FED:รองปธ.เฟดหนุนการตรึงดบ.จนกว่าจะเห็นได้ชัดว่าเงินเฟ้อชะลอตัว

14 พ.ค.--รอยเตอร์

• นายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันจันทร์ว่า ตราบใดที่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% เฟดก็ควรที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ทั้งนี้ นายเจฟเฟอร์สันกล่าวในงานประชุมเรื่องการสื่อสารของธนาคารกลางที่จัดโดยเฟดสาขาคลีฟแลนด์ว่า "ผมคิดว่าสิ่งที่เหมาะสมก็คือการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับที่เข้มงวดต่อไป" จนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และเขากล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจสหรัฐ "อยู่ในสถานะแข็งแกร่งในปัจจุบัน เนื่องจากการจ้างงานยังคงเพิ่มสูงขึ้น และเศรษฐกิจยังคงเติบโตต่อไป" แต่ในขณะเดียวกัน "การชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อก็อ่อนแรงลงในไตรมาสแรกของปีนี้ และผมก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล"

• นายเจฟเฟอร์สันตั้งข้อสังเกตว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอยู่ในภาวะแข็งแกร่รง เปิดโอกาสให้เขาสามารถมุ่งความสนใจไปยังการทำงานเพื่อปรับลดภาวะเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนายเจฟเฟอร์สันเมื่อวานนี้ถือเป็นการแสดงความเห็นครั้งแรกของเขานับตั้งแต่เฟดจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.เป็นต้นมา โดยเฟดได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนั้น และอัตราดอกเบี้ยก็อยู่ที่ระดับนี้นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023 เป็นต้นมา

• เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดบางคนตั้งคำถามในช่วงนี้ว่า นโยบายการเงินอยู่ในภาวะที่เข้มงวดมากพอแล้วหรือไม่สำหรับการทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย ทั้งนี้ ลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวในวันศุกร์ว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า นโยบายการเงินอยู่ในภาวะที่เข้มงวดมากพอแล้วหรือไม่สำหรับการทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย และเธอกล่าวเสริมว่าขณะนี้ยังคงเป็นเวลาที่เร็วเกินไปสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป

• นายเจฟเฟอร์สันแสดงความเห็นเรื่องพัฒนาการของการสื่อสารของเฟดในวันจันทร์ด้วย โดยเขากล่าวว่า "เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่า" การสื่อสารอย่างชัดเจนช่วยให้นโยบายของธนาคารกลางมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะว่าการสื่อสารอย่างชัดเจน "สามารถส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดไว้ และต่อภาวะการเงินในวงกว้าง" แต่ในบางครั้งความพยายามที่จะสื่อสารก็อาจจะ "ส่งผลกระทบในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ" ทั้งนี้ เขากล่าวว่า "มีความเสี่ยงอยู่เสมอ" ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน "อาจจะถูกสาธารณชนตีความอย่างมั่นใจมากเกินไป" ว่าเป็นความเห็นแบบถาวรต่อแนวโน้มดังกล่าว และเขากล่าวเสริมว่า "ถึงแม้การตีความแบบนั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นการตีความอย่างผิดพลาดในเวลาต่อมา การตีความดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้เกิดความผันผวนและความไม่แน่นอนในระดับที่สูงกว่าในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงความเห็น"

• นายเจฟเฟอร์สันกล่าวว่า ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่อาจจะสร้างความไม่แน่นอนด้วย โดยเขากล่าวว่า "การที่ผู้กำหนดนโยบายแสดงความเห็นอย่างหลากหลายจะช่วยกระตุ้นให้มีการอภิปรายกัน และจะส่งผลให้มีการกำหนดนโยบายได้อย่างดียิ่งขึ้นในที่สุด อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ดังกล่าวนั้น การสื่อสารมากยิ่งขึ้นอาจจะส่งผลให้นโยบายของเรามีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น แทนที่จะช่วยลดความไม่แน่นอนลง"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;