วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 12 กรกฏาคม 2564

ตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกที่ 10.40 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ปิดบวก 10.40 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,810.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
สัปดาห์นี้นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือ “เฟด” ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาครองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ และรวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้นายเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 กรกฎาคม และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์นี้ถือว่าเป็นความสำคัญเนื่องจากเขาอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากที่รายงานการประชุมของเฟดเดือนมิ.ย. ระบุว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงิน QE พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1 ปี และเฟดอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว ถ้อยแถลงของนายพาวเวลมีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างมาก เช่นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นหลังนายพาวเวลแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยคำกล่าวมีเนื้อหาว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุมให้ได้มากที่สุด และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วจนเกินไป

แม้นักวิเคราะห์หลายคนรวมนักลงทุนใหญ่ๆ มีความกังวลที่เฟดยังมีทีท่าเฉยต่อภาวะเงินเฟ้อดังกล่าว และเมื่อเงินล้นระบบก็ต้องมีที่รองรับเงินดังกล่าว อย่างตอนนี้ก็เห็นชัดว่าตลาดหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นนั้น เป็นตลาดที่รองรับเม็ดเงินดังกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด แม้เงินกู้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกก็จริง แต่หลายๆ บริษัทฯ ใหญ่ๆ ก็ต่างมีการกู้เต็มเพดานวงเงินกันหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ผู้กู้เงินทั่วไปที่เป็นประชาชนธรรมดา ก็ล้วนแต่กู้เงินเต็มเพดานกันเป็นส่วนใหญ่ จึงเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ถ้าหากเฟดยังไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐได้เช่นกัน แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการที่เฟดจะขยับอะไรบางอย่างออกมานั้น ก็จำเป็นต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้นักลงทุนอยู่ในภาวะอาการตกใจ จนอาจทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก และระบบเศรษฐกิจก็อาจหยุดชะงักได้เช่นกัน จึงต้องมีวิธีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา และแสดงถึงความเข้าใจต่อตลาดให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนต่อการตัดสินใจของเฟดที่จะมีในไม่ช้านี้ เรียกว่าเฟดโดนแรงกดดันจนกลืนไม่เข้า คายไม่ออกกันทีเดียว งานนี้เรียกว่าร้องเพลงพี่เบิร์ดกันเสียงหลงเวลานี้ “กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง” เอ้าก็ติดตามกันต่อไปครับ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทองคำโดยตรง เดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้มาเล่าให้ฟังกันครับ

ประเมินทางเทคนิควันนี้
ราคาทองคำเช้านี้ยังขยับตัวภายใต้กรอบระดับ 1,797-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีระดับแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดทองคำหลังการอ่อนตัวของดอลลาร์และอัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ประเมินทางเทคนิควันนี้ราคาทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับแนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดการเทขายเพื่อทำกำไรกันอีกรอบ ประเมินแนวรับบริเวณ 1,797-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้รอซื้อทองคำเมื่อเกิดการอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับดังกล่าวเพื่อทำกำไรระยะสั้น

กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : วันนี้ก็ยังมีลุ้นที่ราคาทองคำอาจ breakout ระดับแนวต้าน 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากแรงซื้อยังคงจำกัดก็จะทำให้เกิดการเหวี่ยงของราคาในกรอบเดิมอีกครั้ง สำหรับการเปิดคำสั่ง “ซื้อ” นั้นแนะนำให้รอราคาทองคำย่อตัวมายังบริเวณแนวรับ 1,797-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาย่อมาที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้งและสามารถยืนเหนือได้ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” เพื่อเน้นการทำกำไรระยะสั้นไปก่อนเวลานี้ พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดั้งกล่าวขึ้นไปได้ สำหรับกรณีที่ราคาทองคำไม่ได้ย่อตัวลงมาที่แนวรับที่กล่าวไป หากมีการ Breakout ราคาขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้รอราคาย่อตัวลงทดสอบแนวต้านด้งกล่าวที่ได้ถูกทลายลงไปก่อน แล้วค่อยหาจังหวะในการเข้าซื้อ เพื่อป้องกันการย่อตัวกลับมายังโซนกรอบ Sideway เดิมอีกครั้ง

แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Up trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------

แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,797 / 1,790 / 1,783
---------------------------------------------------
Resistance : 1,815 / 1,823 / 1,844
---------------------------------------------------

สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ขายออกทองคำ -0.29 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,802.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,040.19 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 5 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -5.59 ตัน

*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%

FibonacciFibonacci RetracementGoldgoldanalysisSupport and ResistanceTrend AnalysisXAUUSDxpowerteam

และใน:

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ