ReutersReuters

USA:ชี้การลาดลงของเส้นบอนด์ยิลด์สหรัฐกระตุ้นการลงทุนในบอนด์ระยะสั้น

26 ก.ย.--รอยเตอร์

  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นดึงดูดเงินลงทุนได้มากกว่าพันธบัตรระยะยาวในปีนี้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ผิดไปจากแบบแผนปกติ และเหตุการณ์นี้มีสาเหตุมาจากเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในภาวะพลิกกลับ (inverted) หรือลาดลง หรือการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว และมีสาเหตุมาจากความตั้งใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปเป็นเวลานานด้วย ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่ในระดับสูงในช่วงเวลาส่วนใหญ่ในปี 2023 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 1 ปีอยู่ที่ 5.466% ในช่วงท้ายวานนี้ ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่ระดับ 4.542% เป็นอย่างมาก

  • การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ระยะสั้นอยู่สูงกว่าแบบนี้ หมายความว่านักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงไม่จำเป็นจะต้องลงทุนในพันธบัตรระยะยาวซึ่งมีสภาพคล่องต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้น ทั้งนี้ บริษัทมอร์นิงสตาร์รายงานว่า กองทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นและระยะกลาง ซึ่งลงทุนในพันธบัตรสหรัฐอายุ 1-6 ปี มีเงินลงทุนไหลเข้า 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ โดยพุ่งขึ้น 70.3% จากปีที่แล้ว ทางด้านกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุนานกว่า 6 ปีมีเงินลงทุนไหลเข้า 3.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยดิ่งลง 11.5% จากปีที่แล้ว

  • นายอดัม คูนส์ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทวินธรอป แคปิตัล แมเนจเมนท์กล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนสัมบูรณ์ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอยู่ในระดับที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก โดยพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปีให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับที่แทบไม่เคยปรากฏเลยในช่วงเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ พันธบัตรอายุ 2 ปีก็ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐในระดับสูงกว่า 3.5% ด้วย ซึ่งถือเป็นส่วนต่างที่สูงที่สุดในรอบ 20 ปี" ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัท LSEG Lipper แสดงให้เห็นว่า กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นของสหรัฐมีราคาพุ่งขึ้น 2.2% ในปีนี้ ในขณะที่กองทุนตราสารหนี้ระยะยาวมีราคาร่วงลงเฉลี่ย 2.1%

  • ในบรรดากองทุนชั้นนำที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นนั้น กองทุน iShares 0-3 Month Treasury Bond ETF ดึงดูดเงินลงทุนได้ราว 7.3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้, กองทุน SPDR Bloomberg 1-3 Month T-Bill ดึงดูดเงินลงทุนสุทธิได้ 2.1 พันล้านดอลลาร์ และกองทุน WisdomTree Floating Rate Treasury Fund ดึงดูดเงินลงทุนสุทธิได้ 4.4 พันล้านดอลลาร์ โดยปริมาณเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนทั้ง 3 แห่งนี้พุ่งขึ้น 13.4% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า กองทุนพันธบัตรระยะสั้นจะยังคงดึงดูดเงินลงทุนได้ต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยนายเจฟฟ์ คลิงเกลโฮเฟอร์ หัวหน้าแผนกการลงทุนของบริษัทธอร์นเบิร์ก อินเวสท์เมนท์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า "ผมยังคงไม่เชื่อว่า สิ่งที่เหมาะสมคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ และผมคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย" โดยเขามองว่าพันธบัตรอายุ 3.5 ปีถือเป็นอายุที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่าถึงแม้เศรษฐกิจถดถอยลงอย่างรุนแรงในอนาคต อัตราดอกเบี้ยระยะยาวก็จะไม่ดิ่งลงมากนัก "เพราะว่ายุคสมัยที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมากเป็นเวลายาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว"--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้