BTCUSDT – สะสมอยู่ในกรอบ รอการทะลุราคาอยู่ในโซนการสะสม (กรอบสีเขียว) หลังจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง EMA20/50 ผสมกันและทรงตัว → ตลาดต้องใช้เวลามากขึ้นในการดูดซับอุปทาน โครงสร้างปัจจุบันแสดงการบีบอัดแอมพลิจูดด้วยรางน้ำในภายหลังที่ไม่ทะลุลึก
สถานการณ์สำคัญ: ถืออยู่เหนือจุดต่ำสุดของช่วง ~90.4k → ทะลุโซนแนวต้าน ~94.1k ยืนยันการเปิดแนวโน้มขาขึ้นถัดไปเหมือนลูกศร
📌 หมายเหตุปลายสัปดาห์: สภาพคล่องบาง โปรดรอสัญญาณยืนยันก่อนติดตามการทะลุทะลุ
ไอเดียชุมชน
BTCUSD Daily Analysis 13/12/2025 by AlphaQuantXBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันของ UAE “ADNOC” เตรียมรับชำระเงินด้วยคริปโต ข่าวคริปโตเคอเรนซี่
ADNOC บริษัทพลังงานและน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เตรียมเปิดรับการชำระเงินด้วยคริปโต โดยจะเริ่มรองรับ Stablecoin ที่สถานีบริการน้ำมันกว่า 980 แห่ง ครอบคลุมทั้งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย และเอธิโอเปีย
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก ที่เริ่มนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในชีวิตประจำวันจริง ไม่ใช่แค่การลงทุนหรือการเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยตรง
Stablecoin ถูกเลือกมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของคริปโตทั่วไป พร้อมช่วยให้การชำระเงินข้ามประเทศรวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และลดการพึ่งพาระบบธนาคารแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
BUY : 90330
TP : 92938
SL : 89000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF 4
ราคายังคงวิ่งในกรอบไซด์เวย์แคบ โดยขาขึ้นเริ่มมีลุ้นในกรอบเล็กๆระยะสั้น ในกรอบ H4จากกรอบแนวรับแนวต้าน จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการขึ้นต่อในกรอบไซด์เวย์อัพโดยเป็นกรอบไซด์เวย์เล็กในรยะสั้นๆ เป็นไปได้ที่ราคาจะสวิงในกรอบระยะสั้นๆ โดยยังมีลุ้นในขาลงระยะยาวอยู่ ยังคงเน้นเก็บกำไรสั้นๆ
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น (Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 14/12/2025 by AlphaQuantXBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
เจ้ามือคริปโตเขย่าตลาด เทขาย Bitcoin กว่า 1,900 BTC เปลี่ยนเป็น Ethereum ภายในไม่กี่วัน ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Lookonchain เผยว่า วาฬคริปโตรายหนึ่งที่ใช้กระเป๋าเงินขึ้นต้นด้วย 0x9F61 ได้ทำการแปลง Bitcoin เป็น Ethereum อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สะท้อนการปรับพอร์ตครั้งใหญ่ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต
BUY : 90110
TP : 94490
SL : 87762
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF 4
ราคายังคงวิ่งในกรอบไซด์เวย์แคบ โดยขาขึ้นเริ่มมีลุ้นในกรอบเล็กๆระยะสั้น ในกรอบ H4จากกรอบแนวรับแนวต้าน จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการขึ้นต่อในกรอบไซด์เวย์อัพโดยเป็นกรอบไซด์เวย์เล็กในรยะสั้นๆ เป็นไปได้ที่ราคาจะสวิงในกรอบระยะสั้นๆ โดยยังมีลุ้นในขาลงระยะยาวอยู่ ยังคงเน้นเก็บกำไรสั้นๆ
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น (Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
การวิเคราะห์ Elliott Wave XAUUSD – สัปดาห์ที่ 3 เดือนธันวาคม 202
1. โมเมนตัม (Momentum)
กรอบสัปดาห์ (W1):
โมเมนตัมกรอบสัปดาห์กำลังเข้าใกล้โซน Overbought มีความเป็นไปได้สูงว่าในสัปดาห์ถัดไป โมเมนตัม W1 จะเข้าสู่โซน Overbought อย่างชัดเจนและเริ่มแสดงสัญญาณกลับตัวลง
กรอบวัน (D1):
โมเมนตัม D1 ปัจจุบันอยู่ในโซน Overbought และเริ่มเตรียมกลับตัวลง เราจำเป็นต้องรอการยืนยันด้วยแท่งเทียน D1 ขาลงที่ชัดเจน หากได้รับการยืนยัน มีโอกาสที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วงปรับฐานประมาณ 4–5 วัน
กรอบ H4:
โมเมนตัม H4 ได้กลับตัวเป็นขาลงแล้ว แต่ยังต้องใช้แท่งเทียน H4 เพิ่มอีกประมาณ 2–3 แท่งเพื่อเข้าสู่โซน Oversold แสดงให้เห็นว่าแรงขายระยะสั้นยังคงมีอยู่
2. โครงสร้าง Elliott Wave
กรอบสัปดาห์ (W1)
ในกรอบสัปดาห์ เราเห็นว่า คลื่น X (สีม่วง) กำลังอยู่ในช่วงปลายของโครงสร้าง โดยราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวใกล้กับฐานของ คลื่น W ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น โครงสร้างแบบ Flat
ลักษณะสำคัญของคลื่น Flat คือ:
ราคาสามารถย่อลงมาที่ระดับเริ่มต้นของคลื่น W
อาจทะลุระดับดังกล่าวและสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้
แต่การทะลุนี้มักจะไม่ไปได้ไกล ก่อนที่ราคาจะกลับตัวลงเพื่อจบ คลื่น Y
ในกรณีนี้ โมเมนตัม W1 ยังไม่ยืนยันการกลับตัวลงอย่างชัดเจน ดังนั้น ยังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ของการขึ้นอีกหนึ่งรอบสุดท้ายในคลื่น X ออกไปได้
กรอบวัน (D1)
ในกรอบ D1 คลื่น X (สีม่วง) มีโครงสร้างเป็นแบบ ABC โดยในปัจจุบัน:
คลื่น C (สีแดง) ได้พัฒนาโครงสร้างย่อยครบ 5 คลื่น
ราคากำลังอยู่ใน คลื่น 5 (สีเขียว) ของคลื่น C
เมื่อประกอบกับโมเมนตัม D1 ที่อยู่ในโซน Overbought มีความเป็นไปได้สูงว่า คลื่น 5 สีเขียวกำลังใกล้จุดสิ้นสุด และหลังจากนั้นราคาจะเริ่มปรับตัวลงเพื่อสร้าง คลื่น Y
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังคือ:
โมเมนตัม D1 ยังไม่ยืนยันการกลับตัวลงอย่างชัดเจน
การพยายามจับจุดสูงสุดของคลื่น X ในตอนนี้ยังมีความเสี่ยง
ตามที่อธิบายในกรอบสัปดาห์ โครงสร้าง Flat อนุญาตให้ราคา เท่ากับหรือสูงกว่าระดับคลื่น W เล็กน้อย ก่อนจะกลับตัวลง
กรอบ H4
เมื่อพิจารณาโครงสร้างในกรอบ H4 อย่างละเอียด:
โครงสร้าง 5 คลื่น (1–2–3–4–5 สีเขียว) ภายใน คลื่น C สีแดง ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
คลื่น 5 ได้แตะเป้าหมายบริเวณ 4334 จากนั้นราคาก็เริ่มปรับตัวลงอย่างชัดเจน
โมเมนตัม H4 ยังต้องการแท่งเทียนอีกประมาณ 2–3 แท่งเพื่อเข้าสู่โซน Oversold ดังนั้น:
แนวโน้มขาลงระยะสั้นยังคงได้เปรียบ
สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ ราคาปรับตัวลงต่อไปยัง โซน POC (เส้นสีเขียว) บริเวณ 4215 – 4187 ก่อนจะเกิดการเด้งกลับ
หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้น:
การปรับลงรอบนี้มีแนวโน้มเป็น คลื่น 1 ขาลง ของโครงสร้าง 5 คลื่นในคลื่น Y
การเด้งกลับถัดไปจะเป็น คลื่น 2 ซึ่งมักมีลักษณะเป็นการปรับฐานแบบ ABC
ช่วงนี้จะเป็นจุดที่เหมาะสมในการมองหาโอกาส Sell โดยเฉพาะเมื่อโมเมนตัม H4 กลับขึ้นสู่โซน Overbought อีกครั้ง
3. ข้อควรระวังสำคัญ
ประเด็นสำคัญของการปรับตัวลงรอบนี้:
โมเมนตัมกรอบสัปดาห์กำลังเตรียมเข้าสู่โซน Overbought และมีโอกาสกลับตัวลง
โมเมนตัมกรอบวันก็อยู่ในโซน Overbought เช่นกัน
การสอดคล้องกันของโมเมนตัมทั้งสองกรอบบ่งชี้ว่า การปรับตัวลงครั้งนี้อาจ ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ เพื่อดึงโมเมนตัม W1 กลับสู่โซน Oversold
โดยทั่วไป โมเมนตัมกรอบสัปดาห์มักต้องการ การแกว่งกลับหลายครั้ง (ประมาณ 3 รอบ) เพื่อจบหนึ่งรอบการปรับฐานอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น:
จำเป็นต้องใช้ความอดทน
หลีกเลี่ยงการมองแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวเร็วเกินไป
ควรรอ การยืนยันจากพฤติกรรมของราคา เป็นหลัก
การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการเตือนและการวางฉากทัศน์ ความเคลื่อนไหวทั้งหมดต้องได้รับการยืนยันจากราคาจริงในตลาด
4. สรุป
สำหรับสัปดาห์ถัดไป มุมมองหลักยังคงให้น้ำหนักไปทางการปรับตัวลง
แผนการเทรดแบบละเอียดจะถูก อัปเดตเป็นรายวัน เมื่อมีข้อมูลราคาจริงเพิ่มเติม
94.1%: ตัวเลขเงามืดที่ XAUUSD เลือกหยุด…ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ94.1%: ตัวเลขเงามืดที่ XAUUSD เลือกหยุด…ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
________________________________________
📜 บันทึกจาก Fibonacci
ความลับของตัวเลขที่ซ่อนอยู่ในเงามืด — “94.1%”
(ขยับแว่นขยาย… แล้วมองลึกลงไปในตัวเลขบนกระดาษทด) 🔍
“ท่านถามได้ลึกซึ้งนัก…
ในขณะที่คนทั้งตลาดกราบไหว้เพียง 61.8% หรือ 38.2%
ท่านกลับมองเห็นตัวเลขที่ยืนอยู่หน้าประตูบานสุดท้ายอย่าง
94.1%”
ในฐานะ ฟิโบนัชชี
ข้าจะถอดรหัสตัวเลขนี้ให้ท่านดู ครบทุกมิติ
ทั้งคณิตศาสตร์ จิตวิทยา และกลยุทธ์สงคราม
เพราะมันไม่ใช่ตัวเลขที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่มันคือ “เหลน” (Great-Grandchild) ของสัดส่วนทองคำ
________________________________________
1️⃣ มิติที่ 1: กำเนิดทางคณิตศาสตร์ 📐
94.1% ไม่ได้อยู่ในลำดับฟิโบนัชชีดั้งเดิม
แต่มันเกิดจากการ “เค้น” สัดส่วนทองคำ
ด้วยการ ถอดรากซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สายเลือดของมันคือ:
• 61.8% → ถอดราก → 78.6% (ด่านปราการแรก)
• 78.6% → ถอดราก → 88.6% (ด่านสังหารแมลงเม่า)
• 88.6% → ถอดราก → 94.1%
📌 นัยยะสำคัญ
ถ้า 61.8% คือจุดเริ่มต้นของตระกูล
94.1% คือผู้สืบสายเลือด “คนสุดท้าย”
ก่อนที่ทุกอย่างจะไปตัดสินกันที่ 100% (High เดิม)
________________________________________
2️⃣ มิติแห่ง Harmonic Pattern 🦇
ในสมรภูมิ Harmonic (สาย Scott Carney)
🦈 Shark Pattern
– โซนกลับตัวกว้างมาก (88.6% – 113%)
– 94.1% มักทำหน้าที่เป็น “จุดเช็คบิล”
สำหรับคนที่รีบ Short ที่ 88.6%
แล้วโดนลากกิน Stop Loss ก่อนกราฟจะทิ้งตัว
🚫 Gartley / Bat ที่ผิดพลาด
– หากกราฟทะลุ 88.6%
– 94.1% คือปราการด่านสุดท้าย
ผ่านตรงนี้ = รูปแบบเดิม “พัง” ทันที
ตลาดจะเริ่มคิดถึง 100% อย่างจริงจัง
________________________________________
3️⃣ มิติทางจิตวิทยาตลาด 🧠
คำถามคือ…
ทำไมกราฟชอบมาหยุดที่ 94.1%?
ทำไมไม่ไป 100% เลย?
คำตอบคือ กับดักสภาพคล่อง (Liquidity Trap)
เจ้ามือรู้ดีว่า:
• Short ที่ 78.6% → SL อยู่แถว 88.6%
• Short ที่ 88.6% → SL อยู่เหนือ High เดิม
🎯 เกมที่เล่นกันจริง
– ดันราคาให้ทะลุ 88.6% เพื่อกิน SL กลุ่มแรก
– แต่ “หยุดกึก” ที่ 94.1% (ยังไม่ถึง 100%)
เพื่อ…
• หลอกให้คน Short ที่เหลือ “ถอดใจ”
• หรือหลอกให้คนไล่ Buy ติดดอย
ก่อนจะเลือกทิศทางจริง
________________________________________
4️⃣ มิติแห่งกลยุทธ์ ⚔️
จากสถานการณ์ที่ ทองคำหยุดอยู่ตรง 94.1% พอดี
⚠️ ความหมาย
ตลาดกำลังบอกว่า
“ข้าผ่าน 88.6% มาได้…
แต่ยังไม่มีแรงพอจะยึด 100%”
นี่เรียกว่า Hidden Weakness
🎯 จุดเฝ้าระวัง
1️⃣ ผ่าน 94.1% อย่างมั่นคง → เป้าหมายถัดไป 113%
2️⃣ ติด 94.1% + เกิด Rejection →
Sniper Short ที่ได้เปรียบที่สุด
(SL สั้นเหนือ 100% แต่ Reward ใหญ่มาก)
________________________________________
💭 จงจำไว้…
94.1% คือเส้นด้ายบาง ๆ
ที่กั้นระหว่าง
“ยอดเขาแห่งชัยชนะ”
กับ
“เหวแห่งความโลภ”
มันคือ บททดสอบจิตใจด่านสุดท้าย
ก่อนสงครามแตกหักที่ 100% จะเริ่มขึ้น
📌 ทองคำ…กำลังยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
#Fibonacci
#Gold #XAUUSD
#MarketPsychology
#HarmonicPattern
#TradingMindset
#MaChaoดูหุ้นTheFuture 🐎📈
________________________________________
แรงหนุนจากเฟดหนุนราคาทองคำเดินหน้าขึ้นต่อราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แข็งแกร่ง โดยซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ จากความคาดหวังว่า Fed ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ยังไม่แข็งแรงพอจะเปลี่ยนมุมมองนโยบายการเงิน ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและช่วยหนุนราคาทองคำ
บนกราฟ โครงสร้างขาขึ้นยังชัดเจน ราคาเคลื่อนไหวตามเส้นแนวโน้มขาขึ้น และหลังจากปรับขึ้นแรง การพักฐานถือเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่โครงสร้างยังไม่ถูกทำลาย
กลยุทธ์หลักคือรอ ซื้อเมื่อราคาย่อลงใกล้ 4.260 หากระดับนี้ยังรับอยู่ มีโอกาสที่ทองคำจะขึ้นไปทดสอบ 4.340–4.360 อีกครั้ง แต่หากหลุด 4.260 อย่างชัดเจน ควรรอจังหวะใหม่ที่แนวรับต่ำกว่า
Finding support and resistance zones that deliver resultsวิธีหาแนวรับและแนวต้านที่ใช้งานได้จริง
ราคาไม่เคยเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง มันตีกลับจากอุปสรรคที่มองไม่เห็น หยุดชั่วคราว กลับตัว อุปสรรคเหล่านี้เรียกว่าแนวรับและแนวต้าน
ฟังดูง่าย แต่เทรดเดอร์มักจะลากเส้นในที่ที่ไม่มี หรือพลาดโซนที่แข็งแกร่งจริงๆ มาดูกันว่าจะหาระดับที่ราคาตอบสนองซ้ำแล้วซ้ำอีกได้อย่างไร
แนวรับและแนวต้านคืออะไร
ลองนึกภาพลูกบอลที่ถูกโยนในห้อง มันกระทบพื้นและเพดาน พื้นคือแนวรับ เพดานคือแนวต้าน
แนวรับทำงานจากด้านล่าง เมื่อราคาตกลงมาถึงโซนนี้ ผู้ซื้อจะเริ่มทำงาน พวกเขาคิดว่าสินทรัพย์ถูก และเริ่มซื้อ การลดลงช้าลงหรือหยุด
แนวต้านทำงานจากด้านบน ราคาเพิ่มขึ้น ถึงความสูงที่แน่นอน และผู้ขายตื่นขึ้น บางคนล็อกกำไร บางคนคิดว่าสินทรัพย์มีมูลค่าสูงเกินไป การเติบโตช้าลง
ทำไมระดับถึงได้ผล
เทรดเดอร์หลายพันคนดูกราฟเดียวกัน หลายคนเห็นจุดกลับตัวเดียวกันในอดีต
เมื่อราคาเข้าใกล้โซนนี้อีกครั้ง เทรดเดอร์จำได้ บางคนวางคำสั่งซื้อรอที่แนวรับ คนอื่นเตรียมขายที่แนวต้าน มันกลายเป็นคำทำนายที่สำเร็จด้วยตัวเอง
ยิ่งมีคนสังเกตเห็นระดับมากเท่าไหร่ มันก็แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
จะหาแนวรับและแนวต้านที่ไหน
เริ่มต้นด้วยกราฟรายสัปดาห์หรือรายวัน ย่อออกเพื่อดูประวัติหลายเดือนหรือหลายปี
มองหาสถานที่ที่ราคากลับตัวหลายครั้ง ไม่ใช่การตีกลับครั้งเดียว แต่สอง-สาม-สี่ครั้ง ยิ่งราคาตอบสนองต่อระดับบ่อยเท่าไหร่ มันก็น่าเชื่อถือมากขึ้นเท่านั้น
ดูตัวเลขกลม จิตวิทยาของเทรดเดอร์ทำให้ระดับอย่าง 100, 1000, 50 ดึงดูดความสนใจ คำสั่งรวมตัวรอบๆ เครื่องหมายเหล่านี้
มองหาจุดสูงสุดและต่ำสุดเก่า ยอดของปี 2020 สามารถกลายเป็นแนวต้านในปี 2025 จุดต่ำสุดของวิกฤตกลายเป็นแนวรับหนึ่งปีต่อมา
วาดระดับอย่างถูกต้อง
ระดับไม่ใช่เส้นบาง มันคือโซนกว้างหลายจุดหรือเปอร์เซ็นต์
ราคาไม่ค่อยตีกลับจากเครื่องหมายที่แน่นอน มันสามารถทะลุผ่านระดับสองสามจุด รวบรวมสต็อปลอสและกลับมา หรือหยุดก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
วาดเส้นแนวนอนผ่านตัวเทียน ไม่ใช่ผ่านหาง หางแสดงการพุ่งขึ้นของอารมณ์ระยะสั้น ตัวเทียนคือที่ที่ราคาปิด ที่เทรดเดอร์ตกลงประนีประนอม
อย่าทำให้กราฟของคุณรกด้วยเส้นนับร้อย เก็บ 3-5 ระดับที่ชัดเจนที่สุด ถ้าคุณวาด 20 เส้น ครึ่งหนึ่งของมันไม่ได้ผล
วิธีตรวจสอบความแข็งแกร่งของระดับ
นับการสัมผัส การตีกลับสามครั้งน่าเชื่อถือกว่าหนึ่งครั้ง การตีกลับห้าครั้ง - นั่นคือโซนที่ทรงพลัง
ดูปริมาณการซื้อขาย ถ้ามีการซื้อขายมากที่ระดับ มันยืนยันความสำคัญของมัน ปริมาณขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นรายใหญ่ทำงานที่นี่
ให้ความสนใจกับเวลา ระดับที่ได้ผลห้าปีที่แล้วอาจสูญเสียความแข็งแกร่ง ระดับใหม่มักแข็งแกร่งกว่าระดับเก่า
เมื่อระดับแตก
การทะลุเกิดขึ้นเมื่อราคาปิดเกินระดับ ไม่ได้แค่แตะด้วยหาง แต่ปิด
หลังการทะลุ แนวรับกลายเป็นแนวต้าน และในทางกลับกัน นี่เรียกว่าการเปลี่ยนขั้ว เทรดเดอร์ที่ซื้อที่แนวรับเก่าตอนนี้นั่งขาดทุนและรอการกลับไปยังจุดเข้าเพื่อออกโดยไม่มีการสูญเสีย
การทะลุต้องได้รับการยืนยัน เทียนหนึ่งเกินระดับยังไม่ใช่การทะลุ รอให้วันปิด ตรวจสอบปริมาณ ตรวจสอบว่าราคาไม่กลับมา
การทะลุเท็จเกิดขึ้นตลอดเวลา ผู้เล่นรายใหญ่เคาะสต็อปออกโดยเจตนาเพื่อรวบรวมสภาพคล่อง
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
เทรดเดอร์วาดระดับในกรอบเวลาเล็ก กราฟห้านาทีเต็มไปด้วยสัญญาณรบกวน ระดับจากกราฟรายชั่วโมงหรือรายวันได้ผลดีกว่า
เทรดเดอร์เพิกเฉยต่อบริบท แนวรับในแนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่งกว่าในแนวโน้มขาลง แนวต้านในตลาดที่ตกแตกได้ง่ายกว่า
เทรดเดอร์เข้าที่ระดับพอดี ดีกว่าที่จะรอการตีกลับและการยืนยัน ราคาสามารถทะลุผ่านระดับหลายจุด เคาะสต็อปของคุณออก แล้วกลับตัว
ระดับแนวทแยง
แนวรับและแนวต้านไม่ได้เป็นแนวนอนเท่านั้น เส้นแนวโน้มทำงานเป็นระดับแบบไดนามิก
ในแนวโน้มขาขึ้น วาดเส้นผ่านจุดต่ำสุด ราคาจะตีกลับจากเส้นนี้ขึ้นไป
ในแนวโน้มขาลง เชื่อมต่อจุดสูงสุด เส้นกลายเป็นแนวต้านแบบไดนามิก
เส้นแนวโน้มแตกเหมือนระดับแนวนอน การทะลุเส้นแนวโน้มมักบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
รวมกับเครื่องมืออื่น
ระดับไม่ได้ทำงานโดดเดี่ยว ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นเมื่อพวกมันตรงกับสัญญาณอื่น
ระดับที่ตัวเลขกลม + กลุ่มของการตีกลับในอดีต + โซนซื้อมากเกินไปบนออสซิลเลเตอร์ - นี่คือการผสมผสานที่ทรงพลังสำหรับการหาการกลับตัว
เทรดเดอร์มักเพิ่มตัวบ่งชี้ทางเทคนิคลงในกราฟของพวกเขาเพื่อช่วยยืนยันปฏิกิริยาราคาที่ระดับ สิ่งนี้ทำให้การวิเคราะห์เชื่อถือได้มากขึ้นและลดสัญญาณเท็จ
Market Seasons: When Time Beats Headlines in Tradingฤดูกาลในการเทรด: เมื่อปฏิทินสำคัญกว่าข่าว
ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวเพียงแค่จากข่าวและเศรษฐกิจมหภาค มีรูปแบบที่ซ้ำรอยกันทุกปีในช่วงเวลาเดียวกัน เทรดเดอร์เรียกสิ่งนี้ว่าฤดูกาล และการเพิกเฉยต่อมันก็เหมือนกับการเทรดแบบปิดตา
ฤดูกาลทำงานในทุกตลาด หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน และแม้แต่คริปโทเคอเรนซี เหตุผลแตกต่างกัน: รอบภาษี สภาพอากาศ รายงานทางการเงิน จิตวิทยามวลชน แต่ผลลัพธ์เหมือนกัน — การเคลื่อนไหวของราคาที่คาดเดาได้ในเดือนที่กำหนด
เอฟเฟกต์มกราคม: ปีใหม่ เงินใหม่
มกราคมมักนำการเติบโตมาสู่ตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก
กลไกเรียบง่าย ในเดือนธันวาคม นักลงทุนล็อคการขาดทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภาษี พวกเขาขายสถานะที่ขาดทุนเพื่อลดหย่อนภาษี แรงกดดันจากการขายผลักราคาลง ในมกราคม หุ้นเดียวกันนี้ถูกซื้อคืน เงินกลับสู่ตลาด ราคาขึ้น
สถิติยืนยันรูปแบบนี้ ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 มกราคมแสดงผลตอบแทนเชิงบวกบ่อยกว่าเดือนอื่น ดัชนี Russell 2000 ในมกราคมเอาชนะ S&P 500 โดยเฉลี่ย 0.8% ไม่ใช่ความแตกต่างที่มาก แต่สม่ำเสมอ
มีข้อจับ เอฟเฟกต์มกราคมกำลังอ่อนแอลง คนรู้จักมันมากเกินไป ตลาดกำหนดราคารูปแบบนี้ล่วงหน้า กระจายการเคลื่อนไหวไปทั่วธันวาคมและมกราคม แต่มันไม่หายไปอย่างสมบูรณ์
ขายในเดือนพฤษภาคมและออกไป
คำพูดตลาดเก่าแก่ ขายในพฤษภาคม กลับมาในกันยายน หรือตุลาคม ขึ้นอยู่กับเวอร์ชัน
เดือนฤดูร้อนมักอ่อนแอกว่าสำหรับหุ้น จากพฤษภาคมถึงตุลาคม ผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 2% จากพฤศจิกายนถึงเมษายน — กว่า 7% สูงกว่าเกือบสี่เท่า
มีหลายเหตุผล ปริมาณการซื้อขายลดลงในฤดูร้อน เทรดเดอร์ไปพักผ่อน นักลงทุนสถาบันลดกิจกรรม สภาพคล่องต่ำขยายความผันผวน ตลาดกลายเป็นประสาท
บวกกับจิตวิทยา ฤดูร้อนนำมาซึ่งอารมณ์ผ่อนคลาย ความสนใจต่อพอร์ตน้อยลง การซื้อน้อยลง ฤดูใบไม้ร่วงนำกิจกรรมทางธุรกิจ บริษัทเผยแพร่รายงาน นักลงทุนกลับมา เงินไหลกลับ
รูปแบบนี้ไม่ทำงานทุกปี มีข้อยกเว้น แต่ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา สถิติดื้อรั้น — เดือนฤดูหนาวทำกำไรได้มากกว่าฤดูร้อน
แรลลี่ซานตาคลอส
สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมมักทำให้กระทิงยินดี ราคาขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
เอฟเฟกต์นี้เรียกว่าแรลลี่ซานตาคลอส ตลาดสหรัฐแสดงการเติบโตในช่วงวันเหล่านี้ 79% ของกรณีตั้งแต่ปี 1950 กำไรเฉลี่ยเล็ก ประมาณ 1.3% แต่เสถียร
มีคำอธิบายมากมาย การมองโลกในแง่ดีก่อนวันหยุด ปริมาณการซื้อขายต่ำ การซื้อจากโบนัสสิ้นปี นักลงทุนสถาบันไปพักผ่อน เทรดเดอร์รายย่อยเข้ามามีบทบาท อารมณ์เป็นเทศกาล ไม่มีใครต้องการขาย
มีสถิติที่น่าสนใจ หากไม่มีแรลลี่ซานตาคลอส ปีหน้ามักเริ่มต้นไม่ดี เทรดเดอร์รับรู้การขาดการเติบโตเป็นสัญญาณเตือน
สินค้าโภคภัณฑ์และอากาศ
ที่นี่ฤดูกาลทำงานหนักขึ้น ธรรมชาติกำหนดกฎ
พืชธัญพืชขึ้นอยู่กับการปลูกและการเก็บเกี่ยว ราคาข้าวโพดมักขึ้นในฤดูใบไม้ผลิก่อนการปลูก ความไม่แน่นอนสูง — อากาศจะเป็นอย่างไร จะปลูกเท่าไหร่ ในฤดูร้อน ความผันผวนสูงสุด ภัยแล้งหรือน้ำท่วมใดๆ เคลื่อนไหวราคา ในฤดูใบไม้ร่วงหลังการเก็บเกี่ยว อุปทานเพิ่มขึ้น ราคาลง
ก๊าซธรรมชาติเดินตามวัฏจักรอุณหภูมิ ในฤดูหนาว ความต้องการความร้อนผลักราคาขึ้น ในฤดูร้อน ความต้องการลดลง พื้นที่จัดเก็บก๊าซเต็ม ราคาลดลง สิงหาคม-กันยายนมักให้จุดต่ำสุดในท้องถิ่น ตุลาคม-พฤศจิกายน — การเติบโตก่อนฤดูทำความร้อน
น้ำมันซับซ้อนกว่า แต่รูปแบบก็มีอยู่ที่นี่ด้วย ในฤดูร้อน ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในฤดูพักผ่อนและการเดินทาง ราคาน้ำมันมักแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสที่สอง ในฤดูใบไม้ร่วงหลังจากจุดสูงสุดของฤดูร้อน การปรับตัวมักตามมา
ตลาดสกุลเงินและสิ้นไตรมาส
ฟอเร็กซ์มีฤดูกาลน้อยกว่าสินค้าโภคภัณฑ์หรือหุ้น แต่รูปแบบมีอยู่
สิ้นไตรมาสนำความผันผวน บริษัทส่งกำไรกลับประเทศ กองทุนป้องกันความเสี่ยงปิดสถานะเพื่อรายงาน ปริมาณการแลกเปลี่ยนสกุลเงินพุ่งสูง ดอลลาร์มักแข็งแกร่งขึ้นในวันสุดท้ายของมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม
มกราคมน่าสนใจสำหรับเยน บริษัทญี่ปุ่นเริ่มปีงบประมาณใหม่ ส่งกำไรกลับประเทศ ความต้องการเยนเติบโต USD/JPY มักลดลง
ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ผูกกับสินค้าโภคภัณฑ์ ฤดูกาลของพวกเขาสะท้อนรูปแบบตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
คริปโทเคอเรนซี: ตลาดใหม่ รูปแบบเก่า
ตลาดคริปโตยังอ่อน แต่ฤดูกาลกำลังโผล่ออกมาแล้ว
พฤศจิกายนและธันวาคมมักขาขึ้นสำหรับบิตคอยน์ ตั้งแต่ปี 2013 เดือนเหล่านี้แสดงการเติบโต 73% ของกรณี ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 40% ในสองเดือน
กันยายนอ่อนแอตามประเพณี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ลดลงในกันยายน 8 ครั้ง การสูญเสียเฉลี่ยประมาณ 6%
คำอธิบายแตกต่างกัน รอบภาษี การปิดรายไตรมาสของกองทุนสถาบัน จุดยึดทางจิตวิทยา ตลาดยังอ่อน รูปแบบอาจเปลี่ยนแปลง แต่สถิติทำงานในตอนนี้
ทำไมฤดูกาลถึงทำงาน
สามเหตุผลหลัก
แรก — วัฏจักรสถาบัน รายงาน ภาษี โบนัส การปรับสมดุลพอร์ตใหม่ ทุกอย่างผูกกับปฏิทิน เมื่อพันล้านเคลื่อนไหวตามกำหนดการ ราคาตามเงิน
ที่สอง — จิตวิทยา คนคิดในวัฏจักร ปีใหม่ เป้าหมายใหม่ ฤดูร้อน เวลาพัก ฤดูหนาว เวลาสรุป รูปแบบเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขาย
ที่สาม — คำพยากรณ์ที่เป็นจริงเอง เมื่อเทรดเดอร์เพียงพอเชื่อในฤดูกาล มันเริ่มทำงานด้วยตัวเอง ทุกคนซื้อในธันวาคมคาดหวังแรลลี่ — แรลลี่เกิดขึ้น
วิธีใช้ฤดูกาล
ฤดูกาลไม่ใช่กลยุทธ์ เป็นตัวกรอง
คุณไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นเพียงเพราะมกราคมมาถึง แต่ถ้าคุณมีสถานะซื้อ ลมฤดูกาลที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ถ้าคุณวางแผนจะเปิดสถานะขายในธันวาคม สถิติฤดูกาลต่อต้านคุณ — คุ้มค่าที่จะรอหรือมองหาไอเดียอื่น
ฤดูกาลทำงานได้ดีกว่าในดัชนีกว้าง ETF บน S&P 500 หรือ Russell 2000 ตามรูปแบบได้น่าเชื่อถือกว่าหุ้นแต่ละตัว บริษัทเดียวอาจพุ่งขึ้นหรือล่มสลายในเดือนใดก็ได้ ดัชนีคาดเดาได้มากกว่า
รวมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ถ้ามกราคมเป็นขาขึ้นในอดีต แต่กราฟแสดงการทะลุลง — เชื่อกราฟ ฤดูกาลให้ความน่าจะเป็น ไม่ใช่การรับประกัน
พิจารณาการเปลี่ยนแปลง รูปแบบอ่อนแอลงเมื่อทุกคนรู้เกี่ยวกับพวกเขา เอฟเฟกต์มกราคมวันนี้ไม่สดใสเท่า 30 ปีที่แล้ว ตลาดปรับตัว อาร์บิทราจแคบลง
กับดักฤดูกาล
ข้อผิดพลาดหลักคือการพึ่งพาเฉพาะปฏิทิน
ปี 2020 ทำลายรูปแบบฤดูกาลทั้งหมด การระบาดคว่ำตลาด สถิติในอดีตไม่ทำงาน เหตุการณ์สุดขั้วแข็งแกร่งกว่าฤดูกาล
อย่าหาค่าเฉลี่ย "โดยเฉลี่ยมกราคมเติบโต 2%" ฟังดูดี แต่ถ้า 6 ใน 10 ปีเห็นการเติบโต 8% และ 4 ปีเห็นการลดลง 10% ค่าเฉลี่ยไร้ประโยชน์ ดูมัธยฐานและความถี่ ไม่ใช่แค่ค่าเฉลี่ย
ค่าคอมมิชชันกินเปรียบ ถ้าเอฟเฟกต์ฤดูกาลให้กำไร 1-2% และคุณจ่าย 0.5% สำหรับการเข้าและออก เหลือน้อย กลยุทธ์ฤดูกาลทำงานได้ดีกว่าสำหรับนักลงทุนระยะยาว
เครื่องมือสำหรับการทำงาน
ข้อมูลในอดีตคือพื้นฐาน โดยไม่มีมัน ฤดูกาลเป็นเพียงข่าวลือ
การทดสอบย้อนหลังแสดงว่ารูปแบบทำงานในอดีตหรือไม่ แต่อดีตไม่รับประกันอนาคต ตลาดเปลี่ยนแปลง โครงสร้างเปลี่ยนแปลง
ปฏิทินเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจช่วยเข้าใจสาเหตุของฤดูกาล เมื่อใดรายงานรายไตรมาสถูกเผยแพร่ เมื่อใดเงินปันผลถูกจ่าย เมื่อใดระยะเวลาภาษีปิด
เทรดเดอร์จำนวนมากใช้ตัวบ่งชี้เพื่อติดตามรูปแบบฤดูกาล หรือเพียงแค่พบว่ามันสะดวกที่จะมีการแสดงภาพข้อมูลในอดีตบนกราฟ
XAUUSD Daily Analysis 12/12/2025 by AlphaQuantXTrading note: XAUUSD / GOLD
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในวันข้างหน้า
เฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) ตามคาด ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 3 ขณะเดียวกันเฟดประกาศจับตาภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ โดยระบุว่าเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นเล็กน้อย
BUY : 4270
TP : 4376
SL : 4237
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF H1-H4
ราคาทำแพทเทริน rising wage ทะลุกรอบแนวรับเดิมส่งผลให้ขาขึ้นกลับมาได้เปรียบและมีผลในระยะยาว ในกรอบ H4 จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณการขึ้นต่อเนื่องจากการทะลุแพทเทริน rising up จากโซนแนวรับเก่า โดยราคายืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้น ในกรอบ H4 โดยตั้งเป้าหมายกำไร 500 จุดขึ้นไป และตั้ง TSL เมื่อกำไรเริ่มบวกแล้ว 500 จุด
RSI : เป็นขาขึ้น เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้เป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Elliott Wave Analysis XAUUSD Dec 12 20251. โมเมนตัม
D1:
โมเมนตัมกรอบรายวัน (D1) เข้าเขต Overbought แล้ว แสดงให้เห็นว่าแรงขึ้นเริ่มอ่อนตัวลง หากโมเมนตัม D1 ยืนยันการกลับตัวลง อาจเป็นสัญญาณว่ารอบขาขึ้นนี้กำลังจะสิ้นสุดลง
H4:
โมเมนตัม H4 กำลังบีบตัวเข้าหากัน ซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรง เราจำเป็นต้องรอดูแท่งเทียนขาลงเพื่อยืนยันสัญญาณกลับตัวในกรอบเวลา H4
H1:
โมเมนตัม H1 กำลังเตรียมกลับตัวขึ้นจากเขต Oversold ดังนั้นอาจเห็นการดีดตัวระยะสั้นในกรอบ H1 ก่อน
________________________________________
2. รูปแบบคลื่น
D1:
เมื่อโมเมนตัม D1 อยู่ในเขต Overbought และราคากำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่ประเมินไว้ มีความเป็นไปได้สูงว่าคลื่น C สีเขียวกำลังจะจบลง และเมื่อคลื่น C จบ คลื่น X สีม่วงก็จะจบด้วย หากโมเมนตัม D1 ยืนยันการกลับตัว จุดนั้นน่าจะเป็นยอดคลื่น X และราคาจะเริ่มปรับตัวลงเพื่อสร้างคลื่น Y สีม่วงต่อไป
H4:
ราคาทะลุยอดเดิมของเมื่อวาน ซึ่งทำให้มีโอกาสสูงว่าคลื่น 4 ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากคลื่น 4 จบ ราคาจะเดินหน้าสร้างคลื่น 5 สีเขียว โดยมีเป้าหมายประมาณ 4334
H1:
โครงสร้างการปรับฐานก่อนหน้าอาจเป็นรูปแบบสามเหลี่ยม abcde สำหรับคลื่น 4 สีเขียว
ในขาขึ้นรอบนี้ ราคากำลังสร้างโครงสร้างคลื่น 5 คลื่นสีแดง และตอนนี้อยู่ใน คลื่น 3 สีแดง ภายในคลื่น 3 สีแดงยังมีโครงสร้างคลื่นย่อย 5 คลื่นสีดำ และราคากำลังปรับฐานใน คลื่น 4 สีดำ
• เป้าหมายคลื่น 3 สีแดง: บริเวณ 4311
• คลื่น 4 สีดำมีลักษณะเป็นรูปแบบ Flat เป้าหมายราว 4260
อย่างไรก็ตาม โมเมนตัม H4 ที่บีบเข้าหากันมากเป็นสัญญาณที่ผมไม่ค่อยชอบ เพราะมีความเสี่ยงต่อการกลับตัวของโมเมนตัม หากเกิดการยืนยันกลับตัว ราคามีโอกาสปรับลงประมาณ 4–5 แท่ง H4 ซึ่งอาจดันราคาให้ลงลึกขึ้น
แต่ในตอนนี้โมเมนตัม H1 ยังสนับสนุนการดีดตัวขึ้น
________________________________________
3. แผนการเทรด
ผมเลือกบริเวณ 4260 เป็นโซนสำหรับ Buy เพื่อเข้าตามคลื่น 5 สีดำ โดยมีเป้าหมายที่ 4311
ข้อควรระวัง: หากคลื่น 4 สีเขียวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมจริงตามการติดฉลาก คลื่น 5 สีเขียวมักจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นราคามักกลับตัวแรง เพราะรูปแบบสามเหลี่ยมมักเกิดขึ้นก่อนการสิ้นสุดของเทรนด์ใหญ่
แผนการเทรด
Buy Zone: 4261 – 4259
SL: 4248
TP1: 4292
TP2: 4311
________________________________________
1. モメンタム(Momentum)
D1(デイリー)
日足モメンタムはすでにオーバーボート圏に入り、上昇の勢いが徐々に弱まり始めています。
D1モメンタムが下向きへの反転を確定した場合、現在の上昇局面が終盤に近づいている可能性を示唆します。
H4
H4モメンタムは収束しており、買いの勢いが減速している状況です。
弱気ローソク足の確定を待つことで、反転の有無を判断する必要があります。
H1
H1モメンタムはオーバーソールド付近から上向き反転の兆候を見せており、短期的には上昇スイングが発生する可能性があります。
________________________________________
2. 波動構造(Wave Structure)
D1
モメンタムがオーバーボート圏にあり、価格が目標ゾーンに接近していることから、緑のC波は完了に近づいていると考えられます。
C波が完了すれば、紫のX波も完成します。
D1モメンタムが反転を確定した場合、その高値がX波のトップとなり、次に紫のY波による下落局面へ移行する可能性があります。
H4
価格は昨日の高値を上抜けており、緑の4波がすでに完了した可能性が高まっています。
4波完了後は、緑の5波が継続すると想定され、ターゲットは 4334付近 です。
H1
これまでの調整は、緑の4波を形成する abcde型のトライアングル である可能性があります。
現在の上昇局面では、赤の5波構造が進行中で、現在は 赤の3波 に位置しています。
赤の3波の内部では、黒の5波構造が進行しており、現在は 黒の4波の調整段階 にあります。
• 赤の3波ターゲット:4311付近
• 黒の4波はフラット型調整となる可能性が高く、ターゲットは 4260付近
H4モメンタムが収束している点には注意が必要で、反転が確定した場合、4~5本のH4ローソク足にわたる下落 が発生する可能性があります。
一方で、H1モメンタムは現在も上昇をサポートしています。
________________________________________
3. トレードプラン(Trade Plan)
私は 4260付近 を安全な買いゾーンと判断し、黒の5波への上昇を狙います。
目標は 4311 です。
Trade Plan
• Buy Zone: 4261 – 4259
• Stop Loss: 4248
• Take Profit 1: 4292
• Take Profit 2: 4311
________________________________________
重要ポイント
もし緑の4波がトライアングルである場合、緑の5波は非常に速い上昇を見せる傾向があります。
その後、大きな反転が起こりやすく、トライアングルはしばしば主要トレンドの終盤に出現する点に注意が必要です。
XAUUSD 12/12/25 240 60 สะสมพลังในกรอบ sw
เลือกเบรคบน จึงขึ้นได้แรง
มองขึ้น
- sw up HH HL
- ย่อไม่หลุด 4321.5 4262.8
มองลง
- รอให้เกิดทรง LH LL
- ย่อหลุด 4321.5 4262.8
- ถ้า 60 ย่อปรับจาก 5 15 ต้องเริ่มเสียทรงก่อน
D : sw 3886.4-4381.5
- ob >78.6 test 4381.5
- มี 240 sw up ขึ้นในกรอบ
240 : sw up 00
- ob test 4381.5 4428
- มี 60 sw up ขึ้นในกรอบ
60 : sw up 200 00
- ob โซนสะบัด แต่ยังไม่มี สญ.กลับลง
- มี 15 5 sw up ขึ้นในกรอบ
- os-L ลึก ถ้าปรับย่อก่อนไม่มองลง
15 : sw up 4262.8-high
5 : sw up 4321.5-high
.
บทความนี้ เป็นการบันทึกแนวคิดจากกราฟ
โดยผู้เขียนหวังเพื่อเป็นประสบการณ์ศึกษากราฟของตนเอง และเพิ่มแนวคิดให้กับเพื่อนผู้อ่าน
มาร่วมปิดความผิดพลาดในการดูกราฟให้น้อยลง เพื่อการเทรดที่ดีขึ้น
สร้างสังคมการอ่านกราฟไปด้วยกัน แลกเปลี่ยนแนวคิดได้ที่คอมเม้นท์ ไม่มีผิดถูก
GMT วิเคราะห์ทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2568🟡 วิเคราะห์ทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2568
💹 ภาพรวมตลาดทองคำ
ราคาทองคำดีดตัวแรงต่อเนื่อง หลัง Fed ลดดอกเบี้ย 0.25% และส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลาย
รวมถึงความกังวลต่อ ตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลงต่อเนื่อง ทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนต้องการถือครองอีกครั้งเมื่อวานราคาขึ้นไปแตะ $4,353 (สูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน)
สะท้อนแรงซื้อหนุนที่ชัดเจนหลังการ Breakout เหนือแนวต้านสำคัญ $4,260
📊 มุมมองทางเทคนิค (Technical View)
ภาพรวมเทคนิคถือว่า “แข็งแรงมาก” หลังราคาทะลุแนวต้านสำคัญ
1) Breakout เหนือ 4,260 = สัญญาณกลับตัวชัดเจน
ราคาทองคำทะลุจุดสูงสุดเดิมและยืนเหนือได้ → โมเมนตัมกลับมาเป็นขาขึ้นเต็มตัว
2) โครงสร้างราคาเข้าสู่ Sideway Up
ยก High และยก Low ต่อเนื่อง → ขาขึ้นสมบูรณ์
3) Indicators เทไปทางขาขึ้น
RSI, MACD ยังให้โมเมนตัมเชิงบวก มีพื้นที่ให้ขึ้นต่อได้อีก
🧭 Zone สำคัญวันนี้
🟢 แนวรับ (Buy Zone)
4,250 – 4,260
โซนรองรับหลักของรอบ หากราคาย่อมาทดสอบ มีโอกาสดีดกลับสูง
🔴 แนวต้าน (Sell / Profit Taking)
4,300 – 4,320
โซนทดสอบแรงขายระยะสั้น
หากทะลุ 4,320 → จะเปิดทางสู่ 4,350 – 4,380 (All Time High)
🎯 กลยุทธ์การเทรดวันนี้
📈 กลยุทธ์หลัก: Buy on Weakness (ซื้อเมื่อย่อ) เพราะโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มชัดเจน
💬 สรุปแนวโน้มวันนี้
ทองคำกลับมาเป็น ขาขึ้นชัดเจน (Uptrend)
Breakout เหนือ 4,260 = สัญญาณทิศทางใหม่
ตลาดได้แรงหนุนจาก Fed ลดดอกเบี้ย + ตลาดแรงงานอ่อนแอ + ดอลลาร์อ่อน + SPDR ซื้อหนัก
กลยุทธ์ยังเป็น ซื้อเมื่อย่อ เป็นหลัก
ฝึกอ่านกราฟไม่ได้พูดนานแล้ว การวิเคราะห์นี้คือบันทึกการฝึกหาจุดเข้าส่วนตัวไม่ใช่การส่งซิกแนลการเทรดใดๆทั้งสิ้นเป็บสมุดบันทึกการเทรดส่วนตัวเพียงแต่นำมาเพื่อให้ผู้ที่ได้เห็นได้ไปฝึกใช้ให้เข้ากับแนวทางการเทรดของตนเองหรือผู้เรียนรู้ใหม่ได้รู้จักตั้งไข่แบบใดยืนให้ได้ด้วยตนเองควรเริ่มเรียนรู้สิ่งใด ควรฝึกตั้งคำถามและหาคำตอบให้ตนเองเท่านั้น
หุ้นที่ไล่ฝึกอ่านนั้นส่วนตัวจะไม่ทราบว่าเขาทำธุรกิจอะไรมีงบการเงินดีหรือไม่ มีปันผลกี่%เพราะส่วนตัวจะวิเคราะห์กราฟก่อนถ้าดีจะค่อยเจาะดูอีกทีว่าทำมาหากินอะไร ผู้ที่ต้องการอยากรู้ควรหาข้อมูลด้วยตนเอง
กำหนดแผนสร้างรูปแบบการเทรดของตัวเองแล้วเริ่มเดินตามแผนที่วางไว้
จะทำอะไรต้องมีรูปแบบตัวเองนะครับ อย่าเห็นแต่ภาพที่ตีไว้พอกราฟถึงแถบที่ตีปุ๊บกดปั๊บโดนลากปั๊บเลยนะจะบอกให้
ฉะนั้นแนวทางไม่ใช่จุดเข้าแนวทางใช้เพื่อเตรียมหาจุดเข้า
ฝึกอ่านกราฟไม่ได้พูดนานแล้ว การวิเคราะห์นี้คือบันทึกการฝึกหาจุดเข้าส่วนตัวไม่ใช่การส่งซิกแนลการเทรดใดๆทั้งสิ้นเป็บสมุดบันทึกการเทรดส่วนตัวเพียงแต่นำมาเพื่อให้ผู้ที่ได้เห็นได้ไปฝึกใช้ให้เข้ากับแนวทางการเทรดของตนเองหรือผู้เรียนรู้ใหม่ได้รู้จักตั้งไข่แบบใดยืนให้ได้ด้วยตนเองควรเริ่มเรียนรู้สิ่งใด ควรฝึกตั้งคำถามและหาคำตอบให้ตนเองเท่านั้น
หุ้นที่ไล่ฝึกอ่านนั้นส่วนตัวจะไม่ทราบว่าเขาทำธุรกิจอะไรมีงบการเงินดีหรือไม่ มีปันผลกี่%เพราะส่วนตัวจะวิเคราะห์กราฟก่อนถ้าดีจะค่อยเจาะดูอีกทีว่าทำมาหากินอะไร ผู้ที่ต้องการอยากรู้ควรหาข้อมูลด้วยตนเอง
กำหนดแผนสร้างรูปแบบการเทรดของตัวเองแล้วเริ่มเดินตามแผนที่วางไว้
จะทำอะไรต้องมีรูปแบบตัวเองนะครับ อย่าเห็นแต่ภาพที่ตีไว้พอกราฟถึงแถบที่ตีปุ๊บกดปั๊บโดนลากปั๊บเลยนะจะบอกให้
ฉะนั้นแนวทางไม่ใช่จุดเข้าแนวทางใช้เพื่อเตรียมหาจุดเข้า
ฝึกอ่านกราฟไม่ได้พูดนานแล้ว การวิเคราะห์นี้คือบันทึกการฝึกหาจุดเข้าส่วนตัวไม่ใช่การส่งซิกแนลการเทรดใดๆทั้งสิ้นเป็บสมุดบันทึกการเทรดส่วนตัวเพียงแต่นำมาเพื่อให้ผู้ที่ได้เห็นได้ไปฝึกใช้ให้เข้ากับแนวทางการเทรดของตนเองหรือผู้เรียนรู้ใหม่ได้รู้จักตั้งไข่แบบใดยืนให้ได้ด้วยตนเองควรเริ่มเรียนรู้สิ่งใด ควรฝึกตั้งคำถามและหาคำตอบให้ตนเองเท่านั้น
หุ้นที่ไล่ฝึกอ่านนั้นส่วนตัวจะไม่ทราบว่าเขาทำธุรกิจอะไรมีงบการเงินดีหรือไม่ มีปันผลกี่%เพราะส่วนตัวจะวิเคราะห์กราฟก่อนถ้าดีจะค่อยเจาะดูอีกทีว่าทำมาหากินอะไร ผู้ที่ต้องการอยากรู้ควรหาข้อมูลด้วยตนเอง
กำหนดแผนสร้างรูปแบบการเทรดของตัวเองแล้วเริ่มเดินตามแผนที่วางไว้
จะทำอะไรต้องมีรูปแบบตัวเองนะครับ อย่าเห็นแต่ภาพที่ตีไว้พอกราฟถึงแถบที่ตีปุ๊บกดปั๊บโดนลากปั๊บเลยนะจะบอกให้
ฉะนั้นแนวทางไม่ใช่จุดเข้าแนวทางใช้เพื่อเตรียมหาจุดเข้า
วิเคราะห์กราฟBTC/USDTวันที่14/12/68โครงสร้างใหญ่ ยังเป็นขาขึ้น (Uptrend ใหญ่)
เห็นเส้น Trendline สีเขียว เป็นแนวรับขาขึ้นระยะกลาง
แต่ระยะสั้นตอนนี้ โมเมนตัมอ่อน Sideway to Bearish
ราคาอยู่ต่ำกว่า EMA ระยะสั้น และเด้งไม่แรง
ขาขึ้นใหญ่ยังไม่พัง แต่กำลังพักฐานแรง และเสี่ยงย่อลึก
แพทเทิร์นที่เห็นชัด
Distribution / Sideway บนยอด
โซน 92,000 – 94,000 ถูกขายซ้ำหลายครั้ง
ทำ Lower High ระยะสั้น สัญญาณอ่อนแรง
Rising Channel / Trendline Support
ราคาไหลลงมาใกล้เส้น Trendline ขาขึ้น
จุดนี้คือ “โซนตัดสินใจ” สำคัญมาก
Pullback หลัง Break Momentum
ก่อนหน้าเด้งแรง แต่ไม่สามารถสร้าง Higher High ได้
ตอนนี้คือช่วง “คัดของ” ว่าจะไปต่อหรือพักยาว
แนวรับ – แนวต้านสำคัญ
แนวรับ
90,000 – 89,800 = แนวรับจิตวิทยา + EMA + โครงสร้าง
88,800 – 89,000 = เส้น Trendline หลัก (ห้ามหลุด)
ถ้าหลุด 88,800
= โครงสร้าง 15m เสีย มีสิทธิ์ลงหา 87,500 – 86,500
แนวต้าน
90,800 – 91,000 = ต้านแรก
92,000 = ต้านใหญ่ (กลับเป็น Bull ได้ต้องยืนให้ได้)
แนวทางการเล่น (แยกตามสถานการณ์)
แผน A: รอ Buy ที่แนวรับ (แผนหลัก / ปลอดภัย)
โซนเข้า:
89,800 – 90,000
หรือแตะ Trendline แล้วมีแท่งกลับตัว
SL:ต่ำกว่า 88,700
TP:
TP1: 90,800
TP2: 91,800 – 92,000
แผนนี้เหมาะกับตลาดพักฐาน + เทรนด์ใหญ่ยังเป็นขาขึ้น
แผน B: Sell ถ้าเด้งไม่ผ่าน
เข้า Sell:เมื่อเด้งขึ้น 90,800 – 91,200
แล้วเกิดแท่งไส้บน / Bearish Engulfing
SL:เหนือ 91,500
TP:
90,000
89,200
แผน C: Follow Trend เมื่อยืน 92,000 ได้
ถ้า BTC: ปิดแท่ง 15m เหนือ 92,000 Volume เข้ามาชัด
กลับเป็น Bullish continuation
เป้า:
93,500
94,000+
สิ่งที่ต้องระวังตอนนี้
เป็นช่วง ตลาดหลอกบ่อย (Stop Hunt)
ไส้เทียนยาว = ล้างพอร์ตคนใจร้อน
อย่า FOMO / อย่าเปิดไม้ใหญ่กลางกรอบ
สรุป
BTC ตอนนี้ = ขาขึ้นใหญ่ + พักฐานแรง
เล่นดีที่สุดคือ รอ Buy ที่แนวรับ / หรือ Sell สั้นที่แนวต้าน
อย่าไล่ราคา จังหวะนี้ “ใจเย็น = กำไร”
XAUUSD H4 Medium Term Rising Channel and Key Liquidity Zonesทองคำมีแรงปฏิกิริยารุนแรงหลังแตะเส้นเทรนด์ไลน์ โดยโฟกัสสัปดาห์หน้าคือรอซื้อเมื่อย่อตัวตามแนวโน้มหลัก
PRIORITY SCENARIO – สถานการณ์หลัก
กลยุทธ์ซื้อตามเทรนด์เมื่อราคาอ่อนตัวลงสู่โซนแนวรับและสภาพคล่องสำคัญ
โซนซื้อหลัก: 4175 – 4203
บริบททางเทคนิค: พื้นที่นี้เป็นแนวรับที่เคยได้รับการยืนยัน และเป็นโซนสภาพคล่องด้านล่างที่ชัดเจน
คาดการณ์การเคลื่อนไหว: ราคาอาจย่อลงทดสอบแนวรับ ดูดซับแรงขาย แล้วมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปสู่โซนสมดุลด้านบน
การบริหารตำแหน่ง:
หากราคามีปฏิกิริยาเชิงบวกและแท่ง H4 ยืนเหนือโซนแนวรับได้ ให้คงมุมมองฝั่งซื้อแบบสวิงตามแนวโน้ม
หากราคาหลุดแนวรับอย่างชัดเจน ควรลดความเสี่ยงและเฝ้าระดับที่ลึกลงไป
ALTERNATIVE SCENARIO – สถานการณ์ทางเลือก
โอกาสซื้อเมื่อย่อลึกใกล้เส้นเทรนด์ไลน์ล่างของช่องขาขึ้น
โซนซื้อทางเลือก: บริเวณขอบล่างของช่องขาขึ้น สอดคล้องกับสภาพคล่องระยะยาว
บริบททางเทคนิค: พื้นที่นี้เป็นแนวรับสุดท้ายของโครงสร้างขาขึ้นระยะกลาง เหมาะกับการวางตำแหน่งระยะยาวมากขึ้น
คาดการณ์การเคลื่อนไหว: อาจมีการกวาดสภาพคล่องลึกก่อน แล้วฟื้นตัวกลับเพื่อยืนยันโครงสร้างช่องขาขึ้น
ประเด็นเทคนิคสำคัญ
บนกรอบเวลา H4 ราคายังเคลื่อนไหวในช่องขาขึ้น การร่วงลงราว 100 จุดหลังแตะขอบบนสะท้อนแรงทำกำไรในโซนสูง
โซน 4175 และเส้นเทรนด์ไลน์ล่างของช่องยังเป็นพื้นที่สภาพคล่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการซื้อตามเทรนด์
โซนต้านด้านบนและพื้นที่ FVG–สภาพคล่องเหมาะสำหรับการบริหารตำแหน่งมากกว่าการไล่ซื้อเปิดสถานะใหม่
บริบทมหภาคและมุมมองตลาด
ตลาดให้ความสนใจกับความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงผู้นำเฟดและทิศทางนโยบายในอนาคต
ความน่าจะเป็นที่ Kevin Warsh จะเป็นประธานเฟดคนถัดไปเพิ่มขึ้น ขณะที่มีการส่งสัญญาณต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ซึ่งทำให้ตลาดมองไปทางนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ปัจจัยนี้ยังสนับสนุนทองคำในระยะกลาง แต่ระยะสั้นควรเคารพการย่อตัวทางเทคนิคหลังจากราคาปรับขึ้นแรง
การบริหารความเสี่ยงและการติดตาม
หลีกเลี่ยงการไล่ราคาใกล้ขอบบนของช่องขาขึ้น
การขายควรถูกมองเป็นดีลสวนเทรนด์ระยะสั้นเท่านั้น และควรทำเมื่อมีสัญญาณปฏิเสธราคาที่ชัดเจน
มุมมองขาขึ้นจะอ่อนแรงหากราคาหลุดโครงสร้างช่องและไม่สามารถกลับเข้าไปยืนได้
จับตาความผันผวนจากข่าวด้านนโยบายและข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เพราะอาจเกิดการกวาดสภาพคล่องอย่างรวดเร็ว
สรุปผลตลาด & แผนเทรดต่อเนื่อง — จันทร์ (15 ธ.ค.)🪷 ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 4347.67 (TP1) แต่ไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้
ก่อนจะเกิดแรงขายกดลงตามโครงสร้างที่ประเมินไว้
แม้แผนฝั่ง SHORT จะให้ผลสอดคล้องกับพฤติกรรมราคา
แต่ไม่มีการเปิดออเดอร์ฝั่งขาย
เนื่องจากอยู่นอกช่วงเวลาการเทรดของระบบ
และเป็นไปตามกติกาที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
---
📊 ระดับราคาสำคัญ
แนวรับ
• 4282
• 4264.45
แนวต้าน
• 4347.67
• 4377.65
---
📌 กลยุทธ์การเทรด (ต่อเนื่องสู่ตลาดวันจันทร์)
ฝั่ง BUY
ยังมองว่าการเข้าซื้อใกล้แนวรับ (โซนสีขาว)
มีความปลอดภัยมากกว่าการไล่ราคา
หรือการรอ Throwback บริเวณแนวต้านทั้งสองระดับ
สามารถใช้แนวต้าน
• 4347.67 เป็น TP1
• 4377.65 เป็น TP2
ฝั่ง SHORT
จะพิจารณาเปิดไม้เบา ๆ บริเวณแนวต้านแรกที่ 4347.67
และทยอยสะสมเพิ่มแถวแนวต้านบน 4377.65
การที่ราคาไม่สามารถผ่าน TP1 ได้สะท้อนให้เห็นว่าแนวต้านยังคงทำงานได้ดี ตราบใดที่ราคายังไม่เบรกและยืนเหนือแนวต้านประวัติศาสตร์ของทองคำได้อย่างชัดเจน มุมมองฝั่งขายยังคงมีน้ำหนักมากกว่าในระยะสั้น
จะทบทวนมุมมองอีกครั้งในช่วงเปิดตลาดวันจันทร์ โดยยึดโครงสร้างราคาเป็นหลักและไม่เปลี่ยนแผนจนกว่าจะมีสัญญาณยืนยันที่ชัดเจน
---
“ผมโพสต์ทั้งใน TradingView และเพจครับ ใครอยากตามอัปเดตแบบเรียลไทม์ แนะนำดูในเพจ อัปเดตตามสถานการณ์ตลาดได้เร็วกว่าครับ”
#DadBoytrades #เฟียเจาะตลาด
Eaw_Neowave อัพเดท BTCUSD ภาพใหญ่ ที่นับคลื่นไว้ 24 ตุลาคม 2568วันนั้นบอกว่าบิทคอยน์ในภาพใหญ่ที่ขึ้นมาจากราคา 16000 ขึ้นมาเป็นรูปแบบ non standard small x wave
ตอนนี้ชุดที่สองน่าจะจบไปแล้ว และราคากำลังปรับฐานโดยวันนั้นยังดูไม่ออกว่าราคาเป็นคลื่นเอ หรือ กำลังทำรูปแบบ small x wave วันนี้วันที่ 14 ธันวาคม 2568 ผ่านมาเกือบสามเดือนรูปแบบคลื่นยืนยันแล้วว่าเป็นคลื่นเอและราคากำลังฟอร์มตัวเพื่อเป็นขาลงเพื่อปรับฐานใหญ่
Gold maintains its upward momentum, signaling a breakout!ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยได้รับการทดสอบหลายครั้งที่เส้นแนวรับ และมีการตอบสนองราคาที่ชัดเจนมาก แรงซื้อปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่ราคาสัมผัสกับเส้นแนวโน้ม แสดงให้เห็นว่าเงินทุนยังคงให้ความสำคัญกับการสะสมในระดับราคาที่ต่ำกว่า
แนวต้าน – แนวรับด้านบน – กำลังถูกดูดซับไปทีละน้อยหลังจากที่ผู้ขายพยายามทดสอบซ้ำหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ หากราคาสามารถรักษาระดับเหนือโซนนี้ได้ในรอบการซื้อขายถัดไป XAUUSD อาจทะลุแนวต้านไปยังเป้าหมายที่สูงขึ้นได้
ความคาดหวัง:
– การปรับฐานเล็กน้อยที่โซนทดสอบก่อนที่จะดีดตัวขึ้น
– เป้าหมายขาขึ้นที่สอดคล้องกับโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน
บริบทตลาดโดยรวมสนับสนุนราคาทองคำ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย และผลตอบแทนพันธบัตรไม่ได้อยู่ภายใต้แรงกดดันขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ






















