค่าธรรมเนียมท่าเรือที่สูงขึ้น**, **การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีและแร่หายาก**, รวมถึง **ข้อพิพาทด้านการค้าเกษตร**
นอกเหนือจากเศรษฐกิจแล้ว ประเด็นการเจรจายังครอบคลุมถึง **ไต้หวัน**, **การลักลอบค้ายาเฟนทานิล**, และ **การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคแปซิฟิก** ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการพบปะครั้งนี้มีเดิมพันมากกว่าแค่เรื่องการค้า
ในด้านเศรษฐกิจ มาตรการภาษีอาจให้ผลทางการเมืองระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อและชะลอการเติบโต แม้บางฝ่ายในรัฐบาลทรัมป์จะมองว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนสามารถช่วยภาคส่งออกได้ แต่ **การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring)** ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือประหยัด และภาษีเพียงอย่างเดียวไม่อาจบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
---
## 💵 แนวโน้มต่อไปของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
การปิดรัฐบาลยังคงสร้าง “ภาพเศรษฐกิจที่พร่ามัว” เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายชุดถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ตลาดขาดแนวทางชัดเจนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจจริง
ดังนั้น **การประชุมคณะกรรมการ FOMC สัปดาห์หน้า** และ **การแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์** จะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตา นอกจากนี้ รายงาน **ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence)** ของ Conference Board จะเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ตลาดให้ความสนใจ
หลังการประชุม นักลงทุนจะวิเคราะห์ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างละเอียด เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับ “จุดสมดุล” ระหว่างการชะลอตัวของเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่เย็นลง และผลต่อทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
---
## 📊 มุมมองทางเทคนิค
หากการฟื้นตัวของดอลลาร์ยังต่อเนื่อง **ดัชนี DXY** มีแนวต้านถัดไปที่ระดับ **99.56 (9 ต.ค.)** ก่อนจะเจอกับแนวต้านใหญ่ที่ **100.26 (1 ส.ค.)** หากทะลุผ่านได้ อาจกลับไปทดสอบระดับสูงสุดของเดือนพฤษภาคมที่ **100.54–101.97**
ด้านแนวรับสำคัญอยู่ที่ **98.03 (17 ต.ค.)** หากหลุดระดับนี้ มีโอกาสอ่อนต่อถึง **96.21 (17 ก.ย. 2025)** และฐานเดิมในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่ **95.13** หรือแม้แต่จุดต่ำสุดของปี 2022 ที่ **94.62**
ขณะนี้ดัชนีซื้อขายอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวทั้ง 200 วัน (100.72) และ 200 สัปดาห์ (103.26) ซึ่งยังคงรักษาแนวโน้มขาลงโดยรวมไว้
อย่างไรก็ตาม **สัญญาณโมเมนตัมเริ่มเป็นบวก** โดยค่า RSI อยู่เหนือระดับ 57 แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงอยู่ ส่วนค่า ADX ที่ระดับ 19 บ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ
---
## ⚖️ บทสรุป
แนวโน้มระยะสั้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงไม่ชัดเจน แม้เฟดจะเผชิญแรงกดดันทางการเมืองลดลง แต่ตลาดยังคงเดิมพันต่อไปว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ความเสี่ยงจากภาษี การขยายตัวของหนี้ภาครัฐ ความตึงเครียดทางการค้า และการปิดรัฐบาลที่ยืดเยื้อ
แม้ดอลลาร์จะสามารถดีดกลับได้เป็นช่วง ๆ แต่ก็มักไม่สามารถรักษาแรงหนุนไว้ได้ยาวนาน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าแนวโน้มหลักเป็นขาลงต่อไป — ไม่ใช่การร่วงแรงทันที แต่เป็นการค่อย ๆ อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
สัญญาณบวกล่าสุดสำหรับทองคำ!คุณกำลังติดตาม XAUUSD อยู่หรือไม่?
หลังจากการปรับฐานอย่างรุนแรงจากบริเวณ 4,380 ทองคำ (XAUUSD) ได้แตะแนวรับสำคัญที่ระดับ 4,050–4,080 และดีดตัวกลับ
บริเวณนี้สอดคล้องกับแนวรับด้านล่างของช่องขาลงและโซนอุปสงค์ที่มีสภาพคล่องสูง บ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังค่อยๆ เข้าควบคุมตลาด
ในกรอบเวลา 45 นาที โครงสร้างราคาแสดงให้เห็นว่ากำลังเกิดรูปแบบการฟื้นตัวแบบ W
หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับปัจจุบันได้ เป้าหมายระยะสั้นจะอยู่ที่ 4,310–4,330 และต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณ 4,380 ซึ่งจะไปบรรจบกับระดับ Fibonacci extension ที่ 1.618
มหภาค:
นักลงทุนกำลังรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันนี้ (24 ตุลาคม)
หากตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดอลลาร์สหรัฐอาจอ่อนค่าลง ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันให้ทองคำดีดตัวกลับอย่างแข็งแกร่ง
XAUUSD – ความกดดันในการลดราคายังคงมีหลังจากข้อมูล CPIเนื่องจาก CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 3.1% (จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9%) อัตราเงินเฟ้อยังคงสูง ทำให้ Fed อาจจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ความคาดหวังในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายโอกาสในการถือทองคำ (สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ กดดันทองคำลง ขณะเดียวกัน USD ก็แข็งค่า.
บนกราฟ H4, XAUUSD กำลังปรับตัวลงหลังจากแตะที่ระดับแนวต้าน 4,140,000 ราคาอาจจะลดลงต่อหากยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงระยะยาว จุดรองรับสำคัญ ถัดไปที่ 4,000,000 อาจจะมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่แนวโน้มขาลงจะดำเนินต่อไป.
การคาดการณ์:
XAUUSD อาจลดลงต่อเนื่อง เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงทำให้ทองคำมีความน่าสนใจน้อยลง.
ระดับรองรับถัดไป: 4,000,000, หากราคาผ่านไปได้ อาจจะมีการลดลงลึกกว่าที่คาด.
EURUSD Daily Analysis 24/10/2025 by AlphaQuantXTrading note: EURUSD
สหภาพยุโรป (EU) ประกาศขึ้นบัญชีดำโรงกลั่นน้ำมันจีน 2 แห่ง และไชน่าออยล์ ฮ่องกง (Chinaoil Hong Kong) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจค้าพลังงานของปิโตรไชน่า (PetroChina) หลังพบว่ายังคงซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย
จากเอกสารทางการของ EU ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) ระบุว่า โรงกลั่นที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ เลียวหยาง ปิโตรเคมิคัล (Liaoyang Petrochemical) และซานตง ยูหลง ปิโตรเคมิคัล (Shandong Yulong Petrochemical) ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 6 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นราว 3% ของกำลังการผลิตน้ำมันกลั่นทั้งหมด 19 ล้านบาร์เรลต่อวันของจีน
EU ระบุว่า บริษัทน้ำมันทั้งสามแห่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรัสเซียรายสำคัญ จึงถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลรัสเซีย
แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ EU ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน แต่ครั้งนี้ถือว่ามีผลกระทบทางเศรษฐกิจมากที่สุด โดย EU ร่วมกับกลุ่มประเทศ G7 เพื่อลดช่องทางหารายได้จากน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการทำสงครามกับยูเครน
SELL : 1.16027
TP : 1.15557
SL : 1.16300
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ราคายังคงไต่ลงเรื่อยๆ โดยการยื่นต่ำกว่าเส้น EMA ทั้งสามเส้น เป็นไปได้ที่ราคาจะสวิงขึ้นลงสั้นๆและทยอยลงต่อ จึงทำการเข้า SELL โดยตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 100 จุด
RSI : เป็นกลาง เน้นทำกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน ซึ่งเป็นตัวกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
วิเคราะห์หุ้น DELTA: เมื่อกราฟขึ้นถึง 127.2% แต่กำไรกลับลดลง🟡 วิเคราะห์หุ้น DELTA: เมื่อกราฟขึ้นถึง 127.2% แต่กำไรกลับลดลง
หุ้น DELTA กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ราคาทะยานขึ้นแตะระดับ Fibonacci 127.2% ที่ราว 206.50 บาท — จุดที่สะท้อนแรงซื้อมหาศาลจากทั้งกลุ่มเก็งกำไรและนักลงทุนที่มองอนาคตอุตสาหกรรม AI–EV แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นระดับที่หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า…
“ราคานี้ยังสะท้อนพื้นฐานอยู่ไหม?”
ลองประเมินทุกมิติไปพร้อมกันครับ 👇
________________________________________
1️⃣ การขึ้นมาถึง 127.2% — สัญญาณเตือนของแรงซื้อที่อาจหมดรอบ
กราฟ DELTA ล่าสุดแสดงการขึ้นแรงต่อเนื่องจนถึงโซน Fibonacci 127.2% @ 206.50 บาท
ซึ่งในเชิงเทคนิคถือเป็น “จุดเร่งสุดท้าย” ของขาขึ้นรอบใหญ่
📍 เมื่อราคาวิ่งแรงขนาดนี้:
• โอกาสเกิด “การพักฐาน (Pullback)” หรือ “กลับตัวชั่วคราว” สูงมาก
• นักลงทุนที่เข้ามาช่วงต้นรอบ มักเริ่มทยอยขายทำกำไร
• ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่มารองรับ เช่น งบโตแรงกว่าคาด หรือข่าวดีด้านอุตสาหกรรม ราคามักเข้าสู่ช่วง “ย่อเพื่อหาฐานใหม่”
ด้านพื้นฐานล่าสุด (Q2/2025) บริษัทมีรายได้เติบโตเพียง 6.5% YoY
แต่ กำไรสุทธิลดลงกว่า 29.5% YoY — จุดนี้คือสัญญาณ “แรงซื้อมากกว่าพื้นฐาน” อย่างชัดเจน
🔸 สรุป:
ราคาที่ขึ้นถึง 127.2% บ่งชี้แรงซื้อมหาศาล แต่ก็สะท้อน “ความร้อนแรงเกินจริง” และความเสี่ยงในการกลับตัว หากไม่มีปัจจัยใหม่หนุนในรอบถัดไป
________________________________________
2️⃣ งบ Q3/2025 (24 ต.ค. 68) – ราคานี้เกินมูลค่าหรือยัง?
มาดูตัวเลขพื้นฐานกันชัด ๆ 👇
รายการ ตัวเลขโดยประมาณ
รายได้ Q2/2025 44,490 ล้านบาท (+6.5% YoY)
กำไรสุทธิ 4,629 ล้านบาท (−29.5% YoY)
EPS 12 เดือนล่าสุด ~1.46 บาท
ราคาหุ้น (อิงกราฟ) ~200 บาท
P/E โดยประมาณ ≈ 137 เท่า!
แม้บทวิเคราะห์บางสำนักคาดว่า
• ปี 2025 กำไรอาจโต +11.6% YoY (ราว 21,130 ล้านบาท)
• ปี 2026 โตต่ออีก +36% (ราว 28,820 ล้านบาท)
แต่ถึงอย่างนั้น P/E ยังสูงเกิน 80–100 เท่า
ถือว่า “ราคานำหน้าอนาคตไปไกล” และเปิดช่องให้เกิดแรงขายได้ง่าย หากผลประกอบการไม่ถึงเป้า
🔸 สรุป:
ราคาช่วง 200 บาทสะท้อนความคาดหวังเกินจริง (Overvalued)
เว้นแต่งบ Q3 จะสร้างเซอร์ไพรส์เชิงบวก — ไม่เช่นนั้นความเสี่ยงในการ “ปรับฐานหลังประกาศงบ” มีสูงมาก
________________________________________
3️⃣ ความหมายของ “ติดแคชบาลานซ์” – เมื่อการเก็งกำไรแรงเกินพื้นฐาน
หลายคนสงสัยว่า “ติดแคชบาลานซ์” คืออะไร?
ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการนี้ เมื่อหุ้นมีการซื้อขายผิดปกติ — เช่น ราคาพุ่งแรง หรือมีการเก็งกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ
📘 ความหมายสั้น ๆ:
หุ้นที่ “ติด Cash Balance” ต้องซื้อด้วยเงินสดเต็มจำนวน ห้ามใช้เครดิต หรือ Margin
ผลกระทบที่มักเกิดขึ้น:
• แรงซื้อจากรายย่อยลดลงทันที (เพราะใช้วงเงินไม่ได้)
• ราคาหุ้นมักเข้าสู่ภาวะ “พักตัวหรือย่อแรง” ชั่วคราว
• หุ้นที่พื้นฐานยังดี มักฟื้นหลังพ้นระยะ 3 สัปดาห์
• หุ้นที่ราคานำหน้าพื้นฐาน มักเข้าสู่รอบปรับฐานระยะกลาง
ในกรณีของ DELTA —
ด้วยราคาที่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานและ P/E ระดับเกิน 100 เท่า
หากมีการวิ่งแรงต่อเนื่อง ก็เข้าข่ายเสี่ยง ถูกเข้ามาตรการ Cash Balance ได้ง่ายมาก
🔸 สรุป:
Cash Balance ไม่ได้แปลว่าหุ้นไม่ดี
แต่หมายถึง “แรงเก็งกำไรสูงผิดปกติ”
และบ่งชี้ว่า “ตลาดกำลังส่งสัญญาณเตือนให้ระวัง”
________________________________________
🎯 บทสรุปภาพรวมความเสี่ยง DELTA
มิติ สถานะปัจจุบัน ความเสี่ยง
📈 ราคาเทียบเทคนิค ขึ้นแตะ 127.2% @206.50 เสี่ยงพักฐานหรือกลับตัว
💰 พื้นฐาน Q2/25 รายได้โตแต่กำไรลด 29.5% ผลประกอบการยังไม่รองรับราคา
⚖️ มูลค่า (P/E) ~130–140 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหลายเท่า
🚨 งบ Q3 (24 ต.ค. 68) ความคาดหวังสูง ถ้าผิดคาด = แรงขายทันที
💳 Cash Balance มีโอกาสเข้ามาตรการ ลดแรงซื้อและสภาพคล่อง
________________________________________
💡 มุมมองเชิงกลยุทธ์
• ผู้ถืออยู่แล้ว:
แนะนำทยอยขายหรือปรับลดพอร์ตบางส่วน เพื่อป้องกันแรงย่อหลังประกาศงบ
• ผู้รอจังหวะเข้า:
ยังไม่เหมาะจะ “ไล่ราคา” ควรรอให้ราคาย่อตัวมาที่โซนฐานใหม่ หรือรอผ่านรอบ Cash Balance ก่อน
• นักลงทุนระยะยาว:
DELTA ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในเชิงธุรกิจ
แต่ “ราคาปัจจุบัน” สะท้อนอนาคตมากเกินไป — ควรรอจังหวะที่ Valuation สมเหตุสมผลกว่านี้
________________________________________
🔍 บทสรุปสุดท้าย
DELTA วันนี้ ไม่ใช่หุ้นน่ากลัว — แต่เป็นหุ้น “น่าระวัง”
เพราะราคานำหน้ากำไรไปไกล
และเมื่อแรงซื้อสะสมมากเกินไป … ตลาดย่อมต้องพักหายใจ
________________________________________
IndicatorGDHblackpantherSystemวิเคราะห์แบบสั้นๆ รอบบ่ายนะคะ
ภาพรวมตลาด (TF 1H)
Trend: ขาลง (Lower High – Lower Low)
Momentum: ยังเป็นลบ (-18.13)
EMA เรียงตัวลง (แดง > น้ำเงิน > เหลือง)
โซนสำคัญ
🔴 L3: 4,185 – 4,195 (ต้านหลัก)
🟦 L2: 4,120 – 4,140 (ต้านย่อย)
🟨 L1: 4,060 – 4,070 (แนวรับระยะสั้น)
🟩 GDH DEMAND: 3,900 – 3,930 (แนวรับใหญ่)
การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD (24 ตุลาคม 2025)
1️⃣ โมเมนตัม
กรอบเวลา D1:
โมเมนตัม D1 ปิดอยู่ในโซน Oversold แสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มอ่อนลงอย่างชัดเจน
ความเป็นไปได้ที่จะเกิด การกลับตัวขึ้น (Bullish Reversal) มีสูงมากในตอนนี้
ต้องการให้มี แท่งเทียน D1 ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง เพื่อยืนยันการกลับตัว
หากได้รับการยืนยัน ราคามีโอกาสที่จะ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องประมาณ 5 วัน
กรอบเวลา H4:
โมเมนตัม H4 ยังคงลดลงต่อเนื่อง
หากแท่ง H4 ปิดในรูปแบบเดียวกับตอนนี้ มีแนวโน้มว่าจะเกิด คลื่นขาลงหลักในวันนี้ (ประมาณ 5 แท่ง H4)
เนื่องจากวันนี้เป็น วันศุกร์ โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงลึกยิ่งขึ้นยังคงมีอยู่
→ ดังนั้น ควร สังเกตและวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนเข้าทำการซื้อขาย
กรอบเวลา H1:
โมเมนตัม H1 ยังคงอ่อนตัวลง
ราคามีแนวโน้มจะลดลงไปยัง โซนสภาพคล่อง 4098
หากทะลุระดับนี้ได้ เป้าหมายถัดไปคือ 4050
2️⃣ โครงสร้างคลื่น
กรอบเวลา D1:
ราคายังคงเคลื่อนไหวแบบ ไซด์เวย์ต่อเนื่องหลายวัน
ตามทฤษฎี Elliott Wave เมื่อราคาถึงเป้าหมายแล้ว มักต้องใช้เวลาเพื่อสร้าง สมดุลด้านเวลา (Time Harmony) ก่อนสิ้นสุดคลื่น
ดังนั้น การเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ในช่วงนี้คือการสร้างสมดุลของเวลา
ตอนนี้ยัง เร็วเกินไปที่จะยืนยัน ว่านี่คือ คลื่น 4 สีเหลือง หรือเพียงแค่ คลื่น 4 ย่อยในคลื่น 3 สีเหลือง
กรอบเวลา H4:
มี 2 สถานการณ์หลัก:
คลื่น Y สีฟ้า ยังคงดำเนินต่อไป
คลื่น 5 สีม่วง อาจเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เพื่อแยกแยะว่าข้อใดถูกต้อง ต้องเฝ้าดู เฟสขาลงของ H4 ปัจจุบัน:
หากราคายัง ไม่หลุดต่ำกว่าจุดต่ำก่อนหน้า และโมเมนตัม H4 เข้าสู่โซน Oversold มีความเป็นไปได้สูงว่า คลื่น 5 สีม่วงได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีเป้าหมายบริเวณ 4476
แต่ถ้าราคา หลุดต่ำกว่าจุดต่ำก่อนหน้า แสดงว่า คลื่นแก้ไข Y สีฟ้ายังดำเนินต่อไป หรือราคาอยู่ใน โครงสร้างแก้ไขที่ใหญ่กว่า
ในกรณีนั้น ให้จับตาดู โซนสภาพคล่องด้านล่าง โดยเป้าหมายการสิ้นสุดคลื่น Y อยู่ที่ประมาณ 3927
กรอบเวลา H1:
บนกราฟ H1 จะเห็นว่า คลื่น C ได้ จบในรูปแบบสามเหลี่ยมสิ้นสุด (Ending Triangle)
ตามทฤษฎี Elliott หลังจากสามเหลี่ยมสิ้นสุด ราคามักจะ ลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
แต่ในขณะนี้ ยังไม่เห็นการลดลงแรงดังกล่าว ดังนั้นเราควร ติดตามและสังเกตต่อไป
มี 2 สถานการณ์สำคัญ ที่ต้องพิจารณา:
หากราคาลดลงช้า ๆ มาที่โซนสภาพคล่อง 4050, คลื่นมีการทับซ้อนกัน และโมเมนตัม H4 เข้าสู่โซน Oversold แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ คลื่น 5 ได้เริ่มขึ้นแล้ว
→ ในกรณีนี้ ควร มองหาจังหวะซื้อ (Buy)
หากราคาลดลงอย่างรวดเร็วและชัน, มีแนวโน้มว่า คลื่น Y สีฟ้ายังไม่จบ หรือราคาอยู่ใน ช่วงแก้ไขของโครงสร้างที่ใหญ่กว่า
→ ในกรณีนี้ ราคามีโอกาส หลุดต่ำกว่า 4004 และเราควร รอจังหวะซื้อบริเวณ 3953 หรือ 3927
3️⃣ แผนการเทรด
ฝั่งขาย (Sell Setup):
โซนขายเมื่อวานที่ 4149 ทำกำไรไปแล้วประมาณ +400 pips
ขณะนี้ยังไม่มีโซนขายใหม่ที่เหมาะสม → รอการทะลุของโซนสภาพคล่อง เพื่อหาโอกาสขายรอบใหม่
ฝั่งซื้อ (Buy Setup):
จับตาการตอบสนองของราคาในบริเวณ:
4050
3953
3927
⚠️ หมายเหตุ:
ขณะนี้ราคากำลังอยู่ใน โซนที่อ่อนไหว โดยแต่ละแท่งเทียนมี ระยะเคลื่อนไหวมากกว่า 200 pips
→ ดังนั้น การตั้งคำสั่ง Limit Order ถือว่ามีความเสี่ยงสูง และอาจโดน Stop Loss ได้ง่าย
XAUUSD Daily Analysis 24/10/2025 by AlphaQuantXTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ขณะเดียวกัน สื่อรายงานว่า คณะบริหารของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน เพื่อตอบโต้จีนที่จำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศ
SELL : 4095
TP : 4088
SL : 4161
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคาเริ่มมีย่อตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ขาลงยังมีลุ้นต่อจากการยืนต่ำกว่าเส้น EMA100และ 200 เป็นไปได้ที่ราคาจะเป็นเพียงการย่อขึ้นแล้วลงต่อ จึงทำการเข้า SELL โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณแท่งเทียนการลงต่อจากการยืนต่ำกว่าเส้น EMA ทั้งสามเส้น โดยแนวรับฐานล่างยังเป็นตัวเบรคการเทขายอยู่ แต่ก็ยัังน่าลุ้นในการลงต่อ ยังเน้นเก็บระยะสั้นในกรอบสวิิงแคบๆจากฐานรับเก่า ในกรอบ H1 โดยตั้งเป้าหมายกำไร 1000 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นกลางในขาลง แต่มีสัญญาณไดเวอเจ้นขาลงระยะสั้นๆ เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
AUD/JPY แข็งเหนือ 99.50 หนุนโดยความคืบหน้าการค้าสหรัฐฯ–จีน**AUD/JPY ยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกเหนือระดับ 99.50 เนื่องจากการเจรจาการค้าช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน**
ค่าเงิน **AUD/JPY** ยังคงปรับตัวอยู่บริเวณระดับ **99.35** ในช่วงการซื้อขายยุโรปตอนต้นของวันศุกร์
ความเชื่อมั่นในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่าง **สหรัฐฯ–จีน** ช่วยหนุนค่าเงิน **ออสซี่ (AUD)** ซึ่งมักเคลื่อนไหวตามเศรษฐกิจจีน
ตลาดได้เลื่อนการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปออกไปเป็นช่วง **เดือนธันวาคมเป็นอย่างเร็วที่สุด**
---
ในช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาในยุโรป คู่เงิน **AUD/JPY** ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าใกล้ระดับ 99.35
ความหวังในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่าง **สหรัฐฯ และจีน** ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น (JPY)
นักลงทุนจะจับตาดูสัญญาณเพิ่มเติมจาก **ถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA)** นาง **มิเชล บูลล็อก (Michele Bullock)** ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
---
### **แรงหนุนจากการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า**
ค่าเงินออสซี่ได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง **สหรัฐอเมริกา** และ **จีน**
ทั้งสองประเทศเตรียมเริ่มต้นการเจรจาการค้าระดับสูงรอบใหม่ที่ **ประเทศมาเลเซีย** ในวันศุกร์นี้ ซึ่งถือเป็น **รอบที่ห้า** ของการหารือ
โดยมี **เหอ ลี่เฟิง (He Lifeng)** รองนายกรัฐมนตรีของจีน เข้าร่วมการประชุมร่วมกับ **สก็อต เบสเซนต์ (Scott Bessent)** รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และ **เจมิสัน เกรียร์ (Jamieson Greer)** ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ
ประธานาธิบดี **โดนัลด์ ทรัมป์** ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี **สี จิ้นผิง** ของจีน มีกำหนดพบปะกันในวันพฤหัสบดีหน้า ระหว่างการประชุมสุดยอด **เอเปก (APEC)**
การเจรจาครั้งนี้อาจครอบคลุมตั้งแต่การที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ไปจนถึงการจำกัดอาวุธนิวเคลียร์
พัฒนาการเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนนี้ อาจส่งผลให้ค่าเงิน **ออสซี่ (AUD)** ซึ่งมักเคลื่อนไหวตามเศรษฐกิจจีนแข็งค่าขึ้น เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้าหลักของออสเตรเลีย
---
### **แนวโน้มของเงินเยน (JPY)**
ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย แม้ว่าข้อมูล **อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation)** ของญี่ปุ่นจะเร่งตัวขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
รายงานดังกล่าวออกมาก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ **ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)** ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าธนาคารจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
---
### **แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและผลกระทบต่อค่าเงิน**
ตลาดได้เลื่อนการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปไปเป็นช่วง **เดือนธันวาคมเป็นอย่างเร็วที่สุด** โดยส่วนใหญ่คาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
ปัจจัยดังกล่าวอาจจำกัดการแข็งค่าของเงินเยนได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศความระมัดระวังและความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน อาจกระตุ้นความต้องการถือครอง **สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินเยน (JPY)** และกดดันต่อการเคลื่อนไหวของคู่เงินนี้
XAU/USD – ทองคำรักษาการสะสมใหม่บน OB, เป้าหมายคลื่นฟื้นตัว🔍 บริบทตลาด
Sau nhịp giảm mạnh từ đỉnh ATH GOLD 4,371 USD , vàng đã hoàn tất pha quét thanh khoản đáy quanh 4,010 USD và tạo vùng tích lũy ổn định trên Order Block 4,080 USD .
Phe mua đang từng bước lấy lại quyền kiểm soát khi giá giữ vững OB và xuất hiện các dấu hiệu hấp thụ cung ngắn hạn.
Vùng Resistance 4,149 USD hiện làรั้วกั้นชั่วคราว, nếu phá vỡสำเร็จ – ทองคำอาจเปิดใช้งานคลื่นฟื้นตัวไปยังพื้นที่ Fair Value Gap (FVG) ที่ 4,197 และ 4,235 USD.
โครงสร้างราคาปัจจุบันเอียงไปทาง bullish retracement structure – ให้ความสำคัญกับคำสั่งซื้อเมื่อราคาตอบสนองจากพื้นที่อุปสงค์ที่ใช้งานอยู่
💎 โครงสร้างทางเทคนิคหลัก
Order Block (OB): 4,080 – 4,085 USD → พื้นที่สนับสนุนที่สำคัญ, สอดคล้องกับ Fibo 0.786, ทำหน้าที่เป็นฐานสะสม
Resistance (Breakout Level): 4,149 USD → พื้นที่ยืนยันสำหรับทิศทางขึ้น, ต้องการการทำลายที่ชัดเจน
FVG1: 4,197 – 4,210 USD → เป้าหมายแรก, พื้นที่ทดสอบอุปทานระยะสั้น
FVG2: 4,225 – 4,235 USD → พื้นที่ต้านทานสอดคล้อง, ความเป็นไปได้ในการทำกำไรคลื่นฟื้นตัว
ATH GOLD: 4,371 USD → ต้านทานระยะยาว, เป้าหมายขยายถ้าตลาดรักษากระแสเงินซื้อที่แข็งแกร่ง
โครงสร้างโดยรวม:
→ ระยะสั้น: bullish ฟื้นตัว
→ ระยะกลาง: สะสมใหม่หลังจากช่วงการปรับลึก
📈 สถานการณ์การซื้อขาย
1️⃣ BUY Setup #1 – Retest Order Block 4,080 USD
Entry: 4,080 – 4,085
SL: 4,060
TP1: 4,149
TP2: 4,197
TP3: 4,235
✅ เงื่อนไข:
รอราคาฟื้นตัวไปยังพื้นที่ OB และปรากฏสัญญาณการกลับตัวขึ้นที่ชัดเจน (rejection หรือ bullish engulfing)
➡️ นี่คือการตั้งค่ามาตรฐาน “Buy the Dip” – ไปพร้อมกับโครงสร้างฟื้นตัว, มีความน่าจะเป็นสูงเนื่องจากสอดคล้องกับ OB + Fibonacci สนับสนุนที่แข็งแกร่ง
2️⃣ BUY Setup #2 – Break & Retest vùng 4,149 USD
Entry: 4,149 – 4,155
SL: 4,130
TP1: 4,197
TP2: 4,235
✅ เงื่อนไข:
ราคาทะลุผ่านพื้นที่ต้านทาน 4,149 ด้วยปริมาณที่ดีและกลับมาทดสอบเบา ๆ, ไม่ปิดเทียนต่ำกว่า 4,130
➡️ การตั้งค่าตามแนวโน้ม, ตามกระแสเงินเมื่อยืนยันการทำลายโครงสร้างต้านทานระยะสั้น
3️⃣ SELL Scalp – ปฏิกิริยาที่ FVG 4,235 USD (ระยะสั้น)
Entry: 4,230 – 4,235
SL: 4,245
TP: 4,197 → 4,150
✅ เงื่อนไข:
ถ้าทองคำตอบสนองอ่อนแอและไม่มีการติดตามซื้อที่พื้นที่ FVG2 → สามารถขายเทคนิคระยะสั้นตาม pullback
➡️ ขายระยะสั้น – ทำเฉพาะเมื่อไม่มีสัญญาณยืนยันการต่อเนื่องขึ้น
⚠️ การจัดการความเสี่ยง
ให้ความสำคัญกับการซื้อตามโครงสร้างหลัก (retracement bullish)
ไม่ FOMO ซื้อระหว่างพื้นที่ (4,110 – 4,130)
ถ้า H1 ปิดเทียนต่ำกว่า 4,060 → ทำให้สถานการณ์ขึ้นไม่มีผล, รอการสร้างโครงสร้างใหม่
รักษาน้ำหนักคำสั่งที่เหมาะสมเมื่อซื้อขายรอบพื้นที่ FVG เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
💬 สรุป
ทองคำอยู่ในกระบวนการสะสมใหม่และเตรียมพร้อมสำหรับคลื่นฟื้นตัวทางเทคนิค
ตราบใดที่ราคายังคงรักษาพื้นที่ Order Block 4,080 USD , โครงสร้างฟื้นตัวยังคงมีผลและเป้าหมายที่เป็นไปได้คือ 4,197 → 4,235 USD
ถ้าทะลุผ่าน 4,235 USD, ตลาดอาจขยายการขึ้นไปยังพื้นที่ 4,300 – 4,370 USD (ATH GOLD)
👉 กลยุทธ์ที่เหมาะสม:
ซื้อ 4,080 → TP 4,197 / 4,235.
ซื้อเพิ่มเมื่อทะลุ 4,149 ยืนยันทิศทางขึ้น
ขายปฏิกิริยาสั้นที่ 4,235 ถ้าไม่มีสัญญาณ break ต่อเนื่อง
🔥 “ความอดทนที่ฐาน — กำไรมาถึงผู้ที่รอการตอบสนอง OB”
⏰ กรอบเวลา: 1H
📅 อัปเดต: 24/10/2025
✍️ วิเคราะห์โดย: Captain Vincent
BTCUSD Daily Analysis 26/10/2025 by AlphaQuantXBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
XRP พุ่งสวนทาง Death Cross ขึ้น 5% เทียบ Bitcoin หลัง Ripple เข้าซื้อ Hidden Road ปูทางเปิดศึก Stablecoin ข่าว RIPPLE (XRP)
แม้จะส่งสัญญาณ “Death Cross” ที่มักบ่งชี้แนวโน้มขาลง แต่ XRP กลับพลิกพุ่งขึ้นกว่า 5% เทียบกับ Bitcoin ภายในเวลาไม่นาน ขณะที่บริษัทแม่อย่าง Ripple ประกาศเข้าซื้อกิจการ Hidden Road เพื่อเตรียมเปิดฉาก “การปฏิวัติวงการ Stablecoin” ผ่านโทเค็น RLUSD ซึ่งอาจท้าทายการผูกขาดของ USDT และ USDC ในตลาด
BUY : 11500
TP : 111881
SL : 111427
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF 4
ราคายังคงพักตัวในกรอบแคบๆ แต่มีลุ้นในขาขึ้นสวิงรอบสั้นๆ จากการยืนเหนือเส้น EMA20 โดยราคยังไม่เลือกทางที่แน่นอน ให้เน้นกำไรระยะสั้นตามกรอบสวิงขึ้นลง จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการเข้าออกออเดอร์จากกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ ซึ่งเป็นกรอบพักตัวระยสั้นๆ ราคายังไม่เลือกทางที่ชัดเจน จึงแนะนะให้เทรดในกรอบพักตัวไปก่อน ยังคงเน้นเก็บกำไรสั้นๆ
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น (Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปดูSET50ซะหน่อย ตัวอย่างรูปแบบเดิมๆที่เห็นประจำเห็นอะไรไหมครับกราฟไหนในโลกมันก็แบบเดิมๆทั้งนั้นแหละลองหาไล่อ่านเอานะครับ
กำหนดแผนการเทรด ภาพรวมใหญ่ของทุกต้นเดือนดูภาพใหญ่ก่อนค่อยสร้างคว่ามน่าจะเป็น ครอบสมมุติฐานการเดินทางของแท่งเทียน MM และ หาจุดTP ด้วยเงื่อนไขใดบ้าง
BTCUSD📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲
📲💥อยากให้ทางผม ทำกร๊าฟหุ้นตัวไหน หรือ สินทรัพย์อะไร สามารถทิ้งไว้ที่ใต้โพส หรือ ทักส่วนตัวมาเลยก็ได้นะครับ
......................
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเราไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
Eaw_Neowave อัพเดท SET INDEX TF Monthly ภาพใหญ่ อัพเดท #SET INDEX TF Monthly ภาพใหญ่ที่เคยนับเอาไว้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564
ยังคงมองเหมือนเดิม หากเรานับคลื่นตอนนี้ราคาคือรูปแบบการพักตัว Standard Corrective wave ประเภท Flat ส่วนจะเป็น Flat ประเภทอะไรยังตอบไม่ได้เพราะคลื่นซียังไม่ได้ถูกเช็คการจบจากแนวโน้มราคาจะเห็นได้ว่าราคาเป็นขาลงหากราคาจะ breakout downtrend line ขึ้นไปได้ราคาจะต้องขึ้นไปยืนเหนือ 1400 จุด หากทำได้มีโอกาสสูงที่ wave-c failure และราคามีโอกาสจะกลับไปเทส 1850 จุดอีกครั้ง ดังนั้น 1400 จุดจึงเป็นแนวต้านสำคัญที่จะชี้อนาคตว่าหุ้นไทยจะกลับสู่ขาขึ้นหรือจะกลับตัวเป็นขาลงต่อไป






















