ReutersReuters

EUROPE:จนท.ยังคงคาดว่าอีซีบีจะลดดบ.หลายครั้งในปีนี้แม้เผชิญอุปสรรค

แฟรงค์เฟิร์ต--23 เม.ย.--รอยเตอร์

  • เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้งในปีนี้ ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงในสหรัฐส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลื่อนเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปก็ตาม และถึงแม้ว่าความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ทั้งนี้ คริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบีส่งสัญญาณบ่งชี้อย่างแข็งแกร่งว่า อีซีบียังคงมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงจากสถิติสูงสุดที่ 4% ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. แต่ลาการ์ดเปิดโอกาสสำหรับทางเลือกต่าง ๆ ในการปรับนโยบายการเงินในช่วงหลังจากนั้น ทางด้านสมาชิกคนอื่น ๆ เกือบทุกคนในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีระบุว่า พวกเขาคาดว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 20 ประเทศ มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ที่ 2% ภายในปี 2025

  • ผู้กำหนดนโยบายทุกคนของอีซีบีกล่าวย้ำว่า การตัดสินใจของอีซีบีจะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะตัวเลขค่าแรง, ผลกำไร และประสิทธิภาพการผลิต โดยนายมาดิส มึลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเอสโตเนียกล่าวต่อรอยเตอร์ในสัปดาห์ที่แล้วว่า "ตราบใดที่เศรษฐกิจปรับตัวไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2-3 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" ทางด้านนายคลาส น็อต ผู้ว่าการธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า เขาไม่ได้กังวลกับการที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปี 2024 ทั้งนี้ นายเกดิมินาส ซิมคุส ประธานธนาคารกลางลิทัวเนียกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 3 ครั้ง ส่วนนายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ระบุในสัปดาห์ที่แล้วว่า อีซีบีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างระมัดระวัง หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.

  • นายฟรองซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาโล ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสระบุว่า สถานการณ์ล่าสุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและในสหรัฐส่งผลให้อีซีบีจำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้ภาพรวมของยูโรโซนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมาในเกือบทุกภาคเศรษฐกิจยกเว้นในภาคบริการ ทั้งนี้ นายเฟรเดอริค ดูโครเซท หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของบริษัทพิคเทท เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า "ผมคิดว่ามีการบรรลุเงื่อนไขทุกข้อแล้วสำหรับการที่อีซีบีจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และหลังจากนั้นผมก็คาดว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไตรมาสละ 1 ครั้ง โดยมีความเสี่ยงที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือนต.ค."

  • นักลงทุนบางรายตั้งข้อสงสัยว่า อีซีบีมีความมุ่งมั่นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากน้อยเพียงใด โดยนักลงทุนในตลาดเงินไม่ได้คาดการณ์กันอีกต่อไปว่า มีโอกาส 100% เต็มที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งภายในปี 2024 ทางด้านเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า อีซีบีอาจจะมีความจำเป็นต้องทำตามเฟดในอนาคต เพื่อจะได้สกัดกั้นการดิ่งลงของยูโร โดยนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารมอร์แกน สแตนเลย์ระบุว่า "เรากังวลกับความสัมพันธ์ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะเงินเฟ้อในยุโรป ซึ่งอาจจะส่งผลให้อีซีบีไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่ากับที่เราเคยคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้" อย่างไรก็ดี ผู้กำหนดนโยบายหลายคนของอีซีบีไม่ได้แสดงความกังวลต่อค่าเงินยูโรในช่วงนี้ โดยนายบอริส วอยชิช ผู้ว่าการธนาคารกลางโครเอเชียกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า "ตลาดปริวรรตเงินตราอยู่ในภาวะสงบมากในช่วงที่ผ่านมา" ในขณะที่นายฟาบิโอ ปาเนตตา ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลีกล่าวย้ำว่า ผลกระทบที่เกิดจากการอ่อนค่าของยูโรมักจะถูกชดเชยด้วยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) และการทะยานขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลให้ภาวะการเงินหดตัวสุทธิ

  • ผู้กำหนดนโยบายเกือบทุกคนในอีซีบีกล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอยู่ในภาวะที่อ่อนแอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างมาก ดังนั้นอีซีบีจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการจัดการที่แตกต่างจากเฟด โดยนายปิแอร์ วุนช์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเบลเยียมกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐและยูโรโซนได้ปรับตัวแตกต่างจากกันในช่วงที่ผ่านมา และส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกับอีซีบีก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ และอาจจะขยายกว้างมากยิ่งขึ้นในอนาคต" ทั้งนี้ นายวิลเลอรอยประเมินว่า นโยบายของอีซีบีจะยังคงจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนต่อไป ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของอีซีบียังคงอยู่สูงกว่า 2.5% หรืออยู่สูงกว่า 2%--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้