ReutersReuters

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์ทรงตัวหลังตัวเลขศก.สหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด

สิงคโปร์--24 พ.ค.--รอยเตอร์

  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย แต่อาจจะปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนเม.ย. หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง เนื่องจากดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และจากรายงานการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยว ทั้งนี้ บริษัทเอสแอนด์พี โกลบอลรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมของสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ พุ่งขึ้นจาก 51.3 ในเดือนเม.ย. สู่ 54.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2022 หรือจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยดัชนีที่ระดับสูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนขยายตัว และรายงานนี้ก็บ่งชี้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐอาจปรับสูงขึ้นในช่วงกลางไตรมาสสอง นอกจากนี้ เอสแอนด์พี โกลบอลยังระบุอีกด้วยว่า ดัชนีราคาปัจจัยการผลิตในภาคโรงงานสหรัฐพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ในขณะที่ราคาปัจจัยการผลิตทะยานขึ้นในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงราคาโลหะ, เคมีภัณฑ์, พลาสติก, ผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป, พลังงาน และต้นทุนแรงงาน และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของภาคสินค้าอาจจะเร่งตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

  • ดอลลาร์/เยนแข็งค่าขึ้น 0.12% สู่ 157.12 เยนในช่วงเช้าวันนี้ และพุ่งขึ้นมาแล้ว 0.94% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับลง 0.06% สู่ 1.0807 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และอ่อนค่าลงมาแล้ว 0.58% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับขึ้น 0.03% สู่ 105.09 ในช่วงเช้าวันนี้ และแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 0.58% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ปอนด์ขยับลง 0.06% สู่ 1.2689 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.14% สู่ 0.6597 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และดิ่งลงมาแล้ว 1.42% จากสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับลง 0.13% สู่ 0.6089 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และอ่อนค่าลงมาแล้ว 0.69% จากสัปดาห์ที่แล้ว

  • ตัวเลขดัชนี PMI ของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักลงทุนคาดการณ์ในวันพฤหัสบดีว่า มีโอกาสเพียง 52.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยปรับลดลงจากโอกาสเกือบ 67% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ทางด้านนายเจมสัน คูมบ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเวสท์แพคกล่าวว่า "เทรดเดอร์ได้เลื่อนเวลาที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปสู่เดือนธ.ค." ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.ออกมาในวันพุธ และรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดผิดหวังกับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในระยะนี้ และเจ้าหน้าที่เฟดยังไม่แน่ใจว่า อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงมากพอที่จะสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่

  • เยนร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล โดยยูโร/เยนปรับขึ้น 0.04% สู่ 169.77 เยนในช่วงเช้าวันนี้ และเข้าใกล้จุดสูงสุดรอบ 22 ปีที่ 171.44 เยนที่เคยทำไว้ในเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานทั่วประเทศ ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสด เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ โดยรายงานตัวเลขนี้อาจจะบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการอุปโภคบริโภคยังคงเปราะบาง

  • ยูโรได้รับแรงหนุนเล็กน้อยในระหว่างช่วงการซื้อขายวานนี้ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)รายงานในวันพฤหัสบดีว่า ค่าแรงในยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 20 ประเทศพุ่งขึ้น 4.69% ในไตรมาสแรก โดยเร่งตัวขึ้นจาก 4.45% ในไตรมาส 4/2023 โดยรายงานตัวเลขนี้มีส่วนช่วยหนุนให้ยูโร/ปอนด์ดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 9 เดือนที่ 0.8497 ปอนด์ที่ทำไว้ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี และอยู่ที่ 0.8513 ปอนด์ในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ดี ยูโรได้รับแรงหนุนไม่มากนักจากปัจจัยดังกล่าว ในขณะที่อีซีบีย้ำว่ามีปัจจัยชั่วคราวที่ช่วยหนุนให้ค่าแรงพุ่งสูงขึ้น และนักลงทุนก็ยังคงคาดว่า มีโอกาสสูงเกือบถึง 90% ที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่อีซีบีในช่วงต่อไปในวันนี้ และรอฟังถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟดด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนก็จะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันนี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนี, ยอดค้าปลีกอังกฤษ, ยอดค้าปลีกแคนาดา และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้