EUROPE:ปธ.ธ.กลางเยอรมนีชี้ปัจจัยโครงสร้างอาจหนุนเงินเฟ้อต่ออีกหลายปี

แฟรงค์เฟิร์ต--8 พ.ค.--รอยเตอร์

• นายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) กล่าวในวันอังคารว่า ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในเศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะหนุนอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า แต่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ควรที่จะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเคยอยู่ต่ำกว่าระดับ 2% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของทศวรรษที่แล้ว แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มที่จะร่วงลงสู่ระดับต่ำมากแบบนั้นได้อีก ถึงแม้ว่าอีซีบีสามารถเอาชนะภาวะอัตราเงินเฟ้อสูงในปัจจุบันนี้ได้ก็ตาม

• นายนาเกลกล่าวว่า ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจจะหนุนให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงรวมถึงต้นทุนที่ใช้ในการปรับปรุงความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน, ภาวะขาดแคลนแรงงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเป็นผลจากการลดลงของจำนวนประชากร และการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสีเขียว ทั้งนี้ เขากล่าวว่า "ในการปรับปรุงความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานนั้น การปรับลดความเสี่ยงในบางรูปแบบดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์" และเขากล่าวเสริมว่า "เราควรจะตระหนักว่า การปรับเพิ่มความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทาน มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น"

• นายนาเกลระบุว่า มีปัญหาด้านตลาดแรงงานเยอรมนีด้วยเช่นกัน และเขาประเมินว่ากำลังแรงงานของเยอรมนีอาจจะลดลง 80,000 คนต่อปีนับตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ค่าแรงกับราคาปรับสูงขึ้น

• นายนาเกลกล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เหล่านี้ไม่ควรที่จะส่งผลให้อีซีบียอมผ่อนปรนต่อภาวะเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น ในขณะที่อีซีบีตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% เมื่อเทียบรายปีในปัจจุบัน ทั้งนี้ เขากล่าวว่า "สิ่งหนึ่งที่มีความชัดเจนก็คือว่า หน้าที่ของเราคือการทำให้ราคามีเสถียรภาพ ดังนั้นถ้าหากแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในระยะกลาง เราก็จำเป็นจะต้องดำเนินมาตรการแก้ไขสิ่งนี้"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;