ReutersReuters

JAPAN:คาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับความเสียหายเพียงในวงจำกัดถ้าเยนพุ่งขึ้น

โตเกียว--23 พ.ค.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ 16 รายในวันที่ 13-21 พ.ค. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันพุธ โดยโพลล์คาดว่า ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะพุ่งขึ้น 4.6% จากระดับปิดวันอังคารที่ 38,946.93 สู่ 40,750 ในช่วงสิ้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง และจากเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง โดยตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้อยู่สูงกว่าระดับ 39,000 ที่เคยคาดไว้ในโพลล์เดือนก.พ.ด้วย ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเคยพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ที่ 41,087.75 ในวันที่ 22 มี.ค. ก่อนจะเคลื่อนตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 40,000 นับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.เป็นต้นมา โดยได้รับแรงกดดันบางส่วนจากการที่บริษัทญี่ปุ่นคาดการณ์ผลกำไรในระดับต่ำในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นมาแล้ว 16.4% จากช่วงต้นปีนี้ หลังจากทะยานขึ้น 28.2% ในปี 2023 โดยดัชนีได้รับแรงหนุนในช่วงที่ผ่านมาจากความเปลี่ยนแปลงด้านบรรษัทภิบาล ซึ่งส่งผลให้มีการปรับลดการถือหุ้นไขว้และการซื้อคืนหุ้นในญี่ปุ่น

  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อความเคลื่อนไหวของดอลลาร์/เยนด้วย ในขณะที่ดอลลาร์/เยนพุ่งขึ้นแตะ 160.245 เยนในวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 หรือจุดสูงสุดรอบ 34 ปี แต่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่า ทางการญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงตลาดด้วยการเทขายดอลลาร์/เยนในสัปดาห์นั้น จนส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งลงแตะ 151.86 เยนในวันที่ 3 พ.ค. อย่างไรก็ดี นักยุทธศาสตร์การลงทุนบางรายคาดว่า ถึงแม้เยนอาจจะพุ่งขึ้นในอนาคต ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็จะได้รับผลกระทบในทางลบเพียงในวงจำกัดจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ นายมาซายุกิ คุโบตะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบล.ราคุเตนกล่าวว่า "ถ้าหากเยนแข็งค่าขึ้น นักลงทุนต่างชาติก็อาจจะขายหุ้นญี่ปุ่นออกมา แต่ผมคาดว่าดัชนีนิกเกอิจะอยู่ที่ 40,000 ในช่วงสิ้นปีนี้ ถึงแม้ว่าดอลลาร์ดิ่งลงสู่ 142 เยน เพราะว่าผลกำไรของบริษัทญี่ปุ่นจะปรับสูงขึ้น"

  • นายโทโมชิกะ คิตะโอกะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของบล.โนมูระกล่าวว่า "บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งคาดการณ์ผลกำไรประจำปีในระดับต่ำ แต่มีแนวโน้มว่าบริษัทเหล่านี้จะปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ของตนเองก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อดัชนีนิกเกอิ" และเขากล่าวเสริมว่า "ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการคาดการณ์เรื่องความคืบหน้าในการปฏิรูปบรรษัทภิบาล" ทั้งนี้ นายยุโกะ สึโบอิ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของบล.ไดวาคาดว่า ดัชนีนิกเกอิจะพุ่งขึ้นสู่ 43,000 ในช่วงสิ้นปีนี้ และเขากล่าวเสริมว่า "เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่งในปัจจุบัน และจะยังคงอยู่ในภาวะแข็งแกร่งต่อไป ถึงแม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ"

  • นายฮิคารุ ยาสุดะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของบล.เอสเอ็มบีซี นิกโกกล่าวว่า ช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจโลกจะช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิให้พุ่งขึ้นแตะ 44,000 ก่อนจะลดช่วงบวกลงสู่ 40,500 ในช่วงสิ้นปีนี้

  • นักยุทธศาสตร์การลงทุนคาดว่า ดัชนีนิกเกอิไม่มีแนวโน้มที่จะปรับฐานลง 10% หรือมากกว่านั้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยนายชิงโงะ อิเดะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของสถาบันวิจัยเอ็นแอลไอกล่าวว่า "มีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างเช่นการที่เศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำลง, ธุรกิจชิปตกต่ำลง และความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่ถ้าหากความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง ดัชนีนิกเกอิก็ไม่มีแนวโน้มที่จะดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 35,000"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้