ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลลาร์อ่อนค่ารับกังวลศก.สหรัฐถดถอย

ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในวันพุธท่ามกลางความวิตกว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของจีนหนุนหยวนแข็งค่า ส่วนค่าเงินโซลของเปรูร่วงลง ขณะที่สภาคองเกรสมีมติขับประธานาธิบดีเปโดร คาสติญโญพ้นจากตำแหน่งในการไต่สวนการถอนถอนออกจากตำแหน่ง โดยค่าเงินโซลดิ่งลงกว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์

ดอลลาร์อยู่ที่ 136.60 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ร่วงลงจาก 137.05 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.0505 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ แข็งค่าขึ้นจาก 1.0469 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 105.130 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ อ่อนค่าลงจากระดับ 105.570 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา หลังจากธนาคารกลางแคนาดาขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี และส่งสัญญาณว่า การขึ้นดอกเบี้ยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

นักลงทุนหลายคนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ แต่ข้อมูลการจ้างงาน, ภาคบริการ และภาคการผลิตที่สดใสในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของเฟด และคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมในสัปดาห์หน้า

ผู้บริหารธนาคารสหรัฐหลายคนกำลังเตรียมตัวรับภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงในปีหน้า โดยนายไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า รายงานวิจัยของธนาคารพบว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวติดลบในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า แต่การหดตัวจะไม่มาก ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด โมยา จาก OANDA ระบุว่า มีการมองว่า ความวิตกเรื่องภาวะถดถอยจะทำให้เฟดหยุดพักขึ้นดอกเบี้ย นั่นเป็นสาเหตุที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการแข็งค่าของดอลลาร์ในรอบปีที่ผ่านมา"

หยวนแข็งค่าขึ้น ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศมาตรการที่เปลี่ยนแปลงนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างมาก โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ และผู้ที่มีอาการเล็กน้อยสามารถรักษาตัวเองขณะกักตัวที่บ้านได้ ซึ่งการประกาศนี้นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดจนถึงขณะนี้ที่แสดงว่า จีนกำลังเตรียมตัวให้ประชาชนใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด-19 แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า เส้นทางไปสู่การเปิดประเทศเต็มรูปแบบนั้นจะยาวนานและมีอุปสรรค--จบ--