USDJPY D1 แนวโน้มกลับตัวขาขึ้นวิเคราะห์ USDJPY กราฟรายวัน ราคามีแนวโน้มกลับตัวขาขึ้น หากสามารถยืนเหนือแนวรับ Pivot ที่ 147.034 ได้ คาดว่าราคาจะขึ้นสู่แนวต้านที่ 152.936 ใกล้กับ Fibonacci 61.8% แต่หากหลุดแนวรับนี้ อาจปรับตัวลงไปที่แนวรับถัดไปที่ 141.734เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals1
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นกรอบใหญ่บอกแบบนี้แล้วจะเอาทางกรอบใหญ่ไปเทรดกรอบเล็กไม่ได้มันคนล่ะเงื่อนไขถ้ากดBUYตอนนี้กรอบเล็กอาจจะดึงลงจนขาดทุนเลยก็ได้กรอบเล็กเขาทำPA SELLก็ต้องSELLก่อนอย่าดื้อโดย koban007nick4
USDJPY กราฟ H4 | การดีดตัวขาขึ้นวิเคราะห์ USDJPY กราฟ H4 มีแนวโน้มการดีดตัวขาขึ้น โดยราคากำลังลดลงใกล้ระดับ Pivot 147.10 ซึ่งเป็นแนวรับใกล้ 23.60% Fibonacci Retracement หากดีดตัวขึ้น ราคามีแนวโน้มขึ้นสู่แนวต้าน 149.40 ใกล้ 161.80% Fibonacci Extension แต่หากราคาทะลุ Pivot ลงไป อาจลดลงสู่แนวรับที่ 145.761 ใกล้ 38.2% Fibonacci Retracementเพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals3
USDJPY H4 | การกลับตัวเป็นขาลงวิเคราะห์ USDJPY กรอบเวลา H4 ราคาเริ่มปรับตัวลดลงสู่แนว Pivot ที่ระดับ 144.40 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับระหว่างการดึงกลับใกล้กับระดับการปรับตัว 50% ของ Fibonacci หากราคาดีดตัวจากระดับนี้ อาจทำให้ราคาปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านแรกที่ระดับ 149.32 ซึ่งเป็นแนวต้านของจุดสูงสุดเดิม ใกล้กับระดับการขยายตัวของ Fibonacci ที่ 161.8% อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุแนว Pivot ลงไป อาจปรับตัวลงสู่แนวรับแรกที่ระดับ 141.73 ซึ่งเป็นแนวรับของจุดต่ำสุดเดิมเพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals1
USD/JPY ขึ้น ความมั่นใจ: ปานกลาง คาดการณ์: 65%คู่สกุลเงิน: USD/JPY ทิศทางที่คาดการณ์: ขึ้น (ความมั่นใจ: ปานกลาง) เป้าหมายราคา (TP): 146.00 ภายใน 4 ชั่วโมง หยุดขาดทุน (SL): 143.00 ความน่าจะเป็นที่คาดการณ์: 65% (อ้างอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยข่าวสาร) เหตุผลสนับสนุน: จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ตัวบ่งชี้ MACD และ RVI ให้สัญญาณขาขึ้นเล็กน้อย และ Heikin Ashi Candles ยังบ่งบอกแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่า Bollinger Bands และ ADX จะแสดงถึงความผันผวนต่ำและแนวโน้มที่อ่อนแอ ปริมาณการซื้อขายคงที่ และไม่มีข่าวสารเศรษฐกิจสำคัญที่มีผลกระทบชัดเจนในวันนี้ คำอธิบายรายละเอียด: 1. ปัจจัยทางเทคนิค รูปแบบกราฟ (Chart Patterns): กราฟ USD/JPY แสดงแนวโน้มที่ค่อนข้างคงที่หลังจากการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อย ไม่มีรูปแบบชัดเจนของรูปแบบกลับตัว เช่น Head and Shoulders หรือ Double Top การเคลื่อนไหวของราคาชี้ไปที่การสร้างระดับสูงสุดใหม่เล็กน้อยในระยะสั้น โดยราคาน่าจะทดสอบแนวต้านที่ระดับ 146.00 แนวรับ/แนวต้าน (Support/Resistance Levels): แนวต้าน: ระดับแนวต้านสำคัญอยู่ที่ประมาณ 146.00 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาจะทดสอบอีกครั้งในระยะสั้น หากราคาทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแนวโน้มขาขึ้นต่อไป แนวรับ: แนวรับอยู่ที่ประมาณ 143.00 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาจะสามารถกลับตัวขึ้นมาได้หากมีการปรับฐานลง ตัวชี้วัดทางเทคนิค: 2. ปัจจัยข่าวสารเศรษฐกิจ: ข่าวสารเศรษฐกิจ: ไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ปล่อยออกมาในวันนี้ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ USD/JPY อย่างชัดเจน ข่าวสารทั่วโลกอยู่ในระดับปกติ ไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาในระยะสั้น ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตัววันนี้อย่างไร: ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตัวคงที่ ไม่มีการเคลื่อนไหวที่สำคัญ ดังนั้นราคาของ USD/JPY น่าจะได้รับผลกระทบจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก การคำนวณความน่าจะเป็น: คะแนนรวมจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ดังนี้: RSI: 5/10 (เป็นกลาง) MACD: 6/10 (ขาขึ้นเล็กน้อย) Bollinger Bands: 5/10 (ความผันผวนต่ำ) RVI: 6/10 (ขาขึ้น) Stochastic Oscillator: 5/10 (เป็นกลาง) Fibonacci Retracement: 5/10 (ใกล้แนวต้าน) ADX: 4/10 (แนวโน้มไม่แข็งแรง) Volume: 5/10 (ปริมาณปานกลาง) ATR: 5/10 (ความผันผวนต่ำ) Heikin Ashi: 6/10 (ขาขึ้น) CCI: 5/10 (เป็นกลาง) คะแนนรวม = (5+6+5+6+5+5+4+5+5+6+5) = 57/100 เมื่อรวมกับปัจจัยข่าวเศรษฐกิจ ความน่าจะเป็นของการปรับตัวขึ้นอยู่ที่ประมาณ 65% ข้อสรุป: ราคาของ USD/JPY มีโอกาสปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วง 4 ชั่วโมงข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่แนวต้าน 146.00 การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ไปที่แนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องจาก MACD, RVI และ Heikin Ashi Candles แต่ความผันผวนที่ต่ำและแนวโน้มที่ไม่แข็งแรงจาก ADX บ่งบอกว่าความเคลื่อนไหวอาจไม่รุนแรงโดย Roongee113
USDJPY กรอบเวลา H4 | การดีดตัวเป็นขาขึ้นวิเคราะห์ USDJPY กรอบเวลา H4 มีการดีดตัวเป็นขาขึ้น โดยราคาพึ่งดีดตัวจากระดับ Pivot ที่ 144.31 ซึ่งเป็นแนวรับของการดึงกลับ หากราคาดีดตัวจากระดับนี้ อาจปรับขึ้นไปยังแนวต้านแรกที่ 147.13 ซึ่งเป็นแนวต้านจากการแกว่งตัวสูงและใกล้กับระดับ Fibonacci retracement 78.6% อีกทั้งราคายังทะลุเส้นแนวโน้มขาลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากราคากลับตัว อาจลดลงไปยังแนวรับแรกที่ 142.88 ซึ่งเป็นแนวรับทับซ้อนเพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals4
USD/JPY พลิกขึ้น: โอกาสในการซื้อระยะสั้นโดยมีเป้าหมายกำไรที่ชัดเการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับคู่ USD/JPY บนกราฟ 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากพบแนวรับที่แข็งแกร่งใกล้ระดับ 142,000 เส้น EMA 34 และ EMA 89 กำลังตัดกัน ซึ่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มขาขึ้น การตีกลับจากราคาปัจจุบันอาจนำไปสู่โอกาสในการซื้อที่ดี โดยตั้งเป้าหมายกำไร (TP) ไว้ที่ 143,800 ซึ่งใกล้เคียงกับแนวต้านก่อนหน้า ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง ควรวาง Stop Loss (SL) ไว้ที่ 142,000 เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวขาลงที่ไม่พึงประสงค์ ปกป้องเงินทุนในกรณีที่มีแนวโน้มขาลงที่ไม่คาดคิด เมื่อเข้าใกล้สัปดาห์การซื้อขายใหม่ ผู้ลงทุนควรติดตามพัฒนาการของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริงโดย Alexander_FXTrading16
USDJPY H4 | สัญญาณกลับตัวขาลงวิเคราะห์ USDJPY บนกราฟ H4 ราคากำลังขึ้นสู่ Pivot ที่ 142.094 ซึ่งเป็นแนวต้านใกล้กับระดับ 38.2% Fibonacci retracement หากกลับตัวจากจุดนี้ อาจลดลงไปแนวรับแรกที่ 139.815 แต่หากทะลุ Pivot ขึ้นไป อาจขึ้นถึงแนวต้านที่ 143.697ลดลงโดย ThaiTradeSignals4
หากดอลล่าเลือกที่จะตกลงไป USDJPY ตอนนี้เป็นคู่ที่น่าสนใจแนะนำให้เข้าไปดูที่ทามเฟรม 5 นาที และ 1 นาที จะเห็นการเคลื่อนตัวที่่สอดคล้องกันครับลดลงโดย TeamothyTrade6
เงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะทำให้ USDJPY ลดลงหรือไม่? USDJPY ลดลงสู่จุดต่ำสุดของปี เนื่องจากแรงกดดันจากการดีเบตเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่โพลให้ Harris ชนะ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว เพราะชัยชนะของ Trump มักถูกมองว่าเป็นบวกต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งแกร่งจากนโยบายเข้มงวดของ BOJ หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ลดลงตามคาด อาจเพิ่มความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของ Fed ทำให้ USD อ่อนตัวลงอีก หาก USDJPY หลุดแนวรับ 140.50 จุดสนใจถัดไปจะอยู่ที่ 137.36 ตามแนวโน้มขาลงลดลงโดย ThaiTradeSignals8
USDJPY ร่วงลงก่อนประกาศ NFPUSDJPY ร่วงลงเนื่องจากนักเทรดกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงาน NFP ที่อาจออกมาแย่กว่าคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงมีนโยบายกระชับ ทำให้ USDJPY มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อไป มุมมองทางเทคนิค การฟื้นตัวของ USDJPY หยุดลงที่ระดับ 146.81 และกลับทิศทางลง ตอนนี้กำลังทดสอบระดับ 140.50 หากหลุดระดับนี้ ระดับถัดไปที่ควรจับตามองคือ 137.36 ลดลงโดย ThaiTradeSignals5
USDJPY H4 | การกลับตัวขึ้นเป็นขาขึ้นวิเคราะห์ USDJPY บนกราฟ H4 ราคากำลังปรับตัวลงใกล้ Pivot 145.42 หากดีดตัวขึ้นอาจขึ้นไปถึงแนวต้านที่ 146.96 แต่ถ้าทะลุลงไปอาจลงไปถึงแนวรับที่ 144.32 เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals2
รูปแบบกราฟค้างคาว Bat Patternรูปแบบกราฟค้างคาว Bat Pattern 👽👽👽 กลับมากันอีกแล้วกับบทความดีๆ และเทคนิคการวิเคราะห์รูปแบบต่างๆในการเทรด วันนี้เราอยู่กันที่กราฟค้างคาวคับ หลายคนยังไม่คุ้นหู แต่บางคนน่าจะรู้จักกันบ้างแล้ว มาครับเราไปทำความรู้จักกราฟค้างคาวกันให้มากขึ้นกันดีกว่า เป็นรูปแบบที่ได้มาจากทฤษฎี Harmonic Pattern ซึ่งจัดว่ามีความแม่นยำสูง โอกาสชนะมีถึง 80% เนื่องจากมีลักษณะการวิ่งและทิศทางภาพรวมที่ออกมา คล้ายกับค้างคาว เราจึงเรียกว่ากราฟค้างคาว กราฟค้างคาว Bat Pattern เกิดจากอะไร รูปแบบแพทเทิร์นตามทฤษฎี Harmonic ล้วนเป็นแพทเทิร์นที่มาจากวิธีที่เจ้ารายใหญ่ใช้เอาชนะตลาด ที่ผ่านการไล่ล่า Stop Loss จากกลุ่มเม่ารายย่อย จึงเป็นที่มาของชื่อต่างๆ ซึ่งสามารถวิเคราะห์และทำซ้ำได้ตลอดเวลา การฟอร์มขึ้นของรูปแบบกราฟค้างคาว หลักๆส่วนใหญ่จะมาจากแพทเทริน ABC เป็นฐานหลัก และแตกต่างกันตรงองศา การสร้างรูปแบบ Bullish Bat Bullish Bat เป็นสัญญาณในการเข้า Buy จุดที่ควรเข้ากราฟเซทอัพ คือจุด D Trade Setup ด้วย Bullish Bat แม้จะมีความแม่นยำมาก แต่มันก็ไม่ 100% ดังตัวอย่างในภาพ กราฟมีการกลับตัวขึ้นตามระบบ แต่ไปถึงเป้ากำไรไแค่เพียง TP1 เท่านั้น ก่อนที่ราคาจะย้อนกลับลงมา การล๊อคกำไรหรือมีแนวทางารจัดการที่ดีจะทำให้เราไม่ขาดทุนนะฮะ การสร้างรูปแบบ Bearish Bat Bearish Bat เป็นสัญญาณในการเข้า Sell จุดที่ควรเข้ากราฟเซทอัพ คือจุด D ทริคและการเข้าเทรดแบบย่อๆ 1. แพทเทิร์นนี้จะทำกำไรได้สั้นหรือยาว อยู่ที่ TF เป็นหลัก ยิ่ง TF ใหญ่ กำไรก็จะยิ่งมากและยาวมากขึ้น 2.แพทเทรินนี้ เรามักจะทำกำไรจากสัญญาณกลับตัวระยะสั้น โดยเป้าหมายกำไรมักเป็นจุดกึ่งกลางลำตัวของค้างคาวนั่นคือจุด B 3. ใช้ควบคู่กับระบบหรือสัญญาณ แท่งเทียน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับระบบ 4. ใช้ Fibonacci ในการตรวจเช็คสัดส่วน ว่าเป็นไปตามทฤษฎีหรือไม่ ก่อนที่จะทำการวางแผนการเทรดจริง 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทริคการเทรดใหม่ๆกันไปแล้วก็อย่าลืมเอาไปลองใช้กันดูบ้างนะครับ ไม่แน่นะว่าอาจจะถูกจริตกับเราบ้างก็เป็นได้สำหรับสายชอบเทรดสวน ดีนักแล แอดฟันธงเลย และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ การศึกษาโดย Tradertanofficial6
USDJPY H1 I แนวโน้มขาขึ้นวิเคราะห์ USDJPY บนกราฟ H1 ราคาปัจจุบันอยู่ที่แนวต้าน 144.76 ซึ่งเป็นระดับที่มีการทับซ้อน หากราคาดีดตัวขึ้นจากระดับนี้ อาจขยับขึ้นไปที่แนวต้านแรกที่ 145.44 แต่หากราคาทะลุต่ำกว่าระดับ pivot อาจลดลงไปที่แนวรับแรกที่ 144.26 ซึ่งเป็นแนวรับของจุดต่ำสุดเดิม เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals5
USDJPY แผนสำหรับวันพรุ่งนี้USDJPY มีการปรับตัวขึ้นมาที่ supply และมีการกดตัวลงอย่างรุนแรง แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ยังมีอยู่ลดลงโดย MaaMongGraphที่อัปเดต: 6
รู้ไหมว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเทรด forex ได้ รู้ไหมว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเทรด forex ได้ 👽👽👽 กลับมากันอีกแล้วกับบทความดีๆ และการวิเคราะห์แบบเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นแนวทาง หรือการแก้ปัญหาหรือจะเป็นทริคดีๆในการเทรด Forex แต่วันนี้แอดจะพาทุกท่านฉุกคิดกันฮะกับตลาด Forex ที่ว่าทำไมบางคนเทรดได้ แต่บางคนก็เทรดไม่ได้ มันเป็นเพราะอะไร เรามาติดตามอ่านกันเลยดีกว่า ตลาด forex ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเทรดได้หมายความว่าอย่างไร? 👵 เพราะตลาด Forex จัดว่ามีความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงมากถึงมากที่สุดนี่เอง และในหลายประเทศก็ยังไม่ถูกกฏหมาย ทำให้หลาย ๆ ประเทศยังไม่อยากยอมรับ ซึ่งก็คือไม่ให้เทรด หรือ แบนไปเลยก็มี ( แต่บ้านเรา ประเทศไทยนี่แอบเทรดได้นะ )โบรคไม่ได้เเบน โดยแอดจะยกตัวอย่างคร่าวๆ สัก 2 ประเทศที่ห้ามเทรด Forex ทำไมถึงต้องห้ามกันนะ ไปดูกันเลย! 1. เกาหลีเหนือ แค่จั่วหัวขึ้นมาก็หนาวแล้ว เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีการควบคุมเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด ซึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์ นำโดยรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว มีหน้าที่ในการวางแผนและประสานงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงสกุลเงินที่สามารถใช้ได้ สินค้าที่สามารถผลิตได้ และราคาที่สามารถขายสินค้าเหล่านี้ได้ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากสกุลเงินวอนของเกาหลีเหนือ เริ่มล้มเหลวและมูลค่าลดลง รัฐบาลได้สั่งห้ามสกุลเงินต่างประเทศทั้งหมดเข้ามา เงินวอนถูกห้ามไม่ให้มีการซื้อขาย และเกาหลีเหนือยังคงเรียกร้องให้ผู้คนของตนแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศทั้งหมดเพื่อแลกกับเงินวอนโดยหวังว่าจะคืนวอนให้เต็มมูลค่า ซึงรัฐบาลเกาหลีเหนือระบุว่าเงินวอนมีมูลค่ามากกว่าราคาตลาดในปัจจุบันถึงสิบเท่า 2. ฟิลิปปินส์ ตลาด Forex ถูกห้ามในทุกรูปแบบในประเทศฟิลิปปินส์ โดยปี 2561 ก.ล.ต. ฟิลิปปินส์ได้ออกคำสั่งดังต่อไปนี้ “ในที่นี้ ขอแนะนำให้ประชาชนหยุดมีส่วนร่วมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และหยุดลงทุนในแพลตฟอร์มการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ สัญญาส่วนต่าง ดัชนี ไบนารีออปชัน และอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. แนะนำให้ประชาชนและหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้า พนักงานขาย หรือตัวแทนของหลักทรัพย์เหล่านี้ไม่มีใบอนุญาตในการเข้าร่วมหรือจัดการในลักษณะใด ๆ กับหลักทรัพย์เหล่านี้และดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงหรือละเว้น” ฟิลิปปินส์ตัดสินใจที่จะแสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งต่อการซื้อขาย Forex หลังจากที่ภาคการค้าปลีกส่วนใหญ่รายงานการฉ้อโกงและการขาดทุนอย่างหนักจากการลงทุนของพวกเขา ณ เดือนมีนาคม 2020 ฟิลิปปินส์ได้ระงับการซื้อขาย Forex และพันธบัตรจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม 👵👵 ส่วนในโบรคของ PXBT ก็มีข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเทรดในหลายๆประเทศด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเมือ สงคราม ค่าเงิน หรือความไม่สงบต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเทรดได้ โดยประเทศและภูมิภาคเหล่านี้จัดเป็นประเภทที่โบรกไม่ให้เทรดนะครับ 👵👵👵 แต่คนไทยชอบความท้าทายฮะ แม้มันจะไม่ถูกกฏหมายแต่เขาก็ไม่ได้สั่งห้ามนี่นา และที่สำคัญเราเป็นประเทศที่ค่าเงินค่อนข้างแข็งฮะ ไม่มีโบรคไหนแบนเราได้ ก็เทรดกันแบบเงียบๆต่อไปสิฮะ ไม่เห็นจะยากเลย อิอิอิ PXBT Trading Limited ไม่ยอมรับลูกค้าจากเขตอำนาจศาลต่อไปนี้: อัฟกานิสถาน, คิวบา, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, เฮติ, อิหร่าน, อิรัก, อิสราเอล, ลิเบีย, มาลี, โมซัมบิก, เมียนมาร์, นิวซีแลนด์, เกาหลีเหนือ, โซมาเลีย, ซูดานใต้, ซูดาน, ซีเรีย, ตุรกี, สหรัฐอเมริกา, เกาะเล็กรอบนอกของสหรัฐอเมริกา, เยเมน, สหราชอาณาจักร, เขตเศรษฐกิจยุโรป เขตอำนาจศาลที่ไม่รู้จักหรือได้รับการยอมรับบางส่วน: ไครเมีย, สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์, ฉนวนกาซา, ซาโปริซเซียและเคอร์ซอน, สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ความรู้ใหม่ๆกันไปพอสมควรหรือยังฮะ เรายังนับว่าโชคดีกว่าบางประเทศนะฮะ ที่สามารถเทรดได้อย่างอิสระเสรี แม้ไม่ถูกฏหมายแต่ไม่ได้ห้ามก็เข้าทางคนไทยกันแหละเนาะ รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืม หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน แล้วไปลองตำมันหลายๆโบรคดูนะฮะ เผื่อว่าจะเจอโบรคใหม่ไฉไล และถูกใจบ้าง และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับการศึกษาโดย Tradertanofficial4
USD/JPY ฟื้นตัวแต่เผชิญความเสี่ยงต่อการหยุดลงอย่างรวดเร็ว**การคาดการณ์ USD/JPY: ความพยายามฟื้นตัวอาจเสี่ยงที่จะยุติลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่รอผลการประชุม FOMC** * คู่เงิน USD/JPY ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์จากการปรับฐานการขาย USD ภายในวัน 📈 * ความคาดหวังที่แตกต่างกันระหว่างนโยบายของ Fed และ BoJ อาจทำให้การฟื้นตัวครั้งนี้ถูกจำกัด ✋ * นักลงทุนกำลังจับตาผลการประชุม FOMC เพื่อหาแรงจูงใจก่อนคำกล่าวของ Powell ในวันศุกร์นี้ 🕵️♂️ คู่เงิน USD/JPY แสดงความยืดหยุ่นที่ต่ำกว่า 145.00 ซึ่งเป็นจุดสำคัญทางจิตวิทยา และฟื้นตัวขึ้นอย่างดีจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่เกิดขึ้นในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 146.00 ได้ในช่วงครึ่งแรกของการซื้อขายในยุโรป เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อนหลังจากข้อมูลที่เผยแพร่ในวันนี้แสดงให้เห็นว่าการขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 621.84 พันล้านเยนในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการหยุดชะงักในการผลิตทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สิ่งนี้ทำให้การนำเข้าที่เพิ่มขึ้น 16.6% ซึ่งชี้ถึงการเติบโตของอุปสงค์ภายในประเทศ 🏭 นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดจากการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ในการลาออก อาจทำให้แผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) หยุดชะงัก สิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อ JPY รวมถึงการฟื้นตัวเล็กน้อยของดอลลาร์สหรัฐ (USD) จากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กับคู่เงิน USD/JPY การปรับตัวขึ้นของ USD อาจเกิดจากการปรับฐานก่อนผลการประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคมซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ นอกจากนี้ คำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell ในการประชุม Jackson Hole Symposium ในวันศุกร์นี้จะถูกจับตามองเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับเส้นทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและแรงจูงใจสำคัญอื่น ๆ 📊 ในขณะเดียวกัน การยอมรับที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดนโยบายการเงินลงในเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เย็นลง อาจจำกัดความพยายามในการฟื้นตัวของ USD และกดดันคู่เงิน USD/JPY ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ Michelle Bowman พยายามลดความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น โดยกล่าวว่าระดับการเติบโตของราคายังคงสูงและอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยกว่า 70% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในเดือนกันยายน นอกจากนี้ ผลสำรวจของ Reuters แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในการประชุมที่เหลืออีกสามครั้งของปี 2024 💰 มุมมองทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ตกต่ำ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุน USD ไม่กล้าวางเดิมพันอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะมั่นใจว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่ดีขึ้นจะสนับสนุนให้ BoJ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้ สิ่งนี้ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่และความเชื่อมั่นทางความเสี่ยงทั่วโลกที่ลดลงเล็กน้อย อาจช่วยจำกัดการลดลงของ JPY ดังนั้น จึงควรรอการซื้อที่ตามมาอย่างแข็งแกร่งก่อนที่จะยืนยันว่าคู่เงิน USD/JPY ได้ถึงจุดต่ำสุดแล้วและพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้นี้ 🔍 **มุมมองทางเทคนิค** จากมุมมองทางเทคนิค การทดสอบระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 200 ชั่วโมงในสัปดาห์นี้และการฟื้นตัวของคู่เงิน USD/JPY ที่ไม่สามารถผ่านระดับ 23.6% Fibonacci Retracement จากการร่วงลงล่าสุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา สร้างความระมัดระวังให้กับผู้ซื้อ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังอยู่ในแดนลบลึก และฟื้นตัวจากโซนที่ขายเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าเส้นทางที่มีแรงต้านน้อยที่สุดสำหรับราคาคือการลดลง 📉 ดังนั้น การเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นในภายหลังอาจเผชิญกับแรงต้านที่แข็งแกร่งใกล้ระดับ 146.65 หรือระดับ 38.2% Fibo. โมเมนตัมอาจขยายต่อเนื่องเกิน 147.00 แต่มีแนวโน้มว่าจะถูกจำกัดใกล้กับอุปสรรค 147.15 ซึ่งประกอบด้วยระดับ 50% Fibo., ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 100 และ 200 ชั่วโมง แนวต้านนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดหมุนสำคัญ ซึ่งหากผ่านไปได้อย่างเด็ดขาด จะเปิดทางให้เกิดกำไรเพิ่มเติมไปยังระดับ 147.70 หรือระดับ 61.8% Fibo. จนถึงระดับ 148.00 ✨ ในทางกลับกัน แนวรับทันทีอยู่ที่บริเวณ 145.45-145.40 ก่อนถึงจุดสำคัญทางจิตวิทยาที่ 145.00 การทะลุแนวรับนี้อย่างเด็ดขาดจะถือเป็นสัญญาณใหม่สำหรับผู้ขาย และดึงคู่เงิน USD/JPY ลงสู่แนวรับที่สำคัญต่อไปใกล้ระดับ 144.20-144.15 การขายต่อเนื่องต่ำกว่า 144.00 จะเปิดทางให้ลดลงไปสู่แนวรับกลางที่ 143.60 จนถึงระดับ 143.00 🔻 #USDJPY #Forex #ตลาดการเงิน #การวิเคราะห์ทางเทคนิค #FOMC #ธนาคารกลาง #JacksonHoleลดลงโดย Purich5
เลือก Leverage แบบไหนดี 👺👺👺 มาครับวันนี้เอาใจมือใหม่หัดเทรดกันบ้าง กับการเลือกเลเวอเรจให้ถูกกับจริตของตัวเอง เพราะการจะเทรดให้ได้กำไรจำเป็นต้องมีปัจจัยเล็กๆและองค์ประกอบอื่นๆมาเป็นตัวผลักดัน หนทางสร้างกำไรจึงจำเป็นต้องมีแบบแผนตั้งแต่เริ่มแรก ดังนั้น ไอ่เจ้าเลเวอเรจนี่แหละครับที่จัดว่าสำคัญทีเดียวเชียว มาครับ ตามมาอ่านกันต่อได้เลย เลือก leverage แบบไหนดี ? Leverage คืออะไร ? หากเราตัดสินใจที่จะเดินเข้าสู่วงการ การเทรดค่าเงินในตลาด Forex แล้วหล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่ต้องเลือกเป็นอันดับแรกเลยก็คือ เลเวอร์เลจ หากให้เปรียบเทียบคำว่า เลเวอร์เลจ คำนี้จะมีความคล้ายคลึงันกับเงินเดิมพัน และเงินยืม เลเวอร์เลจ ช่วยให้เรามีอำนาจในการซื้อขายในตลาดได้มากยิ่งขึ้นแบบทวีคูณ โดยยกตัวอย่างง่ายๆ จากเดิมๆที่เราต้องมีเงินลงทุนประมาณ $100,000 ดอลลาร์ เราถึงจะสามารถเปิดออร์เดอร์ขนาด 1 lot ได้ แต่หากว่าเราเลือกเทรดแบบมี เลเวอร์เลจ ในการเทรด โดยเลือกเลเวอเรจที่ 1:100 เราจะใช้เงินลงทุนเพียง $1,000 ก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1 lot ได้แล้ว หรือจะเลือก เลเวอร์เลจ 1:1,000 เราจะใช้เงินลงทุนเพียง $100 ก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1 lot ได้ ตัวอย่างเลเวอเรจ เลเวอร์เลจ 1:1 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000 เลเวอร์เลจ 1:100 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $100,000 เลเวอร์เลจ 1:1,000 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000,000 จากตัวอย่าง เราจะเห็นได้ว่า เลเวอเรจ ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งสามารถทำให้มีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น เสมือนว่าเรายืมเงินจากเปอร์เซ็นต์ต้นทุนของเขาเอามาทำกำไรก่อนนั่นเอง แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า การลงทุนมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ยิ่งเราซื้อมากเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งมากตาม แต่หากเรามีกำไร กำไรมันก็มากตามเช่นกัน นั่นทำให้การใช้เลเวอเรจไม่ได้สวยหรูแค่ด้านเดียว ที่สำคัญสุดๆเลยนั่นก็คือการ Stop Out เรียกง่ายๆว่าล้างพอร์ตนั่นแหละครับ ยังไง?? เพราะยิ่งเราใช้เลเวอเรจมากที่สุดในการเทรด ไม่ว่าจะเป็น 1:1,000 , 1:2,000 , 1:5,000 หรือมากว่านี้ เราจะยิ่งเสี่ยงในการล้างพอร์ตง่ายเช่นกันจากการเทรดหนัก เพราะการใส่ออเดอร์ได้มาก ยิ่งทำให้เราโลภมากยิ่งขึ้น ไอ่ความโลภนี่แหละที่ทำให้เราเทรด แบบ Over trade ใส่ลอตใหญ่มากเกินไป หากกราฟวิ่งผิดทางระยะวงสวิง ที่ติดลบก็พาล้มละลายได้เลยฮะ ฉะนั้นพึงระวัง และค่อยๆเทรดดีกว่านะครับ ไม่มากไปและไม่น้อยเกินไป ไม่งั้นเดี๋ยวจะเทรดไม่พอค่าไฟกันพอดี……เนาะ แถมสูตรคำนวณ Lot Size ให้อีกนิดนะครับ ทุน / 10,000 เราจะได้ Lot ที่ใช้ในการเทรด ตัวอย่างคำนวณ ทุน 100$ หาร 10,000 = 0.01 นี่คือ ลอตในการออกไม้นะครับ 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มือใหม่หัดเทรด สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราจำเป็นต้องรู้นะฮะก่อนที่จะเริ่มเทรด แอดว่ามันดีและเบสิคมากเลย การเตรียมการและใส่ใจแบบแผนการเทรดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยนะฮะ วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ว่างแล้วก็ลองกลับไปเช็ค Leverage ของเราดูกันนะฮะ จะได้คำนวณ Lot size ได้ถูก และเทรดแบบไม่ต้องลุ้นล้างพอร์ตอีกต่อไป ต้องลองนะฮะ และที่สำคัญ ฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน รับรองว่ากำไรไม่ไกลเกินฝันแน่นอนฮะ แอดเอาใจช่วย แล้วอย่าลืม MM กันด้วยนะ ชีวิตการเทรดของเราจะยืนยาวและมั่นคง แอดฟันธงให้เลย การศึกษาโดย Tradertanofficial4
SMC เข้าออเดอร์ด้วย FVGระบบ SMC เข้าออเดอร์ด้วย FVG และใช้ FIBO เป็นตัวช่วยในการหาจุดเข้าเทรดโดย theppunya3
USDJPY H4 การกลับตัวลงวิเคราะห์ ราคา USDJPY บนกราฟ H4 กำลังขึ้นสู่จุด Pivot ที่ 148.41 ซึ่งเป็นแนวต้านใกล้กับ Fibonacci 50% หากกลับตัวลง ราคามีโอกาสลดลงสู่แนวรับแรกที่ 145.51 ซึ่งเป็นแนวรับที่ซ้อนทับกัน แต่ถ้าราคาทะลุเหนือ Pivot อาจขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 150.83 ซึ่งอยู่เหนือ Fibonacci 61.8%ลดลงโดย ThaiTradeSignals3
MARKET STRUCTURE เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริงMARKET STRUCTURE เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริง 👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการเทรดโดยตรงเลยฮะ ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดนี่ จัดว่าสำคัญมากๆเลย เพราะมันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ มาครับ มาทำความรู้จักกับ MARKET STRUCTURE กันดีกว่า ว่ามันสำคัญอย่างไร Market Structure โครงสร้างตลาด โครงสร้างตลาดในการเทรด คือการทำความเข้าใจในเรื่อง หลักการการเชื่อมโยงกราฟใน Timeframe แต่ละ Timeframe ว่ามีความสัมพันธ์ุกันอย่างไร ไอ่เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้เราสามารถอ่านกราฟออก และทำให้การเทรดนั้นดูง่ายขึ้นเยอะเเลย อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า กราฟแท่งเทียนนั้นมีคลื่นเวฟ และมีเทรนด์ในตัวของมันเอง อ้างอิงตามทฤษฎีดาว ( Dow Theory ) ซึ่งเป็นทฤษฎีอมตะ ทฤษฎีต้นแบบในการอ่านคลื่นกราฟ โดยสามารถจำแนกแบ่ง เทรนด์ในการเทรดคร่าวๆดังนี้ 1. Primary Trend คือแนวโน้มเทรนด์หลัก เทรนด์ใหญ่ ซึ่งทำให้เราแยกกราฟออกได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง 2. Secondary Trend แนวโน้มรอง ส่วนใหญ่เทรนด์แนวโน้มรองมักจะเป็นเทรนด์ในกรอบระยะสั้น รวมไปถึงการพักตัวหรือสวิงเทรนด์ไซด์เวย์ และมีโอกาสที่ราคาจะไปต่อหรือกลับตัวได้เช่นกัน 3. Minor Trend แนวโน้มย่อย ส่วนใหญ่กรอบเทรนด์แนวโน้มย่อยมักจะอยู่ในกรอบ TF เล็กๆ วิ่งในระยะสั้นๆ และเป็นการย่อลงเพื่อไปต่อตามเทรนด์ในแนวโน้มใหญ่ แท่งเทียนของราคา ใน TF ต่างๆจึงมีความสัมพันธ์กันกับ Market structure เปรียบเทียบการแบ่งแยก Timeframe เล็ก และใหญ่ ในกราฟคู่เงินเดียวกัน การอ่านเทรนด์ออกจาก Timeframe (TF) หลายTimeframe จากใหญ่ ไป เล็ก จะทำให้เราอ่านกราฟออกและแบ่งแยกการเทรดได้ ว่าจะ Buy หรือ Sell และทำให้เราเห็นจุด โลว์ และ จุด ไฮ ( HH , HL, LL ) ที่ใกล้ที่สุด และโอกาสในการชนะก็ค่อนข้างได้เปรียบมากขึ้นอีกด้วย 👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค และทำให้หลายๆคนมองเห็นจุดเข้าที่ได้เปรียบได้มากขึ้น จากสัญญาณที่แตกต่างกันในหลาย TF แบบนี้เราก็จะเทรดได้ง่ายแถมกำไรดีขึ้นด้วยนี่สิ ว่าแล้วก็อย่าลืมเอาคู่การเทรดและ การอ่านสัญญาณจากแท่งเทียนมาฝึกกันดูนะครับ แอดบอกเลยว่า กำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน แล้วอย่าลืม หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับการศึกษาโดย Tradertanofficial2230
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง ทำความเข้าใจอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถึงสำคัญ? การควบคุมความเสี่ยง: ช่วยให้นักเทรดกำหนดวงเงินขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ และป้องกันไม่ให้ขาดทุนสะสมมากเกินไป เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: เมื่ออัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณทำกำไรได้มากกว่าขาดทุนในระยะยาว สร้างวินัยในการเทรด: การตั้งเป้าหมายอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะช่วยให้นักเทรดมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนการเทรด วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคำนวณได้โดยการหารระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Stop Loss ด้วยระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Take Profit ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณซื้อสกุลเงินคู่ EUR/USD ที่ราคา 1.1000 Stop Loss: คุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0900 (ความเสี่ยง = 100 pips) Take Profit: คุณตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.1100 (ผลตอบแทน = 100 pips) อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 100 pips / 100 pips = 1:1 อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีคือเท่าไหร่? โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่มากกว่า 1:1 ถือว่าดี เนื่องจากหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าที่คุณจะเสียไป อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคน ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน ความผันผวนของตลาด: ในตลาดที่ผันผวนสูง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น จำนวนครั้งในการเทรด: หากคุณเทรดบ่อยครั้ง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำลงเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนหลายครั้งติดต่อกัน เป้าหมายในการเทรด: หากเป้าหมายของคุณคือการทำกำไรระยะยาว อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นเล็กน้อย สรุป อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex การทำความเข้าใจและนำไปใช้กับการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้นการศึกษาโดย Tradertanofficial4
เยนญี่ปุ่นพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากกระแสหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเยนญี่ปุ่นขยายตัวขึ้นเนื่องจากกระแสหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่บริการ PMI ของสหรัฐถูกจับตามอง 📈💴 * เยนญี่ปุ่นขยายตัวขึ้นเนื่องจากความคาดหวังที่สูงขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของ BoJ * JPY ได้รับการสนับสนุนจากกระแสเงินลงทุนที่ปลอดภัยเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น * ข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐเพิ่มความน่าจะเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ถึง 74.5% ในเดือนกันยายน เยนญี่ปุ่น (JPY) ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในการซื้อขายติดต่อกันเป็นครั้งที่ห้าเมื่อวันจันทร์นี้ แรงโมเมนตัมนี้ได้รับการสนับสนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจเข้มงวดนโยบายการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการปิดการซื้อขาย carry trades ซึ่งอาจให้การสนับสนุน JPY ต่อไปในระยะสั้น เยนเป็นที่พึ่งที่ปลอดภัยอาจได้รับประโยชน์จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่กระทบโรงเรียนสองแห่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย ตามรายงานของ Reuters นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โทนี บลิงเกน ระบุว่าอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์อาจโจมตีอิสราเอลได้ในวันจันทร์ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวสามแห่งที่ได้รับการบรรยายสรุปทางโทรศัพท์ ตามรายงานของ Axios ดอลลาร์สหรัฐเผชิญกับแรงกดดันหลังจากข้อมูลตลาดแรงงานที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเพิ่มความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนกันยายน เครื่องมือ FedWatch ของ CME ระบุว่าความน่าจะเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในวันที่ 18 กันยายนเพิ่มขึ้นถึง 74.5% จาก 11.5% เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า 📊🔍 ตลาดประจำวัน: เยนญี่ปุ่นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อความน่าจะเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed เพิ่มขึ้น * บันทึกการประชุมเดือนมิถุนายนของธนาคารกลางญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าสมาชิกบางคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคานำเข้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการลดลงล่าสุดของ JPY ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ หนึ่งในสมาชิกระบุว่าเงินเฟ้อจากต้นทุนอาจทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานรุนแรงขึ้นหากส่งผลให้ความคาดหวังเงินเฟ้อและค่าจ้างเพิ่มขึ้น * การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (NFP) เพิ่มขึ้น 114K ในเดือนกรกฎาคมจากเดือนก่อนหน้าที่ 179K (แก้ไขจาก 206K) ตัวเลขนี้ต่ำกว่าความคาดหวังที่ 175K ข้อมูลแสดงให้เห็นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 อยู่ที่ 4.3% ในเดือนกรกฎาคมจาก 4.1% ในเดือนมิถุนายน * ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เผยแพร่รายงานแนวโน้มรายไตรมาสฉบับเต็มในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ค่าจ้างและเงินเฟ้ออาจเกินความคาดหมาย ซึ่งอาจมาพร้อมกับความคาดหวังเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและตลาดแรงงานที่ตึงเครียด * นายโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าสกุลเงินต้องเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงและสะท้อนถึงพื้นฐานที่แท้จริง ฮายาชิกำลังเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด ตามรายงานของ Reuters * Reuters รายงานเมื่อวันพุธว่ากระทรวงการคลังญี่ปุ่นยืนยันความสงสัยเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดโดยเจ้าหน้าที่ ในเดือนกรกฎาคม เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นใช้จ่าย ¥5.53 ล้านล้านเยน ($36.8 พันล้านดอลลาร์) เพื่อรักษาเสถียรภาพของเยน ซึ่งลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี * นายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ระบุว่าเหมาะสมที่จะปรับระดับการผ่อนคลายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อย่างยั่งยืนและเสถียรภาพ นอกจากนี้ เขาเน้นว่าพวกเขาจะยังคงเพิ่มอัตราดอกเบี้ยต่อไป นอกจากนี้ ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ แบงค์ ประกาศว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นเป็น 1.625% จาก 1.475% เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoJ * ประเมินนโยบายของ BoJ ในอนาคต "คำแถลงนโยบายของ BoJ รวมถึงการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นในเชิงบวก โดยระบุว่าการลงทุนคงที่ 'อยู่ในแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง' และกำไรของบริษัท 'กำลังปรับปรุง'" นักวิเคราะห์ของ Rabobank กล่าวและเพิ่มว่า: "ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง 'กำลังแพร่กระจายทั่วภูมิภาค อุตสาหกรรม และขนาดของบริษัท' ซึ่งเป็นการเปิดทางสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025" การวิเคราะห์ทางเทคนิค: USD/JPY ลดลงใกล้ 142.00 USD/JPY ซื้อขายใกล้ 142.00 ในวันจันทร์ การวิเคราะห์กราฟรายวันแสดงว่าคู่นี้กำลังต่อเนื่องในแนวโน้มขาลง ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วัน อยู่ต่ำกว่า 30 ซึ่งบ่งบอกถึงสถานการณ์ของสินทรัพย์ที่ขายเกินและการฟื้นตัวในระยะสั้น คู่ USD/JPY ซื้อขายในบริเวณที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 คู่อาจทดสอบแนวรับที่ 140.25 ด้านบน คู่ USD/JPY อาจเผชิญกับแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เชิงเส้นเก้าวัน (EMA) ที่ 150.13 การทะลุผ่านระดับนี้อาจทำให้ความเอนเอียงขาลงอ่อนแอลงและสนับสนุนให้คู่นี้ทดสอบ "แนวต้านที่เคยเป็นแนวรับ" ที่ 154.50 ตามด้วย EMA 50 วันที่ระดับ 155.58 #เยนญี่ปุ่น #การลงทุน #ตลาดการเงิน #การวิเคราะห์ทางเทคนิค #ดอลลาร์สหรัฐ #อัตราดอกเบี้ย #ข่าวการเงิน #การคาดการณ์เศรษฐกิจ #ธนาคารกลางญี่ปุ่น #นโยบายการเงินเพิ่มขึ้นโดย Purich4