ReutersReuters

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์/เยนแข็งค่าขณะบีโอเจไม่ระบุเวลาขึ้นดบ.

ซิดนีย์--18 พ.ย.--รอยเตอร์

  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากนายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป แต่เขาไม่ได้ระบุว่าบีโอเจจะทำแบบนั้นเมื่อใด และถ้อยแถลงดังกล่าวของเขาทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค.หรือไม่ ทั้งนี้ นายอุเอดะกล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังคงปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวไปตามแนวทางที่บีโอเจคาดการณ์ไว้ แต่เขาไม่ได้ระบุว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.หรือไม่ โดยเขากล่าวว่า บีโอเจจำเป็นจะต้องมุ่งความสนใจไปยังปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐ ทางด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 54% ที่บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับที่เคยคาดไว้ก่อนที่นายอุเอดะจะกล่าวแถลง

  • ดอลลาร์/เยนแข็งค่าขึ้น 0.13% สู่ 154.54 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 156.74 เยนในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับลง 0.01% สู่ 1.0539 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0496 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 ปี ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวที่ 106.66 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีที่ 107.07 ในวันพฤหัสบดี และหลังจากดัชนีดอลลาร์เพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการพุ่งขึ้น 1.63% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 6 ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.04% สู่ 1.2632 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรูดลงแตะ 1.2598 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. โดยปอนด์ดิ่งลงราว 2.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2023 ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.13% สู่ 0.6472 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.21% สู่ 0.5860 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้

  • ดอลลาร์/เยนเพิ่งดิ่งลง 1.22% ในวันศุกร์ หลังจากนายคัตสึโนบุ คาโตะ รมว.คลังญี่ปุ่น กล่าวเตือนในวันศุกร์ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้ามาแทรกแซงตลาด ถ้าหากเยนดิ่งลงอย่างรวดเร็วเกินไปและแตะระดับที่ต่ำจนเกินไป ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นมาแล้วราว 5.4% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นมาแล้ว 0.70% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีเพิ่งปรับขึ้นจาก 4.420% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี สู่ 4.426% ในช่วงท้ายวันศุกร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 4.505% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. หรือจุดสูงสุดรอบ 5 เดือนครึ่ง

  • นายโจนัส โกลเทอร์มานน์ รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดในบริษัทแคปิตัล อิโคโนมิคส์ระบุว่า "ถึงแม้ดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะสร้างฐานในระยะอันใกล้นี้ เราก็ได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ค่าดอลลาร์ และเราคาดว่าดอลลาร์จะพุ่งขึ้นอีก 5% ก่อนสิ้นปี 2025" และเขากล่าวเสริมว่า "การคาดการณ์นี้ตั้งอยู่บนมุมมองที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์จะผลักดันมาตรการเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐานตามที่เขาได้เคยหาเสียงไว้ และการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจของประเทศสำคัญอื่น ๆ ต่อไป" ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังรอดูว่า นายทรัมป์จะเลือกใครให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ โดยตัวเก็งสำคัญสำหรับตำแหน่งนี้รวมถึงนายโฮเวิร์ด ลุทนิค ซีอีโอของบริษัทแคนเทอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ และนายสก็อตต์ เบสเซนท์ ซึ่งเป็นนักลงทุน

  • นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 60% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.77% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 หลังจากที่นักลงทุนเคยคาดไว้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันกว่า 1.00% ในช่วงปลายปีนี้และในปี 2025 ทั้งนี้ นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างน้อย 7 คนที่มีกำหนดจะกล่าวแถลงในสัปดาห์นี้ ในขณะที่เทรดเดอร์คาดว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะแสดงความเห็นอย่างระมัดระวังในเรื่องแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนก็คาดว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บางรายอาจจะแสดงความเห็นแบบสายพิราบในสัปดาห์นี้ด้วย หลังจากมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนในระยะนี้ และหลังจากมีความเสี่ยงที่สหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อภาคการค้าของสหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ นักลงทุนก็รอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ, ญี่ปุ่น และแคนาดาที่จะได้รับการรายงานออกมาในสัปดาห์นี้ด้วย--จบ-- Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้

ข่าวเพิ่มเติมจาก Reuters

ข่าวเพิ่มเติม