FED:โนมูระคาดเฟดตรึงดบ.ที่ระดับเดิมในธ.ค.
19 พ.ย.--รอยเตอร์
บริษัทโนมูระระบุว่า ทางบริษัทคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งส่งผลให้โนมูระกลายเป็นบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำแห่งแรกที่คาดการณ์ว่า เฟดจะหยุดพักจากวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ โนมูระคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2025 โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค. 2025 และในการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย. 2025 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย Fed funds อยู่ที่ระดับ 4.125% ในช่วงสิ้นปี 2025
เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้ว 0.75% ในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ระดับ 4.50%-4.75% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำแห่งอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และเจ.พี.มอร์แกน ต่างก็คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนธ.ค. ทางด้านเทรดเดอร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 58.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และคาดว่ามีโอกาส 41.1% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์กันอีกด้วยว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.78% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025
โนมูระคาดว่า เฟดจะหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากผู้กำหนดนโยบายของเฟดแสดงความเห็นแบบสายเหยี่ยวในช่วงนี้ ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดก็ได้กล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย.ว่า "เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า เราจำเป็นจะต้องรีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง" ทั้งนี้ เฟดแสดงความลังเลมากยิ่งขึ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐ ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า มาตรการต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อ โดยมาตรการเหล่านี้รวมถึงมาตรการปรับลดภาษีเงินได้, มาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้า และมาตรการปราบปรามผู้อพยพ
โนมูระระบุในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "เราคาดการณ์ในตอนนี้ว่า ภาษีนำเข้าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นก่อนสิ้นสุดฤดูร้อนปีหน้า และก็มีความเสี่ยงที่เฟดอาจจะหยุดพักวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วขึ้นและเป็นเวลานานยิ่งขึ้น" ทั้งนี้ โนมูระคาดว่า หลังจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย. 2025 เฟดก็จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมจนถึงเดือนมี.ค. 2026
รัฐบาลสหรัฐเพิ่งรายงานในสัปดาห์ที่แล้วว่า ราคาผู้บริโภคสหรัฐปรับขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือนเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แบบเทียบรายปีปรับขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับขึ้น 2.4% ในเดือนก.ย. ทางด้านราคาผู้ผลิตของสหรัฐปรับขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) แบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ บริษัทโบรกเกอร์แต่ละแห่งคาดการณ์แตกต่างกันไปเกี่ยวกับแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2025 โดยยูบีเอส โกลบัล รีเสิร์ชคาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ในปี 2025 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.00-3.25% ในช่วงสิ้นปี 2025 แต่แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ช กับธนาคารบาร์เคลย์สคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.50% ในปี 2025--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;