ReutersReuters

UK:ปอนด์ได้แรงหนุนหลังดัชนี PMI อังกฤษพุ่งแตะสูงสุด 11 เดือน

ลอนดอน--24 เม.ย.--รอยเตอร์

  • ปอนด์พุ่งขึ้นในวันอังคาร หลังจากบริษัทเอสแอนด์พี โกลบอลรายงานในวันอังคารว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมของอังกฤษพุ่งขึ้นจาก 52.8 ในเดือนมี.ค. สู่ 54.0 ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 11 เดือน และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจในอังกฤษขยายตัวในเดือนเม.ย.ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากเศรษฐกิจเพิ่งถดถอยลงเล็กน้อยในปีที่แล้ว ทั้งนี้ ปอนด์ทรงตัวที่ 1.2446 ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 0.79% เมื่อวานนี้ และออกห่างจากจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนที่ 1.2299 ดอลลาร์สหรัฐที่ทำไว้ในวันจันทร์ ทางด้านยูโร/ปอนด์ทรงตัวที่ 0.8592 ปอนด์ในวันนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับช่วงท้ายวานนี้ และดิ่งลงจาก 0.8626 ปอนด์ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยยูโร/ปอนด์ได้พุ่งขึ้นแตะ 0.8644 ปอนด์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันอังคาร ซี่งตรงกับจุดสูงสุดรอบ 3 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ โดยยูโร/ปอนด์ได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากดัชนี PMI ที่แข็งแกร่งของเยอรมนี ก่อนที่ยูโร/ปอนด์จะดิ่งลงสู่แดนลบในช่วงต่อมาในวันอังคาร

  • ต้นทุนทางธุรกิจในอังกฤษพุ่งขึ้นในเดือนเม.ย.ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยเป็นผลจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น, ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยเหล่านี้อาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เพิ่งรายงานในสัปดาห์ที่แล้วว่า ค่าแรงประจำที่ไม่รวมโบนัสในอังกฤษ หรือค่าแรงพื้นฐาน พุ่งขึ้น 6.0% ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนก.พ. ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2022 และชะลอตัวลงจาก +6.1% ในเดือนพ.ย.-ม.ค. แต่ยังคงถือเป็นระดับสูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานในอดีต และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +5.8%

  • ดัชนี PMI โดยรวมของอังกฤษได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นครั้งใหญ่ของดัชนี PMI ในภาคบริการ โดยดัชนีภาคบริการพุ่งขึ้นจาก 53.1 ในเดือนมี.ค. สู่ 54.9 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษดิ่งลงจาก 50.3 ในเดือนมี.ค. สู่ 48.7 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตหดตัวลง ทั้งนี้ นายคริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของบริษัทเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์กล่าวว่า รายงานดัชนี PMI ในครั้งนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษเติบโต 0.4% ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนเม.ย. หลังจากเติบโต 0.3% ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมี.ค. และเขากล่าวเสริมว่า "ผลสำรวจ PMI ขั้นต้นสำหรับเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษยังคงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นหลังจากเผชิญกับภาวะถดถอยในปีที่แล้ว"

  • ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) เพิ่งประเมินในเดือนมี.ค.ว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจเติบโตเพียง 0.1% ในไตรมาสแรก และอาจจะเติบโตเร็วขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสอง ทั้งนี้ นายวิลเลียมสันกล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษที่เติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอาจจะช่วยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ เพื่อตอบรับต่อต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และปัจจัยนี้อาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางบีโออีจากการทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%

  • นายเดฟ แรมส์เดน รองผู้ว่าการบีโออีเพิ่งกล่าวในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.ว่า เขามองเห็นสัญญาณบางประการที่บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษอาจจะทรงตัวอยู่ใกล้ 2% ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.50% ในปีนี้ โดยอาจจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 20 มิ.ย. หรือในการประชุมวันที่ 1 ส.ค.--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้