ReutersReuters

USA:โพลล์คาดดัชนี S&P 500 อาจปิดตลาดสิ้นปีนี้ใกล้ระดับปัจจุบัน

นิวยอร์ค--23 พ.ค.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักยุทธศาสตร์การลงทุน 50 รายในวันที่ 13-22 พ.ค. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 5,302 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับปิดวานนี้ที่ 5,307.01 แต่นักวิเคราะห์ระบุเตือนว่า การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีในช่วงต้นปีนี้อาจจะส่งผลให้ดัชนีปรับฐานลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้โพลล์รอยเตอร์ในเดือนก.พ.เคยคาดว่า ดัชนี S&P 500 อาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 5,100 โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 11% จากช่วงต้นปีนี้ และดัชนีสำคัญทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นสหรัฐต่างก็เพิ่งทะยานขึ้นแตะสถิติระดับปิดสูงสุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงต่อไปในปีนี้

  • โพลล์คาดว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 40,765 ซึ่งสูงกว่าระดับปิดวานนี้ที่ 39,671.04 โดยดัชนีเพิ่งพุ่งขึ้นเหนือระดับ 40,000 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักยุทธศาสตร์การลงทุนแสดงความเห็นอย่างก้ำกึ่งต่อประเด็นที่ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มจะปรับฐานลงหรือไม่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยนักยุทธศาสตร์การลงทุน 8 จาก 15 รายระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐไม่มีแนวโน้มจะปรับฐานลง แต่นักยุทธศาสตร์การลงทุน 7 จาก 15 รายคาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มจะปรับฐานลง

  • นายโรเบิร์ต พาฟลิค ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทดาโกตา เวลธ์คาดว่า ดัชนี S&P 500 อาจจะปรับขึ้นต่อไปอีกเล็กน้อย และอาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 5,575 และเขากล่าวเสริมว่า "การปรับขึ้นได้ผ่านพ้นไปแล้วเป็นส่วนใหญ่" และเขาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ทางด้านบริษัทเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอคาดว่า ดัชนี S&P 500 อาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 4,750 และคาดว่าจะมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทสหรัฐลงในอนาคต ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจจะพุ่งขึ้น 10.4% ในปี 2024 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น

  • อย่างไรก็ดี หุ้นสหรัฐมีมูลค่าสูงในปัจจุบัน โดยค่าพีอีเรโชของดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 20.9 เท่าของคาดการณ์ผลกำไรล่วงหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวที่ 15.7 เท่าของคาดการณ์ผลกำไร ทั้งนี้ นายจูเลียน เอมานูเอล ผู้บริหารในบริษัทเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอระบุว่า "การที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่ตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในปัจจุบันอาจจะอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งเรื่องนี้จะไม่ถือว่าเป็นปัญหา ถ้าหากมูลค่าหุ้นไม่ได้อยู่ที่ระดับปัจจุบัน"

  • นักลงทุนจับตาดูว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะยังคงพุ่งขึ้นได้ต่อไปหรือไม่ หลังจากตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนในช่วงที่ผ่านมาจากกระแสการคาดการณ์ในทางบวกต่อธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทเอ็นวิเดียที่ได้รับการเปิดเผยออกมาในช่วงเย็นวันพุธ โดยเอ็นวิเดียคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งเกินคาด และปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเอ็นวิเดียกับหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิปแห่งอื่น ๆ ให้พุ่งขึ้นหลังจากตลาดปิดทำการในวันพุธ--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้