ตลาดหลักทรัพย์ไทย
แกว่งตัวรอปัจจัยชี้นำ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งแดนบวกและแดนลบ นักลงทุนบางส่วนนำหุ้นออกขายเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าซื้อหุ้นเพื่อดักรอการเปิดเศรษฐกิจหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ดัชนีตลาดปิดที่ 1,611.53 จุด ลดลง 6.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.58 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีมีโอกาสพัก โดยดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวขาขึ้น ต่างชาติและนักลงทุนเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 4/6 ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แข็งแกร่งในระดับที่เหมาะสม ไม่ต่ำจนเกินไปจนสร้างความกังวลในเศรษฐกิจ หรือแข็งแกร่งมากเกินไปจนเป็นเหตุให้ธนคารกลางสหรัฐฯลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,593 – 1,602 จุด กรณีที่ช่องว่างดังกล่าวเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน เส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและมีมีความลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,622 – 1,632 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,593 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
แกว่งตัวรอปัจจัยชี้นำ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งแดนบวกและแดนลบ นักลงทุนบางส่วนนำหุ้นออกขายเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าซื้อหุ้นเพื่อดักรอการเปิดเศรษฐกิจหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ดัชนีตลาดปิดที่ 1,611.53 จุด ลดลง 6.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.58 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีมีโอกาสพัก โดยดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวขาขึ้น ต่างชาติและนักลงทุนเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 4/6 ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แข็งแกร่งในระดับที่เหมาะสม ไม่ต่ำจนเกินไปจนสร้างความกังวลในเศรษฐกิจ หรือแข็งแกร่งมากเกินไปจนเป็นเหตุให้ธนคารกลางสหรัฐฯลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,593 – 1,602 จุด กรณีที่ช่องว่างดังกล่าวเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน เส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและมีมีความลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,622 – 1,632 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,593 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity