- จาก bar กราฟ week 2 bar ทำลักษณะคลา้ยเลขบวก หมายความว่า เกิดการชลอตัวระดับ week - สอดคล้องกับ กราฟรายชั่วโมง ที่ลงมาระดับ 20 กว่าจุด บ่งบอกว่า ถ้าตลาดขึ้นก็ได้ไม่เยอะ ถ้าตลาดลงก็น่าจะสัก 50 จุดจาก 930 -เราเทรดตามกราฟเป็นหลัก ไม่พึ่งข่าว เพราะะนั้นตรงจุดนี้ ควรรอตราบใดที่ไม่เห็น 890 -885 จะไม่ L - ถ้าต้นทุนไม่ต่ำกว่า 890 เวลาตลาดขึ้นก็จะไม่ตาม
- ส่วนตัวอยากเห็น 890 888 หรือ 885 - Indi ที่ใช้ ส่วนใหญ่คือ standard division ไว้ดูความผันผวนถ้ายก high ยก low จะเฝ้าดู ปกติไม่นั่งเฝ้าน่าจอ วางแผนปุ๊ป เข้าเทรด ก็จะไปทำอย่างอื่น ถึงแม้จะเป็น futures มีตัวคูณ ถ้าผิดทางมันจะนำความเสียหายจุดละ 200 X ขนาดสัญญา เพราะแผนแต่ละคนไม่เหมือนกัน
- เปิดลงน่าสวน 904 - 900 แต่ถ้าเด้ง ได้กำไรควรออก แล้วรอ... - เปิดขึ้น ระวัง slippage - ตลาดมักจะขึ้นเมื่อคนส่วนใหญ่ มีความกังวลและสับสน แต่ไม่ทุกครั้งเพราะฉะนั้น ถือ L ควร มีแผน 2-3
- ดัชนี คือความเชื่อมั่นของประเทศ - ถ้าเราไม่คุ้นพฤติกรรมตลาดดัชนี อย่าเทรด เพราะขนาดคนคุ้นแล้ว ยังมีพลาด เพราะปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้ - ให้วางแผนตนเอง อย่าพึ่งข่าว ทางที่ดีไม่ฟังจะดีกว่า เพื่อที่จะได้ไม่สับสนว่าแผนของเราใช้ได้จริงมั้ย - ราคาดัชนี คือ fair price + ความคาดหวัง ทั้งฝั่ง L และ S - การคิดที่จะชนะตลอดจะทำให้เสีย ค่า comm เยอะมาก - ตลาดมักจะลง และขึ้น...
- เมื่อวานดัชนี ฝั่งยุโรป และ อมเริกา ลงจากความกังวลในสถานะสงคราม - sentiment จะส่งถึงเราแน่นอน แต่.... - ถ้ามันขึ้นและแข็งแกร่งจริง set ต้องลงแรงและจบเร็วเพื่อดันขึ้น คาดหวังที่ 890 จุด - สงครามถ้าสถานการณ์ดีขึ้น จะดีดกลับเร็วมากๆ แต่ถ้าไม่ 890 จุดก็เอาไม่อยู่ - เป็นเหตุให้ ที่ต้องทำการ hedge ไว้ ถ้าคนที่อ่านบทความผมเมื่อวานยิ่งใกล้ 930 ต้องระวัง -...
- แต่ว่า ถ้าตลาดเลือกขึ้นใกล้ 930 นะจะขายออกก่อน - ส่วนเล่นรอบต้องรอ ถ้ารอไม่ได้ถือ L มากกว่า แล้วประกันความเสี่ยง ด้วย spread - ส่วนตัวยังมีมุมมองเดิมว่า ราคาเล่นระดับบวกลบ 5-7 จุด ถึงปลายสัปดาห์ อาจจะมีตัวกระตุ้นอื่นๆที่ทำให้ราคาดีดแต่ก็ไม่น่าเลย 930
- กำหนดแนวรับแนวต้าน โดยแท่งกราฟ month จุดสูงสุดและต่ำสุดคือกรอบที่โฟกัส - ถ้าราคาทะลุขึ้น แล้วไม่วิ่งกลับมา ก็ปล่อยให้ราคาวิ่งเรื่อยๆ จนถึงธันวาคมกลางเดือน - ถ้าราคาทะลุงลง แนวโน้ม sideway down สูงมาก - ถ้าราคาอยู่ในกรอบ ( ซึ่งน่าจะแบบออกมารูปนั้น ) สาเหตุหลัก ( ส่วนตัวให้ความสำคัญ )จาก ค่าเงินบาท ถ้าสูง จะเสี่ยงต้นทุนต่างชาติสูง ซึ่งเขาไมน่าจะทำ) - อย่า all in...
- เช้า โดด สายเงียบ บ่ายตก โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด - เช้าตก สายเงียบ บ่ายขึ้น โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด - เช้าเงียบ สายเงียบ บ่ายสะบัด ขึ้นๆ ลงๆ โดยเฉพาะก่อนปิดตลาด - ถ้าได้กำไรแล้วไม่ควรเล่นต่อ รอวันจันทร์ดีกว่า ถ้ายังมองพฤติกรรมตลาดไม่ออก - ถ้ารอได้รอวันจันทร์ดีกว่า - เมื่อหลายปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์วางระเบิดแถว ศาลพระพรหม ในช่วงวันหยุด ทำให้ตลาดเปิดลง 30 กว่าจุดโดยปกติ...
- ยังคงมีมุมมองเดิมต่อตลาด เลย 930 ไม่น่าตาม - ยังไม่เห็น900 หรือ 890 ยังไม่ L - การสะบัดของราคาเริ่มเห็นบ่อยขึ้น บ่งบอกถึง sideway - sideway คือตัววัดว่า คนที่เข้าออกบ่อยๆ ยังมีกำไรมั้ย คนพึ่ง indicator ระยะสั้นจะเจ๊งสูง - วิธีการจัดการ sideway คือ รอ - รอ จน กว่า วอลลุ่มเข้า พร้อมราคา จะลงหรือขึ้นก็แล้วแต่
หากราคาถูกเลี้ยงไว้ระดับ 2-3 วันก่อนให้เฉยๆ หากราคาทะลุ 930 ต้นทุนดีควรออก ถ้าจะเก็บ correction ควรรอที่ 945 หากแตะ 910 สามารถ L ได้ ส่วนที่ S ไว้ที่ 930 ควรออก
- การเคลื่อนไหววันนี้ยังยืนยันมุมมองเดิม sentiment หลักคือขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องค่าเงินบาท - ธรรมชาติของ set50 ถ้าเลือกพักฐานระยะสั้น จะลงจนถึงวันศุกร์ ถ้าลงแรงระดับ 20 - 30 จุดจะดีมาก แต่ถ้าไม่ถึง แถว 905 - 900 ถือว่าโอเค - แต่ถ้าลงไม่แรงเต็มที่ ก็ไม่น่าเกิน 908 เทรดยังไงไม่ต้องเดา - อย่าโฟกัสตัวเลขทุกจุด อย่าหวังชนะทุกตรา เลือกกำไรในแบบเรา...
-ถ้าตลาดไปต่อเต็มที่ไม่น่าเกิน 945 ไม่น่าตาม -ต้นทุน 907 ถือได้ ต้นทุน 910 พิจารณาออก -ถ้าเปิดโดดจะ square หรือ spread ก็ได้ถ้าเสียดายต้นทุน -กลยุทธ์ไม่เหมาะกับมือใหม่ -ถ้าไม่เห็นการลงระดับ 30 จุดขึ้นไม่น่าตาม
แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น sentiment น่าจะพักฐานสัก 30 จุดจากจุดสูงสุดเนื่องจากขึ้นมาเป็นร้อยกว่าจุดแล้ว แต่ถ้าตลาดยังเลือกขึ้นถึง 925-930 ค่อยพิจรณา S เพื่อกิน correction