ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:เยนพุ่งขึ้น,ดัชนีดอลล์ร่วงแตะต่ำสุด 5 สัปดาห์

โตเกียว--16 พ.ค.--รอยเตอร์

• ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากปรับลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในช่วงแรก โดยดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐที่ชะลอตัวลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี และจากตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐที่ทรงตัวในเดือนเม.ย. โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ และตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ก็ช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นกับราคาสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ อย่างเช่นดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ด้วย ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ในกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพุธว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐปรับขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากปรับขึ้น 3.5% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี ทางด้านดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง ปรับขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.4% มานาน 3 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2021 หรือต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี และตรงกับตัวเลขคาดการณ์ของนักลงทุน โดยนักลงทุนมองว่า การที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงจาก +3.8% ในเดือนมี.ค. ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.หรือก่อนหน้านั้น ในขณะที่สหรัฐกำลังจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.

• ดอลลาร์/เยนดิ่งลง 0.52% สู่ 154.06 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรูดลงแตะ 153.57 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.02% สู่ 1.0884 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 1.0894 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยยูโรเพิ่งแข็งค่าขึ้น 0.6% เมื่อวานนี้ ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวที่ 104.20 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 104.07 ในช่วงแรก ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. โดยดัชนีดอลลาร์เพิ่งรูดลง 0.75% เมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดของปี 2024 และดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันเมื่อวานนี้ด้วย

• ปอนด์ขยับขึ้น 0.06% สู่ 1.2692 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 1.2700 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. หรือจุดสูงสุดรอบ 1 เดือน ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.03% สู่ 0.6690 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 1% เมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายวันครั้งใหญ่ที่สุดของปี 2024 โดยดอลลาร์ออสเตรเลียได้ทะยานขึ้นแตะ 0.6714 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างช่วงการซื้อขายวันนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงในเวลาต่อมา หลังจากออสเตรเลียรายงานว่า อัตราการว่างงานปรับขึ้นจาก 3.9% ในเดือนมี.ค. สู่ 4.1% ในเดือนเม.ย. ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.03% สู่ 0.6123 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 0.6140 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. หรือจุดสูงสุดรอบ 2 เดือน

• นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นในแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากสำนักงานสำมะโนประชากรในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพุธว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนเม.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. ในขณะที่การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินส่งผลให้ผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าอื่น ๆ และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคกำลังชะลอตัวลง ทั้งนี้ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลงจาก 4.445% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 4.356% ในช่วงท้ายวันพุธ และรูดลงแตะ 4.313% ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. หรือจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ในขณะที่ดอลลาร์/เยนมักปรับตัวสอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

• การดิ่งลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และแรงเทขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ในช่วงนี้ ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกับ JGB อายุ 10 ปีหดแคบลงเกือบ 0.20% ในสัปดาห์นี้ ทางด้านเยนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล โดยดอลลาร์ออสเตรเลีย/เยนดิ่งลง 0.88% สู่ 102.95 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากเพิ่งพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 11 ปีที่ 104.01 เยนเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ เยนยังคงมีแนวโน้มไม่แน่นอน หลังจากญี่ปุ่นรายงานในช่วงเช้าวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 2.0% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualised) ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงอย่างรุนแรงเกินคาด หลังจากโพลล์รอยเตอร์คาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหดตัวลงเพียง 1.5% โดยปัจจัยนี้อาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;