AUDUSD H1 | แนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องวิเคราะห์ AUDUSD กรอบเวลา H1 ราคากำลังปรับลงสู่แนวรับ Pivot 0.6161 ที่สอดคล้องกับ Fibonacci 61.8% คาดดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านแรก 0.6205 แต่หากหลุดแนว Pivot อาจร่วงต่อถึงแนวรับ 0.6131เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals2
AUDUSD H1 | แนวโน้มขาลงต่อเนื่อง?วิเคราะห์ AUDUSD กรอบเวลา H1 ราคามีโอกาสกลับตัวลงจากแนวต้านที่ 0.6222 สู่แนวรับที่ 0.6191 แต่หากทะลุแนวต้าน อาจปรับขึ้นถึง 0.6251 ซึ่งสอดคล้องกับ Fibonacci 61.8%ลดลงโดย ThaiTradeSignals1
AUD/USD ร่วงแตะ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ **📉🔥 AUD/USD ร่วงสู่ระดับ 0.6215! ตลาดเงียบเหงาก่อนปีใหม่ ท่ามกลางโทนเสียงผ่อนคลายจาก RBA 🐨💰** **AUD/USD ลดลงสู่ระดับ 0.6215 ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาและโทนเสียงที่ผ่อนคลายจาก RBA** คู่เงิน AUD/USD ซื้อขายในกรอบแคบใกล้กับแนวรับสำคัญของปีที่ระดับ 0.6200 ระหว่างการซื้อขายในวันศุกร์ช่วงตลาดอเมริกาเหนือ โดยลดลง 0.14% สู่ระดับ 0.6215 📊💸 การเคลื่อนไหวของราคาที่ซบเซานี้สะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงเงียบเหงาก่อนเทศกาลปีใหม่ 🎉🎊 คู่เงินยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานการประชุมที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และการเคลื่อนไหวแบบผสมของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 🇺🇸🤑 **📚🔍 ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน** ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงอ่อนตัวและไม่สามารถฟื้นตัวได้ เนื่องจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของ RBA ชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้กำหนดนโยบายว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังลดลงตามที่คาดการณ์ 📉💡 รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเข้มงวดของนโยบายการเงินในปัจจุบันอาจถูกผ่อนคลายลงในไม่ช้า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📅📉 ตลาดคาดการณ์ความเป็นไปได้ประมาณ 65% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะปรับลดอย่างเต็มที่ภายในเดือนเมษายน 🗓️📉 ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย Michele Bullock เน้นย้ำถึงแนวทางที่อิงตามข้อมูล โดยปฏิเสธที่จะยืนยันสถานการณ์สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 📊❓ Bullock ระบุว่าคณะกรรมการไม่ได้หารืออย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม และยังคงเปิดรับตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ 📈📉 **🌎💵 ด้านสหรัฐฯ** ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ดิ้นรนที่จะรักษาระดับ 108.00 📉📊 มุมมองโดยรวมของค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนโดยจุดยืนที่ระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 🚨📊 ประธาน Fed Jerome Powell เพิ่งเน้นย้ำว่าการปรับลดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการลดเงินเฟ้อ 🛑📈 นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังชี้ให้เห็นถึงนโยบายการอพยพเข้าเมือง ภาษีศุลกากร และภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ 📈💵 **📈🔧 ภาพรวมทางเทคนิค** คู่เงิน AUD/USD ขยายการขาดทุนต่อไป เนื่องจากตัวชี้วัดทางเทคนิคยังคงอยู่ในโซนขายมากเกินไป 🛑📊 ดัชนี Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 27 โดยมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่อง 📉💡 แถบ MACD histogram แสดงแถบสีแดงที่แบนราบ สะท้อนถึงการขาดสัญญาณทิศทางที่ชัดเจน 🔻📊 แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 0.6200 โดยหากราคาทะลุต่ำกว่าระดับนี้ อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงเพิ่มเติมสู่ระดับ 0.6170 📉🔽 ในขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 0.6250 ตามด้วยแนวต้านที่สำคัญกว่าในระดับ 0.6280 📈🛡️ แม้ปัจจัยทางเทคนิคจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันในการขายที่จำกัด การฟื้นตัวของราคายังคงขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดและความต้องการเสี่ยงที่ดีขึ้น 📈🛍️ #AUDUSD #เทรดเดอร์ #ตลาดออสเตรเลีย #ค่าเงินดอลลาร์ #การเงิน #RBA #เทคนิคการเทรด #ข่าวเศรษฐกิจลดลงโดย Purich4
AUDUSD กำลังมีโครงสร้างขาลงอย่างชัดเจนตามทฤษฎี Dowการวิเคราะห์ AUDUSD (Timeframe D1) AUDUSD มีโครงสร้างราคาขาลงที่ชัดเจนมาก โดยประกอบด้วย Lower High และ Lower Low ตามทฤษฎี Dow ปัจจุบันราคาได้ขึ้นมาถึงจุด Lower High อีกครั้ง (กำลังทดสอบจุด Low ก่อนหน้า) ซึ่งบริเวณนี้ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน เราจึงควรมองหาโอกาสในการเปิด Sell Short การวิเคราะห์ AUDUSD (Timeframe H4) เมื่อดูในกรอบเวลา H4 จะเห็นจุดที่มี Confluence หลายอย่างสอดคล้องกัน ได้แก่: แนวต้านของกราฟรายวัน (สีเทา) ที่ได้กล่าวถึงในการวิเคราะห์กรอบ D1 แนวต้านในกรอบ H4 Resistance 1 (R1) แนวต้านจาก Fibonacci Weekly Pivot Point Fibonacci Retracement ของการแกว่งตัวก่อนหน้า ปัจจัยเหล่านี้บ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงที่แนวโน้มขาลงจะแข็งแกร่งและต่อเนื่อง คำแนะนำในการเทรด สามารถตั้งคำสั่งได้ในหลายตำแหน่งตามความเหมาะสม แต่ขอแนะนำ 3 จุดที่น่าสนใจต่อไปนี้: โซนที่ 1 (Resistance)= 0.65388 โซนที่ 2 (Fibo 61.8) = 0.65297 โซนที่ 3 (Fibo 38.2) = 0.65248 จุดน่าวาง Stop Loss: ตั้งไว้ที่ 0.65524 เนื่องจากเป็นจุดที่โครงสร้างขาลงจะถูกทำลาย หากราคาทะลุจุดนี้ โอกาสที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงจะต่ำมาก จุดที่ควรเป็นเป้าหมายกำไร (Take Profit): TP1 = 0.64506 (แนวรับ) เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการถือออเดอร์เกิน 1 สัปดาห์ เพราะราคามีโอกาสชะลอตัวบริเวณแนวรับนี้ TP2 = 0.63960 (Fibo Extension 61.8) เป็นแผนที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า เพราะต้องถือออเดอร์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ และคาดหวังว่าราคาจะทะลุแนวรับที่ 0.64506 เพื่อยืนยันโครงสร้างขาลงต่อเนื่องลดลงโดย ThinkMarketsที่อัปเดต: 11
AUDUSD H4 | มีแนวโน้มกลับตัวลงวิเคราะห์ AUDUSD กรอบเวลา H4 มีแนวโน้มกลับตัวลง ราคากำลังทดสอบแนว Pivot ที่ 0.6454 ซึ่งใกล้กับ Fibonacci 50% หากไม่ผ่าน มีโอกาสร่วงสู่แนวรับ 0.6406 แต่หากทะลุขึ้น อาจปรับตัวสู่แนวต้านถัดไปที่ 0.6487 ใกล้ Fibonacci 78.6%ลดลงโดย ThaiTradeSignals3
Open Interest: ปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดทองคำOpen Interest คืออะไร? Open Interest (OI) คือจำนวนสัญญาซื้อขายที่ยังเปิดอยู่ในตลาดฟิวเจอร์สหรือออปชัน โดยไม่รวมสัญญาที่ปิดแล้ว ซึ่งหมายถึงจำนวนสัญญาที่ทั้งสองฝ่าย (ผู้ซื้อและผู้ขาย) ตกลงกันและยังไม่มีการปิดสถานะ สถิตินี้สามารถช่วยให้นักเทรดและนักลงทุนวิเคราะห์สภาพตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนอย่างทองคำ บทบาทของ Open Interest ในตลาดทองคำ ตลาดทองคำมีความซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น Open Interest จึงเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินความสนใจของนักลงทุนในสินทรัพย์นี้ การบ่งชี้แนวโน้มของตลาด หาก Open Interest เพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น อาจบ่งชี้ว่ามีแรงซื้อใหม่เข้ามาในตลาด ซึ่งสามารถสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นได้ ในทางกลับกัน หาก Open Interest ลดลงในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น อาจแสดงว่าการเพิ่มขึ้นของราคามาจากการปิดสถานะ Short มากกว่าการเปิดสถานะใหม่ การยืนยันหรือกลับตัวของราคา เมื่อราคาทองคำเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของ Open Interest อาจบ่งชี้ว่าราคาอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแรง หาก Open Interest ลดลงในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหว อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวหรือสิ้นสุดแนวโน้ม วิธีการวิเคราะห์ Open Interest ร่วมกับข้อมูลอื่น Volume (ปริมาณการซื้อขาย): Open Interest ควรใช้ควบคู่กับปริมาณการซื้อขาย เพราะ Volume บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาหนึ่ง หาก Volume และ Open Interest เพิ่มขึ้นพร้อมกัน ตลาดมีแนวโน้มว่ากำลังสร้างความแข็งแกร่ง COT Report (Commitments of Traders): รายงาน COT ซึ่งเผยแพร่โดย CFTC (Commodity Futures Trading Commission) เป็นข้อมูลเสริมที่ดีในการวิเคราะห์ Open Interest ช่วยให้เห็นภาพรวมของตำแหน่งซื้อขายของกลุ่มนักลงทุน เช่น ผู้จัดการกองทุนหรือผู้ป้องกันความเสี่ยง ข้อควรระวังในการใช้งาน Open Interest Open Interest เพียงอย่างเดียวไม่สามารถบอกทิศทางตลาดได้ จึงควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น กราฟเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน ความผันผวนของตลาดทองคำสามารถเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การแถลงการณ์ของธนาคารกลาง การดูข้อมูล Open Interest สำหรับทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ สามารถทำได้จากหลายเว็บไซต์ โดยแต่ละที่อาจมีจุดเด่นต่างกันตามความละเอียดและการนำเสนอข้อมูล ต่อไปนี้คือเว็บไซต์ที่นิยมใช้: CME Group (Chicago Mercantile Exchange) , Investing.com,Barchart,TradingView สรุป Open Interest เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักเทรดทองคำในการวิเคราะห์แนวโน้มและความแข็งแกร่งของตลาด อย่างไรก็ตาม การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพควรมาควบคู่กับการศึกษาปัจจัยอื่น ๆ เพื่อการตัดสินใจที่มั่นคงในตลาดที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างตลาดทองคำ การศึกษาโดย Tradertanofficial8
คาดการณ์ AUD/USD: แนวโน้มขาลงกำลังมา!คาดการณ์ AUDUSD มีแนวโน้มขาลง ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปิดสัปดาห์ด้วยแท่งเทียนดำยาว ทดสอบแนวต้าน 0.6621 และ Fibonacci 50% หากแรงขายยังคงอยู่ ราคามีโอกาสร่วงสู่ 0.6400 แต่หากทะลุ 0.6690 อาจเห็นราคาปรับตัวขึ้นอีกครั้งลดลงโดย ThaiTradeSignals0
กลยุทธ์การเทรดแบบ Grid ในตลาด Forex: เคล็ดลับการทำกำไรและการบริหการเทรดแบบ Grid (กริด) เป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาด Forex ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถใช้เพื่อทำกำไรได้ในหลายสภาวะของตลาด อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องเข้าใจหลักการและวิธีการอย่างละเอียด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักการเทรดแบบ Grid อย่างละเอียด และวิธีการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 1. การเทรดแบบ Grid คืออะไร? การเทรดแบบ Grid เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งคำสั่งซื้อและขายในรูปแบบของตาราง โดยคำสั่งซื้อขายเหล่านี้จะถูกวางไว้ที่ระยะห่าง (interval) ที่เท่ากันทั้งด้านบนและด้านล่างของราคา ณ จุดเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขึ้น (bullish) หรือลง (bearish) หรือแม้แต่ในตลาดที่เคลื่อนไหวในช่วงแคบ (sideways) 2. หลักการของการเทรดแบบ Grid หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์นี้คือการทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาด้วยการตั้งคำสั่งซื้อและขายที่ระยะห่างคงที่ ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดเริ่มต้นที่ราคา 1.1000 และตั้งคำสั่งขายที่ทุกๆ ระยะห่าง 50 จุด เช่น 1.1050, 1.1100 และคำสั่งซื้อที่ 1.0950, 1.0900 เป็นต้น 3. ข้อดีของการเทรดแบบ Grid ทำกำไรในทุกสภาวะตลาด: ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง กลยุทธ์นี้สามารถทำกำไรได้เนื่องจากจะมีคำสั่งซื้อขายพร้อมที่จะดำเนินการเมื่อราคาเคลื่อนไหว ไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทาง: การเทรดแบบ Grid ไม่จำเป็นต้องเดาทิศทางของตลาด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ที่ต้องใช้การวิเคราะห์แนวโน้ม ลดการพึ่งพาการทำนายตลาด: ด้วยโครงสร้างของคำสั่งที่กระจายทั่วราคาต่างๆ ทำให้นักเทรดมีโอกาสปิดกำไรได้โดยไม่ต้องรอให้เกิดแนวโน้มที่ชัดเจน 4. ข้อเสียและความเสี่ยง ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจสูง: เนื่องจากคำสั่งจำนวนมากถูกเปิดขึ้นพร้อมกัน นักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงมีโอกาสที่มาร์จิ้นจะไม่เพียงพอเมื่อราคาวิ่งไปในทิศทางที่ขาดทุน ขาดการควบคุมความเสี่ยง: หากไม่กำหนดขอบเขตความเสี่ยงให้ดี กลยุทธ์นี้อาจทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนที่ต่อต้านคำสั่งของ Grid 5. วิธีการสร้างระบบ Grid อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดระยะห่างระหว่างคำสั่ง (Grid Size): การตั้งระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างคำสั่งสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไร การบริหารจัดการเงิน (Money Management): ควรใช้ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี เช่น การกำหนดขนาดล็อตที่เหมาะสมและการติดตั้งคำสั่ง Stop Loss เพื่อป้องกันการสูญเสียครั้งใหญ่ การตั้งค่า Take Profit: การตั้งระดับการทำกำไรที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คำสั่งปิดทำกำไรได้บ่อยขึ้นและสร้างความมั่นคงในระบบ 6. ตัวอย่างการใช้งานระบบ Grid ในตลาด Forex สมมุติว่าคุณเริ่มเทรดด้วยเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ โดยใช้ระบบ Grid ในการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD: ตั้งระยะห่าง Grid ที่ 20 จุด ขนาดล็อตเริ่มต้นที่ 0.01 มีคำสั่งซื้อและขายหลายคู่ที่ระยะห่างกันเพื่อกระจายความเสี่ยง ในการเคลื่อนไหวที่ผันผวนเล็กน้อย เช่น เมื่อราคาเคลื่อนที่ขึ้นและลงเป็นรอบ ระบบจะปิดกำไรเมื่อราคาผ่านจุดที่ตั้งคำสั่งไว้ ช่วยเพิ่มกำไรสะสมได้ต่อเนื่อง 7. สรุป การเทรดแบบ Grid เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้ในหลายสถานการณ์ของตลาด แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยง การวางแผนและการทดสอบระบบอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าการเทรดนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ควรทำอย่างระมัดระวัง โดยการใช้เงินทุนที่สามารถยอมรับการขาดทุนได้ และการติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การศึกษาโดย Tradertanofficial6
AUDUSD @04/11/2567Trend : H4/H1 -Bearish trend Poi -Sz -61.8% -Srf Signal Confirm -DivergenceM15 -Ovs@H1 -Sweep Lq Confirmation Entry -Engulfing@H1 -Choch@M1 ลดลงโดย chpnzที่อัปเดต: 4
Volume Profile ใน TradingView: เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่สำคัญVolume Profile เป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเทรด โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม TradingView ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นการกระจายของปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในราคาต่าง ๆ และวิเคราะห์จุดแข็งหรือจุดอ่อนของตลาดได้อย่างชัดเจน Volume Profile คืออะไร? Volume Profile เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ตลาดผ่านการแสดงผลปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับราคา แทนที่จะเป็นการแสดง Volume ในแนวเวลาแบบกราฟทั่วไป มันแสดงในแนวระดับ (ตามแนวแกนราคา) ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าราคาที่เทรดอยู่ในช่วงไหนมีการซื้อขายมากหรือน้อย ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการหาจุดกลับตัว จุดแนวรับ-แนวต้าน และบ่งชี้ระดับที่ตลาดให้ความสนใจ ประโยชน์ของ Volume Profile ค้นหาจุดที่มีการซื้อขายสูงสุด (Point of Control – POC): จุด POC เป็นระดับราคาที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าราคานั้นมีความสำคัญต่อผู้เข้าร่วมตลาดเป็นพิเศษ การเทรดในระดับใกล้เคียงกับ POC อาจมีความเสี่ยงต่ำลง เนื่องจากตลาดมีความสมดุล ระบุบริเวณที่มี Volume หนาแน่น (High Volume Nodes – HVN): พื้นที่ HVN คือบริเวณที่มีปริมาณการซื้อขายสูงมาก โดยมักจะบ่งชี้ว่าราคานั้นมีความสนใจจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้พื้นที่นี้มีโอกาสเป็นแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแรง ระบุบริเวณที่มี Volume น้อย (Low Volume Nodes – LVN): พื้นที่ LVN เป็นบริเวณที่มีปริมาณการซื้อขายน้อยกว่า มักบ่งบอกถึงจุดที่ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก หรือมีการเทรดที่แคบลง การที่ราคาผ่านบริเวณนี้สามารถเกิดการวิ่งไปในทิศทางที่รวดเร็ว เนื่องจากไม่มีแรงซื้อมากดดัน ช่วยในการวางแผนการเทรด: Volume Profile ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดเข้าและออกที่ดีขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจากแนวรับและแนวต้านในช่วงเวลาที่กำหนด การใช้ Volume Profile ยังสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดและวางแผนสำหรับการเทรดแบบระยะสั้นหรือระยะยาวได้ดีขึ้น วิธีการใช้งาน Volume Profile บน TradingView เปิดกราฟ: เริ่มต้นด้วยการเปิดกราฟสินทรัพย์ที่ต้องการวิเคราะห์ใน TradingView เพิ่ม Volume Profile: ไปที่เมนู “Indicators” หรือ “เครื่องมือชี้วัด” แล้วพิมพ์ “Volume Profile” จากนั้นเลือกประเภท Volume Profile ที่คุณต้องการ เช่น Visible Range ซึ่งจะวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายในกราฟที่คุณมองเห็นอยู่ หรือ Session Volume ที่แสดงการกระจายของ Volume ตามเซสชันเวลา ตั้งค่า Volume Profile: คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ตามต้องการ เช่น จำนวนบาร์ ความกว้างของโปรไฟล์ หรือสีของกราฟ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ ข้อสรุป Volume Profile เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำความเข้าใจพฤติกรรมตลาดโดยใช้ปริมาณการซื้อขายเป็นตัวบ่งชี้ การใช้ Volume Profile ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดสำคัญในการตัดสินใจเข้าและออกจากตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการหาความสมดุลของตลาดและวางแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น บนแพลตฟอร์ม TradingView Volume Profile เป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เทรดเดอร์ทุกคนควรพิจารณาใช้ในกลยุทธ์การเทรดของตนเองการศึกษาโดย Tradertanofficial2
AUDUSD H4 | การกลับตัวขาลงวิเคราะห์ราคาคู่เงิน AUDUSD กรอบเวลา H4 มีแนวโน้มกลับตัวขาลงจากระดับ Pivot 0.6715 และอาจลงไปที่แนวรับ 0.6647 หากราคาทะลุขึ้น อาจพุ่งสู่แนวต้านที่ 0.6759ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
AUDUSD H4 | สัญญาณกลับตัวขาลงวิเคราะห์ AUDUSD กราฟ H4 ราคากำลังปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน Pivot ที่ 0.6779 หากเกิดการกลับตัว ราคามีโอกาสร่วงลงไปที่แนวรับ 0.6715 แต่หากราคาทะลุ Pivot ขึ้นไปได้ อาจปรับขึ้นต่อไปถึงแนวต้าน 0.6822ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
AUDUSD H4 | การร่วงลงขาลงวิเคราะห์ราคาของ AUDUSD มีการตอบสนองที่แนวต้านซ้อน 0.6749 หากราคาลดลงจากระดับนี้ อาจลดลงไปที่แนวรับ 0.6640 ใกล้กับ Fibonacci 50% แต่หากทะลุผ่านแนว Pivot ได้ ราคามีโอกาสขึ้นไปถึงแนวต้าน 0.6819 ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
ออสซี่ทดสอบจุดสูงสุดหลัง RBA คงดอกเบี้ยเชิงเข้มงวดดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ได้ทดสอบจุดสูงสุดของปี 2024 หลังจากการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่คงดอกเบี้ยและพร้อมปรับขึ้นหากจำเป็น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ AUD ยังได้รับแรงหนุนจากการขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลังจากจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์คาดว่า AUDUSD มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หากดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวจากข้อมูลเศรษฐกิจ มุมมองทางเทคนิค: AUDUSD ทดสอบจุดสูงสุดที่ .6857 คาดว่าหากยืนเหนือ .6681 ได้ มีโอกาสปรับขึ้นต่อถึง .6994เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals0
AUDUSD กรอบเวลา 4 ชั่วโมง | การกลับตัวเป็นขาลงวิเคราะห์ราคาคู่เงิน AUDUSD ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงมีโอกาสกลับตัวเป็นขาลง หากราคาปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ Pivot 0.6845 ใกล้กับ Fibonacci Extension 127.20% แล้วกลับตัวลง คาดว่าจะลงไปถึงแนวรับแรกที่ 0.6797 แต่หากราคาทะลุ Pivot อาจปรับขึ้นต่อไปยังแนวต้านแรกที่ 0.6879 ซึ่งสอดคล้องกับ Fibonacci Extension 127.20%ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
"เฟดเตรียมลดดอกเบี้ย! AUD/USD พุ่งต่อเนื่องสองวันติด"การพยากรณ์ราคาคู่เงิน AUD/USD: อุปสรรคการบรรจบกันที่ 0.6700 ถือกุญแจสำคัญสำหรับกลุ่มกระทิง ก่อนหน้ารายงาน PPI ของสหรัฐฯ * คู่เงิน AUD/USD ขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เนื่องจากบรรยากาศตลาดที่ดี * การลดความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มากขึ้น ช่วยหนุนค่าเงิน USD และอาจจำกัดการขึ้นของ AUD/USD * ผู้ค้าเฝ้ารอรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ สำหรับแรงกระตุ้นระยะสั้น คู่เงิน AUD/USD ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวที่ดีในช่วงข้ามคืน จากพื้นที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 200 วัน (SMA) ประมาณระดับ 0.6620 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบสี่สัปดาห์ และได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดีนี้ การเคลื่อนไหวนี้ยกให้ราคาขยับขึ้นสู่จุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ ในช่วงการซื้อขายเช้าของยุโรปและได้รับแรงผลักดันจากบรรยากาศตลาดที่ดี ซึ่งมักส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ที่มีความเสี่ยง บรรยากาศความเสี่ยงทั่วโลกได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่สำคัญ ยืนยันการคาดการณ์ตลาดว่ารอบการผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กำลังจะเริ่มต้นเร็ว ๆ นี้ 💹📈 ตามจริงแล้ว สำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนี CPI ที่ประกาศออกมาเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนสิงหาคม และอัตรารายปีชะลอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จาก 2.9% เป็น 2.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 นอกจากนี้ การอ่านค่าที่อ่อนแอของดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของญี่ปุ่น ได้ทำให้สัญญาณความเข้มแข็งจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ลดลง และเพิ่มความต้องการของนักลงทุนสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI สหรัฐฯ ที่ไม่รวมราคาที่ผันผวนของอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนที่รายงาน และยังคงอยู่ที่ 3.2% ในช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมและการประมาณการจากนักวิเคราะห์ 💼📊 สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงยืดหยุ่น และได้ทำให้ความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน (bps) ของเฟดในการประชุมครั้งหน้า ลดลง ตามเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME ตลาดกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่ 87% สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมนโยบาย FOMC วันที่ 17-18 กันยายน เทียบกับ 71% ก่อนการรายงานดัชนี CPI ของสหรัฐฯ นี้ นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เล็กน้อย และผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) กลับมาใกล้จุดสูงสุดรายเดือน ซึ่งอาจจะขัดขวางการขยับขึ้นของคู่เงิน AUD/USD อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน 📉🌏 ในบริบทพื้นฐานที่กล่าวถึงข้างต้น ทำให้ควรรอการซื้อที่ต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง ก่อนที่จะยืนยันว่าการปรับตัวลงล่าสุดจากจุดสูงสุดในหลายเดือน ประมาณระดับ 0.6825 ที่แตะในเดือนสิงหาคม ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตลาดจะมุ่งเน้นไปที่การเผยแพร่รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขายในอเมริกาเหนือ นอกเหนือจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะขับเคลื่อนความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อโอกาสในการซื้อขายระยะสั้นรอบคู่เงิน AUD/USD 💵📉 #AUDUSD #ดัชนีราคาผู้ผลิต #เฟด #นโยบายการเงิน #ค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นโดย Purich1
AUDUSD แผนSELLPO3 ราคาเคลียร์SLเรียบร้อย เทสFVGและBB ราคากดตัวลงมาไบแอสว่าจะเข้าทุกเงื่อนไขของPO3ลดลงโดย MaaMongGraphที่อัปเดต: 4
AUDUSD ทรงตัวที่ระดับสูงหลังจากข้อมูล CPIเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวที่ระดับสูงหลังข้อมูล CPI ชะลอตัว แต่ยังสูงกว่าคาดการณ์ ทำให้แนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของ RBA ยังคงไม่แน่นอน นักเทรดเลื่อนการคาดการณ์การผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยไปเดือนธันวาคม ราคาคู่เงิน AUDUSD กำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 0.6857 หากทะลุได้ อาจขึ้นไปที่ 0.6994 โดยมีแนวรับที่ 0.6681เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals1
AUDUSD H4 | การร่วงลงของขาลงวิเคราะห์ราคา AUDUSD ในกราฟ H4 ราคาปัจจุบันอยู่ที่จุดหมุน 0.6711 ซึ่งเป็นแนวต้านของการเด้งกลับ หากราคาลดลงจากจุดนี้ อาจลดลงสู่แนวรับแรกที่ 0.6643 ใกล้ระดับ 61.8% ของ Fibonacci retracement แต่หากราคาทะลุเหนือจุดหมุน อาจขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 0.6790 ซึ่งเป็นแนวต้านของการขึ้นลงหลายจุด ลดลงโดย ThaiTradeSignals0
ดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งแรง หลังรายงานประชุม RBAดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานการประชุม RBA มีท่าทีเข้มงวดกว่าที่คาด ขณะที่การอ่อนค่าของ USD และการขาย JPY หนุนให้ AUD แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ในทางเทคนิค AUDUSD ทะลุระดับ .6681 โดยมีแนวต้านถัดไปที่ .6857 และหากผ่านได้อาจมุ่งสู่ .7103เพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals0
Trend Is My Best Friend-รอราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และเบรคเส้นเทรนไลน์ ขาลงในเทรน ขาขึ้นใหญ่ -แถบราคาบริเวณสีเหลืองเป็นจุดคาดการณ์ว่าราคาจะ ลงมาพักตัวโดย tansakunc0
AUDUSD Buy signal H4AUDUSD เกินสัญญาณ Divergence อ่อนๆและเกิดที่แนวรับแนวต้านสำคัญและมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้นใน H4 ได้ Zone Buy จะแบ่งเป็น2 Zone ด้วยกัน 1.Zone buy#1 :จะมี Fibonacci Level 61.8-78.6% ในการวาง Buy limit เอาไว้ SL: จะถูกวางไว้ที่ Fibonacci Level 100% หากราคาทะลุ Fibonacci level 100%(SL) จะรอเข้า Buy ใน Zoneที่2 กัน 2.Zone Buy#2 จะมี Fibonacci Level 127% ในการวาง Buy limit เอาไว้ SL: จะถูกวางไว้ที่ Fibonacci Level 161.8% TP: เปิด เพิ่มขึ้นโดย somsakconnect0
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปทำเฟรม h1 volume น้อยมากเลยแค่ 105 จุดเองจริงๆไปดูคู่อื่นดีกว่าคู่นี้เพิ่งเทรดเลยรอให้มันเลือกทางมากกว่านี้ก่อนให้มันวิ่งสัก 500 จุดแล้วค่อยมาคุยกันโดย koban007nick0