USA:สหรัฐเผยราคานำเข้าพุ่งขึ้นครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ปี,อาจกระทบเงินเฟ้อ

วอชิงตัน--17 พ.ค.--รอยเตอร์

• สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ในกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ราคานำเข้าสหรัฐพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2022 หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากราคานำเข้าปรับขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. และตัวเลขเดือนเม.ย.อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ +0.3% โดยตัวเลขราคานำเข้านี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงต้องดำเนินมาตรการควบคุมภาวะเงินเฟ้อต่อไป และเฟดอาจจะต้องเลื่อนเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยครั้งสุดท้ายที่ราคานำเข้าเคยปรับลดลงแบบเทียบรายเดือนเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. 2023 ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเลขแบบเทียบรายปีนั้น ราคานำเข้าพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2022 หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี โดยการปรับขึ้นในเดือนมี.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นแบบเทียบรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2023 เป็นต้นมา

• ราคานำเข้าในเดือนเม.ย.ได้รับแรงหนุนจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์พลังงานและสินค้าอื่น ๆ โดยราคานำเข้าเชื้อเพลิงพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากทะยานขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. ส่วนราคานำเข้าอาหารพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนเม.ย. หลังจากทะยานขึ้น 1.6% ในเดือนมี.ค. ทางด้านราคานำเข้าพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและอาหาร ปรับขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ในขณะที่ราคานำเข้าพื้นฐานแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ราคานำเข้าสินค้าทุนขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. ส่วนราคานำเข้ายานยนต์, ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องยนต์ปรับขึ้น 0.3% ทางด้านราคานำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.

• การพุ่งขึ้นของราคานำเข้าในเดือนเม.ย.ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโกลด์แมน แซส์ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ให้สูงขึ้นจากเดิม 0.01% โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นิยมใช้ ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า ดัชนี PCE พื้นฐานอาจปรับขึ้น 0.26% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานแบบเทียบรายปีอาจปรับขึ้น 2.77% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราในเดือนมี.ค.

• นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ราคานำเข้าอาจพุ่งขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากราคาอาหารและน้ำมันกำลังจะเข้าสูเสถียรภาพ, ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาผู้ผลิตของจีนร่วงลง ทั้งนี้ นายแมทธิว มาร์ติน นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของบริษัทอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิคส์กล่าวว่า "การพุ่งขึ้นของราคานำเข้าในเดือนเม.ย.อาจจะไม่ส่งผลให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่เจ้าหน้าที่เฟดจะให้ความสำคัญกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ออกมาในวันพุธมากกว่าตัวเลขราคานำเข้า และดัชนี CPI ก็ปรับตัวไปในทิศทางที่ถูกต้อง"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;