ขออธิบายแบบนี้ครับว่า
การขึ้นครั้งแรกแรงกว่าขึ้นครั้งที่สอง แปลว่า แนวโน้มอ่อนแอ
ซึ่งการเป็นแบบนี้ กราฟจะ ฟอร์มตัวเป็น rising failing นั้นเอง
พอกราฟขึ้นไปในแถวบริเวณแนวต้านที่แข็งแกร่ง 1760 (Downtrendline)
ก็ย่อตัวลงมาราวๆ 1757
และก็มีการเด้งขึ้นไปเพื่อ check key level รอบสุดท้าย 1760 และจุดนี้คือจุดที่ดีที่สุดในการเข้าสถานะ Short
เพราะเป็นการ short ที่ไม่ได้สวน momentum ที่แกว่งมาแรงในตอนแรก
แต่มีจุดสังเกตว่า มันไปไม่ได้ คือ rising failing (Y1>Y2) + Key resistance (downtrendline)
และสุดท้ายเมื่อกราฟเด้งขึ้นไป ก็ย่อตัวลงมา ณ.จุดนี้เองที่กราฟก็ได้สร้างรูปที่เราคุ้นเคยกันว่า Head and Shoulder
ซึ่งในรายละเอียดแปลความหมายว่า
การที่กราฟจะสร้าง "หัว" ได้ การขึ้นจากไหล่ซ้าย ย่อมไม่ไปไกล นี่คือ ความลับของแพทเทินนี้
เพราะไหล่ซ้ายกับหัวเราอยู่ใกล้กัน ซึ่งแปลความเป็นนัยคือ การขึ้นครั้งแรกแรง การขึ้นครั้งที่สอง ที่ไปสร้างหัว ไม่แรง (ไม่มีกำลัง)
จึงเกิดไหล่ซ้าย และหัวได้
ณ.จุดนี้ แนวโน้มยังคงเป็น ขาขึ้นอยู่ กล่าวคือ ยังคงมี higher high และ higher low อยู่
สิ่งที่ถัดมาคือ การจะเรียกเป็นหัวได้ กราฟต้องมี "คอ" การมี "คอ" คือการที่กราฟต้องมาย่อตัว ใกล้ไหล่ซ้าย ให้มากที่สุด
และนั้นคือความลับที่จะบอกว่า การเป็นขาขึ้น ถูกทำลายไป 1 ส่วน นั้นคือ กราฟไม่ได้ทำจุดต่ำ ที่สูงกว่า ต่ำเดิมแล้ว NOT higher low
นี่คือ ความลับของ "คอ" และ แพทเทินนี้
จุดสุดท้ายคือ ไหล่ขว่ ณ.จุดนี้ที่เราเห็นกราฟสูญเสียแนวโน้มขาขึ้นไป กล่าวคือ ขึ้นแบบไม่มีกำลัง (ดูจาก"หัว" อยู่ไม่ไกล "ไหลซ้าย)
และโครงสร้างขาขึ้นสูญเสีย NOT higher low
สิ่งถัดมาที่ต้องเกิดคือ ไหล่ขวา และนั้นจะ complete process ของการไม่ใช่การขึ้นแล้ว
คือการต้องไม่ทำ NOT Higher High กล่าวคือ ไหล่ขวา ย่อมต่ำกว่า "หัว" เสมอ
และไหล่ขวา คือ การเข้าสถานะ SHORT ที่ดีที่สุด
และสุดท้ายเมื่อไหล่ขวา form ตัวแล้ว แล้วย่อลงมา ณ.บริเวณ "คอ"
นั้นคือ จุดตามทฤษฎีที่หนังสือสอนเราว่า NECKLINE และให้เป็นจุดประหารของ Pattern ที่มีชื่อเสียงนี้
และเมื่อหลุด NECKLINE ลงไป กราฟก็ได้เปลี่ยนจากขาขึ้น ไปเป็นขาลง โดยสมบูรณ์กล่าวคือ
ได้ทำ LOWER LOW และ LOWER HIGH เรียบร้อยแล้ว
โดย target ที่คาดการณ์คือ ความกว้างระหว่าง หัว ถึง คอ นั้นเอง
จบครับ สวัสดี
การขึ้นครั้งแรกแรงกว่าขึ้นครั้งที่สอง แปลว่า แนวโน้มอ่อนแอ
ซึ่งการเป็นแบบนี้ กราฟจะ ฟอร์มตัวเป็น rising failing นั้นเอง
พอกราฟขึ้นไปในแถวบริเวณแนวต้านที่แข็งแกร่ง 1760 (Downtrendline)
ก็ย่อตัวลงมาราวๆ 1757
และก็มีการเด้งขึ้นไปเพื่อ check key level รอบสุดท้าย 1760 และจุดนี้คือจุดที่ดีที่สุดในการเข้าสถานะ Short
เพราะเป็นการ short ที่ไม่ได้สวน momentum ที่แกว่งมาแรงในตอนแรก
แต่มีจุดสังเกตว่า มันไปไม่ได้ คือ rising failing (Y1>Y2) + Key resistance (downtrendline)
และสุดท้ายเมื่อกราฟเด้งขึ้นไป ก็ย่อตัวลงมา ณ.จุดนี้เองที่กราฟก็ได้สร้างรูปที่เราคุ้นเคยกันว่า Head and Shoulder
ซึ่งในรายละเอียดแปลความหมายว่า
การที่กราฟจะสร้าง "หัว" ได้ การขึ้นจากไหล่ซ้าย ย่อมไม่ไปไกล นี่คือ ความลับของแพทเทินนี้
เพราะไหล่ซ้ายกับหัวเราอยู่ใกล้กัน ซึ่งแปลความเป็นนัยคือ การขึ้นครั้งแรกแรง การขึ้นครั้งที่สอง ที่ไปสร้างหัว ไม่แรง (ไม่มีกำลัง)
จึงเกิดไหล่ซ้าย และหัวได้
ณ.จุดนี้ แนวโน้มยังคงเป็น ขาขึ้นอยู่ กล่าวคือ ยังคงมี higher high และ higher low อยู่
สิ่งที่ถัดมาคือ การจะเรียกเป็นหัวได้ กราฟต้องมี "คอ" การมี "คอ" คือการที่กราฟต้องมาย่อตัว ใกล้ไหล่ซ้าย ให้มากที่สุด
และนั้นคือความลับที่จะบอกว่า การเป็นขาขึ้น ถูกทำลายไป 1 ส่วน นั้นคือ กราฟไม่ได้ทำจุดต่ำ ที่สูงกว่า ต่ำเดิมแล้ว NOT higher low
นี่คือ ความลับของ "คอ" และ แพทเทินนี้
จุดสุดท้ายคือ ไหล่ขว่ ณ.จุดนี้ที่เราเห็นกราฟสูญเสียแนวโน้มขาขึ้นไป กล่าวคือ ขึ้นแบบไม่มีกำลัง (ดูจาก"หัว" อยู่ไม่ไกล "ไหลซ้าย)
และโครงสร้างขาขึ้นสูญเสีย NOT higher low
สิ่งถัดมาที่ต้องเกิดคือ ไหล่ขวา และนั้นจะ complete process ของการไม่ใช่การขึ้นแล้ว
คือการต้องไม่ทำ NOT Higher High กล่าวคือ ไหล่ขวา ย่อมต่ำกว่า "หัว" เสมอ
และไหล่ขวา คือ การเข้าสถานะ SHORT ที่ดีที่สุด
และสุดท้ายเมื่อไหล่ขวา form ตัวแล้ว แล้วย่อลงมา ณ.บริเวณ "คอ"
นั้นคือ จุดตามทฤษฎีที่หนังสือสอนเราว่า NECKLINE และให้เป็นจุดประหารของ Pattern ที่มีชื่อเสียงนี้
และเมื่อหลุด NECKLINE ลงไป กราฟก็ได้เปลี่ยนจากขาขึ้น ไปเป็นขาลง โดยสมบูรณ์กล่าวคือ
ได้ทำ LOWER LOW และ LOWER HIGH เรียบร้อยแล้ว
โดย target ที่คาดการณ์คือ ความกว้างระหว่าง หัว ถึง คอ นั้นเอง
จบครับ สวัสดี