ฝึกอ่านกราฟตัวนี้มันSWแต่มันก็ดูเข้าง่ายอยู่นะเลยลองเขียนแผนขึ้นมาไว้ดูก่อนยังไม่ควรซื้อรอย่อลงมาก่อน
กราฟทำปากนกแบบนี้แสดงว่าก่อนหน้านี้เจ้าของคงกวาดตลาดมาแล้วตอนนี้ก็ทำSWให้เม่าได้เก็บกินเศษกระดูกเรารอให้เบรคก่อนทำPA BUYค่อยค่อย
1F ไอเดียในการเทรด
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นแนวโน้มกราฟณขณะนี้เป็นรูปแบบของ side way การเข้าซื้อในช่วงราคาแบบนี้มีความเสี่ยงมากที่จะแพ้มากกว่าชนะถ้าจะเข้าในทางเฟรมที่เล็กๆเก็บสั้นๆก็ยังมีความเป็นไปได้แต่ต้องบีบกรอบราคาให้เล็กลงและหาจุดเข้าที่ชัดเจนก่อนเสมอ
รถกระบะฟอร์ดยังคงเป็นรถบรรทุกที่มียอดขายสูงสุดรถกระบะฟอร์ดยังคงเป็นรถบรรทุกที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาเป็นปีที่ 45 ผู้ผลิตรถยนต์กล่าว
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
รถกระบะ F-Series ของ Ford Motor จะยังคงเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาเป็นปีที่ 40 ติดต่อกันในปี 2564 และเป็นรถกระบะที่มียอดขายสูงสุดในอุตสาหกรรมเป็นปีที่ 45 ติดต่อกัน บริษัทกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี
ในขณะที่ปิ๊กอัพซึ่งรวมถึงรุ่น F-150 และพี่น้องที่ใหญ่กว่าอื่นๆ มียอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ มานานหลายทศวรรษแล้ว แต่การรักษาตำแหน่งในปีนี้ก็มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้การผลิตลดลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม
ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการผลิต F-Series ตลอดการปิดโรงงานในปีนี้เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วน โดยต้องปิดโรงงานที่ผลิตรถกระบะในระยะเวลาอันสั้นเมื่อเทียบกับเดือนที่โรงงานอื่น
การคาดหวังในครั้งนี้?
ปัญหาการขาดแคลนชิปอาจทำให้เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส สูญเสียตำแหน่งยอดขายอันดับ 2 ที่ถือครองมายาวนานในปีนี้ให้กับรถกระบะรุ่น Ram ของสเตลแลนติส ในช่วงสามไตรมาสแรก ยอดขายรถกระบะขนาดเต็มของ Ram อยู่ที่ 434,772 คัน เทียบกับ Silverado ที่ประมาณ 407,000 คัน
GM มีปิ๊กอัพขนาดปกติสองตัวไม่เหมือนกับ Ford และ Stellantis ขาย GMC Sierra ที่มีราคาสูงกว่าพร้อมกับ Chevy Silverado ยอดขายรวมของรถปิคอัพทั้งสองมีมากกว่าคู่แข่งข้ามเมืองตลอดไตรมาสที่สาม
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้หุ้นฟอร์ดมีความผันผวนในระยะสั้นและระยะกลางจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวสูงขึ้นในส่วนของยอดขายของสหรัฐอเมริกาอาจจะทำให้ราคาหุ้นของฟอร์ดมีการขยับตัวสูงขึ้นจึงควรติดตามว่าแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 20.13 แนวต้านที่สองก็คือ 20.40 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 20.73 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 19.50 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 19.18 ดอลล่าร์ต่อหุ้นและแนวรับสุดท้ายก็คือ 18.69 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
