USA:รมว.คลังสหรัฐชี้ศก.แข็งแกร่งกว่าที่จีดีพี Q1 บ่งชี้ไว้

วอชิงตัน--26 เม.ย.--รอยเตอร์

• เจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐระบุในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ดีมาก โดยเยลเลนได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อรอยเตอร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเลขไตรมาสแรกบ่งชี้ไว้ และเธอกล่าวเสริมว่า อาจจะมีการปรับทบทวนตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสแรกให้สูงขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากสหรัฐได้รับข้อมูลเพิ่มเติม และอัตราเงินเฟ้อก็จะชะลอตัวลงสู่ระดับปกติมากกว่านี้ หลังจากปัจจัยที่ผิดปกติบางประการทำให้เศรษฐกิจเติบโตในไตรมาสแรกในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ทั้งนี้ สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) ในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเติบโต 1.6% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualized) ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2022 หรือต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +2.4% โดยอัตราการเติบโตนี้ชะลอตัวลงจากอัตราการเติบโตที่ 3.4% ในไตรมาส 4/2023 ด้วย อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานปรับขึ้น 3.7% ในไตรมาสแรก ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ +3.4% และเร่งตัวขึ้นจาก +2.0% ในไตรมาส 4/2023

• เยลเลนไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักต่อการพุ่งขึ้นของตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในครั้งนี้ โดยเธอมองว่าสิ่งนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐจำเป็นจะต้องพุ่งสูงขึ้น หรือว่าเศรษฐกิจในส่วนอื่น ๆ ของสหรัฐจำเป็นจะต้องชะลอตัวลง เพื่อจะได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับคืนสู่ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% โดยเธอกล่าวเสริมว่า "ปัจจัยพื้นฐานในตอนนี้สอดคล้องกับการที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงปรับลงสู่ระดับปกติ" นอกจากนี้ เธอยังกล่าวอีกด้วยว่า การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐให้ความสำคัญมากที่สุด ในขณะที่รัฐบาลของเขาพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนของการแพทย์, พลังงาน และที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี โพลล์รอยเตอร์/อิปซอสระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนสูงกว่าปธน.ไบเดน 7% ในด้านการบริหารเศรษฐกิจ

• เยลเลนกล่าวว่า "สิ่งที่ดิฉันให้ความสนใจมากที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของปริมาณการจับจ่ายใช้สอยและการใช้จ่ายเพื่อการลงทุน โดยทั้งสององค์ประกอบนี้ของอุปสงค์ขั้นสุดท้ายอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอัตราการเติบโตในปีที่แล้ว ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง" และเธอกล่าวเสริมว่า "ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วไปชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่สิ่งนี้เกิดจากเหตุผลที่ผิดปกติ และไม่ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง"

• เยลเลนกล่าวว่าสหรัฐไม่ได้ตัดโอกาสทางเลือกใด ๆ ในการจัดการกับกำลังการผลิตที่มากเกินไปในจีน ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อภาคโรงงานในหลายประเทศ โดยเธอกล่าวเสริมว่า ผู้กำหนดนโยบายของจีนได้ยอมรับแล้วว่า จีนมีปัญหาเรื่องกำลังการผลิตทางอุตสาหกรรมที่มากเกินไปในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า, แผงเซลล์แสงอาทิตย์ และสินค้าอื่น ๆ ในภาคพลังงานสะอาด และจีนจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหานี้ โดยได้มีการหารือกันถึงประเด็นปัญหานี้อย่างจริงจังในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐอาจจะออกมาตรการใหม่ในด้านภาษีศุลกากรหรือมาตรการอื่น ๆ เพื่อปกป้องผู้ผลิตสินค้าของสหรัฐจากสินค้าส่งออกของจีนหรือไม่ เยลเลนก็ได้ตอบคำถามนี้ว่า เธอจะไม่ตัดโอกาสทางเลือกใด ๆ ในการแก้ไขปัญหานี้่ และเธอกล่าวเสริมว่า กำลังการผลิตที่มากเกินไปในจีนเป็นภัยคุกคามต่อภาคโรงงานในสหรัฐ, ยุโรป, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และอินเดีย แต่ปัญหานี้จะไม่ได้รับการแก้ไข "ภายในเวลา 1 วันหรือ 1 สัปดาห์ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญจึงเป็นการที่จีนตระหนักถึงปัญหานี้ และเริ่มต้นแก้ไขปัญหานี้ แต่เราก็ไม่ต้องการให้อุตสาหกรรมของเราล่มสลายลงก่อนที่ปัญหาจะถูกแก้ไข ดังนั้นดิฉันจึงไม่ต้องการที่จะตัดโอกาสทางเลือกใด ๆ"

• คณะผู้บริหารของปธน.ไบเดนกำลังทบทวน "มาตรา 301" ซึ่งเป็นมาตรการภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนที่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใช้ในปี 2018 โดยในสัปดาห์ที่แล้วปธน.ไบเดนได้เรียกร้องให้มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสำหรับเหล็กกล้าของจีนขึ้นราว 3 เท่า สู่ 25% ทั้งนี้ แคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้กล่าวต่อวุฒิสมาชิกสหรัฐว่า สหรัฐจำเป็นจะต้องดำเนิน "มาตรการอย่างเฉียบขาดแต่เนิ่น ๆ" เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐจากสินค้านำเข้าจากจีน โดยในตอนนี้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จีนในอัตราราว 27.5% แต่แทบไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าของจีนขายอยู่ในสหรัฐในตอนนี้--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;