Webull

Webull อนุญาตให้ทำการซื้อขายสินทรัพย์ต่อไปนี้:
- หุ้น
- ฟิวเจอร์ส

Webull ได้รับการควบคุมโดยองค์กรต่อไปนี้:
- CFTC (Commodity Futures Trading Commission)
- FINRA (Financial Industry Regulatory Authority, Inc.)
- NFA (National Futures Association)
- SEC (U.S. Securities and Exchange Commission)

ไม่มี Webull ไม่มีบัญชีทดลองใช้งาน

คุณจะต้องมีบัญชีเพื่อทำการเทรดซื้อขายกับ Webull บน TradingView หากคุณมีบัญชีอยู่แล้ว เพียงเชื่อมต่อกับ Webull บน หน้าต่างการซื้อขาย หากยังไม่มี ให้คลิก "เปิดบัญชี" ในโปรไฟล์ของโบรกเกอร์ แล้วระบบจะนำคุณไปยังเว็บไซต์เพื่อทำการลงทะเบียนให้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อตั้งค่าบัญชีเรียบร้อยแล้ว ให้กลับไปที่ Superchart ของเรา ค้นหาไอคอนของโบรกเกอร์บนหน้าต่างการซื้อขายl แล้วเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลประจำตัวของคุณ

โปรดทราบว่าโบรกเกอร์แต่ละรายมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน และ Webull มีเวลาเปิดทำการสำหรับบัญชีเป็นของตัวเอง — 5 minutes or less

ไม่มี Webull ไม่ได้มีข้อมูลระดับ 2 ให้กับลูกค้า

ระดับ 2 คือบริการสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกซึ่งให้การเข้าถึงสมุดออร์เดอร์ของตลาดแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนมองเห็นภาพรวมเชิงลึกและโมเมนตัมของตลาดได้อย่างละเอียด ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อขายได้อย่างชาญฉลาดและมีกลยุทธ์มากขึ้น

ใช่แล้ว Webull จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับบัญชีที่ไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่ง: 0

โบรกเกอร์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และส่งเสริมการซื้อขายแบบแอคทีฟ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายในการจัดการบัญชีที่ไม่ใช้งานและป้องกันการละทิ้งบัญชี

โบรกเกอร์ให้บริการเข้าถึงตลาดการเงินและดำเนินการซื้อขาย ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์และตลาดแลกเปลี่ยน โดยจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการส่งคำสั่งซื้อขาย โบรกเกอร์ให้บริการต่างๆ เช่น การดำเนินการคำสั่งซื้อขาย กระบวนการเข้าถึงตลาด การวิจัย การวิเคราะห์ และการสนับสนุนลูกค้า นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังอำนวยความสะดวกในการใช้ Leverage การเทรดแบบมาร์จิ้น และช่วยรับรองการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ในการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีโบรกเกอร์ เทรดเดอร์รายบุคคลอาจประสบปัญหาในการเข้าถึงตลาดและดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ

Leverage คือกลไกที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง โดยพื้นฐานแล้วหมายถึงการกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์ ซึ่งมักจะคูณขนาดสถานะของคุณด้วย 5 เท่า 10 เท่า หรือมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น Leverage 5 เท่า เงินฝาก 100 ดอลลาร์ก็สามารถเปิดสถานะการเทรดมูลค่า 500 ดอลลาร์ โดยที่โบรกเกอร์ให้ยืมเงินคุณ 400 ดอลลาร์ที่คุณไม่มี นี่เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม แต่โปรดจำไว้ว่าแม้ Leverage จะช่วยเพิ่มผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีจัดการความเสี่ยง

การเตรียมตัวก่อนการเทรดจริงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเสมอ ใน TradingView คุณสามารถทำเช่นนี้ได้ด้วยฟังก์ชัน การเทรดจำลอง ของเรา

ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียของ Webull เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด Free trading of stocks, ETFs, and options refers to $0 commissions for Webull Financial LLC individual cash or margin accounts. Index Option Contract Fees, Futures Contracts Fees, Regulatory Fees, Exchange Fees and other Fees may apply. Please refer to their website for more details.

Webull อนุญาตให้ใช้ประเภทออร์เดอร์ต่อไปนี้:
- Limit Order
- Market Order
- Stop order
- Stop limit order

เรตติ้งของโบรกเกอร์บน TradingView อ้างอิงจากรีวิวของลูกค้า เรามั่นใจว่าเรตติ้งโบรกเกอร์สะท้อนประสบการณ์จริงของผู้ใช้งาน โดยอนุญาตเฉพาะการรีวิวจากผู้ใช้งาน TradingView ที่ได้รับการยืนยันและมีบัญชีที่เชื่อมโยงที่ใช้งานอยู่เท่านั้น เรตติ้งล่าสุดจะมีน้ำหนักมากกว่า มอบข้อมูลเชิงลึกที่ทันสมัยเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบรู้ วิธีนี้ส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต อย่าลืมให้คะแนนโบรกเกอร์ของคุณ เพื่อช่วยปรับปรุงบริการและช่วยให้ผู้ใช้งานรายอื่นเลือกใช้บริการ

ใช่แล้ว คุณสามารถวาง Bracket Orders กับ Webull ได้

ออร์เดอร์คือคำสั่งให้โบรกเกอร์ดำเนินการซื้อขาย - ซื้อหรือขายสินทรัพย์ในนามของเทรดเดอร์ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ การยอมรับความเสี่ยงของคุณ และสภาวะตลาด ออร์เดอร์แต่ละประเภทอาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน มาดูออร์เดอร์พื้นฐานกัน
- Market order เป็นออร์เดอร์พื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อซื้อหรือขายสินทรัพย์ทันทีที่ราคาถัดไป
- Limit order ระบุราคาสูงสุด (สำหรับการซื้อ) หรือต่ำสุด (สำหรับการขาย) ที่เทรดเดอร์ต้องการทำการซื้อขาย ออร์เดอร์จะดำเนินการเฉพาะเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มีออร์เดอร์ซื้อและขายแบบ Limit order ซึ่งกำหนดให้ซื้อ/ขายสินทรัพย์ที่ราคาหรือต่ำกว่า/สูงกว่าราคาที่กำหนด
- Stop order ออร์เดอร์จะทำงานเมื่อสินทรัพย์เคลื่อนไหวสูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับราคาที่กำหนด และจะดำเนินการในทิศทางเดียวกับที่ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่เสมอ มี Stop-loss order (ปิดสถานะโดยอัตโนมัติที่ระดับราคาที่กำหนดหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ) และ (เริ่มการซื้อขายเมื่อราคาทะลุระดับราคาที่กำหนด)

การเทรดที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการตัดสินใจได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ ให้ทำตามขั้นตอนสำคัญเหล่านี้:
- ค้นหาสินทรัพย์ที่เหมาะสมโดยใช้ตัวคัดกรองและฮีทแมพของเรา สำรวจตลาดหุ้นด้วย ตัวคัดกรองหุ้น ติดตามสกุลเงินดิจิทัลบน ฮีทแมพเหรียญคริปโต และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมายในเมนูหลัก
- วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาบน Superchart ของเรา ใช้เครื่องมือวาดภาพหลายตัว อินดิเคเตอร์ที่พร้อมใช้งาน และฟีเจอร์ขั้นสูงเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดด้วย ปฏิทินเศรษฐกิจ และข่าวสารล่าสุด ช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
- ทดสอบกลยุทธ์ของคุณในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงด้วย บัญชีการเทรดจำลอง เพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพอย่างไรก่อนที่จะลงทุนเงินจริง
- เลือกโบรกเกอร์ และเริ่มต้นเส้นทางการซื้อขายของคุณด้วยความมั่นใจเมื่อคุณมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน

การเทรดแบบมาร์จิ้น หมายถึง การที่นักลงทุนซื้อสินทรัพย์โดยการกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์ วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถเปิดสถานะซื้อขายได้มากขึ้นโดยใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยลง แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดได้มากขึ้นโดยใช้เงินทุนที่น้อยลงและเพิ่มผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน:
- ความเสี่ยงในการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนเกินเงินลงทุนเริ่มต้น
- ต้นทุนดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืม
- ความเสี่ยงในการถูกเรียกมาร์จิ้นซึ่งต้องใช้เงินฝากเพิ่มเติม
ควรวิเคราะห์สินทรัพย์อย่างละเอียดและทดสอบกลยุทธ์ของคุณในบัญชีการเทรดจำลอง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณพร้อมที่จะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้