ส่วนตัวผมยังคงมองบวกเพราะการลงตรงนี้แนวรับค่อนข้างแข็งแรง แต่คาดหวังไว้ที่ 910 แล้วค่อยคิดใหม่ กลยุทธ์ผมคือ ถือ L futures มากกว่า long put option ถือ จนจบไตรมาส ถ้าถึงเป้า 910 ค่อยปิด แต่ภาพรวมปีทั้งปีนี้ผมว่า หลังไตรมาสแรกส่วนตัว ผมจะถือ S มากกว่า
เนื่องจากติดภาระกิจสอน นักศึกษา ที่มหาลัย เกี่ยวกับหุ้น เลยไม่มีเวลา update มากนัก การลงแต่ละครั้ง ถ้าใครมองสั้น และวางเงินไม่มาก แน่นอนจะกังวล แต่ส่วนตัวผมมองว่ามันคือระยะเก็บ L แต่ต้องวางเงิน จำกัดความเสี่ยงใกล้ชิด ใครใช้ option เป็นก็ใช้ ใครใช้ไม่เป็นวาง stop loss เอาหรือ ทำ calndar spread ก็ได้แล้วแต่ถนัด
ผ่านมา 1 ปี กับการเทรด ถ้ารวมกับปีที่ผมเริ่มเทรด ก็ทั้งหมด 11 ปี ตอนเริ่มเทรด ผมมุ่งที่ตลาด future และบอกตนเองว่าจะ Master ใน index ให้ได้และเท่านั้น ไม่มีสนใจหุ้นปกติเลย และเมาหมัดอยู่หลายๆๆๆๆๆ ปี กว่าจะ ขาแข็ง ชกไม่มั่ว ไปเปิดดู dairy ที่ตนเองทำเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็ปวดใจมากพร้อมสบถว่า ทำไปได้ 11 ปี เจออะไรบ้างที่ทำให้จำ อันดับแรก slippage 50 - 60...
- กลับไปดูไร่อ้อยที่ปลูกไว้ ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อวานเปิดดู อ้าว เซอร์ไพรซ์ตลาดเรื่องกลุ่ม cp - เอาเถอะเราไม่ใช่แนวพื้นฐาน เราวางแผนมาแล้ว - 890 คือเลขที่ผมบอกมานานตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ยิ่งเข้าใกล้ก็จะซื้อเก็บ แล้วไป stop loss ที่ 860 - ไสตล์ผมคือเล่นรอบ จะไม่เข้าออกบ่อยเพราะ เราเสียค่าคอมบ่อยไม่คุ้ม - สัปดาห์ที่แล้วคิดว่าจะขึ้นไปไฮเดิม แต่มีเซอร์ไพรซ์...
พิจารณาจากมีแรงซื้อช่วงปลายสัปดาห์ การจะได้เห็น high เดิม มีโอกาสมากกว่า แต่เราก็ยังไม่ตัดประเด็นแตะ low เดิม wk ที่แล้ว ถ้าปลายสัปดาห์นี้ไม่มีแรงขายที่ชนะ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะปิดสูงใน wk นี้ แต่ก็ไม่น่าเกิน 980 หรือต่ำกว่า 906
ขออภัยที่มาช้า ไปเที่ยวมา ตลาดมันชวน ให้ไปเที่ยวซะเหลือเกิน ตามสถิติ เดือนธันวาคมมักจะให้ผลตอบแทนที่ดี 2-3 ปีแล้ว ผมยังมองว่าตลาดยังไม่หลุด 890 ผมจะมองว่า ยังดีอยู่ เพราะคนเล่นหลักคือสถาบันในประเทศ อาจจะไปเห็น high เดิมเร็วๆนี้ ถ้าไม่มีอะไรมาเซอร์ไพรส์ คนเล่นสั้น อยู่ฝั่ง L ได้เปรียบกว่าตราบใดที่ยังไม่หลุด 906
-ต่างชาติขายมาตลอดจน 2-3 วันที่ผ่านมาซื้อ เยอะขึ้นเราสามารถ ตั้งสมติฐานได้ว่า ต้นทุนฝรั่ง อยู่บริเวณ 920 -930 - สถาบัน กลับขายมาให้ฝรั่งรับ ถ้าฝั่งไม่รับคงลงหนักกว่านี้ - ราคาสร้าง bridge มาหลายสัปดาห์แล้ว ถ้า break out ผมว่าไปได้สัก 30 - 50 จุด - ปัญหาคือฝั่งไหน L or S - เมื่อพิจารณา sntiment แล้ว ควรเลือกทางขึ้นมากกว่า ถึงแม้อยากให้ลงมาตลอด 2...
-ในกรอบสีแดง เมื่อวานฝรั่งซื้อที่ 1.6พันล้าน - ปกติการซื้อแบบนี้มักจะดันไป 30 - 50 จุด นั่นคือจุดสูงสุดแถว 965 นั่นเอง - ขณะเดียวกันถ้าต่ำกว่ากรอบแดงคือ 936.5 ก์ไปรับที่ 929 ถ้าหลุดอีก หวังที่ 890 ได้เลย - ส่วนตัวยิ่งสูงยิ่งหนาว อ่านการบ้าน wk นี้ไว้นะครับผมว่าน่าจะออกมารูปนั้น ผมก็ action ตามนั้น - แล้วถ้าเลือกขึ้น เมื่อถึง high เดิมคง ออกก่อน แล้วค่อยว่ากัน -...
* WK ที่แล้วบอกว่า น่าจะปิดเป็นรูป บาร์ บวก * แต่ปิดจริง ก็ ไปทางลง (เกือบจะเป็นรูปเครื่องหมาย บวก) * ถ้าสันนิษฐานของผมถูกตลาดควรเลือกที่จะลงในอาทิตย์หน้า สันนิษฐานจาก การซื้อหุ้นของกองทุน เป็นหลัก ซื้อแล้วทไมไม่ขึ้น เพราะเขารอต้นทุนถูก ใกล้สิ้นปีแล้วกองทุนคงไม่ทำอะไรผลีผลาม * ตลาดน่าจะ sideway down มากกว่า แต่นั่นแหละไม่มีใครรู้...
- wk ที่แล้ว hammer ขึ้น - wk นี้ hammer ลง ตัว body ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของหาง - บ่งบอกถึงเรื่อง คนในตลาดเน้นระยะสั้น เน้นเกร็งกำไร และ คิดว่าขึ้นไปมากกว่านี้ไม่น่าจะได้ มีโอกาสต่ำ ไม่น่าเสี่ยง โองกาสลง 40-50 จุดมีมากกว่าขึ้น 40 - 50 จุด - อาทิตย์หน้ามีความเป็นไปได้ที่อยู่ในกรอบ 962-920 ระยะกลางถึงยาวยังดูดีแต่ใจก็อยากให้ลงไปที่ 890 แต่ไม่ถึงสักที...
- ย้อนกลับไปอาทิตย์ที่แล้ว ได้ให้ข้อมูลว่าจบสัปดาห์จะเห็น แฮมเมอร์ ปรากฏว่า เกิดขึ้นจริงแม้จะไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะสำหรรับผม ตัว body ควร 25 % หาง 75% แต่จบแบบนี้ ถือว่า ขาขึ้นมีความแกร่งระดับหนึ่ง การบ้าน week ที่แล้วผมบอกต่ำสุดที่ 920 แล้วจะจบ hammer แบบบาร์ขึ้น สัปดาห์นี้ก็จบแบบที่พูดแบบใกล้เคียงที่สุด - คราวนี้ สัปดาห์ หน้า ถ้าขึ้นก็ไม่น่าเกิน high...
- เมื่อพิจารณาที่บาร์ WK ล่าสุด เป็นบาร์ปิดลงยาว บาร์แรกในรอบ เกือบ 3 เดือน ปิดที่ราคา 940 - ข้อพิจารณที่ 2 จากช่วงเวลา 15 วันที่ผ่านของการเทรด ดีสุดอยู่ที่ +1.2% ,แย่สุด -1.5% ,ค่าเฉลี่ยที่ 0.3% - มาหาค่า prop อย่างง่าย (ถ้าไม่มีการ surprise ของตลาด) แย่แบบปกติน่าจะเห็น 920 - 911 ดีแบบปกติน่าจะ 951-955 จบ week แบบไม่ไปไหน บวก ลบ ไม่เกิน 3 จุด -...
- แต่เมื่อดูยอดขายสถาบัน ต้นทุนของสถาบันอยู่ที่เริ่มดันดัชนี S50 อยู่ที่บริเวณ 820 และทยอยซื้อมาเรื่อยๆ - การดันไปที่ 966 มาหักลบ ดัชนีปัจจุบัน 930 ถือ การลงประมาณ 30 จุดถือว่าน้อยไป ควรเห็นบริเวณ 910 - 890 เพื่อสร้างฐานที่ต้นทุนใหม่ - ท่านที่ตามผม จะเห็นว่าผมเชียร์ราคา 890 ตลอด ถ้ามาถึงจุดนั้น สิ่งที่ทำคือทยอย L - สไตล์เทรดผมคือ sentiment และการตั้ง Zone ราคา...
- ตลาดทำจุดสูงสุด 966 โดยพิจารณาที่ข้อสันนิษฐานเดิมคือ กองทุนซื้อ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ทั้งภายในภายนอกตลาด - ที่จุด R3 การจะเห็นตัวเลขเปิดโดด ขึ้นไปแตะ ที่ 966 อีกครั้ง ประมาณ 90 % หมายความว่า ถ้าต้นทุนใครต่ำกว่า 965 มีโอกาสกำไร 90 % หรือ ไม่ว่า ระหว่างวันราคาตกไปที่เท่าไร ที่ราคา ( S2 S3 )โอกาศจะปิดที่ราคาบริเวณ P R2 R3 (955 - 966) มีโอกาส 90 % -...
ตลาดขึ้นมาถึงจุดเฝ้าระวังจุดที่ 2 บริเวณที่ 966 - พิจารณารายละเอียดกลุ่มซื้อขาย ต่างชาติ ซื้อๆ ขายๆ เขาระวังเรื่องต้นทุน ถือสถานะ short บ้าง กองทุนซื้ออย่างเดียว กระสุนยังไม่หมด หรือ อาจจะพักบ้าง ราคา 2 วันนี้มีแต้ทะยานขึ้น - ถ้าคนเล่นฝั่ง L และต้นทุนต่ำกว่า 900 สามารถถือได้จนถึง จบปี - ถ้า ต้นทุนสูงกว่า 940 ต้องออกแล้วและรอ ถ้าจะถือต้องป้องกันความเสี่ยงไว้ -...
- เป้าส่วนตัวผมคือ 945 แต่ตลาดก็พุ่งทะลุไปดูทีท่าว่าอาจจะ จบแถว 966 ที่แนวต้านหลัก - ถึงตอนนี้ผมจะรอ S แต่ตลาดจะให้ถือ S ตอนไหนยังไม่รู้แต่ว่า เพดานขึ้นมันแคบลงเรื่อยๆ - ถ้าตลาดดีจริงคงเลี้ยงราคานี้จนถึง 966 - การรอคือ กลยุทธ์อย่าง - การถือ S เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ต้องจับจังหวะให้ดี เพราะจะจบเร็วและแรง
- กรอบสีแดงคือกรอบที่ราคาน่าจะแก่วง กรณี sideway หรือถ้าลงลึกสุดก็ 890 - กรอบสีนำเงินคือเป้าหมายระยะสั้นเมื่อถึง 945 จะทำการ short เพื่อเก็บ correction ที่ 930 ถ้าตลาดลง - เป็นการคาดการณ์วางแผน ถ้าข้อเท็จจริง ระหว่างสัปดาห์เปลี่ยน ต้องปรับใหม่เช่น ต่างชาติกลับมาซื้อแรง หรือ มีเรื่อง surprise ตลาดให้ลง
- คนถือ L ที่ไม่ได้วางหลักประกันเกิน 3-5 เท่าของ IM ควร Take profit ออกจากส่วนนึง (ต้นทุน 915) - คนถือ L ที่วางหลักประกันเกิน 3-5 เท่าของ ถือต่อได้ - ส่วนตัวที่จะทำคือ Short รอเก็บ correction ที่ 945