ReutersReuters

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบปรับลง 0.4% ขณะตลาดวิตกปัญหาเพดานหนี้

ฮุสตัน--22 พ.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับลงในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่า นักการเมืองสหรัฐอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์เชื้อเพลิง ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันและคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้หยุดพักการเจรจาต่อรองกันในวันศุกร์ในเรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐจากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ โดยนายแกร์เรท เกรฟส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการเจรจาต่อรองได้เดินออกจากการเจรจาในวันศุกร์ และเขากล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า "จนกว่าพวกเขาจะเต็มใจที่จะหารือกันอย่างยากลำบากเรื่องวิธีการเดินหน้าและทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราก็จะไม่มานั่งเจรจากัน" อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวระบุว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงกัน

  • ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับลง 31 เซนต์ หรือ 0.4% มาปิดตลาดที่ 71.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ ก่อนที่สัญญาเดือนมิ.ย.จะครบกำหนดส่งมอบในช่วงปิดตลาดวันจันทร์ที่ 22 พ.ค. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับลง 28 เซนต์ หรือ 0.37% มาปิดตลาดที่ 75.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ค.ปรับลง 25 เซนต์ หรือ 0.3% มาปิดตลาดที่ 71.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและเบรนท์ต่างก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้นราว 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบราว 1 เดือน

  • ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดัน หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้เป็นอย่างมาก และเขากล่าวเสริมว่าเฟดยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้าง หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า เจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐได้กล่าวยืนยันถึงความแข็งแกร่งของระบบธนาคารสหรัฐในการประชุมกับซีอีโอในภาคธนาคารในวันพฤหัสบดี

  • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐดิ่งลง 11 แท่น สู่ 575 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 ทั้งนี้ คณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานในวันศุกร์ว่า ผู้จัดการกองทุนปรับลดการถือครองสถานะซื้อสุทธิในสัญญาล่วงหน้าและออปชั่นน้ำมันดิบสหรัฐลง 11,974 สัญญา สู่ 142,509 สัญญาในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ค.

  • นักวิเคราะห์ของธนาคารเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ระบุว่า ราคาน้ำมันอาจจะปรับสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันในจีนที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งปี 2023 ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในสัปดาห์นี้ว่า ปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นในโรงกลั่นในจีนพุ่งขึ้นสู่ 61.1 ล้านตันในเดือนเม.ย. หรือ 14.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 2 หลังจากปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นเพิ่งพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดที่ 14.9 ล้านบาร์เรลในเดือนมี.ค. โดยปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นในเดือนเม.ย.ปีนี้ทะยานขึ้น 18.9% จากเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้