DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปรับลงแต่ S&P,Nasdaq ปรับขึ้น

นิวยอร์ค--23 พ.ค.--รอยเตอร์

• ดัชนี Nasdaq ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นอัลฟาเบทที่พุ่งขึ้น 1.87% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ที่ทะยานขึ้น 1.1% ส่วนดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดขยับขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงจากการลงทุนขนาดใหญ่ก่อนที่จะมีการเจรจาต่อรองเรื่องเพดานหนี้สหรัฐในช่วงต่อไปในวันจันทร์ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันประชุมกันในวันจันทร์หลังจากตลาดหุ้นปิดทำการ แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐจากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ถึงแม้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ราว 10 วันก่อนที่รัฐบาลสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายประกาศว่าจะยังคงหารือกันต่อไป ทางด้านนายเอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท OANDA กล่าวว่า ความกังวลเรื่องเพดานหนี้สหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดยักษ์ในฐานะหุ้นกลุ่มปลอดภัยในช่วงนี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับลง 0.42% สู่ 33,286.58, ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 0.02% สู่ 4,192.63 และดัชนี Nasdaq ปิดบวกขึ้น 0.50% สู่ 12,720.78 ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากหุ้นเชฟรอนซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ที่ดิ่งลง 1.8% หลังจากเชฟรอนประกาศว่า เชฟรอนจะเข้าซื้อบริษัทพีดีซี เอ็นเนอร์จีในการทำธุรกรรมขนาด 7.6 พันล้านดอลลาร์โดยใช้หุ้นทั้งหมด

• ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเล็กน้อย หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดอาจจะยังคงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่นักลงทุนจับตามองรวมถึงตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนเม.ย.ที่รัฐบาลสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ โดยเฟดมักใช้ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อ

• หุ้นบริษัทแอปเปิลปรับลง 0.55% หลังจากบริษัทลูป แคปิตัลปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิลลงสู่ "hold" จาก "buy" ซึ่งถือเป็นการปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิลลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ทั้งนี้ หุ้นไมครอน เทคโนโลยีซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปของสหรัฐดิ่งลง 2.85% หลังจากรัฐบาลจีนสั่งห้ามไมครอนจากการขายชิปหน่วยความจำให้แก่อุตสาหกรรมสำคัญในจีน และความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

• ดัชนี KBW สำหรับหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.00% โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารแพคเวสท์ แบงคอร์ปตกลงที่จะขายพอร์ตลงทุนในสินเชื่อก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ 74 รายการให้แก่บริษัทย่อยในเครือบริษัทเคนเนดี-วิลสัน โฮลดิงส์ โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นแพคเวสท์พุ่งขึ้น 19.5% และส่งผลบวกต่อหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคบางแห่งด้วย อย่างไรก็ดี หุ้นธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคปรับลง 0.8% ถึงแม้เจพีมอร์แกนระบุว่า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของเจพีมอร์แกนจะเพิ่มขึ้นอีก 3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อน โดยเป็นผลจากการเข้าซื้อธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิกในปีนี้ ทั้งนี้ หุ้นไฟเซอร์พุ่งขึ้น 5.38% หลังจากวารสารทางการแพทย์ฉบับหนึ่งรายงานว่า ยารักษาโรคเบาหวานของไฟเซอร์ที่อยู่ในระหว่างการทดลองส่งผลให้ผู้ป่วยมีน้ำหนักลดลงเหมือนกับยา Ozempic ของบริษัทโนโว นอร์ดิสก์--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;