BTCUSDTDivergence Oscillator คือ การนำ ข้อมูล ในอดีต เปรียบเทียบกับ ข้อมูล ปัจจุบัน เพื่อทำนาย อนาคตเพิ่มขึ้นโดย kittiwut445
B อาจยังไม่จบ มองไว้ ที่ 55000-60000 แล้วลงทาเก็ตไปที่ 32000 หลังจาก จบ เวฟ C 4 ยก รุงแรงน่าดู ได้เห็น ราคา 100000 $ อย่างแน่ นอน โดย todz2k4
BTC กำลังย่อ เวฟ 2 จากที่ตอบคอมเม้นท์ไปในโพสก่อนหน้านี้ว่า BTC มีโอกาสย่อลงมาแถวเส้น 38.2% ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะย่อลงมาตามที่วิเคราะห์ (แถว 43.2k ซึ่งคำนวนจากไฮแถว 50k ณ ปลายเดือนก่อน ดูได้ในคอมเม้นท์ในโพสก่อนหน้า) ตอนนี้ผมมีมุมมองว่า BTC กำลังย่อเวฟ 2 มีโอกาสที่จะมีการย่ออีกรอบให้จบเวฟ C ของ 2 เพื่อเตรียมแรลลี่ขึ้น เวฟ 1 ของ 3 เป้า 59k ตามเดิม ทั้งนี้ข้อมูลด้านบนเป็นเพียงการสันนิษฐานเพื่อใช้ในการวิเคราะห์จุดซื้อขายส่วนตัวเท่านั้นเพิ่มขึ้นโดย Unsophisticatedที่อัปเดต: 115
ตกมาหลายชั่วโมงแล้วเป็นการdown ten ด้วย volume มหาศาล เทขายตกมาหลายชั่วโมงแล้วเป็นการdown ten ด้วย volume มหาศาล เทขาย ตกมากที่สุดในรอบหลายเดือนโดย chindata0
มุมมอง BTCUSDT by นายแป่วเทรดเดอร์มุมมอง Tecnical ส่วนตัวมองว่า btc ยังคงเป็น uptrend ตามเส้นเทรนไลน์ ใน tf 4h และโอกาสไปถึงที่ราคา 59,000 usd โดยส่วนตัวมองว่า จุดเข้าซื้อที่น่าสนใจของแนวนี้จะอยู่ที่ตำแหน่ง 47,500 - 48,000 ีusd จะเป็นจุดเข้าที่ค่อนข้างได้เปรียบ ทั้งนี้ อาจจะต้องติดตามปัจจัยพื้นฐานอย่างใกล้ชิด ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ ปล.เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้น เพิ่มขึ้นโดย chokieiceeที่อัปเดต: 1
แนวโน้ม ของ btc กำลังเลือกทางนักวิเคราะห์และสื่อธุรกิจเริ่มจับตาแนวโน้มของ Bitcoin ที่อาจจะหมดแรงลง กลายสภาพจากจากตลาดกระทิงกลายเป็นตลาดหมี เริ่มจากสำนักข่าว Bloomberg ที่รายงานว่าจนถึงกางสัปดาห์นี้ Bitcoin ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความสับสนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาวะที่ยังไม่สามารถอธิบายได้และตอนนี้นักลงทุนต่างก็จับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของมันที่มีความผันผวน ก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ของ JPMorgan Chase & Co. นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าวว่าสองสามครั้งที่ผ่านมาพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของราคาใน Bitcoin ในเชิงลบ แต่ผู้ซื้อกลับมากอบกู้สถานการณ์ทันเวลาเพื่อป้องกันการตกต่ำที่ลึกลงไป แต่คราวนี้พวกเขากลับกังวล เพราะหาก Bitcoin ไม่สามารถกลับมาสูงกว่า 60,000 ดอลลาร์ในไม่ช้าสัญญาณ โมเมนตัมจะพังทลายลง ด้าน Michael Purves จาก Tallbacken Capital Advisors ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวกับรูปแบบการซื้อขายของ Bitcoin พบว่าจุดสูงสุดล่าสุดของ Bitcoin ไม่ได้อิงกับดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (Relative strength index - คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแผนภูมิจุดแข็งหรือจุดอ่อนในปัจจุบันและในอดีตของหุ้นหรือตลาดโดยพิจารณาจากราคาปิดของช่วงเวลาการซื้อขายล่าสุด) และเหนือสิ่งอื่นใดและโมเมนตัมที่พุ่งสูงของมันกำลังจางหายไป เว็บไซต์ของ Fortune ก็ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันโดยตั้งคำถามว่าตอนนี้ตลาดกระทิงของ Bitcoin สิ้นสุดลงแล้วหรือยังหลังจากพุ่งขึ้นมาถึง 700% นับตั้งแต่เดือนเมษายปีที่แล้ว? คำตอบก็คือ "อาจจะเป็นอย่างนั้น" David Z. Morris นักเขียนของ Fortune ให้เหตุผลว่า Bitcoin เป็นจำพวกหุ้นยุคการระบาดใหญ่ หรือ pandemic stock ตัวอย่างของ pandemic stock เช่น Netflix ซึ่งเพิ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปรากฎว่ามีลูกค้าใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 3.98 ล้านคนหลุกจากเป้าคาดการณ์ 6.29 ล้านคนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นอกจากนี้ยังมี Zoom ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นลดลง 45% จากระดับสูงสุดตลอดกาลถึงปลายปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้บูมในช่วงการระบาดใหญ่เพระาเป้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการล็อคดาวน์หรือติดอยู่กับบ้าน และตอนนี้ถึงช่วงขาลงของพวกมัน ไฟฟ้าถูกสุดๆ การขุดคริปโตจึงเป็นความหวังทำเงินของชาวเวเนซุเอลา จับตา Solana คริปโตที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ David Z. Morris ชี้ว่า Bitcoin ก็เข้าข่ายธุรกิจที่บูทในช่วงการระบาดใหญ่ เพราะมีหลักฐานวาชาวอเมริกันใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปซื้อ Bitcoin และนักลงทุนยังเข้ามาเล่นคริปโตเพราะติดอยู่กับล็อคดาวน์และเป็นการลงทุนมาแบบมาราธอนเพ 24 ชั่วโมงต่อวัน Scott Minerd ซีไอโอของบริษัท Guggenheim ยังได้เตือนถึง“การปรับฐานครั้งใหญ่” ของ Bitcoin ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยอ้างว่า Bitcoin นั้น “มีฟองมาก” และเขาคาดการณ์ว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลจะลดลง 50% เขาบอกกับ CNBC ว่า Bitcoin ไปไกลเกินไปเร็วเกินไป “ผมคิดว่าเราสามารถดึง Bitcoin กลับมาที่ 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ซึ่งจะลดลง 50% แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Bitcoin คือเราเคยเห็นการลดลงประเภทนี้มาก่อน” อย่างไรก็ตาม Minerd ตั้งข้อสังเกตว่าเขาคิดว่าการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของ “วิวัฒนาการตามปกติของตลาดกระทิงในระยะยาว”โดย suwannamitn2
BTC Septepber Series ep.1This time to short mini profit Let see my reference idea for explainลดลงโดย hathathat1261
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดกระทิงของ คริปโตฯ ปี 2021จดๆ เอาไว้กันลืม เอาไว้อ่านเองในอนาคต เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ และบทเรียน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างนะครับ ----------------------------------------- 1) จงเชื่อในระบบ Trend Following ที่เราได้ Backtest + Forward Test มาแล้ว และทำตามระบบไปอย่างมีวินัย ----------------------------------------- - เนื่องจากผมเอง โดนตลาดคริปโต สับขาหลอกมาตลอด ตั้งแต่ปี 2018 ยัน 2019 ยัน 2020 - โดย ระบบ Trend Following ที่ผมใช้สามตัว คือ MACD ตัดศูนย์ ( Action Zone ) , ATR Channel ( ATR Trailing Stop ) และ Break Previous High มักจะเป็นเขียว แล้วก็เปลี่ยนเป็นแดง หลังจากเทรนเกิดขึ้นไม่นานเสมอ - โดย ช่วงที่เทรนมานานที่สุด ก็กินเวลาแค่ ประมาณ 3-4 เดือน เท่านั้น นั่นก็คือ ช่วง Apr 2019 - July 2019 - สิ่งเหล่านี้ ทำให้ perception ของผม ต่อการรันเทรนของคริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญใดๆ นั่นก็คือ จะพยายาม หาจังหวะ Take Profit ออกมาอยู่เรื่อยๆ .. โดย ไม่ว่าจะใช้ fibo projection หรือใดๆ ก็ตามแต่ .. เพราะ มีความ "กลัว" ว่า ตลาดจะกลับตัว ทำให้กำไรที่ได้ หายไปหมด - แต่กลายเป็นว่า รอบกระทิง ช่วง Oct 2020 ลากยาวไปถึง May 2021 ของคริปโตฯ นั้น กินเวลายาวนานถึง 7 เดือน! ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ทยอย Take Profit ออกไปตลอดทาง ทำให้ กำไรที่ได้ ก็ไม่ได้เป็นเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ( แต่ก็นะ กำไรก็คือกำไร 55 ) - โดยเฉพาะที่ผ่านมา มีการปั๊ม Altcoins กันอย่างสนุกสนาน แต่เนื่องจากผมมี Bias ส่วนตัวต่อ Altcoins ทำให้ ตกรถไปโดยปริยาย ก็เลยนำไปสู่บทเรียนข้อ 2 ว่า... ----------------------------------------- 2) อย่าไปรังเกียจ Altcoin อะไรมาก แหย่ๆ มันไว้บ้าง เวลามันวิ่งแรงจะได้ไม่ตกรถ ----------------------------------------- - เอาจริงๆ รอบขาขึ้นต้นปี ผมก็ไม่ได้รังเกียจ Altcoins ซะทีเดียวนะ เพราะก็มีไปเข้า ZMT lock ไว้ตามเพื่อนแนะนำบ้าง ซึ่ง ไอ้การ Lock ZMT นี่แหละ มันเลยทำให้เราสามารถถือ Altcoins นิ่งๆ โดยไม่ใจสั่นได้ ..เพราะสั่นไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 555 - แต่ ก็พลาดโอกาสทำกำไรไปหลายตัวอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น LUNA เอย หรือพวกเหรียญ DeFi สารพัด ที่ปั๊มกันแบบว่า กาวสุดๆ 555 - รอบนี้ ผมก็เลยไม่พลาดละ โดยผมได้ทำการแบ่งเงินส่วนที่เป็น "พอร์ต Altcoins" ออกมาต่างหากเลย เป็นก้อนเล็กๆ 10% ของพอร์ตหลัก และ ก็เอาก้อนนี้ ไปเข้าซื้อ alt ด้วยแบบ spot เท่านั้น ( ไม่เล่น future ) เพื่อที่จะสามารถทนการแกว่งได้ โดยมองว่า ถ้าเหรียญพวกนี้ ลงเต็มที่ -80% เราก็จะขาดทุนเต็มที่แค่ -8% ของพอร์ตหลักเท่านั้นเอง ยังรับได้อยู่ครับ - โดยตอนนี้ ก็ได้ อานิสงค์จากเหรียญพี่แซม นั่นก็คือ SOL และ FTT ทำให้พอร์ตนี้โตขึ้นเรื่อยๆ ในความเสี่ยงที่เรารับได้นั่นเอง ----------------------------------------- 3) ระบบเขียวก็เข้าไป อย่าไปกลัวไรมาก ถ้ากลัว ก็จำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่เรารับได้ จบ! ----------------------------------------- - ตอนระบบเขียวแรก ช่วงปลายเดือน July 2021 ผมเองก็เขียนบทความเรื่องนี้ แชร์ลงใน Tradingview ว่า ระบบเขียวแล้วน้า ควรเข้าแล้วน้า... แต่เท่าที่ไปแชร์ตามที่ต่างๆ ก็พบว่า หลายๆ คน ส่วนใหญ่ ไม่สนใจ และพอถามว่าทำไม ก็มีคำตอบง่ายๆ ว่า "กลัวมันหลอกอีก" - สำหรับมือใหม่ น่าเห็นใจตรงที่ว่า หลายๆ คน ไม่เข้าใจว่า การเทรดอ่ะ มันสามารถ "เข้าแค่บางส่วน เพื่อคุมความเสี่ยง ให้เท่ากับที่เราต้องการ ผ่านการคำนวณ Position Size ได้นะ" - หลายๆ คน ยังไปคิดว่า ถ้าเขียวแล้ว มีเงิน 100% ก็ต้องใส่ 100% เลย อะไรแบบนั้น ( ผมก็เคยเป็นนะ เลยเข้าใจ 555 ) - ทำให้ หลายๆ คนแหยง ที่จะกดซื้อ เมื่อระบบมีสัญญาณเขียวแรก นั่นเอง... - แต่ถ้าใครสามารถคำนวณ Position Size ตามความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ ผมบอกเลยว่า คุณจะตัดปัญหาเรื่องความกลัวการโดนเขียวหลอก ออกไปได้เลย เช่น --- กลัวมากๆ ก็ใช้ความเสี่ยงมาตรฐาน 2% Risk per Trade --- มีกำไรเยอะจากรอบที่แล้ว แต่ยังกลัวอยู่เหมือนกัน ก็ขยับขึ้นมาหน่อย อาจจะใช้ได้ถึง 4-6% Risk per Trade --- รอบที่แล้ว รวยจัด รอบนี้ อยากเสี่ยงมากหน่อย เพราะมองว่าลงมาเยอะแล้ว ก็อาจจะใช้ได้สูงสุดถึง 10% Risk per trade ( แต่ไม่ค่อยแนะนำครับ ส่วนตัวผมว่าสัก 5-6% ก็เต็มที่ละ ) - คุณทำวิธีนี้ได้ คุณจะ "กล้า" เข้า ตอนเขียวแรก และ จะสามารถ "ทนถือได้อย่างนิ่งๆ" ได้ จนกว่าระบบจะแดง หรือ ชน stop loss ที่เราได้ตั้งไว้ตอนก่อนกดซื้อครับ ----------------------------------------- 4) เทรนขาขึ้นระดับ TF Daily TF Weekly ก็อย่าไป short สวนเทรนโดยไม่จำเป็น ...โอกาสเสียตังฟรี สูง ----------------------------------------- - สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าบางคน จะชอบติดนิสัยทำตามตำราที่สอนๆ กันมา นั่นก็คือ กะจะทำกำไรได้ทุกคลื่น ไม่ว่าจะเป็น การขึ้น ( Long ) หรือการย่อ ( short ) ยิ่งพวกสาย short นี่ไม่รู้เป็นไร เห็น divergence แล้วรีบบบบ ไปกด short กันเลยกะว่าลงแน่ 5555 - ซึ่งผมบอกเลยว่า ถ้าท่านไม่เก๋าเกมจริงๆ ตัดสินใจเองไม่ได้ ยังต้องคอยมาตั้งกระทู้ถามคนอื่นในห้อง ว่า ดอย short หนักมาก ทำไงดี .. ผมก็ขอแนะนำว่า อย่าไปเล่นสองขาเลยครับ เล่นแค่ฝั่ง long (ซื้อ) ฝั่งเดียวให้รอดก่อน - กำไรของ short อะ มันน้อย นิดเดียว ส่วนความเสี่ยง มันไม่จำกัด ถ้าอยากได้ตังจากช่วงขาขึ้น ก็แค่รอให้มันย่อ แล้วค่อยหาจังหวะเปิด long แค่นั้นเองครับ ง่ายๆ - ส่วนถ้ามันยังไม่ย่อ ก็ไม่ต้องทำไร ถ้าตกรถแล้วก็นั่งเฉยๆ รอให้เป็น แค่นั้นเอง - ผมเทรดคริปโตฯ มาตั้งแต่ปี 2017 นี่ก็จะครบปีที่ 5 ละ ผมเห็นคนที่ short ช่วงขาขึ้น แล้วไปถัวสู้ ไม่ยอมคัท พอร์ตระเบิด หมดตัว กันไปไม่รู้กี่คนละ ... ก็ขอออกมาเตือนกันไว้ ณ ที่นี้นะครับ ว่า ถ้าไม่อยากเสียตังฟรี ก็อย่าทำเล้ย.... ย่อซื้อ ตอนขาขึ้น = ez money กว่าเยอะครับ ----------------------------------------- 5) "คนอวดกำไรลงเฟส" คือสัญญาณให้เรา "หยุดมือ" และ "เฝ้าระวังการกลับตัว" ที่ยังใช้ได้อยู่เสมอ ----------------------------------------- - ใครจำช่วงตลาดขาขึ้น ตอนต้นๆ ปี 2021 นี้ได้ ก็น่าจะคุ้นกันดีว่า ช่วงพีคๆ แถวๆ Apr-May 2021 ในเฟสบุค มีแต่เพื่อนๆ หรือคนรอบข้างของเรา อวดกำไรจากคริปโตกันเต็มไปโม้ดดด - บางคน ร้อยวันพันปี ไม่เคยพูดเรื่องคริปโตฯ อยู่ๆ มาเปิดคอร์สสอน DeFi กันซะงั้น 555 ทุกคนเป็นเซียนกันไปหมด มีกูรูหน้าใหม่เกิดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด - ซึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เห็นการกลับตัว/ปรับฐานของตลาด ( correction ) ในช่วงเดือน May - Jul 2021 - การกลับตัวรอบนั้น ก็ทำให้ กูรูที่เกิดขึ้นมาช่วงตลาดดีๆ หายเงียบ กันไปหลายคน บางคนก็เลิกอัพเดทเพจกันไปเลย .. บางคนก็ดอยหนัก แต่ก็ยังออกมาอัพเดทด้วยสปิริทอยู่ - หลายๆ คนที่ไปเล่น ฟิวเจอร์ ก็หมดตัวกันถ้วนหน้า - ซึ่ง ถ้าเรามาคิดดีๆ แล้ว... สำหรับคนที่ทำตามระบบ เราก็รันเทรนกันมาตั้งแต่ช่วง Oct 2020 ออกตอนไหนก็กำไร - แต่.. มันจะไม่กำไร ถ้า ในช่วงที่ตลาดดีๆ เรา "นั่งเฉยๆไม่เป็น" และไป FOMO กู้หนี้ยืมสิน มาเข้าเหรียญเพิ่มในช่วงตลาด top + คนอวดกำไรนั่นเองครับ - ดังนั้น รอบหน้านี้ ถ้ามีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ...เราก็อย่าไปเผลอใจ ไล่ราคา ณ ยอดดอย กันอีกนะคร้าบ ----------------------------------------- 6) เตือนไปก็เท่านั้น มีแต่คนด่าฟรี ตอนตลาดลงจริงๆ ก็ไม่ใช่จะมีคนคิดถึง .. นั่งเฉยๆ ดีกว่า ----------------------------------------- - อันนี้เป็นบทเรียน ของตัวผมเอง เพราะ ตอนที่ตลาดดีๆ การไปเตือนคนเพราะความหวังดี จากประสบการณ์ที่เราเจอมา ... แต่สุดท้าย ก็โดนแคปไปด่า - ผมก็เลยมานั่งคิดนอนคิด แล้วก็ยูเรก้า ว่า เออ มันก็เป็นธรรมชาติอ่ะนะ เพราะถ้าคนที่ไม่เคยเจ๊งจากตลาด เตือนเท่าไหร่ เขาก็ไม่เก็ตอ่ะ - มันเหมือนไปบอกเด็กไม่กี่ขวบว่า น้ำร้อน มันร้อนนะ ไฟ มันร้อนนะ อย่าไปจับ เดี๋ยวมือพอง ...เด็กมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก มันก็ต้องเอามือไปจับซักที ให้มือพองก่อน ถึงจะรู้ว่า เออ ไฟมันร้อนจริงๆ นะ - เทรดเดอร์มือใหม่ ก็เหมือนกัน ก็ต้องปล่อยให้เขาไปเจอการขาดทุนหนัก หมดตัวก่อน สักรอบนึง เขาก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เออ ตลาดมันไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เขาเคยคิดไว้นะ ไม่เหมือนอย่างที่กูรูบอกไว้นะ - ซึ่ง ถ้าเขามีความพยายามจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เขาก็จะไปนั่งอ่านหนังสือต่างๆ ดูวีดีโอสอนเทรดต่างๆ ที่สอนโดยคนที่รอดจากตลาดมาได้ จริงๆ และสุดท้าย เขาก็จะกลายเป็นเทรดเดอร์ ที่สามารถอยู่รอดในตลาดได้เอง - ดังนั้น ผมเองก็เลยต้องปรับแก้ตัวเองกันไปเช่นกัน นั่นก็คือ ปล่อยวาง และ ช่างหัวมัน รวมถึงไม่ไปวอร์ หรือกล่าวถึงคนอื่นด้วย 555 เพราะแต่ละคน เขาก็มี FC ของเขาเอง มีมุมมองต่อตลาดของเขาเอง เราไม่ถูกใจก็ block ทิ้งไปจะได้ไม่ต้องไปรับรู้ว่าเขาคิดอะไรพูดอะไร ...ก็แค่นั้นเอง 5555 ------------ สรุป ------------ เอาเท่านี้ก่อนละกัน นึกไม่ค่อยจะออกละ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ ก็หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน ไม่มากก็น้อย ใครพลาด ก็อย่าลืม มองปัญหา และ หาทางแก้ให้ได้ ด้วยตัวเองกันนะครับ ผมบอกเลยว่า การเทรดเนี่ย มันคือการปรับ mindset ของเราเองให้มันถูกต้อง และ ทำยังไงก็ได้ ให้รอดได้ในทุกสภาวะตลาด ถ้าคุณรอดไปสัก 1 cycle หรือ 2 cycle เดี๋ยวกำไร มันจะมาเองครับ คนส่วนใหญ่ ได้กำไรเยอะ ตอนตลาดดีๆ แต่ก็มาหมดตัวหรือเจ๊งยับ ตอนตลาดปรับฐานลึก กันทั้งนั้นครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคัดสรรโดยบรรณาธิการการศึกษาโดย Real_inwCoin3434237
BTCUSDT(การฝ่าวงล้อม) จะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ และหลังจากนั้น เมื่อมีการเคลื่อนไหวทะลุกรอบจึงเรียกว่า การฝ่าวงล้อม สามารถเกิดขึ้นได้ในเครื่องมือหลายชนิด คือเมื่อราคาของคู่เงินนั้นๆวิ่งมาจนสามารถทะลุ แนวรับ หรือแนวต้าน ได้นั้น เราจะเรียกลักษณะอาการของกราฟช่วงนี้ว่าเกิดการ การฝ่าวงล้อมเพิ่มขึ้นโดย kittiwut5
BTCUSDT- BTC ยังคง พยายาม รักษาระดับค่าเฉลี่ย 200 วัน - อยู่ที่แท่งของวันนี้ ว่าจะ ชนะ หรือ พ่าย * ชนะ = ปิดบวก * พ่าย = ปิดลบโดย kittiwut4
BTCUSD กราฟสร้าง High ต่ำลง ระวังเทขายBTCUSD กราฟสร้าง High ต่ำลง ระวังเทขาย จากกราฟจะเห็นว่าราคามีการสร้าง High ที่ต่ำลง เเละมีเเนวโน้มปรับตัวลงในระยะสั้น สักเกตุ เเนวรับสำคัญหากหลุด 46000 ได้จะมีเเนวดน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง ลดลงโดย Trader_J_JTtraderfx_academe9
BTCUSDT- ไม่ชัดเจน อาจต้องรอยืนยัน ?? จากการปิดบวกของแท่งเทียน ซัก 1 แท่งเทียน - หากยังปิดบวกไม่ได้ มีโอกาส ลงต่อ - อินดิเคเตอร์ กับ ราคา เริ่มมีความขัดแย้งกัน รอเพียงการ ยืนยันที่ชัดเจนโดย kittiwut6
BTC - เก็บของ หรือ รอทุบสมมุติฐาน Degree1 - w5 (fail?) >> tfweek Degree2 - non std. small >> tfday Degree3 - non ชุด 2(ขาว) / combination(เหลือง)(สำรอง) >> tfday Degree4 - b of non / c of non >> tfday Degree5 - non of c / b of e of b expan >> tf4h วิเคราะห์ 1. สิ่งที่น่าติดตามในช่วงนี้คือราคาจะสามารถทำ new high เพื่อขึ้นต่อขา c of non ชุด 2 ได้ไหม หรือจะจบรอบแค่ตรงนี้เป็น combination อะไรสักอย่าง เนื่องจากใน tfweek มีลักษณะเป็นแท่งเทียนสีแดงบ่งบอกถึงลักษณะของการแยก segment หากภายในเร็ววันนี้ยังไม่สามารถปิดเขียวได้ บริเวณนี้อาจเป็นการ complete จบรอบของ w5 fail หรือ เป็นเพียงคลื่นย่อยของ w5 เท่านั้น 2. สิ่งที่ผมยังเลือกติดตามคือ ขา c of non ชุด 2 - โดยสิ่งที่ต้องติดตามในปัจจุบันคือ ราคาที่เคลื่อนที่ขึ้นมาได้นั้นเป็นบริบทของ ขา c หรือเป็นเพียง ขา b of e of b expanding triangle - ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่แนว fibo 61.8% ซึ่งเป็นแนวต้านที่หนาพอสมควร และที่สำคัญ rsi ยังคงเกิด bear di- อย่างต่อเนื่องทั้งใน tfday-4h บ่งบอกถึงความอ่อนแรงของตลาด - แต่หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 61.8% ขึ้นไปได้ก็จะเป็นมุมมองของ ขา c of non ชุด 2 - แต่หากมีการหลุด low ก่อนหน้า มุมมองแรก อาจเป็นขา e of b expan ที่ยังปรับตัวไม่จบ เป้าต่อไปจะอยู่แถวแนว fibo 81-100% of a(internal) หรือแถว ขา c แต่หากหลุดลงต่ำกว่านี้ นี่อาจเป็นการจบรอบ cycle อะไรสักอย่างแล้ว ต้องรอติดตามกันต่อไป ปล.ไม่ใช่แนะนำการลงทุนเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น "นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะพยายามใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และสามารถตัดขาดทุนได้ทันที เมื่อคาดการณ์ผิดพลาด" cr . ดม ดอนชัยโดย jaohamati2
Harmonic patterns are being harmonic?คิดว่าตอนนี้ราคา BTC ยังเป็นไปได้ทั้งขึ้นและลง อาจลองเสี่ยง short ที่ 49700 ถ้าถูกทางก็มีแววเป็นมหาเศรษฐีครับโดย Pxrn0
BTCUSDTHidden Bullish Divergence : ราคาไม่ทำ new low (Higher Low – HL) แต่อินดิเคเตอร์ทำ new low (Lower Low – LL) >> ราคามักจะขึ้นไปต่อเพิ่มขึ้นโดย kittiwut11
BTC มีโอกาศเบรค Trend Line เพื่อปรับตัวลงBTC ใน 4 วันที่ผ่านมา แท่ง Day ปิดแท่งลบติดต่อกันทั้ง 4 วัน วันนี้เข้าวันที่ 5 มีโอกาศเบรค Trend Line ปรับตัวลงระดับ 42000-41500 usd. เพื่อปิดแท่งแดงอีกวัน ได้เช่นกัน *แต่ถ้าไม่หลุดแนว Trend Line จะปรับตัวขึ้นที่ 46000-46600 usd **โปรดเทรดด้วยความระมัดระวัง**คัดสรรโดยบรรณาธิการลดลงโดย Darthvader.muyongที่อัปเดต: 94