WTIUSD 13/11/2023ปัจจัยพื้นฐาน : WTIUSD 13/11/2023
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐและจีน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเกือบ 2% โดยได้แรงหนุนจากการที่อิรักสนับสนุนให้กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีกก่อนการประชุมในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่เมื่อพิจารณาตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 4%
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมัน WTI ในปี 2567 จะอยู่ที่ระดับ 89.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลง 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค. พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์ในปี 2567 สู่ระดับ 93.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.เช่นกัน
ขณะเดียวกัน EIA คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐจะลดลง 1% ในปี 2567 ซึ่งจะทำให้การใช้น้ำมันเบนซินต่อหัวของชาวอเมริกันต่ำสุดในรอบ 20 ปี โดยมีสาเหตุจากการที่ประชาชนทำงานจากที่บ้านมากขึ้น, การที่รถยนต์มีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น และการที่อุปสงค์น้ำมันลดลงจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อแอของจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของจีนลดลง 6.4% สู่ระดับ 2.748 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.3% และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์สินค้าและบริการของจีนที่อ่อนแอในตลาดโลก
วิเคราะห์ทางเทคนิค :
MA ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ยังอยู่ในช่วงขาลง
ตัวชี้วัดทางเทคนิค ยังอยู่ในช่วงขาลง
ATR ผันผวนน้อย
ปัจจัยร่วมกับราคา :
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในช่วงเช้าของการเปิดตลาดยุโรปวันนี้ โดยเทรดเดอร์มีความกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ที่อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต
DXY ดอลล่าปรับตัวลงเล็กน้อย และมีความผันผวนที่ต่ำลง
สัปดาห์นี้เริ่มต้นขึ้นโดยที่ค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนตัวลง เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังรอคอยการเปิดเผยข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ในวันอังคารนี้ เพื่อรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความคืบหน้าของเฟดในการพยายามลดอัตราเงินเฟ้อลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษของปีที่แล้ว
การลดระดับลงของอัตราเงินเฟ้อที่ชัดเจนอาจกระตุ้นให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าอัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากรายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ประจำเดือนตุลาคม ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงสภาวะที่ผ่อนคลายลงในตลาดแรงงาน
อย่างไรก็ตาม เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวเป็นนัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้ออาจยังไม่สิ้นสุด และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมก็ยังคงเป็นไปได้ โดยมุมมองนี้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานจำนวนหนึ่งของเขาตลอดทั้งสัปดาห์