วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 6 กรกฏาคม 2564

เมื่อวานนี้ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการ 1 วันเนื่องในวันชาติของสหรัฐอเมริกา

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ตลาดปิดทำการหนึ่งวันเนื่องในวันชาติ (Independence day) ทำให้ทองคำวานนี้เคลื่อนไหวในระดับจำกัด สำหรับสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,787.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงไม่มากนัก ปรับลดลง 0.005 หรือ -0.01% ปิดที่ระดับ 92.238

ทองคำซื้อขายล่วงหน้าเช้านี้ปรับพุ่งกว่า 15 ดอลลาร์ หลังการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่มองว่าเฟดคงจะยังไม่ดำเนินการปรับลดแผนการเดิมที่ทำอยู่เนื่องจากอัตราการจ้างงานยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่เฟดได้วางไว้ จึงส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดัชนีดอลลาร์เองก็อ่อนค่าลงก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดเดือนมิ.ย. ในวันพรุ่งนี้

ราคาทองคำเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 15.30 ดอลลาร์ หรือ 0.86% แตะที่ระดับ 1,798.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจในการเข้าซื้ออีกครั้ง เนื่องจากราคาของดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนเองตอนนี้ต่างก็เฝ้าจับตามองผลการประชุมเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธที่ 7 ก.ค. นี้ (ตรงกับเวลา 01:00 น. เช้าของวันพฤหัสฯ ที่ 8 กรกฏาคม) เมื่อเราจับสัญญาณถึงแนวโน้มทิศทางของอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่ได้ส่งสัญญาณในเดือนมี.ค. ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 ซึ่งจะเร็วกว่า 1 ปี ทั้งนี้การชี้สัญญาณเพิ่มเติมนั้น เราจะต้องเฝ้าติดตามว่าเฟดจะมองทิศทางการกำหนดนโยบายการเงินอย่างไรต่อไป หลังตัวเลขอัตราการว่างงานยังสูงกว่าที่ควรจะเป็น แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ตลอดจนอัตราค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงจะสูงขึ้น แต่นั้นก็เป็นเพียงสัญญาณที่ดีว่าภาคการจ้างงานเริ่มฟื้นตัวในระดับขอบเขตควบคุม แต่การอัตราการว่างงานยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงการตัดสินใจของเฟด เมื่อตัวเลขดังกล่าวยังไม่บรรลุเป้าหมายของเฟดได้นั้น โอกาสที่เฟดจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเดิมนั้น ก็มีโอกาสลดน้อยลงไปเช่นกัน ดังจะเห็นว่าดัชนีดอลลาร์ปรับตัวร่วงลงไปก่อนรายงานผลการประชุมจะออกมาเสียอีก

สำหรับวันนี้ต้องเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) เดือนมิถุนายน ตัวเลขคาดการณ์ที่ 63.5 วันนี้เวลา 11:30 น. จะมีรายงานการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดการณ์ไว้ที่ 0.10% ซึ่งหากตัวเลขออกมาตามคาดการณ์ช่วงจังหวะดังกล่าวอาจทำให้สกุล AUD อ่อนค่าลงได้และหนุนให้ USD ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย อาจส่งผลกระทบกับราคาทองคำไม่มาก แต่ก็ควรเฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวไว้จะดีกว่านะครับ


ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำเช้านี้ยังมีทิศทางการปรับตัวขึ้นโดยราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แล้ว หากราคาทองสามารถรักษาระดับการทรงตัวได้ในบริเวณ 1,790-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีแนวโน้มสูงที่ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นทดสอบและขึ้นสูงกว่าระดับ 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หากเป็นเช่นนั้นเราก็จะกลับเข้าสู่ช่วงภาวะตลาดกระทิงได้อีกรอบ แต่จะยืนยันได้ชัดเจนนั้นต้องรอรายงานการประชุมในช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสฯที่ 8 มิ.ย. นี้เสียก่อน ถึงจะคอนเฟิร์มว่าทิศทางทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกรอบหรือไม่ โดยส่วนตัวนั้นผมยังมองว่าการปรับขึ้นนั้นอาจเป็นเพียงภาพการปรับขึ้นในระยะสั้นๆ เท่านั้น หากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบนี้ไม่รุนแรงมากเกินกว่าที่เราคาดคิด เมื่อตลาดความเสี่ยงเปิดรับอีกครั้ง ทองคำก็จะกลับเข้าสู่ภาวะตลาดขาลงได้อีกเช่นกัน โดยประเมินว่าถ้าราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่า 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังพอจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับขึ้นในช่วงระยะหนึ่งได้เช่นกัน

กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : สำหรับการเข้าซื้อทองคำในวันนี้แนะนำให้รอราคาย่อตัวลงมาระหว่าง 1,783-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำย่อลงมาแล้วทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินการทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,802-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ปิดทำกำไรที่บริเวณดังกล่าวทันที (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : สำหรับใครที่มองหาจังหวะการขายทำกำไร ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากย่อตัวอาจมีระดับจำกัดกว่าราคาจะวิ่งเข้าใกล้ 1,800 หรือปรับขึ้นเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เราจึงพอมองเห็นการย่อตัวจากการเทขายทำกำไรออกมาได้ชัดเจนมากกว่า ฉะนั้นหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,796-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่แนวรับบริเวณ 1,783-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับเหนือแนวต้าน 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Up trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------

แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,791 / 1,783 / 1,770
---------------------------------------------------
Resistance : 1,802 / 1,814 / 1,823
---------------------------------------------------

สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,791.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.58 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 2 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -3.20 ตัน

*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%

FibonacciSupport and ResistanceTrend Analysis

และใน:

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ