ReutersReuters

EUROPE:โพลล์คาดหุ้นยุโรปพุ่งทำนิวไฮปีหน้า,ได้แรงหนุนจากวัฏจักรลดดบ.

มิลาน--23 พ.ค.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักยุทธศาสตร์การลงทุนและผู้จัดการกองทุนในวันที่ 13-22 พ.ค. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันพุธ โดยผลสำรวจคาดว่า การที่ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงต้นปีนี้จะส่งผลให้ตลาดเผชิญความเสี่ยงในการย่อตัวลงในช่วงต่อไปในปีนี้ อย่างไรก็ดี โพลล์คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นยุโรปจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป และจากวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยุโรปที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้ โพลล์รอยเตอร์คาดว่า ดัชนี STOXX 600 สำหรับหุ้นทั่วยุโรป ซึ่งครอบคลุมหุ้นบริษัทขนาดยักษ์อย่างเช่น บริษัทโนโว นอร์ดิสก์ ที่เป็นผู้ผลิตยาของเดนมาร์ก และบริษัท ASML ในกลุ่มเทคโนโลยีของเนเธอร์แลนด์ อาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 513 ซึ่งเท่ากับว่าดัชนีอาจจะร่วงลง 1.9% จากระดับปิดวันอังคาร แต่ดัชนีอาจจะพุ่งขึ้นสู่ 537 ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. 2025 และอาจจะทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 556 ในช่วงสิ้นปี 2025 ส่วนสถิติสูงสุดในปัจจุบันอยู่ที่ 525.33 ซึ่งทำไว้ในวันที่ 16 พ.ค.

  • โพลล์คาดว่า ดัชนี Euro STOXX 50 สำหรับหุ้นกลุ่มบลูชิพของยูโรโซน ซึ่งอยู่ที่ 5,049 ในวันนี้ อาจจะทรงตัวในช่วงต่อไปในปีนี้ ก่อนจะพุ่งขึ้นสู่ 5,400 ก่อนสิ้นปี 2025 และเข้าใกล้สถิติสูงสุดที่ 5,522 ที่เคยทำไว้ในเดือนมี.ค.ปี 2000 ทั้งนี้ นายมอซ อาฟซาล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนโลกของบริษัทอีเอฟจี แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นยุโรปอยู่ในภาวะแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก และมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นอาจจะยุติการพุ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ดี ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอาจจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2025 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง, อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และนโยบายการเงินลดความเข้มงวดลง"

  • ผู้ตอบโพลล์ 8 จาก 11 ราย หรือ 73% ของโพลล์ระบุว่า ไม่มีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นในประเทศของตนจะปรับฐานลงกว่า 10% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ผู้ตอบโพลล์ที่เหลืออีก 27% คาดว่า ตลาดหุ้นมีแนวโน้มจะปรับฐานลงกว่า 10% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ทั้งหมดในโพลล์สำหรับดัชนี STOXX 600 อยู่ในระดับ 435-600 โดยนายเอ็มมานูเอล เกา นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารบาร์เคลย์สระบุว่า เขายังคงเพิ่มน้ำหนักการลงทุน "เชิงกลยุทธ์" ในยุโรป และเขากล่าวเสริมว่า "ยุโรปอาจจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ" อย่างไรก็ดี นายแอนเดรอัส บรุคเนอร์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นยุโรปของแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชคาดว่า ดัชนี STOXX 600 อาจจะดิ่งลงสู่ 450 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 หลังจากปรับฐานลงกว่า 10% โดยเป็นผลจากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

  • ดัชนี STOXX 600 พุ่งขึ้นมาแล้วราว 9% จากช่วงต้นปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นบริษัทขนาดยักษ์, หุ้นกลุ่มธนาคาร, หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นกลุ่มหลังนี้ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยุโรป ทั้งนี้ ผู้ตอบโพลล์บางรายคาดว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ ถ้าหากเกิดการปรับฐาน เพราะว่าหุ้นยุโรปมีมูลค่าถูกกว่าหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นยุโรปมีความหลากหลายสูงกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ โดยค่าพีอีเรโชของหุ้นยุโรปในปัจจุบันนี้อยู่ต่ำกว่าค่าพีอีเรโชของหุ้นสหรัฐในดัชนี S&P 500 ราว 33.6%

  • โพลล์คาดว่า ดัชนี FTSE ของตลาดหุ้นอังกฤษอาจจะปรับลงราว 1.4% จากระดับปิดวันอังคาร สู่ 8,300 ภายในช่วงสิ้นปี 2024 ก่อนจะพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดใหม่ที่ 9,300 ก่อนสิ้นปี 2025 โดยอาจจะสามารถทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ 8,474.41 ที่ทำไว้ในวันที่ 15 พ.ค. ทั้งนี้ โพลล์คาดว่า ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีมีแนวโน้มอยู่ที่ 18,692 ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับปัจจุบัน ก่อนจะพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดใหม่ที่ 20,250 ก่อนสิ้นปี 2025 โดยอาจจะสามารถทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ 18,892.92 ที่เคยทำไว้ในวันที่ 15 พ.ค. นอกจากนี้ โพลล์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า ดัชนี FTSE MIB ของตลาดหุ้นอิตาลี ซึ่งครอบคลุมหุ้นธนาคารจำนวนมาก มีแนวโน้มพุ่งขึ้นจาก 34,478 ในปัจจุบัน สู่ 36,498 ภายในช่วงสิ้นปี 2024 และอาจจะทะยานขึ้นต่อไปสู่ 38,606 ในปี 2025 ซึ่งจะถือเป็นการแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2007 เป็นต้นมา--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้