แม้จะลงแค่ไหนก็ยังมองโอกาสในการสัมผัส แนวรับเป็นครั้งแรกอยู่ ดังนั้น รอดูโอกาสให้ดี แล้วเข้าสถานะซื้อ น่าจะมีแรงซื้อสู้ครับ
เวลาแนวโน้มขึ้นแล้วอยู่ดีๆมาลงแรง ณ.จุดนี้ เรารู้โดยธรรมชาติอยู่แล้วว่า การลง มันต้องเด้งก่อนเสมอ และตรงที่เด้งก่อน มันก็ไปดันสอดคล้องกับแนวโฯ้มขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย ดังนั้นตรงนี้ ความน่าจะเป็นที่จะออก ว่า ต้องขึ้นก่อน มีสูงขึ้นมาก เพราะว่า มันเป็น แนวโน้มขึ้น + เป็นการลงแล้วต้องเด้ง ลองดูจากภาพดูก็ได้ครับว่า จะแบบนี้หลายๆครั้ง
ผมว่าคงอยู่ในกรอบไซย์เวย์ไป ยังไม่น่าคิดจะไปไกล ผิดถูก ก็ STOP LOSS ชิตังเม โป้ง รวยๆๆๆๆ
ตอนนี้ บิทคอยมันลงมาทะลุ โลเดิม จากเดิมที่เป็นขาขึ้นแบบ higher high higher low ได้ structure change เป็น Lower low แล้ว ดังนั้น flop ตอนนี้มีโอกาสออกเป็น Long ได้สูงมา เพราะต้องมีเด้ง เพื่อเป็น sideways นั้นคือแบบที่ 1 ที่ผม แบบที่ 2 เราอาจมองได้ว่า มันหลุด neckline จะไหลลงยาว ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ยังไม่คิดว่า เกิดขึ้นตอนนี้ครับ ลองดูถ้าไม่แม่นก็จะได้รู้ว่า...
อดีตเคยเจ็บเพราะสวน ดังนั้นอย่าสวน ใจต้องกล้าเข้าไว้
อะไรที่มันเกิดซ้ำ มันก็มักจะเกิดซ้ำอีก 1 มองเจอแนวต้าน มีย่อลง 2. ย่อลงแล้วมีหางเป็นจังหวะเช้า
ตรงที่เราจะได้จำได้ว่า ถ้ามันไม่ใช่ อะไรที่มันใช่ เพราะหลายๆครั้งที่ผมวาดแล้วมันโดน stop loss เหมือนอันที่แล้ว ผมก็พยายามจะ access ว่าทำไมมันถึงโดน ซึ่งอันที่แล้ว ก็เกิดจากไปเข้า S ไว้เกินไป จุดเข้าสถานะมันคือสิ่งสำคัญ ถ้าเปรียบแบบเกม poker ที่ผมเองก็ไม่เล่นไม่เป็นอะนะ ดูๆแล้วพยายามเชื่อมโยง จุดเข้าเนี่ยเหมือนกับการเลือกไพ่ เข้าไปเล่นใน FLOP เลย เลือกไพ่ดี...
ชิตังเม โป้งรวย 5 กับ 10 เริ่มรู่เข้าหากัน มีความเป็นไปได้ว่า มีย่อ โป้งรวย
บิทคอยอย่างที่เรียนแจ้ง ค่อนข้างหนัก เพราะไป divergence ตามเครื่องมือแบบ lagging ทั้งหลาย ปัจจุบันมาเล่นต่ำ ema 10 วันอีก คิดว่า แกว่งตัว ค่อยๆย่อตัวลงไม่ไปไกลครับ
ผมเคยตี สามเหลี่ยม แล้วมันหลุดแบบนี้ แล้วมันเคยขึ้น ถ้าวันนี้สิ่งที่มันเคยเป็นมันเหมือนเดิม มันก็คงต้องขึ้น
สูตรรวม 3 เส้นตอนที่ผมเป็นโบรกเกอร์ หุ้นตัวไหน โดนกดขนาดนี้ มีแค่ทรงกับทรุดเท่านั้นครบ
โดนก็โดน ปล.เหตุผลในการเข้า 1. continuation pattern ฝั่งย่อตัว 2. ไปก๊อปปี้คนอื่นมาจ้า
บิทคอย ถ้าใครใช้เครื่องมือประเภท macd ก็จะเห็นว่า การแกว่งทำนิวไฮแบบนี้คือแบบ divergence ซึ่งก็ไม่แปลกที่เวลามี divergence ราคามักย่อตัวลง แต่ในเวลาปัจจุบัน มันขัดแย้งหลายอย่าง 1. แนวโน้มเป็นขึ้น (โครงสร้างก็ยังไม่ได้เปลี่ยน) 2. เครื่องมือหรือ อะไรก็ตามแสดงถึงความยังไม่พร้อมขึ้น ดังนั้น ถ้าอะไรที่มันค่อนข้างไปทางออก flop ออกมาได้ทั้งย่อแรง และขึ้นแรง ตรงนี้...
ในหลายวันที่ผ่านมา ผมเหนแต่ความเห็น short ทอง แทบจะ 95% และก็ไม่ผิด เมื่อคนส่วนใหญ่คิดอะไรแบบเดียวกัน ทฤษฎี ผลประโยชน์ก็จะทำงาน คือคนกำไรต้องเป็นส่วนน้อยเสมอ ไม่ต่างกับบิทคอยตอน40,000 มา 60,000 เลยที่ มีแต่คนแนะนำshort ทฤษฎีผลประโยชน์ใช้งานได้จริงๆครับ
ดูจากทรงกำลังขยับๆขึ้นไปทางเอียงขึ้น และมีทั้งเส้น 10 วัน และ trendline support จุดเข้าและคัสจึงใกล้มาก ในขณะที่อัพไซท์มาไฮเดิมไว้ก่อน ชิตังเม โป้ง รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมอยู่ใน แฟตฟอร์มนี้ ก็ได้เรียนหลายอย่างเช่น 1. เรียนรู้ bias จัดๆ เช่นตอนที่ผมหลงไป S Bitcoin ซึ่งภาพๆรวมก็น้อยคนที่จะมองบิทคอยขึ้น (ซึ่งมันก็ยังขึ้นต่อ) หรือตอนที่บิทคอยกำลังขึ้นจาก 40000 มา 60000 ซึ่งทุกคนก็มอง sell แต่นั้นคือ โอกาส buy ที่ดีที่สุด 2. แลกเปลี่ยนในเชิง pattern ต่างๆที่เราเองไม่ได้ตีถึง เช่นน้องท่านนี้ มักจะตี pattern...
มีคำกล่าวนึงที่พูดว่า ถ้าคิดทำสิ่งเดิมๆ การจะหวังสิ่งใหม่ หรือสิ่งที่ดีขึ้น ย่อมเป็นไปได้ยาก นี่คือสิ่งที่ผมจะบอกทุกคนว่า ผมเองก็พลาดโดนความคิดที่ว่า บิทคอยน่าจะย่อลง จนลืมคิดถึงตรรกะที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวโน้มไป ผลก็คือผมโดน stop loss แต่แทนที่เราจะ blaim ตัวเอง ผมอยากแนะนำว่า การ blaim ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไร นอกเสียจากว่า เราจะคิดปรับปรุง...
เป็นเรื่องราวของการย่อตัวลงแรงจากนั้นก็มีการเด้งขึ้นแรง ดังนั้นตรงนี้มีโอกาสที่ต้องจะต้องย่อเพื่อลงต่อ และย่อเพื่อย่อต่อสูงมาก ดังนั้นจังหวะแบบนี้ จึงเรียกว่า การเทรดที่ดี